cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 75 การเต้นรำที่ทำให้ผู้คนตื่นตะลึง

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 75 การเต้นรำที่ทำให้ผู้คนตื่นตะลึง
Prev
Next

บทที่ 75 การเต้นรำที่ทำให้ผู้คนตื่นตะลึง

หลี่หรงเฉิงกล่าวต่อ “ในวังแห่งนี้ข้าไม่เคยได้ยินชื่อหนานฉวี่มานานแล้ว เสด็จแม่ของข้าคิดถึงบ้านเกิดยิ่งนัก หลังจากที่นางได้ยินว่าสำนักเยว่ฝู่กำลังจะจัดงานเต้นรำหนานฉวี่ นางจึงดูมีความสุขเป็นอย่างยิ่ง ทว่าหลังได้ยินว่าเพลงเต้นรำนี้ใช้เพียงในงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ นางก็ดูผิดหวังไม่น้อย”

“หากสนมจาวประสงค์จะชมการเต้นรำ นางก็ชมได้ในงานเลี้ยง เหตุใดจึงต้องเศร้าด้วยล่ะเพคะ” เหยียนจื่อถาม

หลี่หรงเฉิงส่ายหัวอย่างจนปัญญา “ฮองเฮาไม่ชอบแม่ของข้า นางไม่เคยเข้าร่วมโอกาสเช่นนี้ จึงไม่อาจเห็นเจ้าเต้นรำได้”

เหยียนจื่อไม่รู้เรื่องภายในของนางสนมเหล่านี้ นางได้ยินครั้งสองครั้งว่าสนมจาวเป็นคนรับใช้ที่อ่อนน้อมถ่อมตนของฮองเฮาเสี้ยวหมิ่นในอดีต ทว่าต่อมานางกลายเป็นนางสนมที่ไม่ได้รับการโปรดปราน หรืออาจเป็นเพราะฮองเฮาเสี้ยวหมิ่น ฮองเฮาเฉียนจึงไม่ชอบสนมจาวไปด้วย?

หลี่หรงเฉิงกล่าวต่อ “ข้ารู้ว่าเสด็จแม่เจ็บปวด ข้าจึงอยากแหกกฎให้ท่านชมการเต้นรำหนานฉวี่เพื่อเป็นกำลังใจให้นาง แต่งานเต้นรำนั้นได้จัดยิ่งใหญ่นัก และยากที่จะนำฉากเข้ามาในชุ่ยอวี้เซวียน ในเมื่อเจ้าเป็นผู้นำเต้น ข้าก็อยากเชิญเจ้ามาเต้นรำให้เสด็จแม่ข้าชมคนเดียว”

เหยียนจื่อจะไม่ตอบรับได้อย่างไร? “แต่มันเป็นไปไม่ได้ที่หม่อมฉันจะเต้นโดยไม่มีดนตรี ฝ่าบาทจะเชิญนักบรรเลงมาร่วมงานด้วยงั้นหรือ?”

หลี่หรงเฉิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ไม่จำเป็นต้องจ้างนักบรรเลงหรอก เหตุใดเจ้าคิดว่าข้ารุดไปสำนักเยว่ฝู่ของเจ้าสามวันสองคืนโดยไม่ได้ประโยชน์อันใดเล่า? ทุกครั้งที่เจ้าซ้อม ข้าได้ยินบทเพลงอยู่สองสามเพลงแล้วจดจำมาเกือบหมดแล้ว”

เหยียนจื่อรู้สึกประหลาดใจมาก “แต่นั่นเป็นเพลงใหม่ที่สำนักเยว่ฝู่แต่งขึ้น ทั้งยังใช้นักบรรเลงตั้งหลายคน ทุกคนศึกษาดนตรีมาเป็นเวลานาน ฝ่าบาททรงฟังอยู่แค่นั้นจะจำได้อย่างไร”

หลี่หรงเฉิงยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “หากเจ้าไม่เชื่อ ข้าจะเล่นกู่เจิงให้เจ้าฟังในวันพรุ่งนี้”

จู่ ๆ รอยยิ้มของหลี่หรงเฉินก็จางหายไปเป็นความเศร้าสร้อยแทน “ความจริงแล้วพรุ่งนี้ก็เป็นวันพระราชสมภพของเสด็จแม่ น่าเสียดายที่ทุกคนในวังกำลังยุ่งอยู่กับงานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์และวันพระราชสมภพของไทเฮา ไม่มีใครสนใจแม่ข้าเลย”

