cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 57 องค์หญิงผิงหยาง

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 57 องค์หญิงผิงหยาง
Prev
Next

บทที่ 57 องค์หญิงผิงหยาง

ทั้งสามคนพูดคุยและหัวเราะกันอยู่พักหนึ่ง บัดนี้เป็นเวลาอาหารกลางวัน ฮองเฮาของตำหนักจาวหยางได้ส่งคนมาเชิญองค์หญิง แต่องค์หญิงผิงหยางต้องการรับประทานอาหารกลางวันที่ตำหนักตะวันออก จึงส่งคนคนนั้นกลับไป

“ครัวของฮองเฮาดีกว่าข้ามาก เจ้ากลับไปกินที่นั่นเถิด” หลี่หรงอวี่กล่าวกับผิงหยาง

“ข้าไม่กลับ ท่านแม่มักอารมณ์ไม่ดี ข้าจึงต้องคอยระวังตัวทุกครั้งที่ไปที่นั่น” ผิงหยางกล่าว

“พระองค์มีสิ่งใดผิดปกติงั้นหรือ?” หลี่หรงอวี่ถาม

“เสด็จแม่ของข้ามีสองสิ่งที่ต้องกังวลในชีวิตของนาง สิ่งแรกคือความสิ้นหวังซึ่งเกิดจากตัวนางเอง และสิ่งที่สองเป็นคนที่ทำให้นางอิจฉาตลอดทั้งวัน ข้าเบื่อหน่ายเสด็จแม่เหลือเกิน ข้าหวังเพียงว่าเสด็จพ่อจะอนุญาตให้ข้าแยกตำหนักไปอยู่คนเดียว!” ผิงหยางถอนหายใจ

หลี่หรงอวี่และหลี่หรงเฉิงเข้าใจทันที

ฮองเฮาเฉียนเกิดในตระกูลขุนนาง ทันทีที่นางเข้าไปในวังนางก็ได้รับตำแหน่งสนมทันที หลังจากฮองเฮาเสี้ยวหมิ่นจากไป นางก็กลายเป็นฮองเฮา ทุกอย่างในชีวิตของนางดูเป็นไปอย่างราบรื่น

ทว่าสิ่งเดียวที่น่าเศร้าคือตั้งแต่นางให้กำเนิดองค์หญิงผิงหยาง นางได้รับบาดเจ็บและไม่อาจมีลูกได้อีกต่อไป ฮ่องเต้มีลูกชายมากมายจากนางสนมคนอื่น ๆ ส่วนฮองเฮาไม่มีลูกชายที่ถูกต้องตามกฎหมายให้เขาได้ จึงกลายเป็นเหมือนเปลือกที่ว่างเปล่า

ฮ่องเต้ไม่ได้โปรดฮองเฮาเฉียนมากนัก ในวังนั้น สนมจางเป็นผู้ที่งดงามและเป็นที่โปรดปรานที่สุด พวกนางต่อสู้มานานกว่าสิบปีแต่ก็ยังไม่อาจตัดสินว่าใครเป็นผู้แพ้หรือชนะ

สำหรับผู้หญิงแล้ว ระหว่างตำแหน่งกับความรักจากสามี สิ่งใดสำคัญกว่ากัน

ไม่มีคำตอบสำหรับคำถามนี้

ตั้งแต่ผิงหยางยังเล็ก นางคุ้นเคยกับความจริงที่ว่านางสนมจางแข่งขันเพื่อรับความโปรดปรานจากฮ่องเต้ ดังนั้นนางจึงเกลียดสนมจางไปโดยปริยาย

“ไม่กี่วันที่ผ่านมา ฮ่องเต้พักอีกสองสามคืนที่ตำหนักเสด็จแม่ข้า ทว่าคนในตำหนักฉุนฟางไม่พอใจ นางเอาแต่ทำตัวงอแงเหมือนเด็กนิสัยเสียจนเสด็จพ่อต้องไปปลอบ แม้นางจะเป็นสนมที่สง่างาม ชราแล้วแต่ทำตัวเยี่ยงนี้ เหมาะสมหรือไร!”

ระหว่างนั้นเอง คนรับใช้ที่ทำหน้าที่ส่งมอบอาหารกำลังเข้ามา หลี่หรงเฉิงรีบปิดปากของผิงหยางทันใด “ท่านพี่ พูดเบา ๆ หน่อยเถิด!”

ผิงหยางเคยชินกับการทำอะไรไม่ระวัง ด้วยตัวตนขององค์หญิงคนโต นางจะกลัวสิ่งเลวร้ายที่ออกมาจากปากของนางได้อย่างไร? ไม่ว่าผู้อื่นจะเตือนนางอย่างไรนางก็จะยังดุด่าสนมจาง

ถึงกระนั้นทุกคนในวังล้วนเกรงกลัวอำนาจของฮองเฮา จึงไม่มีใครกล้าบอกสนมจางว่าองค์หญิงพูดอะไร?

ยิ่งกว่านั้นฮ่องเต้รักและเอ็นดูลูกสาวเพียงคนเดียว ถึงสนมจางจะนำสิ่งที่องค์หญิงผิงหยางพูดไปฟ้องฮ่องเต้ก็เปล่าประโยชน์

“พี่ชายแปด เจ้าเรียนรู้ที่จะระวังตัว ขี้กลัว และทำตัวน่าเบื่อเหมือนแม่ของเจ้าตั้งแต่เมื่อใดกัน” ผิงหยางจ้องมองไปที่หลี่หรงเฉิง

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลี่หรงเฉิงก็ไม่กล้าโมโหใส่นาง เขายิ้มและพูดว่า “ถ้าเช่นนั้น ท่านก็ตะโกนได้เลย”

ผิงหยางไม่รู้จะพูดอะไร นางหยิบตะเกียบจากคนรับใช้และคีบกะหล่ำปลีขึ้นมากัด

หลังจากกัดไปสองสามคำ ผิงหยางก็วางตะเกียบลงและพูดว่า “พี่รอง อาหารในตำหนักของท่านไม่อร่อยเหมือนในตำหนักจาวหยางจริง ๆ”

หลี่หรงเฉิงรีบดึงจานจากผิงหยางมาไว้ตรงหน้าเขาและพูดว่า “เช่นนั้นก็ไม่ต้องกิน ข้ากลับคิดว่ามันอร่อยดีออก”

หลี่หรงอวี่เคาะโต๊ะด้วยตะเกียบและกล่าวว่า “หากพ่อครัวในตำหนักตะวันออกดีกว่าคนครัวในตำหนักจาวหยาง ฮองเฮาจะมีความสุขหรือ?”

ผิงหยางกล่าวว่า “แม้อาหารในตำหนักจาวหยางจะอร่อย แต่ข้าเบื่อที่จะกินแล้ว จริงสิ! ก่อนหน้านี้ข้าทานกลีบบัวผัด*[1] ที่ทำโดยแม่ครัวคนใหม่ในห้องเครื่องหลวง มันอร่อยมาก”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ ผิงหยางดูเหมือนจะคิดถึงรสชาติของกลีบบัวผัดขึ้นมา นางลูบริมฝีปากของนางขณะกล่าว

“มีแม่ครัวใหม่มาที่ห้องเครื่องตั้งแต่เมื่อใด” หลี่หรงเฉิงถามด้วยความสงสัย

“เจ้าก็รู้จักนาง นางคือแม่นางเหยียนจากเมืองอวิ๋นเจี้ยน ตอนนี้นางกำลังทำอาหารอยู่ในห้องเครื่องหลวง” หลี่หรงอวี่อธิบาย

“เหยียนอี้เองหรอกหรือ” หลี่หรงเฉิงจำได้ว่าฮ่องเต้พาพวกเขาไปยังพระราชวังหลวงชั่วคราวที่ลั่วหยาง เขาได้ลิ้มรสฝีมือนางที่นั่น แต่ต่อมาหลี่หรงเฉิงไปทำสงครามและไม่เคยได้กินอาหารที่หยานอี้ปรุงอีกเลย

“เหตใดเจ้าถึงรู้จักแม่ครัวคนนั้น” ผิงหยางถาม

“นางเป็นหญิงชาวบ้านที่เราพบระหว่างการเยี่ยมชมเมืองเป็นการส่วนตัว ระหว่างนั้นเสด็จพ่อถูกลอบสังหารหลายครั้งและนางก็อยู่ในที่เกิดเหตุด้วย ตอนนี้พี่รอง ข้า และนาง พวกเราสามคนเป็นเพื่อนกันแล้ว” หลี่หรงเฉิงเล่าความเป็นมา

“มิตรภาพจากอดีต?” ผิงหยางเงยหน้าขึ้นยืนและพูดกับหลี่หรงอวี่ “ใครให้เจ้ามีมิตรภาพกับหญิงชาวบ้านเช่นนี้”

หลี่หรงอวี่รู้ว่าน้องสาวของเขามักแสดงความเป็นเจ้าของมาโดยตลอด นางไม่ชอบผู้ใดก็ตามที่เขาอยู่ด้วย นางเคยเป็นศัตรูกับเพื่อนสนิทของหลี่หรงอวี่ เมื่อหลี่หรงเฉิงกล่าวเช่นนั้นออกไป ผิงหยางจะต้องโกรธอย่างแน่นอน

หลี่หรงอวี่ไม่ต้องการมีปัญหาใด ๆ กับนาง ดังนั้นเขาจึงพูดเบา ๆ ว่า “ข้าไม่คุ้นเคยกับนางมากนัก หากท่านไม่ได้พูดถึงกลีบบัวผัดในวันนี้ ข้าก็คงจำไม่ได้ว่ามีคนเช่นนางอยู่”

“ฮึ่ม!” ผิงหยางนั่งลงช้า ๆ และพูดว่า “หญิงชาวบ้านคนหนึ่งเป็นที่ชื่นชอบของฮ่องเต้ ข้าไม่คิดว่านางจะไม่อยากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง พี่รอง ท่านต้องอยู่ห่างจากแม่หญิงยั่วยวนเช่นนี้”

หลี่หรงอวี่พยักหน้ารับรู้และพูดว่า “มากินกันเถิด อาหารเริ่มเย็นแล้ว”

ทันใดนั้นหลี่หรงเฉิงก็คิดอะไรบางอย่างและถามหลี่หรงอวี่ “ข้าจำได้ว่าเหยียนอี้ไปลั่วหยางกับน้องสาวของนางในเวลานั้น และตอนนี้น้องสาวของนางก็มาที่เมืองหลวงเช่นกัน นางกำลังปฏิบัติหน้าที่ในวังด้วยงั้นหรือ”

หลี่หรงอวี่ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตอบว่า “ข้าจะรู้ได้อย่างไร”

หลี่หรงเฉิงตบหัวตัวเองเบา ๆ หนึ่งครั้งราวกับคิดอะไรออกและพูดว่า “ข้าอยากรู้เรื่องของพวกนางมากขึ้น ไว้ข้าถามเฉินฟู่เซินเมื่อข้ากลับไปดีกว่า”

ผิงหยางเห็นว่าหลี่หรงอวี่ไม่ได้สนใจแม่ครัวคนนั้นมากนัก นางจึงมีความสุขและรับประทานอาหารอย่างร่าเริง ส่วนหลี่หรงเฉิง นางไม่สนใจว่าเขาจะยังคงถามเกี่ยวกับแม่ครัวอีกหรือไม่

เมื่อได้ยินชื่อของเฉินฟู่เซิน หลี่หรงอวี่ก็ชะงักอีกครั้งและถามว่า “ข้ายังไม่ได้ถามเจ้าเลย เฉินฟู่เซินยังเชื่อฟังเจ้าในฐานะองครักษ์ของเจ้าอยู่หรือไม่”

“ท่านหมายถึงประพฤติตัวดี? เหตุใดท่านถึงถามเช่นนี้” หลี่หรงเฉิงคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า “ก็เหมือนกับองครักษ์คนอื่น ๆ ไม่มีสิ่งใดเป็นพิเศษ”

หลี่หรงอวี่กล่าวว่า “เขาเคยช่วยเราไว้ ข้ายังคงจำเขาได้ ดังนั้นเขาจึงแตกต่างจากคนอื่น เจ้าควรให้ความสำคัญกับเขามากขึ้น”

หลี่หรงเฉิงพยักหน้าตอบรับไปอย่างนั้น แต่หลี่หรงอวี่ต้องการให้เขาใส่ใจอะไร? เขาคิดไม่ออก

หลังจากผ่านไปชั่วขณะหนึ่ง หลี่หรงอวี่มองไปที่ผิงหยางพลางเอ่ย “เจ้าไม่คิดว่าเขาดูเหมือนคนคนหนึ่งหรือ”

“ใครรึ?” หลี่หรงเฉิงคิดพยายามเค้นหัวคิดอยู่สักพัก แต่ก็คิดไม่ออก

“ตอนนั้นเจ้ายังเด็กอยู่ เป็นเรื่องปกติที่เจ้าจะจำไม่ได้” หลี่หรงอวี่กล่าว

“ท่านกำลังพูดถึงอะไร? ข้าไม่เข้าใจ” ผิงหยางพึมพำ

หลี่หรงเฉิงพึมพำ “ข้าก็ไม่เข้าใจเช่นกัน”

หลี่หรงอวี่ระบายยิ้มออกมา “ข้าจะบอกพวกเจ้าเมื่อข้าคิดออก”

หลังจากมื้ออาหารอันยาวนานจบลง หลี่หรงเฉิงและผิงหยางก็ออกมาจากตำหนักตะวันออก

…

ในฤดูร้อนอากาศอบอ้าวมาก พอตกบ่ายความร้อนก็ยิ่งรุนแรงขึ้น ผิงหยางจับมือสาวใช้และขึ้นไปนั่งบนเกี้ยว

เมื่อพวกเขามาถึงสวนของฮ่องเต้ ก็เกิดแรงกระแทกทำให้เกี้ยวโคลงทันที ผิงหยางตะโกนอย่างโกรธจัด “เกิดอะไรขึ้น!”

ขันทีทั้งสองรีบวางเกี้ยวลงแล้วคุกเข่า รีบร้อนพูดว่า “ถนนหินกรวดลื่น ข้าน้อยไม่ระวังทำให้องค์หญิงไม่พอพระทัย ข้าน้อยสมควรตายพ่ะย่ะค่ะ!”

วันนี้เป็นวันที่อากาศร้อน เมื่อผิงหยางได้ยินเสียงโหยหวนของขันที นางก็ยิ่งใจร้อนมากขึ้นเรื่อย ๆ และตะโกนสั่งว่า “ไปรับโทษโบยห้าไม้!”

“องค์หญิง โปรดเข้าไปอยู่ในเกี้ยวก่อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ ข้าน้อยจะส่งพระองค์กลับไปที่ตำหนัก จากนั้นข้าน้อยจะไปรับโทษ!” ขันทีกล่าว

ตอนนี้องค์หญิงผิงหยางโกรธมาก นางเตะประตูเกี้ยวและตะโกนว่า “ข้าไม่อยากนั่งแล้ว! ข้าจะเดินกลับไปเอง! พวกเจ้าทุกคนจะต้องโดนโบย! เจ้า เจ้า เจ้า! พวกเจ้าทั้งหมด!”

นางลงโทษสาวใช้ทั้งสองในตำหนักที่ตามหลังมา เหลือเพียงชุ่ยกั่วซึ่งเป็นข้ารับใช้หญิงที่ใกล้ชิดกับนาง ทั้งสองเลือกเส้นทางและค่อย ๆ เดินกลับไปด้วยกัน

ถึงอากาศจะร้อน แต่บนถนนสายนี้มีต้นไม้สองข้างทางซึ่งแผ่กิ่งก้านยาวกลายเป็นร่มไม้สีเขียวบดบังไอแดด ทำให้เกิดความร่มรื่น

หลังจากนั้นไม่กี่ก้าวองค์หญิงผิงหยางก็เห็นชายคนหนึ่งแต่งตัวเเหมือนองครักษ์กำลังให้อาหารปลาในบ่อตรงหน้านาง

มีปลาจี้[2] จำนวนมากในบ่อ พวกมันซ่อนตัวอยู่ด้านล่างของบ่อเพราะมันร้อนเกินไปที่จะแหวกว่ายใกล้ผิวน้ำ แต่พวกมันก็ถูกล่อลวงด้วยอาหารปลาขององครักษ์และพากันว่ายขึ้นมา

องครักษ์โยนอาหารปลาเพียงแห่งเดียวและปลาจี้ก็ว่ายล้อมรอบบริเวณที่มีอาหารนั้น พวกมันแต่ละตัวล้วนมีสีสันสวยงาม

องค์หญิงผิงหยางนึกสนุก นางตะโกนว่า “จงให้อาหารปลาแก่ข้า ข้าจะให้อาหารพวกมันด้วย!”

องครักษ์หันหลังกลับมามองตามเสียง เขาไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเฉินฟู่เซิน

“ถวายพระพรพ่ะย่ะค่ะองค์หญิง”

ชุ่ยกั่วซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ ผิงหยาง เดินไปรับชามอาหารปลามายื่นให้องค์หญิงของนางด้วยความเคารพ

วิธีที่ผิงหยางให้อาหารปลานั้นไม่เหมือนกับเฉินฟู่เซิน นางเทชามทั้งใบลงในบ่อตรงจุดเดียว

ตอนนี้สระน้ำเต็มไปด้วยความคึกคัก ปลาจี้แย่งกันกระโดดขึ้นเหนือผิวน้ำและกระโจนไปมา ส่งผลให้น้ำกระเด็นไปทั่วและเกิดเสียงดังวุ่นวาย

เป็นเพราะผิงหยางเทชามปลาใกล้ฝั่งเล็กน้อย จึงมีปลาบางตัวกระโดดขึ้นฝั่ง

อย่างไรก็ตาม ปลาที่อยู่บนฝั่งไม่สามารถกระโดดกลับลงไปในน้ำเองได้ พวกมันทำได้เพียงอ้าปากพะงาบ ๆ

ผิงหยางปรบมือและหัวเราะชอบใจ จากนั้นนางก็โยนชามลงไปในบ่อ ปลาคิดว่ามันเป็นอาหารชิ้นใหญ่ที่ตกลงมาจากฟากฟ้าจึงกระโจนใส่ชามทันที เมื่อชามปลาค่อย ๆ จมลง เหล่าปลาจี้ก็พากันแหวกว่ายตามลงไป และน้ำในบ่อก็ค่อย ๆ กลับสู่ความสงบ

ผิงหยางเตะปลาบนฝั่งกลับลงไปในน้ำทีละตัว ปลาเหล่านั้นเหมือนตายไปแล้วครึ่งหนึ่ง แต่เมื่อพวกมันสัมผัสน้ำ พวกมันก็ฟื้นพลังและว่ายออกไป

“ระวังเปียกเพคะองค์หญิง” ชุ่ยกั่วเตือนผิงหยาง

“เปียกแล้วอย่างไร เจ้าระวังตัวมากไปแล้ว!” ผิงหยางไม่สนใจเรื่องนี้เลย นางยังใช้เท้าเตะน้ำเล่น

“องค์หญิง นี่ไม่ใช่วิธีให้อาหารปลานะเพคะ”

“ข้าชอบทำเช่นนี้ มันไม่ใช่ธุระกงการของเจ้า” ผิงหยางพ่นลม ก่อนจะนึกขึ้นได้ว่ายังมีคนอีกคนหนึ่งอยู่ที่นี่ นางหันไปถามเฉินฟู่เซินว่า “เจ้ามาจากที่ใด? ข้าไม่เคยเห็นเจ้ามาก่อน”

“ในวังมีทหารองครักษ์มากกว่าหนึ่งพันคน ดังนั้นเป็นเรื่องปกติที่องค์หญิงจะทรงจำกระหม่อมไม่ได้พ่ะย่ะค่ะ”

“แล้วเจ้าชื่ออะไร” ผิงหยางถาม

“กระหม่อมคือเฉินฟู่เซินพ่ะย่ะค่ะ” เฉินฟู่เซินตอบอย่างตรงไปตรงมา

“อ้าว เจ้านี่เอง องครักษ์จินอู๋ที่พี่ชายสองคนพูดถึง” เมื่อนึกถึงสิ่งที่พวกพี่ชายพูดในมื้อกลางวัน ผิงหยางก็ยิ้มอย่างดูถูกและพูดว่า “สมกับเป็นคนของพี่ชายแปดเสียจริง มาจากครอบครัวเล็ก ๆ เหมือนกัน ให้อาหารปลาก็ชักช้า”

“กระหม่อมมาที่นี่เพื่อฆ่าเวลา ทันทีที่องค์หญิงมาถึงก็เทจานปลาทั้งหมดของกระหม่อม แต่กระหม่อมก็รู้สึกยินดีที่ทำให้ฝ่าบาทมีความสุขพ่ะย่ะค่ะ” เซินฟู่เฉินไม่ถ่อมตัวหรือหยิ่งผยอง

“กล้าดีอย่างไร! เจ้าพอใจที่ได้หาความสนุกให้กับองค์หญิงเช่นข้า เจ้าพูดแบบนี้ได้อย่างไร” ชุ่ยกั่วเลิกคิ้วและพูดอย่างเดือดดาล

[1] กลีบบัวผัด (莲花烙)

[2] ปลาจี้ หรือ ปลาคาร์ฟ

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 57 องค์หญิงผิงหยาง"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved