ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记] - ตอนที่ 362 ผู้ชายอย่างจี้เจี้ยนอวิ๋น
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นเศรษฐีนียุค 80 [重生八零致富记]
- ตอนที่ 362 ผู้ชายอย่างจี้เจี้ยนอวิ๋น
ตอนที่ 362 ผู้ชายอย่างจี้เจี้ยนอวิ๋น
ซูตานหงไม่ได้เป็นคนใจกว้างนัก แต่สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างเครือญาติ เธอยังต้องการไว้ไมตรีกับพี่น้องของเหรินเหริน ฉีฉี และเสียงเสียงอยู่บ้าง
แน่นอนว่ามันไม่ได้มีประโยชน์ในภายภาคหน้า แต่การมีญาติมิตรบ้างยังเป็นการดีกว่า
ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการเลี้ยงทหารพันวันเพื่อใช้งานวันเดียว* ต่อให้ไม่ได้ใช้ประโยชน์ใน 10 ปี หากได้ใช้งานสักครั้ง หรือ 2 ครั้งก็นับว่าคุ้มค่าแล้ว
*เลี้ยงทหารพันวันเพื่อใช้งานวันเดียว = เตรียมความพร้อมในยามปกติเป็นระยะเวลายาวนานไว้ใช้ในยามเร่งด่วน
ดังนั้นแม้อวิ๋นลี่ลี่จะเคยทำให้เธอไม่พอใจมาก่อน แต่เธอยังรู้จักขอบเขต ทุกคนล้วนต้องการเสี่ยงโชคและสร้างเนื้อสร้างตัว เธอย่อมไม่มีสิทธิ์ไปห้ามอีกฝ่าย
ระยะหลังมานี้เห็นได้ชัดว่าอวิ๋นลี่ลี่ดูปลงได้แล้ว หล่อนคงไม่คิดฝันที่จะร่ำรวยอีกต่อไป สู้อยู่อย่างมั่นคงเสียดีกว่า
ซูตานหงเห็นสภาพของหล่อนเมื่อกลับมาครั้งนี้ที่เนื้อตัวดูโทรมลงไปทุกส่วนแล้วก็รู้สึกสงสารไม่น้อย ด้วยรู้ถึงสถานะของจี้เจี้ยนเหวิน โดยไม่ต้องไถ่ถามถึง
หากแต่ซูตานหงไม่ได้พูดอะไร เงินที่ยืมไป 13,000 หยวน ถือว่าเป็นจำนวนมหาศาล ทั้งคู่จึงต้องสำนึกบุญคุณของเธอเอาไว้
อันที่จริงแล้ว 5 ปีให้หลัง ด้วยราคาข้าวของต่าง ๆ ที่เพิ่มขึ้น ของที่มีมูลค่า 13,000 หยวนจะไม่ได้มีราคาเท่าเดิมอีกต่อไปใน 5 ปีถัดมา
เงิน 13,000 หยวนใช้ซื้อบ้านหลังเล็กในต่างจังหวัดได้ถึง 2 หลัง หลังจากนี้ 5 ปีเงินจะเฟ้อขึ้นมาก เงินส่วนที่ยืมจากซูตานหงไปนั้น เห็นได้ชัดว่าเป็นการขาดทุน
ซูตานหงให้ของกินและบอกให้อวิ๋นลี่ลี่นำกลับไป เป็นการไว้ไมตรีในฐานะญาติคนหนึ่ง เธอไม่ได้นึกติดใจกับอวิ๋นลี่ลี่นัก หากจะบอกว่าอีกฝ่ายเป็นคนดีก็คงจะเกินจริงไป แต่ถ้าจะพูดว่าเธอเป็นคนไม่ดีก็คงจะเป็นไปไม่ได้
อย่างน้อยเมื่อเหรินเหริน ฉีฉี หรือเสียงเสียงต้องการความช่วยเหลือ อวิ๋นลี่ลี่ย่อมยังพอช่วยพวกเขาได้ เท่านั้นถือว่าเพียงพอแล้ว
หลังจากรู้จักกันมานานนม หล่อนนับว่ายังดีกว่าเฝิงฟางฟางและจี้มู่ตาน
เยีนนเอ๋อร์กลับมาอยู่บ้านเกิด ซูตานหงจึงให้เธอมากินข้าวที่บ้าน
ส่วนเรื่องที่หลับที่นอนก็ให้เธอขึ้นไปนอนที่สวน เพราะยังมีเตียงเหลืออยู่หลังหนึ่งในบ้านสวน ตอนนี้คุณพ่อกับคุณแม่จี้แยกห้องกันนอนแล้ว เยียนเอ๋อร์จึงไปนอนกับคุณแม่จี้ คุณแม่จี้เอ็นดูหลานสาวอย่างเยียนเอ๋อร์เช่นกัน เป็นธรรมดาที่จะเลี้ยงดูเธออย่างดี
หลังจากเยียนเอ๋อร์กลับมา เพียงผ่านไปไม่นาน เธอก็ดูสดใสขึ้นมาก ตอนที่มาถึงวันแรก เด็กน้อยดูซูบผอมไปเล็กน้อย เห็นได้ชัดว่าไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ
ไม่ต้องถามถึงซูตานหง อาหารฝีมือเธอล้วนชวนน้ำลายสอทุกจาน
จี้เจี้ยนอวิ๋นกลับมาในวันที่ 5 หลังจากที่เยียนเอ๋อร์มาถึงบ้านเกิด ครั้งนี้เขาตั้งใจจะไปเพียงครึ่งเดือน แต่กลับต้องอยู่นานกว่าแผนเดิมถึง 10 วัน ระหว่างนั้นเขาได้ใช้วิธีโทรศัพท์กลับมา ไม่อย่างนั้นคงเป็นห่วงเรื่องทางนี้
จุดประสงค์ที่ไปมีเพียงเรื่องเดียว คราวนี้จี้เจี้ยนอวิ๋นตั้งใจจะไปดูม้า และเลือกซื้อกลับมา แต่มันเป็นการเดินทางที่เกิดขึ้นไม่บ่อยนักไม่ใช่หรือ?
ในฐานะนักธุรกิจ เขาไปถึงที่นั่นทั้งทีและได้ยินว่ามีเห็ดถั่งเช่าด้วย
เห็ดถั่งเช่าเป็นของดี สามารถใช้หมักเหล้า และยังเป็นวัตถุดิบที่ช่วยบำรุงร่างกาย
2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมานี้ จี้เจี้ยนอวิ๋นได้เผชิญกับวิกฤตวัยกลางคน เขาต้องดูแลร่างกายของตัวเองเป็นพิเศษ เมื่อก่อนตอนอยู่นอกบ้าน เขาเอาแต่กินแต่แป้งทอด ในตอนนี้จึงต้องสรรหาของมีประโยชน์กิน
ทั้งหมดเป็นผลมาจากภรรยาของเขา ร่างกายเขาไม่แข็งแรงเท่าแต่ก่อน เขาเป็นชายชาตรี หากกลับไปมีเรี่ยวแรงอย่างเมื่อก่อน ก็จะทำงานเก็บเงินเพื่อครอบครัวได้
ไม่ได้มีเพียงเขาที่คิดเช่นนี้ แต่ผู้ชายคนอื่นก็คิดอย่างเดียวกัน หากมีกำลังไปทำนู่นนี่ได้ ก็จะมีแรงทำงานเก็บเงินเพื่อครอบครัวได้
บางครั้งมันจึงเป็นเรื่องกดดันสำหรับผู้ชาย
ซูตานหงรู้ว่าหลายปีที่ผ่านมาจี้เจี้ยนอวิ๋นเผชิญกับปัญหาจุกจิกมากมายเช่นกัน แม้จะเป็นปัญหาเล็กน้อย แต่หากเขาไม่ให้ความสนใจ มันอาจนำไปสู่ปัญหาใหญ่ได้
หลังจากเขาปลดประจำการออกมา เธอจึงตั้งใจดูแลรักษาสุขภาพให้เขาเป็นอย่างดี ไม่ว่าจะงานยุ่งเพียงไหน เธอก็เตรียมอาหารครบ 3 มื้อไม่ขาด ทั้งยังทำน้ำแกงบำรุงให้ดื่มอย่างหลากหลาย รวมถึงคอยแช่เท้าก่อนเข้านอนทุกวันในช่วงหน้าหนาว
แม้ถูกเพิ่มสรรพคุณด้วยน้ำพุวิเศษ แต่ซูตานหงยังดูแลสุขภาพเขาอย่างไม่นิ่งนอนใจ
เธอมักบอกเขาอยู่เสมอว่าอย่าใช้ร่างกายหักโหมนัก ไม่อย่างนั้นจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ แล้วทั้งครอบครัวจะพึ่งพาใครกัน?
ลูก ๆ ยังอายุน้อยกันอยู่ ทั้งครอบครัวยังมีกิจการมากมายแล้ว รายได้ที่มีถือว่าไม่น้อย สามารถใช้หาซื้อของมีประโยชน์กินนอกบ้านได้เหลือเฟือ ไม่อย่างนั้นเธอต้องทำอาหารบำรุงชดเชยให้เขา มันไม่คุ้มค่าที่จะเอาร่างกายตนเองไปเสี่ยงโดยใช่เหตุแบบนั้น
จี้เจี้ยนอวิ๋นเห็นด้วยกับเรื่องนี้เช่นกัน ตอนนี้เขาจึงสรรหาแต่ของกินที่มีประโยชน์ตอนเดินทางไปติดต่อธุรกิจ หรือไม่เขาก็จะให้ภรรยาจับชีพจรให้ ตอนที่เธอจับชีพจรให้เขา ดูราวกับเป็นแพทย์แผนจีนโบราณ เธอดูช่ำชองมากทีเดียว
คนนอกไม่ค่อยรู้เรื่องนี้นัก แต่เขารู้ดี
ภรรยาของเขามีความลับมากมายซ่อนอยู่ ลึกลงไปในใจเขา เขากลัวว่าภรรยาจะทิ้งเขาไป ด้วยรู้สึกมาตลอดว่าภรรยาคนนี้ไม่ใช่คนเดียวกับภรรยาที่เขาแต่งงานด้วย หากแต่ไม่อาจอธิบายได้ว่าเกิดอะไรขึ้น
ถึงอย่างไรเขาก็ชอบและรักใคร่ภรรยาของเขาในตอนนี้แล้ว
เธอมีลูกให้เขาตั้งมาก เธอคงไม่สามารถทิ้งเขาไปได้ง่าย ๆ
ทว่าเขายังให้ความใส่ใจเป็นอย่างดี โดยดูแลร่างกายตนเองเสมอ
ครั้งนี้เขามาถึงมณฑลมองโกเลียในเพื่อซื้อม้า แต่เมื่อชายชราบอกว่ากำลังดื่มเหล้าเห็ดถั่งเช่าอยู่ เขาจึงขอลองบ้าง
เมื่อได้ลองชิม เขาจึงติดใจ
ไม่สิ เรียกว่ากระดกหมดแก้วเลยมากกว่า
เขาไม่ได้ซื้อเหล้าเห็ดถั่งเช่ามา ด้วยขนมาลำบากเกินไป แต่เขาซื้อเห็ดถั่งเช่ามาจำนวนมาก ทั้งหมดได้มาในราคาถูก ตอนนี้เขาไม่ได้แข็งแรงอย่างคนหนุ่มแล้ว เห็ดถั่งเช่าเป็นของบำรุงร่างกายอย่างดี ทั้งยังราคาไม่แพงอีกด้วย
เขาเสียเงินมากกว่า 100 หยวนซื้อมากระสอบโต หนักราว 2 หรือ 3 ชั่งได้ หากนำไปใช้หมักเหล้า ใช้เพียงเล็กน้อยก็เพียงพอ จึงยังเหลืออีกมาก
ก่อนที่เขามาถึง เขาวางแผนจะซื้อลูกม้าสัก 5 ตัว แต่จี้เจี้ยนอวิ๋นชอบพวกมันมาก จึงซื้อมาถึง 7 ตัว…
เมื่อเขากลับมา จี้เจี้ยนอวิ๋นก็มีผิวคล้ำลงอย่างผิดหูผิดตา แม้เขาจะกินอาหารครบมื้อ แต่น้ำหนักยังลดลงไปมาก
ลูกม้าทั้งหมดถูกส่งมาที่สวนแห่งที่ 4 ซึ่งมีเหล่าจางดูแลอยู่ ตอนนี้สวนแห่งนี้กลายเป็นสวนสัตว์ไปเสียแล้ว ทั้งไก่ สุนัข วัว แกะ และตอนนี้ยังมีม้ามาเสริม
มีสุนัขใหญ่ 3 ตัวอยู่ที่นี่ พวกมันมีอาหารการกินดีมาก แต่ละตัวดูไม่ต่างกับต้าเฮยนัก พวกมันมีหน้าที่ลาดตระเวนรอบสวนทุกวัน โดยถูกจี้เจี้ยนอวิ๋นฝึกมาอย่างดี แต่ละตัวทำหน้าที่เฝ้าระวังได้ยอดเยี่ยม!
เรื่องที่จี้เจี้ยนอวิ๋นซื้อม้ามาย่อมเป็นที่ฮือฮาในหมู่บ้าน แม้แต่ผู้ใหญ่บ้านยังมาถามกับจี้เจี้ยนอวิ๋น
“จี้เจี้ยนอวิ๋น เธอตั้งใจจะทำอะไรเหรอ?” ผู้ใหญ่บ้านถาม
เขารู้สึกว่าจี้เจี้ยนอวิ๋นมีความสามารถมาก และคงคิดเริ่มจะเลี้ยงม้า
ม้าเป็นสัตว์หายาก ในพื้นที่เคยมีอยู่ 1 หรือ 2 ตัวเท่านั้น พวกมันถูกส่งมาจากที่อื่นเพื่อช่วยขนสิ่งของ ตอนนั้นระบบการผลิตยังไม่ทันสมัยนัก อย่าว่าแต่ม้าเลย แม้แต่ลายังหายาก
“ไม่เห็นต้องมีแผนเลยครับ เสียงเสียงบอกว่าเขาอยากจะเห็นม้าแบบในรูปถ่าย บอกให้ผมเอากลับมาให้เขาหน่อย ผมคิดว่าไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เลยซื้อกลับมาครับ” จี้เจี้ยนอวิ๋นบอกพร้อมส่งยิ้ม
………………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ซื้อทั้งม้าทั้งถั่งเช่า หมดเงินไปเท่าไหร่คะเนี่ยพี่จี้
ปล. เร็ว ๆ นี้มีผลวิจัยออกมาแล้วนะคะว่าถั่งเช่าไม่ค่อยมีสรรพคุณทางยามากเท่าไหร่นัก ที่ถือว่าเป็นของดีของแพงนี่เกิดจากการปั่นราคากันมากกว่า
ไหหม่า(海馬)