cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 68 ฝนที่เทลงมา

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 68 ฝนที่เทลงมา
Prev
Next

บทที่ 68 ฝนที่เทลงมา

เหยียนอี้พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง แต่ในใจนางตื่นตระหนก นางกลัวว่าเรื่องนี้จะมีส่วนเกี่ยวข้องกับเฉินฟู่เซินจริง ๆ จะเกิดอะไรขึ้นหากองค์ชายสืบสาวเรื่องราวและพบข้อมูลของเฉินฟู่เซิน?

แต่อีกความคิดหนึ่ง นางยังคงไม่รู้อะไรเลยเกี่ยวกับเฉินฟู่เซิน นางไม่สามารถแน่ใจได้ว่าสิ่งที่เฉินฟู่เซินทำนั้นถูกหรือผิด หากสิ่งที่เขาทำนั้นคุกคามราชวงศ์และอาณาจักรอวี๋จริง เหยียนอี้จะยังช่วยเขาปกปิดมันไว้หรือไม่?

เมื่อนึกถึงสิ่งนี้นางอดหวาดกลัวไม่ได้

นางพูดกับหลี่หรงอวี่ว่า “ฝ่าบาท หม่อมฉันเป็นเพียงข้ารับใช้หญิงตัวเล็ก ๆ แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับฝ่าบาทและฮ่องเต้ที่หญิงสาวคนหนึ่งจะถูกลักพาตัวไปจากวัง แต่จากเหตุการณ์นี้เราจะเห็นได้ว่าการป้องกันในวังหละหลวมเพคะ”

หลี่หรงอวี่พูดด้วยใบหน้าจริงจังว่า “เจ้าถูกนำตัวออกจากวัง มันไม่ใช่เรื่องใหญ่ได้อย่างไร!”

เหยียนอี้ตกตะลึงเมื่อได้ยินเช่นนั้น เมื่อหลี่หรงอวี่สงบใจลง เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม “ข้าหมายความว่ามีคนทรยศในเมืองหลวงอันงดงามของเรา พวกเขากล้าถึงขนาดลักพาตัวข้ารับใช้หญิง หากเราไม่ตรวจสอบเรื่องนี้อาจทำให้ผู้คนหวาดกลัวได้ อีกทั้งมันเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยของเสด็จพ่อและข้า จะถือเป็นเรื่องเล็กน้อยได้อย่างไร”

เหยียนอี้ผงกหัวขึ้นลงเข้าใจ องค์รัชทายาทกล่าวต่อว่า “ดังนั้นหลังจากกลับไปที่วัง เจ้าไม่จำเป็นต้องจัดการกับเรื่องนี้ ข้าจะตรวจสอบเอง”

เหยียนอี้พยักหน้าอีกครั้ง

ทั้งสองนั่งเฉย ๆ เป็นเวลาเนิ่นนาน แต่ช่างหลิงเฟิงก็ยังไม่มา เหยียนอี้เริ่มเป็นห่วง “องครักษ์ของท่านคงไม่หลงทางใช่หรือไม่เพคะ”

หลี่หรงอวี่กล่าวว่า “ช่างหลิงเฟิงคุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้มาก แต่อย่างไรเสียถนนที่นี่มีความซับซ้อนและเขาไม่สามารถหาเราคนเดียวได้ บางทีเขาอาจกลับไปที่วังหลวงและขอความช่วยเหลือ”

“แต่ข้าไม่ต้องการให้คนจำนวนมากรู้ว่าข้ามาที่นี่ในวันนี้ หากเด็กคนนั้นคิดน้อยและส่งคนจำนวนมากมาตามหาเรา ข้าจะลงโทษเขาสำหรับความผิดพลาดที่โง่เขลาเลยคอยดู”

ได้ยินดังนั้นเหยียนอี้ก็คลี่ยิ้ม “หม่อมฉันเกรงว่าลูกน้องขององค์ชายจะกลัวว่าท่านจะลงโทษเขา คงไม่กล้าขอความช่วยเหลือหรอกเพคะ เวลานี้เขาอาจแค่เดินไปมาเหมือนแมลงวันหัวขาดและหาเราไม่เจอก็ได้”

เหยียนอี้ลุกขึ้นยืนและพูดต่อว่า “ฝ่าบาท ขึ้นม้าและหาทางออกกันเถิดเพคะ หากไม่มีใครมาจะทำอย่างไร เราจะนั่งที่นี่ตลอดไปไม่ได้”

ดวงตาของหลี่หรงอวี่แสดงรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “ที่เจ้าต้องการขี่ม้ากับข้าเพราะอยากฉวยโอกาสจากข้าหรือ”

เหยียนอี้กล่าวว่า “หม่อมฉันได้รับการช่วยเหลือจากฝ่าบาท ตอนนั้นมันเป็นเหตุสุดวิสัย หม่อมฉันเผลอเสียมารยาทไป แต่ตอนนี้ไม่ต้องรีบร้อนแล้ว เหยียนอี้มิบังอาจทำเช่นนั้นอีก เพียงแค่ให้ฝ่าบาทขึ้นม้าแล้วเหยียนอี้จะจูงม้าให้ฝ่าบาทก็เท่านั้นเองเพคะ”

หลี่หรงอวี่ต้องการหยอกเย้านางอีก แต่แล้วก็ทำเพียงขึ้นไปบนหลังม้า แล้วยื่นมือให้เหยียนอี้แล้วพูดว่า “ขึ้นมา”

เหยียนอี้หัวเราะคิกคัก แต่ไม่ปฏิเสธและขึ้นม้าอย่างเชื่อฟัง คราวนี้หลี่หรงอวี่อยู่ข้างหลัง เหยียนอี้นั่งอยู่ข้างหน้า เขาจับบังเหียนไว้ในมือโดยที่มีเหยียนอี้อยู่ในอ้อมแขนของเขา

เหยียนอี้รู้สึกว่าการกระทำนี้ดูสนิทสนมและไม่เหมาะสมเกินไป นางรีบเอ่ยว่า “บางทีหม่อมฉันควรจะนั่งด้านหลัง”

จากนั้นนางก็นึกได้ว่านางเพิ่งโอบเอวองค์รัชทายาทเมื่อครู่ จึงอดหน้าแดงด้วยความอับอายไม่ได้

หลี่หรงอวี่ไม่ได้ตอบนาง แส้ในมือของเขาสะบัดไปมาและม้าก็ยังคงเดินหน้าต่อไป

…

ด้วยความไม่รู้ทางพวกเขาจึงค่อย ๆ ไป ครู่หนึ่งก็เห็นวัดหอกเหล็ก

หลี่หรงอวี่เคยมาที่นี่หลายครั้ง แต่พวกเขาไม่รู้ว่ามีวัดหอกเหล็กขนาดเล็กอยู่ด้วย

วัดหอกเหล็กเป็นวัดที่อุทิศให้กับหวังเยี่ยนจาง แม่ทัพที่มีชื่อเสียงของยุคห้าราชวงศ์สิบอาณาจักรในอดีต หวังเยี่ยนจางใช้หอกเหล็กออกรบ ในท้ายที่สุดเขาถูกศัตรูจับตัวไป เขายอมตายเสียดีกว่ายอมจำนน ผู้คนรู้สึกถึงความภักดีของเขาจึงสร้างวัดบูชา

ด้วยเหตุนี้ในเวลานั้นจึงมีวัดหอกเหล็กในเกือบทุกเมืองมากกว่าศาลเจ้าและศาลหลักเมืองที่เห็นได้ทั่วไป

ในเวลานี้ฟ้าเริ่มมืด หลี่หรงอวี่กลัวว่าหากพวกเขายังเดินหน้าต่อ พวกเขาต้องใช้เวลาหนึ่งคืนในถิ่นทุรกันดารอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ มันจะดีกว่าที่จะหยุดที่วัดหอกเหล็กและผูกม้าเอาไว้ข้างนอก

ม้าตัวนี้เป็นเครื่องบรรณาการจากอาณาจักรต้าหว่าน[1] ในฝั่งตะวันตก ซึ่งน่าจะมีเพียงตัวเดียวในเมืองหลวง หากช่างหลิงเฟิงผ่านทางนี้และเห็นม้าตัวนี้ เขาย่อมจำได้

ทันทีที่พวกเขามาถึงประตูวัดหอกเหล็ก พวกเขาเห็นขอทานกำลังย่างห่านป่า เสื้อผ้าของเขามีรอยปะชุนทั่วร่างกาย

หลี่หรงอวี่และเหยียนอี้ค้นหาทางมานานและยังไม่ได้กินอะไรมาตลอดทาง พวกเขาอดไม่ได้ที่จะกลืนน้ำลายเมื่อได้กลิ่นของห่านย่าง

เมื่อขอทานเห็นใครบางคนมา เขาก็ก้าวออกมาและตะโกนด้วยเสียงที่ดุเดือดว่า “ให้ตายสิ ไอ้สารเลวตัวไหนวิ่งอยู่ข้างนอกนั่น”

ปรากฏว่าวัดหอกเหล็กถูกทิ้งร้างมาเป็นเวลานานและถูกขอทานยึดเป็นที่พักพิงเรียบร้อยแล้ว

หลี่หรงอวี่ช่วยเหยียนอี้ลงจากหลังม้า จากนั้นประสานมือแล้วพูดว่า “ข้ากับสหายของข้าหลงทาง และตอนนี้มันก็มืดแล้ว พวกเราผ่านมาที่นี่พอดีจึงอยากขอพักสักคืน”

ขอทานเหลือบมองไปที่หลี่หรงอวี่ เมื่อเห็นว่าเขาสวมเสื้อผ้าเนื้อดี เขาถ่มน้ำลายและพูดว่า “เจ้าเป็นบุตรชายของตระกูลที่ร่ำรวยและมีเกียรติ คิดจะต่อสู้กับขอทานเฒ่าเช่นข้าเพื่อหาที่หลับนอนงั้นหรือ”

เหยียนอี้คิดว่าเนื่องจากขอทานเฒ่าอาศัยอยู่ในวัดหอกเหล็ก เขาต้องคุ้นเคยกับถนนโดยรอบ ดังนั้นนางจึงยิ้มและพูดว่า “ท่านลุง ท่านรู้หรือไม่ว่าจะไปที่ถนนหลักได้อย่างไร”

เมื่อขอทานเฒ่าเห็นความงามของเหยียนอี้ เขาอาจปฏิบัติต่อหลี่หรงอวี่อย่างดุร้าย แต่สำหรับหญิงสาว… รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏบนใบหน้าที่เหี่ยวย่น เขาลูบมือพลางเดินไปข้างหน้าหมายจะจับมือเหยียนอี้ เขากล่าวว่า “ข้าเป็นคนเฝ้าประตูวัดแห่งนี้ หญิงตัวเล็ก ๆ ที่สวยงามเช่นเจ้าสามารถเข้าไปได้ แต่ผู้ชายผิวขาวคนนั้นเข้าไปไม่ได้”

ยังไม่ทันที่มือของชายเฒ่าจะได้แตะเหยียนอี้ หลี่หรงอวี่ก็รีบยื่นมือเข้าจับมือขอทานเฒ่าไว้แทน

ขอทานร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด หลี่หรงอวี่ออกแรงบีบก่อนจะสะบัดมือทิ้ง

ขอทานไม่คิดว่าเขาจะต้องมาเจอกับผู้เป็นวรยุทธ์ และเขาไม่สามารถต่อสู้ได้ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงก่นด่า

เหยียนอี้มองไปที่ใบหน้าสกปรกของเขาและรู้สึกขยะแขยง นางกระซิบกับหลี่หรงอวี่ว่า “ลืมไปเถิด เราควรจะไปที่อื่นดีกว่าเพคะ”

หลี่หรงอวี่ไม่อยากสร้างปัญหา ดังนั้นเขาจึงขึ้นม้า และทั้งคู่ก็ออกเดินทางอีกครั้ง

ขอทานเพิ่งเจ็บตัวมา เขาจะกล้าตามไปได้อย่างไร? เขาก่นด่าสาปแช่งสองชายหญิงอีกครั้งและหันกลับไปที่ประตูวัด

…

ท้องฟ้าเริ่มมืดลงเรื่อย ๆ ลมก็เริ่มพัดแรงขึ้น มีฟ้าร้องดังมาจากเมฆครึ้มที่อยู่ไกลออกไป ฝนอาจตกเร็ว ๆ นี้

“ฝ่าบาท หากไม่มีใครพบเรา ท่านยอมนอนในถิ่นทุรกันดารได้หรือไม่เพคะ” เหยียนอี้มองไปที่ท้องฟ้าและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกกังวล

เมื่อเห็นว่าพวกเขาเดินทางมานานแล้ว แต่ยังคงวนเวียนอยู่ที่เดิม หลี่หรงอวี่ก็เริ่มวิตกกังวลมากขึ้น

“มีถนนหลายสายถูกสร้างขึ้นที่หวงจวงนอกเขตเมืองหลวง และข้าไม่เคยมาเส้นทางนี้ ส่วนช่างหลิงเฟิงทำงานอยู่ที่นี่ ต่อให้ปิดตาเขาก็จำทางได้ แต่เหตุใดเขาถึงยังไม่พบพวกเรา เขาน่าจะรู้ว่าข้าหลงทาง แต่เขากลับหาเราไม่เจอได้อย่างไร”

หลี่หรงอวี่รู้สึกแปลก ๆ เมื่อท้องฟ้ามืดลง ความไม่สบายใจก่อตัวเพิ่มขึ้น เขาพูดกับเหยียนอี้ว่า “ลองไปทางด้านขวาเรื่อย ๆ ก่อนแล้วกัน หากยังหาทางออกไม่ได้ เราจะกลับไปที่ถนนสายเดิม แล้วเปลี่ยนไปทางด้านซ้าย”

เหยียนอี้ตอบว่า “ตกลง เราเร่งเดินทางกันเถิดเพคะ ดูเหมือนพายุฝนกำลังจะมาเร็ว ๆ นี้แล้ว”

“ไป!!” หลี่หรงอวี่ตะโกนสั่ง

ม้าฟังคำสั่งเลือกไปทางด้านขวาและวิ่งไปข้างหน้า

ไม่รู้ว่ามันอยู่ไกลเพียงใด แต่รอบตัวทั้งคู่ล้วนเป็นต้นไม้สีเขียวและทิวทัศน์ก็ไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก

เหยียนอี้บ่นอุบว่า “ฮ่องเต้รวยล้นฟ้ามากจริง ๆ พระองค์ทรงสร้างเส้นทางไว้มากมายถึงเพียงนี้”

หลี่หรงอวี่กล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “หวงจวงนอกเขตเมืองหลวงเป็นแหล่งผลิตอาหารเลี้ยงปากท้องคนในวังมากกว่าหนึ่งหมื่นชีวิต มันจึงเป็นพื้นที่กว้างใหญ่ แต่วันนี้เราเดินทางมานานแล้ว หากเป็นพื้นที่ทำกินธรรมดา ข้าว่าเราคงวนได้หลายรอบแล้วกระมัง”

เหยียนอี้ได้ทีจึงแหย่อีกฝ่าย “นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ฝ่าบาทเสด็จมา เหตุใดท่านถึงไม่รู้ทางด้วยซ้ำ”

หลี่หรงอวี่ตกตะลึงและตอบว่า “ข้ามักจะใช้ถนนสายหลักเท่านั้น ไม่ต้องพูดถึงว่ามีคนนำทางมาโดยตลอด”

เหยียนอี้หัวเราะเยาะ “สมกับที่เป็นองค์รัชทายาทจริง ๆ เพคะ”

เมื่อได้ยินว่านางกำลังหยอกล้อตัวเอง หลี่หรงอวี่ก็เคาะหน้าผากของนางและพูดว่า “หากไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าคงถึงวังนานแล้ว”

ทันทีที่เขาคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ หลี่หรงอวี่ก็จำได้ว่าตนออกจากวังโดยไม่ได้บอกฮ่องเต้ จนถึงตอนนี้เขายังไม่ได้กลับไปที่วัง ความอาจแตกก็เป็นได้ เขาควรคิดหาเหตุผลไว้แก้ตัวล่วงหน้า

เขามองไปที่เหยียนอี้และคิดว่า ‘หากผู้คนรู้ว่าเราไม่ได้กลับไปที่วังเพราะช่วยข้ารับใช้หญิง ไม่รู้ว่าจะมีปัญหาอะไรเกิดขึ้นในตำหนักจาวหยางบ้าง’

ทางด้านเหยียนอี้ก็กำลังคิดว่าการถูกลักพาตัวของนางได้รบกวนองค์รัชทายาทและเป็นเหตุทำให้เขาอาจต้องมานอนในถิ่นทุรกันดารเช่นนี้ นี่ช่างหยาบคายเหลือเกิน หลังจากกลับไปที่วัง นางสงสัยว่านางจะถูกลงโทษหรือไม่?

ในเวลานี้ ลมพัดแรงขึ้นอย่างฉับพลันส่งผลให้หญ้าสะบัดไปตามแรงลมจนเกิดเสียงกรอบแกรบบนพื้นดิน กิ่งไม้ทั้งสองด้านของถนนกำลังโบกไปมาอย่างรุนแรง ไม่นานฝนก็ตกลงมาอย่างหนัก

ม้าโดนสายฝน แต่มันแสดงออกว่ามีความสุข

อากาศร้อนระอุในฤดูกาลนี้ ม้าที่มีคนสองคนนั่งมาตลอดทั้งวันทำให้มันเหนื่อยและเหงื่อออกท่วมตัว แต่ตอนนี้มันได้รับน้ำฝนเย็นชุ่มฉ่ำจึงเปล่งเสียงร้องด้วยความตื่นเต้น

เหยียนอี้ยกมือขึ้นมาตรงหน้าผากเพื่อบังเม็ดฝน ทันใดนั้นผ้าผืนใหญ่ก็คลุมศีรษะของนาง มันเป็นหมวกของหลี่หรงอวี่

อย่างไรก็ตามหมวกเหวยเม่า[2] ถูกใช้เพื่อป้องกันใบหน้าของหลี่หรงอวี่จากดวงอาทิตย์ ไม่สามารถป้องกันฝนได้มากนัก แต่ก็ยังพอปกป้องศีรษะและใบหน้าของเหยียนอี้จากการเปียกโชกได้

เหยียนอี้รู้สึกซาบซึ้งใจ ในขณะที่นางกำลังจะเอ่ยปากขอบคุณ ทว่าสายลมกลับพัดเข้าปากนาง ทำให้นางสำลักและไอไม่หยุด

หลี่หรงอวี่ถูกประคบประหงมมาตั้งแต่เล็ก นี่เป็นครั้งแรกในรอบกว่ายี่สิบปีที่หลี่หรงอวี่อยู่ท่ามกลางสายฝน ทว่าเขาไม่รู้สึกรำคาญแม้แต่น้อย ในทางตรงกันข้ามเขากลับรู้สึกว่าฝนได้ชะล้างความเหนื่อยล้าและความร้อนของวันออกไป เขามีความสุขมาก เมื่อเขาเห็นเหยียนอี้สำลัก เขาก็หลุดหัวเราะออกมา

เหยียนอี้ไม่ชอบโดนฝน นางเอนตัวพิงคอม้าและไออยู่อย่างนั้น

เห็นได้ชัดว่าม้าไม่ชอบให้นางพิงอยู่เช่นนี้ มันส่ายคอและเกือบจะส่ายทั้งคู่ตกลงพื้น หลี่หรงอวี่จึงรีบดึงเหยียนอี้ขึ้นนั่งตัวตรง

“หือ? นั่นคือสิ่งใดกันเพคะ” ดวงตาของเหยียนอี้เฉียบแหลมมาก นางเห็นว่าหญ้าริมทางมีของเหลวบางอย่างไหลลงมาตามสายฝนไปยังถนน

หลี่หรงอวี่ควบม้าไปข้างหน้าและมองลงมาเพื่อดูให้ชัดเจน ใบหน้าของพวกเขาเปลี่ยนไปในทันที

มันคือเลือด!

พวกเขาลงจากหลังม้าอย่างรวดเร็วและแหวกหญ้าดู ข้างในมีศพอยุ่สองศพ

เหยียนอี้จำได้ทันทีว่าหนึ่งในนั้นคือผู้ใต้บังคับบัญชาที่อยู่กับหลี่หรงอวี่เมื่อตอนกลางวัน

“ช่างหลิงเฟิง! หวังหลิงจื้อ!” หลี่หรงอวี่จำใบหน้าของคนทั้งสองได้ พวกเขาเป็นทหารที่เขาไว้วางใจในหวงจวง!

ดูเหมือนว่าช่างหลิงเฟิงจะไม่พบองค์ชายหลังจากที่เขากำจัดนางล่ายและคนอื่น ๆ ดังนั้นเขาจึงกลับไปที่นอกเมือง พาหวังหลินจื้อมากับเขาเพื่อตามหาองค์รัชทายาท อย่างไรก็ตามคิดไม่ถึงว่าจะได้รับอันตรายจากคนชั่วช้า เป็นศพอยู่ในพงหญ้าริมถนนเช่นนี้!

[1] ต้าหว่าน คือชื่อประเทศโบราณในเอเชียกลาง

[2] หมวกเหวยเม่า ทำจากผ้ามัสลินสีดำ ขอบห้อยม่านตาข่ายจนถึงคอ

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 68 ฝนที่เทลงมา"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved