ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 8 น้ำแกงปลาแสนอร่อย(รีไรท์)
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
- บทที่ 8 น้ำแกงปลาแสนอร่อย(รีไรท์)
บทที่ 8 น้ำแกงปลาแสนอร่อย(รีไรท์)
เหยียนอี้นำหินก้อนใหญ่ไปที่บ้านของเพื่อนบ้านเพื่อขอยืมถังและมีดทำครัว ภาพมีดทำครัวสีสดใสถูกขัดเงาทำนางตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก
ปลาเฉาฮื้อที่เพิ่งล้างทำความสะอาดเสร็จนอนนิ่งอยู่บนแผ่นหิน จ้องมองท้องฟ้าด้วยดวงตาเบิกกว้างราวกับว่าไม่เต็มใจอย่างยิ่งยวด
เหยียนอี้ล้างมือแล้วพับแขนเสื้อขึ้น เผยท่อนแขนบอบบาง นางยกมีดทำครัวในมือขึ้นและทุบหัวปลาอย่างแรง จากนั้นจึงนำปลามาหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ แล้ววางไว้บนหิน
หลังจากหั่นชิ้นปลาแล้ว นางตั้งใจจะช่วยมารดาก่อไฟ แต่เมื่อหันกลับไปก็พบว่าไฟติดแล้ว เหอซื่อนำตะแกรงมาตั้งไว้ ในมือถือใบตองใบใหญ่พัดไฟให้ลุกโชน
“อี้เอ๋อร์ เจ้าคิดว่าไฟพอหรือไม่?” นางมองไปที่เหยียนอี้พร้อมกับรอยยิ้ม ยังคงมีควันสีดำเปื้อนอยู่บนใบหน้าของนาง ภาพนั้นทำให้เหยียนอี้หัวเราะแล้วเอื้อมมือไปเช็ดออกให้
“พอแล้วเจ้าค่ะ! ท่านแม่ของข้าแข็งแกร่งที่สุดจริง ๆ!”
แสงตะวันสีทองสาดส่องลงมา ทำให้เห็นรอยยิ้มที่ประดับบนใบหน้าขอองเหอซื่อ เหยียนอี้รู้สึกอบอุ่นในหัวใจเป็นอย่างมาก แม้ว่าทั้งสามคนจะออกจากบ้านเหยียนแล้ว และตอนนี้ยังหากินอาหารได้ยากลำบาก แต่ทั้งสามคนก็พอใจมาก
เป็นครั้งแรกที่เหยียนอี้เห็นมารดายิ้มอย่างมีความสุขตั้งแต่นางมาที่นี่ ทำให้นางมั่นใจมากขึ้นว่าชีวิตของพวกนางจะดีขึ้นในภายภาคหน้า!
“ท่านแม่ ท่านพี่ หม้อมาแล้ว! ข้ายืมน้ำมันและผักป่ามาด้วย พอข้าบอกว่าข้ามีน้ำแกงปลาให้ดื่ม นางก็ให้ข้าเอาทุกอย่างมาเลย! เท่านั้นไม่พอ นางยังให้ชามและตะเกียบกับข้าด้วย แล้วบอกว่าจะส่งชามใหญ่มาให้ภายหลัง” ไม่ไกลนัก เหยียนจื่อวิ่งเข้ามาหาพวกนางด้วยหม้อในมือข้างหนึ่งและอีกมือหนึ่งถือเครื่องเทศ
เมื่อได้ยินสิ่งที่เหยียนจื่อพูด มุมปากของเหยียนอี้ก็กระตุกขึ้นมาทันที ท่าทางของนางดูหมิ่นป้าสะใภ้จาง นางยิ้มและพูดว่า “นางต้องส่งชามใหญ่มาให้แน่นอนอยู่แล้ว เพราะที่บ้านยังมีท่านยายและท่านตาอยู่!”
หลังจากนั้นนางก็ส่ายหัวพลางถอนหายใจ นางไม่รู้จะจัดการเกี่ยวกับอารมณ์ของป้าสะใภ้จางอย่างไร จากนั้นนางก็เลิกคิดถึงเรื่องนี้และเทน้ำลงในหม้อที่วางบนหิ้งแล้วรอ
บนแผ่นหินมีผักป่าที่หั่นเสร็จแล้วและเนื้อปลาสีขาว แต่หากนำปลาลงหม้อเลยมันจะไม่อร่อย! คิ้วของเหยียนอี้ขมวดแน่น นางหันกลับมาและบังเอิญเห็นเห็ดหลายดอกเติบโตในกองฟางหลังบ้าน ดวงตาของนางพลันเปล่งประกายขึ้น
เมื่อนางไปเก็บเห็ดมา ก็ใส่มันพร้อมผักป่าและเนื้อปลาลงในหม้อ โรยน้ำมัน เกลือ และน้ำส้มสายชูเล็กน้อย ปิดฝาหม้อให้สนิท แล้วเปลวไฟที่ปะทุด้านล่างก็จะลุกโชนมากขึ้นเรื่อย ๆ
ครึ่งชั่วยามต่อมา น้ำแกงปลาอร่อยได้ที่แล้ว เหยียนจื่อที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ก็เริ่มหิวโหย น้ำลายของนางไหลจนเกือบจะหมดขณะที่มองดูหม้ออย่างกระตือรือร้น ก่อนจะพูดขึ้นว่า “ท่านพี่ เมื่อใดจะได้กินเสียที ตุ๋นมาครึ่งชั่วยามแล้ว”
“รอสักครู่ อีกประเดี๋ยวก็เสร็จแล้ว” เหยียนอี้เปิดฝาหม้อแล้วกรีดใบตอง เมื่อมองเข้าไป นางเห็นว่าน้ำแกงข้างในข้นและกลายเป็นสีขาว เห็ดที่ใส่ในตอนท้ายนั้นสดมาก แม้ว่ามันจะไม่ได้ดีเท่าที่นางเคยกินมาก่อน แต่ก็ถือว่าดีมากแล้ว
เวลาล่วงเลยไป รสชาติเริ่มเข้มข้นขึ้นเรื่อย ๆ กลิ่นหอมลอยอยู่ในอากาศ จนชาวบ้านหลายคนที่เดินผ่านไปมาต่างอยากรู้ว่าหม้อนี้ปรุงสิ่งใด
“ท่านแม่ เหยียนจื่อ ถอยห่างจากหม้อ!”
เหยียนจื่อที่รอมานานกระตือรือร้นขึ้นมา เหยียนอี้ก็มีสติพอที่จะตักน้ำแกงใส่ชามให้มารดาและน้องสาวก่อน แล้วจึงตักให้ตัวเอง
แกงปลาแสนอร่อยและเนื้อปลาที่ขาวเนียนยังคงเดือดอยู่ในหม้อ ผู้หญิงสามคนกำลังนั่งอยู่ในลานและกินอาหารกันอย่างเอร็ดอร่อย
เมื่อนางพบเพื่อนบ้าน นางจำต้องแบ่งแกงให้ เดิมทีเหยียนอี้ไม่ได้ตั้งใจจะแบ่งให้พวกเขา แต่เพื่อความอยู่รอด ทั้งสามคนยังคงต้องการความช่วยเหลืออยู่
ในระหว่างทานอาหารกันอย่างมีความสุข แขกที่ไม่ได้รับเชิญก็โผล่เข้ามา บรรยากาศแสนสุขของทั้งสามจึงต้องถูกขัดจังหวะ
“ท่านแม่ดูสิ ทะ… ท่านพ่อ… เหตุใดเขาถึงมาที่นี่” มือของเหยียนจื่อที่ถือแกงปลาสั่นเทา นางมองไปที่เหยียนฟู่กุ้ยผู้กำลังเดินเข้ามาช้า ๆ
ที่ประตูหน้าลานกว้าง เหยียนฟู่กุ้ยผู้มีร่างใหญ่และอวบอ้วน กำลังถือขวดสุราในมือซ้าย มือขวาจับท้องของตัวเอง ใบหน้าสีเข้มของเขายังคงแดงก่ำ คราบสุราเลอะอยู่บนศีรษะ เมื่อเขาเรอ อากาศก็เต็มไปด้วยกลิ่นสุราราคาถูก
เมื่อเห็นเช่นนี้เหอซื่อก็รู้สึกเครียดขึ้นมาทันที ฝ่ามือของนางเต็มไปด้วยเหงื่อ นางรีบดึงลูกทั้งสองให้กลับเข้าบ้าน
“นังหญิงบ้า เหตุใดเจ้าถึงไม่อยากเห็นข้าล่ะ ถุย!” เหยียนฟู่กุ้ยขี้เมาถ่มน้ำลายที่ประตูลานกว้าง จากนั้นก็ชี้ไปที่อดีตภรรยาแล้วตะโกนโหวกเหวก
นางรีบวางแกงปลาลงแล้ววิ่งเข้าบ้านพร้อมกับเหยียนจื่อและเหยียนอี้ ผ้าพันคอที่พันรอบศีรษะหลุดออกมาแต่นางไม่สนใจ นางปิดประตูและกอดลูก ๆ ทั้งสองไว้ ร่างกายของนางสั่นเทา ดวงตาของนางเต็มไปด้วยความกังวลและความหวาดกลัว
ข้างนอก เหยียนฟู่กุ้ยได้กลิ่นแกงปลาแสนอร่อย จึงก้าวเดินไปพร้อมกับคำสาปแช่ง เขาเตะหม้อจนน้ำแกงกระฉอกลงพื้น
หม้อแกงปลาที่หกเละเทะทำให้อากาศคลุ้งไปด้วยกลิ่นคาว เมื่อมองดูอาหารที่ปรุงด้วยความยากลำบากหกกระจายก็รู้สึกอึดอัดอย่างยิ่ง แต่เหอซื่อไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องกัดฟันอดทน
“ท่านแม่ เราออกไปกันเถิด ไม่มีที่ให้ซ่อนแล้ว ไม่ช้าก็เร็วท่านพ่อคงจะเข้ามา” เหยียนอี้มองออกไปนอกหน้าต่าง เฝ้าดูหยานฟู่กุ้ยเป็นบ้าและเอาแต่โวยวาย
นางหลับตาแล้วส่ายหัว น้ำตาหลั่งรินออกจากหางตาและไหลลงอาบสองแก้ม นางกระซิบ “ออกไปเสีย เจ้าสองคน… จะ… โดนทุบตีอีก แม่… แม่ไม่อยากให้ลูกสองคนต้องทนทุกข์…”