ทะลุมิติไปเป็นสาวนาผู้ร่ำรวย [ 农女致富记 ] - บทที่ 1296 กล่าวหาลอย ๆ
บทที่ 1296 กล่าวหาลอย ๆ
บทที่ 1296 กล่าวหาลอย ๆ
รอยยิ้มของฉินเย่จือพลันหายไปจากใบหน้า หลังจากที่เขามองไปรอบ ๆ สายตานั้นลึกล้ำและเย็นชา สายตานั้นทำให้เสียงกระซิบกระซาบของแม่นางทั้งหลายเงียบลงทันที เขาหดคอด้วยความตกใจและไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก
แม้แต่คนที่พูดก็อ้าปากค้าง ประโยคครึ่งหลังถูกกลืนเงียบหายไปในทันที
ทันใดนั้น ฉากที่มีเสียงดังก็เงียบลงทันที เงียบจนกระทั่งได้ยินแม้กระทั่งเสียงเข็มหล่น
ฉินเย่จือยืนอยู่ที่นั่นและมองไปรอบ ๆ อย่างเย็นชา สายตาที่เยือกเย็นนั้นยังมีความสง่างามของผู้สูงศักดิ์แผ่ออกมาจากร่างกาย ไม่มีใครกล้าพูดอะไร คนขี้ขลาดบางคนก็หดตัวกลับไปและไม่กล้ามองฉินเย่จืออีก
ซุนซื่อถูกตีจนจมูกและใบหน้าบวมช้ำ อีกทั้งยังมีบาดแผลตามร่างกาย ทำให้นางรู้สึกเจ็บปวดมากจนบีบหัวใจ
แต่ไม่ว่าบาดแผลตามร่างกายเจ็บปวดมากเพียงใดก็ไม่สามารถเทียบกับสายตาที่กู้ซินเถามองนางได้
มันเต็มไปด้วยความรังเกียจและขยะแขยง
น่ารังเกียจจนแทบอยากจะไล่ให้นางไปตาย
ซุนซื่อตกใจจนทรุดตัวลงกับพื้น ได้แต่มองไปที่ด้านหลังของกู้ซินเถาที่เดินจากไปอย่างเด็ดเดี่ยว
ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดและไม่มีผู้ใดขยับเขยื้อน
กู้เสี่ยวหวานหรี่ตาลงและไม่ได้ขยับไปไหน
ฉินเย่จือเองก็เช่นกัน
ซุนซื่อเห็นกู้ซินเถาจากไปแล้ว นางเดินออกไปไกลแล้ว
จากนั้นพยายามลุกขึ้นและพึมพำ “ซินเถา รอก่อน รอข้าก่อน”
ซุนซื่ออยากลุกขึ้นมา แต่ทำอะไรไม่ได้เพราะร่างกายของนางเจ็บปวดรวดร้าวไปหมด
เมื่อครู่ป้าจางและกู้ฟางสี่เห็นซุนซื่อพูดไม่หยุด พวกเขาจึงยกมือขึ้นและไม่ให้ความเมตตาอีก
ใบหน้าของซุนซื่อเต็มไปด้วยคราบเลือด ผมเผ้ายุ่งเหยิงไปหมด นางเอามือดันพื้นและพยายามลุกขึ้น แต่ลองหลายครั้งแล้วก็ยังคงทำไม่สำเร็จ เมื่อลุกขึ้นมาได้ แต่เพราะความเจ็บปวดเลยทำให้ทรุดตัวลงไปอีกครั้ง
เจ็บปวดจนหน้าตาบิดเบี้ยว
ซุนซื่อร้องไห้สะอื้นเงียบ ๆ และพูดจาอ้ำ ๆ อึ้ง ๆ ไม่หยุด นางดิ้นรนตลอดเวลา สายตามองไปทางที่กู้ซินเถาเดินจากไป แววตาเต็มไปด้วยความปรารถนา
ดูเหมือนคาดหวังว่ากู้ซินเถาจะหยุดเดินแล้วหันหลังกลับมามองนางสักครั้ง หรือว่าเดินเข้ามาประคองนาง
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่รอเป็นเวลานานแล้ว แต่ก็ไม่เห็นกู้ซินเถาเหลียวหลังกลับมา
กู้ซินเถาก็ได้รับบาดเจ็บเช่นกัน เพราะเมื่อครู่นางหกล้มจนเจ็บไปทั้งตัว ทำให้เดินได้กะโผลกกะเผลก
แต่ว่ามันก็หายอย่างรวดเร็วเหมือนกัน แล้วฝูงชนก็รวมตัวเข้าหากันเช่นเดิม ล้อมรอบซุนซื่อที่ล้มลงอยู่ที่พื้นคนเดียว
กู้ฟางสี่ยืนอยู่หลังกู้เสี่ยวหวานตลอด และทนไม่ได้ที่เห็นซุนซื่ออยู่ในสภาพที่ลำบากเช่นนี้
จะให้พูดอย่างไร คนผู้นี้ก็เป็นพี่สะใภ้ของตนเอง คนมาดูเยอะขนาดนี้จะให้ทำเรื่องไม่ดีไม่ได้
ดังนั้นเมื่อเดินมาหยุดลงตรงหน้าซุนซื่อก็ประคองนางขึ้นมา และพูดด้วยความปวดใจและโกรธเคืองว่า “พี่สะใภ้ใหญ่ เป็นความผิดของท่านที่วันนี้มาก่อเรื่องที่ร้านจิ่นฝู พี่ใหญ่ถูกขังอยู่ในคุก ท่านถามมากมายขนาดนี้ ท่านไม่รู้หรือว่าทำไมพี่ใหญ่ถึงถูกจับเข้าคุก แต่พวกเขาทุกคนรู้อย่างชัดเจน”
สิ้นเสียงของกู้ฟางสี่ คนเหล่านั้นที่ไม่กล้าพูด ในที่สุดตอนนี้ก็ยอมพูดและเห็นด้วยกับคำพูดของกู้ฟางสี่ พวกเขาพูดเออออไม่หยุด บอกว่ากู้ฉวนลู่ทำตัวเองและเขาสมควรได้รับมัน
กู้ฉวนลู่ทำตัวเองก็สมควรได้รับมัน ในเมื่อเขาคิดกลอุบายชั่วร้ายเพื่อใส่ร้ายหลานสาวของตนเอง แต่คิดไม่ถึงว่าจะโดนหลอก จึงใส่ยาในปริมาณที่มากและทำให้คนที่กินเข้าไปเสียชีวิต
ท้ายที่สุดแล้ว กระดาษก็ห่อไฟไม่ได้*[1] ยิ่งกว่านั้นกู้เสี่ยวหวานเป็นเสี้ยนจู่ เมื่อขอให้ใต้ท้าวจ้าวจากเมืองรุ่ยเสียนมาพิจารณาคดี เรื่องนี้ก็จะกระจ่างขึ้นไม่ใช่หรือ
คนทำชั่วย่อมได้รับผลกรรมในที่สุด
ซุนซื่อได้ฟังที่กู้ฟางสี่พูด อีกทั้งยังได้ยินที่คนรอบข้างพูด ตอนแรกสับสนเล็กน้อยเหมือนไม่เชื่อคำพูดของกู้ฟางสี่
แต่เมื่อได้ยินที่ทุกคนพูด นางก็จำใจต้องเชื่ออีกครั้ง
ถ้าเป็นเพราะเขาทำตัวเองละก็ ทำไมเขาต้องมาก่อเรื่องที่ร้านจิ่นฝูด้วย และยังวิ่งหนีไปอยู่ที่ร้านเปิดใหม่ของคนอื่น ไปอยู่ที่หน้าประตูด่ากู้เสี่ยวหวาน ด่าอย่างน่ารังเกียจ
สำหรับครอบครัวของเด็กผู้หญิง สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชื่อเสียง นางคิดว่ากู้ฉวนลู่ถูกกู้เสี่ยวหวานบีบบังคับ ยิ่งไปกว่านั้น นั่นคือสิ่งที่สามีบอกนาง
ซุนซื่อเป็นผู้หญิง นางจะรู้เรื่องอื่นมากมายขนาดนี้ได้อย่างไร หากถูกสามีจับได้ ทั้งครอบครัวต้องพังทลายแน่
กู้จือเหวินขว้างของที่บ้านตลอดทั้งวัน ตะคอกด่าว่าทำไมตนถึงมาเกิดอยู่ในครอบครัวแบบนี้ ถ้าแม่ไม่ติดคุกพ่อก็ติดคุก ยังมีน้องสาวที่ไปคบหากับผู้ชายที่ไม่ได้เรื่อง ทำให้ชื่อเสียงของเขาถูกทำลายทั้งหมด
กู้ฉวนลู่เป็นสวรรค์ของครอบครัว กู้จือเหวินเป็นสวรรค์ในอนาคตของครอบครัว
สวรรค์ร่วงลงมา หัวใจของซุนซื่อก็ไม่เหลือแล้ว
หัวอกเต็มไปด้วยความโกรธและพุ่งเป้าไปที่กู้เสี่ยวหวาน
กู้ฉวนลู่ส่งข่าวคราวให้นางทันเวลาพอดี ซุนซื่อตั้งใจจะมาที่นี่อยู่แล้ว
ดังนั้นจึงมีคนตะโกนด่ากู้เสี่ยวหวานที่หน้าประตูร้านจิ่นฝู
หลังจากที่ซุนซื่อได้ยินสิ่งที่คนรอบข้างพูด ถึงแม้จะนิ่งเงียบไป แต่ว่านี่จะโทษใครล่ะ หากจะโทษก็ต้องโทษกู้เสี่ยวหวาน
เมื่อนึกถึงสิ่งนี้ ไม่รู้ว่านางไปเอาแรงมาจากไหน จู่ ๆ ก็ออกแรกผลักจนกู้ฟางสี่กระเด็นออกไป
อีกทั้งตนเองก็ยังเดินโซเซ ตัวสั่นอยู่นานกว่าจะทรงตัวได้
จากนั้นมองไปที่กู้ฟางสี่ด้วยสายตาที่ดุร้ายและตะโกนอย่างบ้าคลั่ง “กู้ฟางสี่ คนที่ถูกขังอยู่ในคุกคือพี่ใหญ่ของเจ้า เจ้าไม่อยากช่วยเขาหรือไง เจ้ายังพูดประชดประชันอยู่อีก เจ้ายังเป็นคนอยู่หรือไม่”
ซุนซื่อมองไปรอบ ๆ จ้องมองไปที่กู้ฟางสี่ด้วยสายตาที่โหดร้าย ใบหน้าที่น่ากลัวแผ่ความดุร้ายออกมา
แม้ว่าฟันจะร่วงหมดปาก แต่ก็ไม่สามารถต้านทานความโกรธในใจได้และค่อย ๆ ระเบิดคำพูดออกมาทีละคำ
*[1] กระดาษห่อไฟไม่ได้ หมายถึง ความจริงเป็นสิ่งที่ไม่อาจปิดบังได้
………………………………………………….