เหยียนจื่อเห็นดังนั้นจึงเอ่ย “อย่าคิดมากเลยเพคะ ลูกชายคนสำคัญที่สุดพยายามขนาดนี้แล้ว พระสนมจาวต้องมีความสุขมากแน่ ๆ”

“ขอบคุณเจ้า เหยียนจื่อ” หลี่หรงเฉิงกล่าวด้วยสีหน้าที่ดีขึ้น

วันรุ่งขึ้น เหยียนจื่อก็หาข้ออ้างที่จะแอบออกจากประตูจนได้ โดยมีอาอวิ๋น ขันทีตัวน้อยของหลี่หรงเฉิงมารอพบนางที่ประตู

เหยียนจื่อและเขารีบไปที่ประตูชุ่ยอวี้เซวียน ขณะที่พวกเขากำลังจะเข้าไป เหยียนจื่อกลับรั้งตัวอาอวิ๋นเอาไว้เสียก่อน “ผมของข้ายุ่งหรือไม่? ข้าแต่งหน้างามแล้วใช่หรือเปล่า”

อาอวิ๋นกล่าวด้วยรอยยิ้ม “แม่นาง เจ้าออกจะงามไม่ต่างจากเทพธิดา จะกังวลอันใดไป?”

เหยียนจื่อยิ้มอย่างขัดเขินแล้วพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาพบสนมจาวจึงประหม่าขึ้นมาน่ะเจ้าค่ะ”

อาอวิ๋นบอกนางว่า “สนมจาวเป็นคนที่ดีที่สุดในใต้หล้าแล้ว เจ้าไม่ต้องกังวลไปหรอก”

เหยียนจื่อยังคงประหม่า นางหวีผมอยู่ด้านนอกพักใหญ่ ก่อนจะก้าวเข้าไปในที่สุด

ชุ่ยอวี้เซวียนเป็นตำหนักที่เล็กมากเมื่อเทียบกับตำหนักของสนมคนอื่น ๆ ในวัง ดูแล้วช่างเป็นตำหนักที่เจียมเนื้อเจียมตัวเป็นอย่างยิ่ง

มองเข้าไปในสวนมีดอกบัวดอกใหญ่อยู่ในกระถางทั้งสองข้างทาง บัดนี้เป็นฤดูใบไม้ร่วง กลีบดอกบัวจึงร่วงหล่นเหลือเพียงกิ่งก้านเท่านั้น

ดาวเรืองริมทางผลิบานงดงาม แม้ว่าจะไม่ได้เป็นพันธุ์ที่หาดูยาก แต่ก็เปล่งความมีชีวิตชีวาออกมา

ในขณะที่บริเวณหน้าลาน สาวใช้ทั้งสามกำลังกวาดลาน ส่วนขันทีทอหวายอยู่ใกล้ ๆ กำแพง

อาอวิ๋นเดินนำเหยียนจื่อเข้าไปในประตู คนแรกที่ออกมาคือหัวหน้าสาวใช้ร่างท้วมชื่ออีเหลียน ชื่อของนางไพเราะยิ่งนัก แต่น่าเสียดายที่มันไม่ตรงกับรูปร่างของนางสักเท่าไร

อีเหลียนพาเหยียนจื่อเข้าไปยังห้องด้านใน หลี่หรงเฉิงนั่งอยู่ที่โต๊ะกินอาหาร บนเก้าอี้ข้าง ๆ เป็นสตรีใบหน้างดงามคนหนึ่ง นั่นก็คือสนมจาวนั่นเอง

เหยียนจื่อโน้มกายลงแล้วคำนับตามกฎ “เหยียนจื่อถวายพระพรสนมจาวผินหลิน และองค์ชายแปด”

เมื่อเห็นเหยียนจื่อ จาวผินหลินก็รีบให้หลี่หรงเฉิงช่วยนางลุกขึ้นก่อนจะยิ้มด้วยความอ่อนโยน “เจ้าคงเป็นผู้หญิงที่เฉิงเอ๋อร์พูดถึง ช่างงดงามยิ่ง”

หลี่หรงเฉิงหัวเราะพร้อมผุดยิ้ม “เสด็จแม่พูดอันใดกัน ข้าบอกว่านางสวยตั้งแต่เมื่อไร”

จาวผินหลินทาบปากตนเองแล้วแย้มยิ้มจาง ๆ “ลูกว่านางไม่สวยหรือ?”

เหยียนจื่ออดยิ้มไม่ได้ “ฝ่าบาท พระสนมเพียงแค่ชมตามมารยาทเท่านั้น ท่านทำความแตกเองไปแล้วเพคะ”

หลี่หรงเฉิงชักขัดเขินจึงลอบมองเหยียนจื่ออย่างเงียบ ๆ แทน

จาวผินหลินลุกขึ้นยืนและกวักมือเรียกเหยียนจื่อให้นั่งลงใกล้ ๆ โต๊ะ หลี่หรงเฉิงจึงนั่งลงอีกครั้ง

เหยียนจื่อรู้สึกหวาดกลัวเลยยังไม่กล้านั่ง หลี่หรงเฉิงจึงดึงนางลงมาที่เก้าอี้ แล้วกล่าวขึ้น

“ที่นี่ไม่ได้ดีไปกว่าที่อื่นในวัง เจ้าไม่จำเป็นต้องใส่ใจกับกฎ ทำตัวปกติก็ได้ อีเหลียน เจ้าไปเอาบะหมี่สักชามมาให้เหยียนจื่อซิ”

เหยียนจื่อตอบกลับ “หม่อมฉันกินมาแล้วเพคะ”

หลี่หรงเฉิงคีบเส้นบะหมี่ด้วยตะเกียบและพูดต่อ “เจ้าต้องลองชิมบะหมี่อายุยืนยาวที่แม่ข้าทำ! มันไม่ต่างกับรสชาติที่พี่เจ้าทำหรอก!”

จาวผินหลิน “หืม? เจ้ารู้จักพี่สาวของแม่นางผู้นี้ด้วยหรือ”

หลี่หรงเฉิงตอบว่า “พูดถึงเรื่องนี้แล้ว ข้าพบพี่สาวของนางก่อน ในเวลานั้นข้าและพี่รองพักอยู่ในภัตตาคารของนางเป็นเวลาหลายวันเมื่อไปเยี่ยมเยียนเมืองอวิ๋นเจี้ยน เสด็จพ่อชื่นชอบฝีมือพี่สาวของนาง ดังนั้นจึงเรียกพวกนางเข้าวัง ตอนนี้พี่สาวของนางเป็นแม่ครัวหลวงแล้ว”

จาวผินหลินพยักหน้า “ดีที่เจ้าบอกข้าเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อน ข้าความจำแย่มาก ลืมไปเสียสิ้น”

ในขณะที่นางกำลังพูด อีเหลียน สาวใช้อ้วนก็นำบะหมี่สองชามเข้ามา หนึ่งชามสำหรับเหยียนจื่อและอีกชามหนึ่งสำหรับตัวเอง จากนั้นถึงเริ่มยืนกิน

หลี่หรงเฉิงพูดกับอีเหลียนว่า “เจ้าเพิ่งกินไปก่อนหน้านี้หนึ่งชาม และตอนนี้เจ้ายังกินมันอีก! หากหมดแล้วเจ้าคงกินข้า!”

อีเหลียนไม่เสียเวลาตอบ นางคีบบะหมี่หนึ่งคำเข้าปากแล้วเอ่ยกลับไป “องค์ชายแปดตระหนี่มากเพคะ หากหม่อมฉันไม่กินบะหมี่ชามนี้ มันก็คงเป็นของเหลือแล้วถูกทิ้งไป น่าเสียดายออกเพคะ”

สนมจาวจึงพูดกับลูกชายของนางว่า “ชามหนึ่งใบก็เพียงพอแล้วสำหรับเจ้า ส่วนที่เหลือทั้งหมดให้เป็นของอีเหลียน”

หลี่หรงเฉิงกล่าวต่อ “วันของท่านแท้ ๆ ท่านอุตส่าห์ลงมือทำบะหมี่อายุยืนยาวด้วยตัวเอง ท่านเพิ่งได้กินเพียงครึ่งชาม ส่วนที่เหลือกลับถูกเทลงในท้องของอีเหลียน ข้าไม่รู้ว่าวันนี้เป็นวันของท่านหรือวันของนางกันแน่”

อีเหลียนที่กินบะหมี่หมดไปครึ่งชามพูดด้วยรอยยิ้ม “ฝ่าบาท วันนี้เป็นวันพระราชสมภพของพระสนม หนึ่งปีมีหนเดียว คราวหน้าข้าจะกินข้าวให้น้อยลงหนึ่งชามนะเพคะ”

เหยียนจื่อรู้สึกประหลาดใจที่บรรยากาศในตำหนักชุ่ยอวี้เซวียนนั้นผ่อนคลายมาก สาวใช้และเจ้านายสามารถพูดคุยกันได้อย่างง่ายดาย ซึ่งนางไม่เคยได้ยินเช่นนี้ในตำหนักใดมาก่อน

นางก้มศีรษะอย่างเพื่อกินบะหมี่อย่างเงียบ ๆ เส้นบะหมี่เป็นเส้นบะหมี่ทั่ว ๆ ไป ส่วนผักสีเขียวและเนื้อฝอยรสชาติอ่อนมาก แต่กระนั้นมันก็อบอุ่นและอร่อยเป็นพิเศษ หลังกินไปหนึ่งคำ ความรู้สึกอยากกินอีกคำก็ตามมาทันที

หลังจากกินบะหมี่แล้ว หลี่หรงเฉิงก็เรอออกมาและยิ้มให้กับเหยียนจื่อ

เมื่อเหยียนจื่อเห็นว่าองค์ชายและอีเหลียนกินเสร็จแล้วและเหลือเพียงตัวนางเองเท่านั้น นางก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหม่า นางจึงรีบอ้าปากกินคำใหญ่

จาวผินหลินรีบหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาและพูดเบา ๆ ว่า “กินช้า ๆ เถิด เฉิงเอ๋อร์ย่อยเร็วเกินไป ข้าไม่รู้ว่าข้าดุเขาไปกี่ครั้งแล้ว เขาควรเรียนรู้จากเจ้ามากกว่า”

“ข้ากินเร็วเฉพาะชามที่อร่อย ข้าไม่เคยกินเร็วเท่านี้เมื่ออยู่ข้างนอก” หลี่หรงเฉิงกล่าว

จากนั้นไม่นาน เหยียนจื่อก็กินเสร็จ อีเหลียนจึงเก็บชามและตะเกียบแล้วเดินออกไป

หลี่หรงเฉิงกะพริบตาให้เหยียนจื่อ นางเข้าใจว่าถึงเวลาแล้วจึงเตรียมที่จะเอ่ยปาก แต่หลี่หรงเฉิงกลับยืนขึ้นแล้วพูดออกมาเสียก่อน “เสด็จแม่โปรดพักผ่อนเถิด ข้าจะพาเหยียนจื่อออกไปเยี่ยมชมสวน”

เหยียนจื่อไม่รู้ว่าจะไปที่ใด นางจึงต้องตามหลี่หรงเฉิงออกไป

เมื่อพวกเขาออกไปข้างนอก หลี่หรงเฉิงก็พานางไปรอบ ๆ สวน

เหยียนจื่อจึงเอ่ยถามออกไป “เรามาทำอะไรที่นี่กันหรือเพคะ”

หลี่หรงเฉิงตอบ “ข้ากลัวว่าหากเจ้าเต้นหลังจากกินบะหมี่จะปวดท้องขึ้นมา ข้าจึงพาเจ้าออกมาเดินเล่น”

เหยียนจื่อไม่ได้คาดหวังว่าองค์ชายแปดจะมีน้ำใจมากเช่นนี้

ทั้งสองเดินอยู่หลายรอบก่อนที่หลี่หรงเฉิงจะพานางกลับเข้ามาในตำหนักอีกครั้ง

อีเหลียนและอาอวิ๋นได้เตรียมกู่เจิงและวางผ้าปูสำหรับเต้นรำไว้กลางห้องแล้ว จาวผินหลินยังคงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไม้ เมื่อนางเห็นทั้งสองเดินเข้ามา นางก็ยกยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุข

เหยียนจื่อคำนับนางอีกครั้งและตรงเข้าไป

หลี่หรงเฉิงนั่งลงข้าง ๆ กู่เจิง ด้วยการเคลื่อนไหวของนิ้วมือทั้งสิบ เสียงดนตรีดั่งเสียงน้ำไหลของฤดูใบไม้ผลิก็พรั่งพรูออกมา

เหยียนจื่อเริ่มร่ายรำไปพร้อมกับดนตรี

นางเรียนรู้การเต้นรำนี้มาสามเดือนแล้ว ต้องเต้นเช่นนี้หลายต่อหลายครั้งทุกวัน จึงคุ้นเคยกับมันไปเสียแล้ว

การเต้นรำเดิมประกอบด้วยกลุ่มคนหกสิบสี่คน และมีผู้บรรเลงมากกว่าสามสิบคนที่เล่นเครื่องดนตรีหลากหลายประเภท วันนี้เป็นครั้งแรกที่นางเต้นคนเดียว อีกทั้งยังมีเครื่องดนตรีบรรเพลงเพียงชนิดเดียว

นี่เป็นครั้งแรกที่นางได้ยินหลี่หรงเฉิงเล่นกู่เจิงเช่นกัน

ในอดีต นายท่านเฉิงยกย่ององค์ชายแปดเรื่องความสามารถทางดนตรีมาเสมอ แต่นั่นก็เป็นเพียงคำพูด เหยียนจื่อคิดว่าตนเป็นคนเดียวในสำนักเยว่ฝู่ที่ได้ยินองค์ชายแปดเล่นกู่เจิง เว้นแต่นายท่านเฉิง

เหยียนจื่อไม่ได้เรียนหนังสือมามากนัก นางจึงไม่ค่อยรู้จักบทกวีโบราณเท่าใดนัก “เสียงเพลงที่ฟังชัดราวหยกงามแห่งขุนเขาคุนหลุน นกเฟิ่งหวงร้องเรียก ดอกฝูหรงบานสะพรั่งกลางน้ำค้าง กล้วยไม้ส่งกลิ่นหอม” เนื้อเพลงเหล่านี้คืออะไรกัน

นานงประหลาดใจ เหตุใดนักบรรเลงเล่นเพลงเดียวกันได้แตกต่างกับหลี่หรงเฉิง? หรือกู่เจิงของหลี่หรงเฉิงดีกว่า?

นางร่ายรำไปตามเพลง บางช่วงเยื้องกรายอย่างอ่อนช้อย บางช่วงหมุนท่วงท่าสง่างาม

การเต้นรำทางใต้นั้นแตกต่างจากการเต้นรำฮั่นซึ่งเน้นบรรยากาศที่กล้าหาญและสง่างาม คล้ายกับการเต้นหูซวนที่ยืดหยุ่นและนิ่มนวล กระนั้นก็ยังต่างไปค่อนข้างมาก การเต้นเน้นเยื้องกรายดั่งนกนางแอ่นเข้ารังแล้วโฉบสูงดั่งนกกางเขนยามลับสนธยา

เหยียนจื่อคุ้นเคยกับขั้นตอนการเต้นเหล่านี้ แต่ทักษะการเต้นของนางคือระบำหูซวน ดังนั้นความเข้าใจของนางเกี่ยวกับการเต้นรำนี้จึงไม่ละเอียดถี่ถ้วนมากนัก

แต่ก็ยังออกมางดงามยิ่งนัก

ฮ่องเต้ชอบชมการเต้นรำของหูซวน การเต้นรำฮั่นนั้นใช้สำหรับงานเลี้ยงขนาดใหญ่ในพระราชวัง ส่วนการเต้นรำหูซวนมักใช้สำหรับงานเลี้ยงขนาดเล็ก ผู้คนในสำนักเยว่ฝู่ย่อมอยากทำตามพระประสงค์ของฮ่องเต้ เหยียนจื่อมีพื้นฐานการเต้นรำอยู่แล้ว มีเพียงการเต้นรำเท่านั้นที่ทำให้ฮ่องเต้โปรดปรานได้

จาวผินหลินไม่ได้ยินเสียงเพลงท้องถิ่นและไม่ได้เห็นการเต้นรำจากบ้านเกิดมายี่สิบปีแล้ว ยามนี้เมื่อเห็นลูกชายของนางเล่นกู่เจิงและมีเหยียนจื่อเต้นรำ ความคิดอันหลากหลายจึงประดังเข้ามาจนน้ำตารินไหล

แม้ว่าหลี่หรงเฉิงจะเล่นกู่เจิง แต่เขาก็ไม่ได้มองไปที่สายของมัน เพราะสายตาของเขาจ้องมองไปยังเหยียนจื่อที่เต้นรำอยู่โดยไม่อาจละสายตา

เขาอ่านประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยังเด็ก อย่างเรื่องราวของเฉาจื่อที่เห็นเทพธิดาลั่วเต้นรำบนฝั่งแม่น้ำลั่วสุ่ย ในกวีเขียนไว้ว่า “โบยบินดั่งปักษา ผ่าเผยดั่งมังกร”

หรือเทพธิดาลั่วในอดีตจะเป็นเช่นเดียวกับเหยียนจื่อกัน?

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 75 การเต้นรำที่ทำให้ผู้คนตื่นตะลึง"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved