cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 73 กลับไปที่ห้องเครื่องหลวง

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 73 กลับไปที่ห้องเครื่องหลวง
Prev
Next

บทที่ 73 กลับไปที่ห้องเครื่องหลวง

เฉินฟู่เซินพาเหยียนอี้ไปที่ห้องเครื่องหลวง และถามนางว่า “เหตุใดเจ้าจึงอยู่ในตำหนักตะวันออก? สองวันนี้เจ้าหายไปที่ใด”

เหยียนอี้ที่ยังคงเหนื่อยล้ากับเหตุการณ์เมื่อคืนจึงตอบอย่างอ่อนแรงว่า “เรื่องมันยาวมาก”

“เช่นนั้นเล่าแบบสั้น ๆ ก็ได้” เฉินฟู่เซินกล่าว

เหยียนอี้พูดถึงแต่ประเด็นที่สำคัญ นางบอกว่าถูกโจรพาตัวออกจากวังกลางดึกได้อย่างไร ถูกขายให้กับคนอื่นอย่างไร องค์รัชทายาทบังเอิญพบนางได้อย่างไร และนางกลับมาได้อย่างไร แต่ทั้งนี้ นางไม่ได้กล่าวถึงการลอบสังหารองค์รัชทายาท

เฉินฟู่เซินฟังคำพูดที่นางเล่าออกมา แต่เมื่อคิดว่านางต้องทนทุกข์ทรมานมากเพียงใดเมื่อนางเป็นผู้หญิงและถูกทิ้งให้อยู่ตามลำพังนอกวัง เขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกผิด จึงกล่าวว่า “มันเป็นความผิดของข้า เจ้าต้องลำบากเพราะข้า แต่ข้ากลับช่วยเจ้าไม่ได้เลย”

“เจ้ากำลังคิดสิ่งใด?” เหยียนอี้ถาม

“ข้าคิดว่า…” เฉินฟู่เซินหยุดชั่วขณะและกลั้นใจพูดต่อว่า “ข้าคิดว่ามันเป็นคนของหลี่หงเสวี่ยที่จับเจ้าไปครั้งที่แล้ว”

“หลี่หงเสวี่ย… คือผู้ใดกัน?” เหยียนอี้ถาม

เฉินฟู่เซินไม่อยากตอบ

เหยียนอี้จึงพูดขึ้นว่า “เฉินฟู่เซิน ข้อสงสัยนี้ผุดขึ้นตั้งแต่ครั้งที่ข้าเคยช่วยเจ้าที่หมู่บ้านอู่ซาน แต่เจ้ากลับปิดบังข้า ข้าเกรงว่าเจ้าจะปิดบังข้าไปตลอดชีวิต หรือเพราะในสายตาของเจ้า ข้าไม่น่าไว้วางใจสินะ”

“เหยียนอี้ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น” เฉินฟู่เซินพึมพำ

เหยียนอี้กล่าวอย่างน้อยใจว่า “ตั้งแต่เราเข้าไปในวัง เจ้าและข้าห่างกันมากขึ้นเรื่อย ๆ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าต้องการทำสิ่งใดเมื่อเจ้าเข้าไปในวัง ในอดีต ข้าได้พบกับฮ่องเต้ในภัตตาคารกุ้ยซาน และต่อมาก็มีส่วนเกี่ยวข้องในวัง เรื่องนี้ต้องขอบคุณเจ้า พวกเราเกี่ยวข้องกันอย่างลึกซึ้ง ทว่าเจ้ายังปฏิเสธที่จะบอกความจริงกับข้า จากนี้เราไม่มีสิ่งใดต้องพูดกันแล้วใช่หรือไม่”

เหยียนอี้กำลังจะเดินหนี แต่กลับถูกคว้าเอาไว้

“ตกลง เหยียนอี้ ข้าจะบอกเจ้า” เฉินฟู่เซินตัดสินใจแล้วที่จะยอมเล่า

เหยียนอี้หันมายิ้มบาง ๆ ให้เขา นางคิดว่า ‘วิธีนี้กระตุ้นคนได้ดีจริง ๆ’

“แต่ข้าไม่สามารถบอกเจ้าได้ทุกสิ่งที่ข้าคิดจะทำ มันยากและอันตรายอย่างยิ่ง” เฉินฟู่เซินกล่าว

เหยียนอี้กล่าวว่า “เจ้าเพียงแค่ต้องบอกข้าว่าสิ่งที่เจ้าทำนั้นดีหรือไม่?”

เฉินฟู่เซินคิดหนักและตอบว่า “มันดีสำหรับบางคน แต่ก็ไม่ดีสำหรับบางคนเช่นกัน”

“เจ้าจะทำอะไร”

เฉินฟู่เซินตอบว่า “หากเจ้าต้องการบรรลุสิ่งที่ยิ่งใหญ่ เจ้าต้องมีอำนาจไว้ในมือ เหยียนอี้ นั่นเป็นเหตุผลที่ข้าเข้าไปในวัง”

เหยียนอี้ถามว่า “แล้วหลี่หงเสวี่ยทำเรื่องดีหรือไม่ดี?”

เฉินฟู่เซินตอบอย่างตรงไปตรงมา “แม้ว่าข้าจะอยู่บนถนนสายเดียวกับเขา แต่ข้าก็มีวิธีที่แตกต่างกัน และไม่ได้ทำงานร่วมกัน ข้าได้รับความโปรดปรานมากมายจากครอบครัวของเขาเมื่อข้ายังเด็ก มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถช่วยในสิ่งที่ข้าต้องการทำ ข้าจึงไม่สามารถหนีไปจากเขาได้”

เหยียนอี้ถามว่า “เขาเป็นญาติของเจ้าใช่หรือไม่? ข้าเห็นเขาครั้งล่าสุด แม้ว่าเขาจะสวมเสื้อคลุม แต่ข้าก็ยังเห็นใบหน้าของเขา เขาดูเหมือนเจ้า”

เฉินฟู่เซินตอบว่า “เขาเป็นลูกพี่ลูกน้องของข้า เมื่อแม่ของข้าตั้งท้อง นางถูกทอดทิ้ง พ่อของเขาช่วยชีวิตแม่และข้าไว้”

ทันใดนั้น เหยียนอี้ก็ถามว่า “เขาเป็นใคร? เขาเป็นลูกชายของใคร? เฉินฟู่เซิน เจ้าเป็นลูกชายของใคร? เจ้าเป็นใคร?”

เฉินฟู่เซินเงียบไปครู่หนึ่ง ก่อนจะค่อย ๆ กระชับกำปั้นของเขา เส้นเลือดบนหน้าผากของเขาปูดโปนเหมือนจะระเบิด เห็นได้ชัดว่าเขาพยายามจะพูดบางอย่าง แต่หลังจากนั้นเขาก็ยังคงไม่เอ่ยสิ่งใด

“เหยียนอี้ ข้าบอกเจ้าเกี่ยวกับสิ่งที่ข้าจะทำแล้ว เจ้าเชื่อข้าหรือไม่” เฉินฟู่เซินกล่าว

เหยียนอี้พยักหน้า “อืม ข้าเคยเชื่อในตัวเจ้า เจ้าไม่รู้หรือ”

เฉินฟู่เซินฟังก็รู้สึกตงิด ก่อนจะพูดว่า “แล้ว… ตอนนี้ล่ะ”

เหยียนอี้กล่าวด้วยรอยยิ้มที่บิดเบี้ยว “เฉินฟู่เซิน ข้าไม่รู้ว่าสิ่งที่เจ้าพูดในวันนี้เป็นความจริงกี่ข้อและเท็จกี่ข้อ แต่เจ้าต้องสัญญากับข้าว่าเจ้าจะไม่ทำสิ่งที่เป็นอันตราย ตกลงไหม?”

“ได้ ข้าตกลง” เฉินฟู่เซินตอบโดยไม่ต้องคิด

เหยียนอี้ส่ายหัว “ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าเจ้าจะสัญญาอย่างรวดเร็วและง่ายดายขนาดนี้”

“หากเช่นนั้น…” เฉินฟู่เซินก้มศีรษะทำเป็นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะพูดว่า “ตกลง”

เหยียนอี้เผลอยิ้มให้กับความน่ารักของเขา

พวกเขาพูดคุยกันระหว่างที่กำลังเดิน จากนั้นไม่นานก็มาถึงประตูห้องเครื่องหลวง

ตอนนี้เองที่หลางกวนเอ๋อร์ออกมาและเห็นเหยียนอี้ ส่งผลให้ถ้วยจานในมือเขาถึงกับหล่นกระจัดกระจายอยู่บนพื้น

“เกิดอะไรขึ้น? หลางกวนเอ๋อร์ เจ้าประมาทเสียจริง!”

คนที่ตำหนิคือพ่อครัวจากซูโจว เขาได้ยินเสียงของหล่นจึงเดินตามมาบ่น แต่ทันทีที่เขาเห็นเหยียนอี้ เขาก็ตะโกนว่า “อ๊ากกก!” และวิ่งกลับพลางตะโกนว่า “ไม่! ไม่จริง! นางกลับมา!”

เหยียนอี้คิดกับตัวเองว่า ข้าหายไปแค่สองสามวัน เหตุใดพวกเขาทั้งหมดจึงทำอย่างกับว่าเห็นผี?

“บ้าไปแล้ว! นี่ต้องไม่ใช่เรื่องจริง!” ในเวลานี้ผู้คนในวังได้ยินเสียงตะโกนและออกมาดู ทว่าเมื่อพวกเขาเห็นเหยียนอี้ ก็พากันโหวกเหวกราวกับเห็นผี

มีเพียงหลางกวนเอ๋อร์เท่านั้นที่ยังคงเป็นปกติ เขาวิ่งไปจับไหล่ของเหยียนอี้ มองสำรวจนางสองครั้งและปล่อยโฮออกมา “เหยียนอี้! เจ้ายังมีชีวิตอยู่!”

เหยียนอี้รู้สึกแปลก ๆ “ปฏิกิริยาของเจ้าคืออะไร?”

หลางกวนเอ๋อร์น้ำหูน้ำตาไหล เขาเช็ดหน้าเช็ดตาพูดสิ่งใดไม่ออก

เฉินฟู่เซินกระซิบข้างหูของนางและพูดว่า “ข้าลืมบอกเจ้าว่าหลังจากที่เจ้าหายตัวไป เราแอบค้นหาเจ้าก่อนโดยไม่บอกห้องเครื่องหลวง จากนั้นเราก็ไม่สามารถซ่อนเรื่องนี้ได้อีกต่อไป และเรื่องได้จบลงโดยกลายเป็นว่าเจ้ามีอาการป่วยเฉียบพลันและเสียชีวิต”

เหยียนอี้คิดแค่ว่ามันเป็นเรื่องตลก “ข้าถูกลักพาตัว เรื่องกลับกลายเป็นว่าข้าตายกะทันหันได้อย่างไร? แม้พวกเขาต้องรายงานการตายของข้า พวกเขาก็ควรจะได้เห็นศพก่อนหรือไม่”

เฉินฟู่เซินกล่าวขึ้นว่า “แน่นอนว่าเราไม่เชื่อ แต่เมื่อคนอื่นต่างเชื่อสิ่งนี้ ข้าจึงทำสิ่งใดไม่ได้”

ในเวลานี้ หลางกวนเอ๋อร์จับมือของเหยียนอี้ และพูดด้วยเสียงแหบแห้งว่า “พวกเขาทั้งหมดบอกว่าเจ้าตายแล้ว แต่ข้าไม่เชื่อจนกว่าจะเห็นศพ ในที่สุดข้าก็ได้พบเจ้าอีกครั้ง!”

เหยียนอี้ลูบศีรษะของหลางกวนเอ๋อร์และปลอบโยนเขา “ข้าสบายดี เลิกร้องไห้ได้แล้ว!”

หลางกวนเอ๋อร์จับมือเหยียนอี้และเดินเข้าไปในประตูห้องเครื่องหลวง เขาพูดกับผู้คนว่า “แม่ครัวเหยียนอี้ตัวเป็น ๆ กลับมาแล้ว ผู้ใดกระจายข่าวลือที่ไม่เป็นความจริงเกี่ยวกับนาง จงออกมาขอโทษพี่สาวของข้า!”

แม้ผู้คนในห้องเครื่องหลวงจะไม่ค่อยมีมิตรภาพที่ดีต่อเหยียนอี้มากนัก แต่พวกเขาก็ดีใจที่เห็นว่าเหยียนอี้ยังคงสบายดีและพากันปรบมือต้อนรับ

เหยียนอี้เปลี่ยนผ้ากันเปื้อนและกลับไปทำงานตามปกติ นอกจากหลางกวนเอ๋อร์แล้ว คนอื่น ๆ ก็มาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นด้วย มันยากสำหรับเหยียนอี้ที่จะพูดมากเกินไป ดังนั้นนางจึงเล่าอย่างคร่าว ๆ

เมื่อพวกเขาได้ยินว่าเหยียนอี้ถูกลักพาตัวไปจากวัง คนทั้งหมดก็รู้สึกว่าการรักษาความปลอดภัยในวังไม่ดี ส่วนคนก่อเหตุ แม้แต่เหยียนอี้ก็ไม่รู้

พวกเขากำลังพูดคุยอย่างกระตือรือร้น ไห่เทียนอี้เองก็ได้ยินเรื่องนี้แล้ว

เหตุผลที่ไห่เทียนอี้ไม่ชอบเหยียนอี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะเขาอิจฉาฝีมือของนางและอีกส่วนเพราะได้รับการยุยงจากองค์หญิงผิงหยาง ดังนั้นเขาจึงไม่ตกใจที่เหยียนอี้หายไป

เคยมีผู้เสียชีวิตโดยไม่มีเหตุผลกี่คนในวัง? ใครจะกล้าคาดเดาอารมณ์ของเจ้านาย?

ไห่เทียนอี้เดามานานแล้วว่าเรื่องของเหยียนอี้น่าจะเป็นฝีมือขององค์หญิงผิงหยาง เขาเองก็ไม่ต้องการให้นางอยู่ที่นี่ ตอนที่เห็นนางกลับมาเขาก็ตกใจเช่นกัน

เหยียนอี้กำลังสับเนื้อด้วยมีดทำครัว นางยิ้มและทักทายไห่เทียนอี้ มีดในมือของนางส่องแสงอยู่ตรงหน้าเขา

ไห่เทียนอี้รีบก้าวถอยหลังและจับคอของเขาโดยอัติโนมัติ เขาแสร้งทำเป็นสงบ “ใกล้เที่ยงแล้ว เหตุใดเจ้ายังทำเสียงดังที่นี่อีก? รีบทำงาน อย่ามัวเสียเวลา!”

เหยียนอี้มีความสุขมากที่เห็นว่าไห่เทียนอี้หวาดกลัวอย่างชัดเจน แต่ต้องบังคับตัวเองให้สงบสติอารมณ์

อย่างไรก็ตามนางคิดว่านางไม่เคยทำให้คนมีอำนาจในวังขุ่นเคือง ส่วนใหญ่ก็มีเพียงหัวหน้าห้องเครื่องหลวง แต่เขาไม่ได้จัดการกับนาง ไม่ว่าเขาจะมีความชำนาญเพียงใด เขาก็ไม่มีความสามารถพอจะลักพาตัวข้ารับใช้หญิงออกจากวังได้ ฉะนั้นเรื่องในครั้งนี้ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเขาเลย

แต่หากไม่ใช่เขา แล้วจะเป็นใคร? เหยียนอี้คิดหนัก แต่ท้ายที่สุดนางก็ไม่มีคำตอบ

หลังจากเหยียนอี้กลับมา หยวนซินก็ทำผิดพลาดและถูกส่งไปที่ห้องทำความสะอาดเพื่อทำงานหนัก

เหยียนอี้ไม่ชอบหยวนซิน เขาเป็นสุนัขรับใช้ของไห่เทียนอี้ เขามักจะทุบตีและดุด่าสาวใช้ระดับต่ำ เขาช่างน่ารำคาญที่สุด

แม้แต่ไห่เทียนอี้ก็ดูเหมือนจะถูกตำหนิเช่นกัน หากไม่มีสิ่งผิดปกติ เขาจะไม่มาที่ห้องเครื่องเพื่อจ้องจับผิดอีก เขามักจะนั่งข้างนอกในฐานะผู้ดูแลและไม่ค่อยมาหาเหยียนอี้อีก

ในอดีตพวกเขาไม่กล้าต่อต้านหัวหน้า ไม่มีใครกล้าพูดกับเหยียนอี้ แต่ตอนนี้พวกเขาเข้ากันได้ดีกับนาง

…

วันเวลาผ่านไปถึงสองเดือนด้วยความราบรื่น และเทศกาลไหว้พระจันทร์กำลังจะมาถึงในไม่ช้า

งานเลี้ยงเทศกาลไหว้พระจันทร์ในวังมีความสำคัญสูงสุดเสมอมา วันนั้นไม่เพียงแต่นายหญิงของตำหนักต่าง ๆ จะแข่งขันกันเอง แต่ยังรวมถึงนางสนมนอกวังที่จะเข้ามาในวังเพื่อขอบคุณสำหรับความเมตตา งานเลี้ยงจะมีตั้งแต่เที่ยงวันถึงเที่ยงคืน

ห้องเครื่องหลวงยังให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับงานเลี้ยง คนในห้องเครื่องเริ่มซื้อวัถตุดิบและเตรียมของล่วงหน้าครึ่งเดือน

ในเวลาปกติจะมีงานเลี้ยงขนาดเล็กและขนาดใหญ่มากมายในพระราชวัง งานเลี้ยงเทศกาลกลางไหว้พระจันทร์ก็เป็นหนึ่งในนั้น นอกเหนือจากเทศกาลปีใหม่แล้ว เทศกาลนี้เป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่เคร่งเครียดที่สุดในรอบปี

ปีนี้แตกต่างจากอดีตเล็กน้อย เพราะมันถูกจัดขึ้นพร้อมกับเทศกาลเชียนชิว*[1] ซึ่งตรงกับวันพระราชสมภพของไทเฮา

เดิมทีวันพระราชสมภพของไทเฮาคือหนึ่งเดือนหลังจากเทศกาลไหว้พระจันทร์ อย่างไรก็ตามราชสำนักได้ทำนายว่ามีดวงจันทร์ที่อันตรายคือ เยี่ยนชงเยว่ ซึ่งไม่เหมาะสำหรับการเฉลิมฉลอง จึงมีการเปลี่ยนวัน

สำหรับเทศกาลไหว้พระจันทร์นี้ ฮ่องเต้ได้ออกคำสั่งส่วนตัวเพื่อทำเรื่องใหญ่จนเกิดเป็นความปั่นป่วนครั้งใหญ่ ห้องเครื่องหลวงเองก็ได้รับคำสั่งให้ทำอาหารใหม่ ๆ มากขึ้นและต้องตั้งชื่อที่ดี

พ่อครัวในห้องเครื่องหลวงพากันเอาใจเจ้านาย เพราะไม่ยากสำหรับพวกเขาที่จะเลือกชื่อที่ดี แต่สิ่งที่ยากคือการทำอาหารใหม่ที่ผู้คนไม่เคยได้เห็นมาก่อน

อาหารจานใหม่นี้เน้นที่คำว่า “ใหม่” แต่ไม่สามารถเป็นของแปลกได้ มันยังคงต้องอร่อย และไม่สามารถทำอาหารที่กลืนยาก อย่างเช่น พ่างต้าห่ายผัดซอสแดง*[2] และเกล็ดปลาผัดหม่าล่า

เป็นผลให้ทุกคนเกิดความวิตกกังวล พวกเขารวมตัวกันเพื่อจัดการประชุมทุกวัน ไห่เทียนอี้ถึงกับทุบหัวเพราะความเครียด เขาคิดว่าตอนนี้เส้นผมของเขาคงร่วงไปแล้วหนึ่งในสามส่วน

ในบรรดาผู้คน มีเพียงเหยียนอี้เท่านั้นที่ยังสบายใจและไม่ได้รับผลกระทบ

[1] เทศกาลเชียนชิว (千秋节) เป็นชื่อเก่าของเทศกาลเชงเม้ง

[2] พ่างต้าห่าย (胖大海) คือพืชสมุนไพรชนิดหนึ่งที่ช่วยรักษาโรคเจ็บคอ เสียงแหบแห้ง และไอ

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 73 กลับไปที่ห้องเครื่องหลวง"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved