ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย [ 农女致富记 ] - บทที่ 1523 จุดที่น่าสงสัย
บทที่ 1523 จุดที่น่าสงสัย
บทที่ 1523 จุดที่น่าสงสัย
ตอนนี้มีข่าวลือแพร่สะพัดไปทั่วเมืองหลวงว่าฮูหยินฟางกำลังจะตาย หากฟางเพ่ยหยาปรากฏตัวในเวลานี้ ประการแรก เกรงว่าคนอื่นจะสงสัยเกี่ยวกับอาการป่วยของฮูหยินฟาง และประการที่สอง เกรงว่าคนอื่นจะนินทาและดูถูกเพ่ยหยาว่าอกตัญญู
“นางไม่ไปนับว่าเป็นเรื่องดี เพื่อไม่ให้ถูกคนอื่นนินทาว่าร้าย การอยู่บ้านดูแลมารดาจึงเป็นทางเลือกที่ดีกว่า” ถานอวี้ซูเอ่ย กู้เสี่ยวหวานเองก็พยักหน้าเห็นด้วยเช่นกัน
ทว่านางยังมีอีกเรื่องที่ต้องบอกเพ่ยหยา
เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ต้องบอกให้เพ่ยหยารู้ก่อน หลังจากนี้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น พวกนางทั้งสองต้องรีบหาทางออกให้ตัวเอง
กู้เสี่ยวหวานขมวดคิ้ว และไม่อาจรอดพ้นสายตาของถานอวี้ซูไปได้ “ท่านพี่ ท่านมีเรื่องในใจหรือเปล่าเจ้าคะ?”
ถานอวี้ซูเห็นว่าตอนที่กำลังพูดถึงฟางเพ่ยหยา แววตาของอีกฝ่ายเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ทำให้นางรู้สึกว่าท่านพี่คงจะไม่ยอมพูดออกมาเป็นแน่แท้
ช่วงเวลานี้ พวกนางไม่ได้เจอกับเพ่ยหยามานานแล้ว
ทำให้พวกนางรับรู้สถานการณ์ของเพ่ยหยาได้เป็นครั้งคราวผ่านทางจดหมายที่เพ่ยหยาส่งมา ในจดหมายไม่มีข้อมูลสำคัญมากนัก รู้แค่ว่านางสบายดีและคิดถึงพวกนางมาก เรื่องอื่น ๆ ไม่มีสิ่งใดต้องกังวล
แม้แต่งานขับร้องบทกวีครั้งนี้ ฟางเพ่ยหยาก็ไม่ได้ส่งจดหมายมาบอกว่านางจะเข้าร่วมหรือไม่
เมื่อลองดูจากสถานการณ์ของฮูหยินฟางแล้ว นางคงจะไม่เข้าร่วมอย่างแน่นอน
“อืม เกี่ยวกับเรื่องของตระกูลฟาง ข้าได้ยินข่าวคราวบางอย่างมา” กู้เสี่ยวหวานโน้มตัวเข้าไปใกล้ถานอวี้ซูและพูดเบา ๆ ถานอวี้ซูได้ฟังก็มองไปที่กู้เสี่ยวหวานด้วยความประหลาดใจเจือความไม่เชื่อ “ท่านพี่ พูดจริงหรือ”
กู้เสี่ยวหวานพยักหน้า “จริงแท้แน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนี้ ถานอวี้ซูก็มีสีหน้าโกรธเคือง และแรงบีบที่มือทำให้แก้วชาในมือแตกเป็นเสี่ยง ๆ “รังแกกันมากเกินไปแล้ว”
กู้เสี่ยวหวานถอนหายใจ “ดังนั้นข้าอยากจะบอกให้พวกนางเตรียมใจไว้ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น หลังจากนี้เมื่อมาถึงจุดนี้แล้วจะไม่มีการหันหลังกลับ”
พวกนางสองคนกำลังคุยกัน เนื่องจากเสียงล้อรถม้าดังมาก คนที่อยู่รอบ ๆ จึงไม่ได้ยินสิ่งที่กู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูพูดเลย
อาชิงนั่งคุกเข่าอยู่ข้าง ๆ โดยมีอาอวี้นั่งอยู่ข้างหลังห่างจากกู้เสี่ยวหวานเล็กน้อย เมื่อเห็นถานอวี้ซูพูดเรื่องของฟางเพ่ยหยาและโกรธขึ้นมา จึงเดาได้ว่าพวกนางต้องพูดเรื่องสำคัญอย่างแน่นอน แต่นางพยายามเงี่ยหูฟังแล้ว หากแต่ก็ไม่ได้ยินว่าทั้งสองพูดอะไร
อาชิงดูเหมือนจะต้องการขยับเข้าไปใกล้โต๊ะน้ำชา จึงขยับไปข้างหน้าและไม่ทันระวังเผลอไปโดนแขนของอาอวี้ที่กำลังรินน้ำโดยไม่ได้ตั้งใจ ทำให้น้ำร้อนลวกใส่มือของนางจนขึ้นรอยแดง
อาอวี้ที่ถูกน้ำร้อนลวกรีบหันขวับไปหาอีกฝ่าย แต่ก็เห็นว่านางก้มหน้าไม่พูดอะไร อาอวี้ทำได้เพียงแค่ซ่อนหลังมือไว้ด้านหลังและไม่พูดอะไรอีก หันกลับไปชงชาต่อ
อาชิงก้มหน้าไม่รับรู้อะไรและไม่เห็นสีหน้าของอาอวี้
อาจั่วที่อยู่ข้าง ๆ เห็นและมองอย่างไม่รู้สึกอะไร มองดูอาชิงเหมือนมีสิ่งใดอยู่ในใจ
“ท่านพี่ ท่านไม่ต้องกังวล เรื่องนี้ข้าบอกเพ่ยหยาแน่นอน” ถานอวี้ซูคันฟันอยากจะกัดฟางเจิ้งสิงเป็นชิ้น ๆ “ภายนอกเขาเป็นสุภาพบุรุษ แต่จริง ๆ แล้วเป็นคนที่โหดเหี้ยม ถ้าพวกนางรู้ ไม่รู้จะคิดมากเพียงใด”
“เพ่ยหยาผ่านเรื่องราวมามาก ตอนนี้นางเติบโตขึ้นแล้ว และเรื่องนี้เราก็ช่วยไม่ได้ ทุกอย่างล้วนต้องตัดสินใจเอง เราเป็นคนนอก ทำได้เพียงรอนางร้องขอ เราถึงจะยื่นมือเข้าไปช่วยได้ นั่นเป็นสิ่งที่เราสามารถทำได้” กู้เสี่ยวหวานเชื่อว่าฟางเพ่ยหยาจะเลือกสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองอย่างแน่นอน”
ทั้งสองพูดคุยกัน ไม่นานรถม้าก็มาถึงตระกูลซู
คนขับรถม้าเอ่ยขึ้นเบา ๆ “จวิ้นจู่ ถึงจวนซูแล้วขอรับ”
อาโม่ลงจากรถม้า อาอวี้เปิดม่าน และเดินนำลงจากรถม้า
กู้เสี่ยวหวานกับถานอวี้ซูยังพูดคุยกันไม่หยุด โดยมีอาจั่วติดตามกู้เสี่ยวหวานอยู่ข้างหลังไม่ห่าง แต่อาชิงเอาแต่ยืนก้มหน้าก้มตาอยู่ตลอดเวลา ไม่ขยับเขยื้อนไปไหน
อาจั่วอยู่ข้างหลังกู้เสี่ยวหวาน มองนางอย่างเงียบ ๆ และเหลือบไปเห็นอาชิงขยับเข้ามา จากนั้นก็เห็นนางก้าวไปข้างหน้าเล็กน้อยตามหลังกู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูอย่างใกล้ชิด และขว้างอาจั่วไว้ด้านหลัง ร่างทั้งร่างแข็งเกร็งไปหมดและรีบก้มหน้าลงทันที
ถ้ามองไม่ผิด อาจั่วสังเกตเห็นว่านางชะเง้อหัวไปข้างหน้าราวกับว่ากำลังฟังทั้งสองคุยกัน
อาจั่วตัวแข็งทื่อ เห็นแบบนี้ก็รีบแสร้งทำเป็นจับมือของอาชิงและพูดด้วยรอยยิ้ม “อาชิง นี่เป็นครั้งแรกที่ข้าได้เข้าร่วมในงานขับร้องบทกวีนี้ ตอนนี้ยังไม่ค่อยเข้าใจสิ่งต่าง ๆ เจ้าต้องสอนข้า อย่าทำให้ข้าเสียหน้าต่อหน้าหญิงคนอื่นนะ”
เสียงของอาจั่วดังมาก กลบเสียงของกู้เสี่ยวหวานและถานอวี้ซูที่อยู่ข้างหน้าจนหมด อาชิงเห็นอาจั่วกำลังดึงตัวเองและยังพูดเสียงดัง ทำให้ไม่ได้ยินเสียงข้างหน้าเลย นางจึงทำได้เพียงหัวเราะอย่างเก้อเขิน ทว่าสายตาเต็มไปด้วยความไม่พอใจ และอาจั่วก็เห็นอย่างชัดเจน
นางเลิกคิ้ว มองสองคนที่กระซิบกระซาบกันอยู่ตรงหน้า และมองอาชิงที่ทำตัวไม่ถูกอยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
แต่นางก็หยุดความสงสัยไว้ โดยแสร้งทำเป็นว่าไม่เห็นอะไร ทำให้อาชิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก
โค่วตันประคองกู้เสี่ยวหวานเดินลงมาจากรถม้า เห็นรถม้าที่สวยงามหลายคันจอดอยู่บริเวณใกล้เคียงจวนซู สาวงามหลายคนในชุดกงจวงล้วนแต่งกายอย่างงดงามและแต่งแต้มด้วยเครื่องประทินโฉมอันวิจิตรงดงามกำลังลงจากรถม้าที่นำโดยสาวใช้ของจวนซู
หลังจากมองไปที่จวนซูอีกครั้งก็เห็นเด็กรับใช้และสาวใช้แต่งกายดูดียืนอยู่ที่ประตูทางเข้า ครั้นเห็นมีคนมา สาวใช้เข้าไปทักทายด้วยรอยยิ้ม เมื่อมีคุณชายเดินเข้ามา เด็กรับใช้ก็เข้าไปทักทาย ที่ประตูมีคนเข้า ๆ ออก ๆ คึกคักมาก