cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 49 สีชาดและแป้ง(รีไรท์)

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 49 สีชาดและแป้ง(รีไรท์)
Prev
Next

บทที่ 49 สีชาดและแป้ง(รีไรท์)

หลี่หรงอวี่อดหัวเราะไม่ได้ “ด้านที่เจ้ากัดคือน้ำหมึก”

หลี่หรงเฉิงหยิบถ้วยชาที่อยู่ข้างหน้ามาบ้วนปากอย่างรวดเร็ว เขาคว้าถ้วยชาของหลี่หรงอวี่มาบ้วนอีกครั้ง แม้จะคายสิ่งที่กินเข้าไปออกมาแล้ว เขายังคงรู้สึกพะอืดพะอมอยู่ในปาก

เขาพินิจดูลูกสาลี่แล้วก็พบว่ามีหมึกสีดำอยู่จริง ๆ ส่วนอีกด้านหนึ่งมีใบหน้ายิ้มแย้มสีแดงวาดอยู่

“ใครเล่นพิเรนทร์เช่นนี้กัน!” ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความขมขื่น คิ้วเขาแทบจะขมวดรวมกันเป็นปม

“เจ้าอยู่ในตำหนักของข้า หยิบกินอะไรตามใจเช่นนี้ ข้าจะคอยดูว่าต่อไปเจ้าจะโลภอีกหรือไม่!”

หลี่หรงอวี่ก้มหน้าลงซ่อนรอยยิ้มไว้ แต่หลี่หรงเฉิงยังคงโวยวายและเหวี่ยงแขนไปมา ทำไปทำมาบาดแผลบนร่างกายของเขาเลยเจ็บปวดอีกครั้ง

ช่างน่าขันยิ่งนักที่เห็นเขาเป็นเช่นนี้ หลี่หรงอวี่อดไม่ได้ที่จะหยิบลูกสาลี่ที่องค์ชายแปดกัดขึ้นมาดม โดยปกติแล้วน้ำหมึกมีกลิ่นเหม็นคาว แต่เพราะถูกทาบาง ๆ จึงไม่ค่อยส่งกลิ่นถึงเพียงนั้น

“ฝีมือใครกัน ข้าจะตีหัวเขาให้แรงเลย!” หลี่หรงเฉิงแสร้งทำเป็นดุดัน

หลี่หรงอวี่ก้มหน้า หัวเราะเยาะน้องชาย

หลังจากนั้นไม่นาน ทั้งสองก็หารือเกี่ยวกับศึกอาณาจักรหนานโจว

องค์ชายแปดไม่มีประสบการณ์และไม่เคยลงสนามรบจริง แต่เขาเรียนรู้ตำราพิชัยสงครามมาตั้งแต่เด็กและมีความคิดเรื่องรบราเป็นของตัวเอง ทั้งสองเลยถกเถียงกันได้หลายประเด็น

ทว่าแม้เขาจะอยู่ในฐานะองค์ชายที่ดูแลทัพ แต่เขาก็ยังต้องปฏิบัติตามแผนปฏิบัติการเฉพาะของแม่ทัพผู้มากประสบการณ์

ในสายตาของหลี่หรงอวี่ อาณาจักรหนานโจวไม่ใช่ภัยคุกคาม แต่อาณาจักรเหยียนทางเหนือเป็นปัญหาใหญ่ อาณาจักรอวี๋สงบสุขและห่างหายจากการรบมาเป็นเวลานานแล้ว จะต่อสู้กับอาณาจักรเหยียนซึ่งรบพุ่งอยู่บ่อยครั้งได้อย่างไร?

อีกทั้งยังมีปัญหาอีกหลายอย่างที่ไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย

นอกจากนี้ฮ่องเต้ยังตั้งมั่นว่าจะต่อสู้กับอาณาจักรเหยียนด้วย

ฮ่องเต้เรียกอิงกั๋วกง องค์ชายสี่ จูลี่เจี๋ย จ้าวหรูซง จี้กงจื้อ และแม่ทัพคนอื่น ๆ มาพูดคุยเพื่อบอกให้พวกเขาคอยจับตาดูและป้องกันเท่านั้น เว้นแต่อาณาจักรเหยียนจะโจมตีพวกเขา

แต่ถึงจะกล่าวว่าเป็นเพียงการป้องกัน ไม่กี่วันที่ผ่านมา ทัพหน้าก็เคลื่อนไหวแล้ว รวมถึงทหารชั้นยอดสองแสนนายที่ถูกส่งไปที่กำแพงเมืองบริเวณชายแดนระหว่างอาณาจักรเหยียนและอวี๋

ในอีกด้านหนึ่ง แม่ทัพอู่เวยและองค์ชายแปดไปปักหลักที่แดนใต้ นำทหารไปด้วยเพียงแปดหมื่นคนเท่านั้น ทั้งนี้เพื่อดูแลให้อาณาจักรหนานโจวอยู่ในความสงบ

หลังจากที่กองทัพออกเดินทางทั้งสองฝ่าย ฮ่องเต้ได้ออกพระราชโองการแก่ หลี่หรงหัว องค์ชายห้าแห่งเมืองหลวง และราชครูขององค์ชายรัชทายาทชื่อเหวินเจิ้งปั๋วให้ไปทางตะวันตกพร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง

อาณาจักรอวี๋ให้วัวม้ามากมายแก่แดนตะวันตก เหตุผลหนึ่งคือเพื่อเอาใจชาวเชียงไม่ให้บุ่มบ่ามทำการใด และสองคือตัดเส้นทางไม่ให้อาณาจักรเหยียนและอาณาจักรหนานโจวสามารถติดต่อร่วมมือกันได้

เหยียนอี้ไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองระหว่างสามอาณาจักรมากนัก

นางรู้เพียงว่าบรรยากาศในพระราชวังนั้นดูเคร่งเครียดตั้งแต่องค์ชายแปดและคนอื่น ๆ ออกไป

ผู้คนในวังระมัดระวังทุกฝีก้าวและไม่กล้าพูดเสียงดัง นอกวังมักมีพลส่งสารที่มารายงานสถานการณ์ล่าสุดของการสู้รบแก่ฮ่องเต้และองค์รัชทายาท

เหยียนอี้วุ่นอยู่กับหม้อและกระทะทุกวัน ในบางครั้งก็แอบออกจากวังพร้อมกับเหยียนจื่อ

หลังจากเหตุการณ์ลอบสังหารก่อนหน้านี้ เหยียนจื่อกลัวว่าจะมีชายร่างยักษ์รออยู่ที่บ้านเมื่อนางกลับไป นางจึงตัดสินใจตามพี่สาวมายังเมืองหลวงเพื่อขวนขวายประสบการณ์ ระหว่างนี้นางคอยเขียนจดหมายส่งกลับบ้านไปด้วย

แต่หลังจากมาถึงลั่วหยางก็เกิดสงครามขึ้นโดยไม่คาดคิด นอกจากรายงานทางทหารแล้ว จดหมายของราษฎรก็ถูกสั่งห้ามส่งหากันทั้งสิ้น ดังนั้นเหยียนอี้และเหยียนจื่อจึงขาดการติดต่อกับครอบครัวเหอ

นางสงสัยว่าตอนนี้แม่ของนางจะร้องไห้คร่ำครวญอยู่ที่บ้านหรือไม่? แม่จะกังวลเรื่องลูกสาวสองคนมากจนนอนไม่หลับในตอนกลางคืนหรือไม่?

แต่เมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ กังวลไปก็ไร้ประโยชน์

พระราชวังชั่วคราวในลั่วหยางแออัดน้อยกว่าวังเมืองหลวง คนดูแลในวังก็น้อยกว่ามาก ส่วนดูแลต่าง ๆ ถูกตั้งขึ้นอย่างที่วังควรจะมี แต่เนื่องจากเมืองหลวงถูกย้าย ฮ่องเต้จึงไม่ค่อยได้มาที่วังแห่งนี้ คนในวังที่นี่จึงไม่ค่อยมีอะไรทำ นอกจากทำความสะอาด

แต่วันหนึ่งฮ่องเต้เสด็จมาที่นี่อย่างกะทันหัน และเพื่อความสะดวกในการบัญชาการสงคราม เขาจึงต้องอยู่ที่นี่เป็นเวลานานหลายเดือน ด้วยเหตุนี้ผู้คนในวังจึงสับสนเล็กน้อย

นอกจากนี้ยังไม่มีคนที่ประจำตำแหน่งต่าง ๆ ในวัง ตัวอย่างเช่น ในห้องเครื่องวังหลวงนั้น จะมีพ่อครัวสองคนจากทุกหัวเมืองคอยดูแลอาหารการกิน และมีคนครัวคนอื่น ๆ คอยช่วยเหลือพ่อครัว ล้างจาน จุดไฟ และขนน้ำ

อย่างไรก็ตาม ในห้องอาหารของพระราชวังชั่วคราว มีขันทีเพียงสี่คนที่ทำงานบ้านและพ่อครัวสองคนที่มักจะทำอาหารให้คนใช้ จนกระทั่งเหยียนอี้ถูกพาตัวเข้ามาในวัง

หลังจากมีเหยียนอี้ อาหารหลายมื้อของฮ่องเต้ก็เป็นนางจัดการ ด้วยเพราะฮ่องเต้ไม่ได้ออกคำสั่งให้คนรับใช้ในห้องเครื่องวังหลวงมา

นางจึงยุ่งมากทุกวันจนไม่มีเวลาคิดค้นอาหารจานใหม่

แม้ว่าที่นี่จะเป็นพระราชวังชั่วคราว แต่ผู้ดูแลประตูทางเข้าก็เข้มงวดมาก เหยียนจื่อเป็นคนเกียจคร้านและไม่มีงานทำ นางจึงอยากออกไปข้างนอกแก้เบื่อแต่ก็ทำไม่ได้ นางไม่อาจแม้แต่จะเดินไปรอบ ๆ วังได้ตามต้องการ

ทว่าด้วยข้ออ้างในการออกจากวังไปรับผักและผลไม้ด้วยตนเอง เหยียนอี้จึงขอป้ายจากขันทีจ้าวอันแล้วมอบให้เหยียนจื่อ

ในบางครั้ง สองพี่น้องจะเดินออกจากวังด้วยกันไปที่ถนนจูเชวี่ยแล้วไปตลาดกลางคืน

แม้เมืองอวิ๋นเจี้ยนจะเป็นเมืองใหญ่ แต่ก็เทียบไม่ได้กับเมืองลั่วหยาง

ทางทิศตะวันตกของเมืองลั่วหยางสว่างไสวทั้งกลางวันและกลางคืน ตลาดกลางคืนสามารถอยู่ได้ถึงเกิงที่สาม ส่วนตลาดตอนเช้าจะเริ่มตอนเกิงที่สี่ ระยะเวลาห้ามมิให้ผู้ใดออกนอกบ้านตอนกลางคืนคือหนึ่งชั่วยาม

ทางทิศตะวันออกของเมืองเป็นพื้นที่อยู่อาศัยที่มีประชากรมากกว่าหนึ่งแสนคน ย่านนั้นจึงคึกคักและวุ่นวาย

ลั่วหยางยังคงเป็นศูนย์กลางการสัญจร นอกจากผู้คนในอาณาจักรแล้ว ผู้คนมักจะเห็นพ่อค้าจากตะวันตก หรือจากหนานหยางทะเลใต้มาขายของแปลก ๆ ที่พวกเขาไม่เคยได้พบเห็น

เหยียนอี้และเหยียนจื่อรู้สึกทึ่งจนซื้อของมาตั้งมากมาย

มันเป็นธรรมชาติของผู้หญิงที่จะซื้อของไม่ว่าจะเป็นยุคสมัยไหน

“ท่านพี่ ข้าได้ยินมาว่าในเมืองหลวงเองก็มีถนนจูเชวี่ย ซึ่งใหญ่กว่าและเจริญรุ่งเรืองกว่าที่นี่มาก!” เหยียนจื่อแบกของที่ซื้อ กระโดดโลดเต้นไปมาอย่างมีความสุข

“ข้าได้ยินมาว่ามีสถานที่ที่เรียกว่า ลัวอวิ๋นไจ บนถนนจูเชวี่ยในเมืองหลวง ที่นั่นมีของหวานที่อร่อยมากชนิดที่ว่าไม่มีสิ่งใดในโลกนี้เทียบได้อยู่ด้วย!” เหยียนอี้รู้สึกตั้งตารอเช่นกัน

“ท่านพี่ ดูสีชาดนี้สิ” จู่ ๆ เหยียนจื่อก็หยุดอยู่หน้าแผงขายของของพ่อค้าจากภูมิภาคตะวันตก พร้อมกับถือกล่องกระเบื้องขนาดเล็กในมือ

เหยียนอี้หยิบกล่องขึ้นมามองดู บนกล่องมีภาพผู้หญิงคนหนึ่งที่มีหน้าอกและก้นอวบอ้วน ดวงตาของนางกลมชัด ใบหน้าของนางแดงระเรื่อวิเศษยิ่งนัก

นางไม่เคยแต่งหน้าหรือผัดแป้งเลยตั้งแต่เกิด แต่เหยียนจื่อชอบทำสิ่งเหล่านี้มากที่สุด

นางเปิดกล่องแล้วใช้นิ้วสัมผัสดู จากนั้นเกลี่ยเล็กน้อยลงบนผิวหน้า จนผิวเปลี่ยนเป็นสีแดงเรื่อ ขับใบหน้าให้อ่อนโยนสดใส

“ไม่ต้องหรอก ข้าไม่อยากได้ ข้าอยู่กับเตาทุกวัน จะทาของเหล่านี้ได้อย่างไร” เหยียนอี้หลบมือของเหยียนจื่อที่กำลังจะแต้มชาดลงบนหน้านางอย่างไว

เหยียนจื่อยิ้มร่า ยืนกรานที่จะแต่งหน้าให้พี่สาวของนาง

เมื่อคนหนึ่งวิ่งหนี อีกคนวิ่งตาม สุดท้ายพวกนางก็วิ่งไล่กันรอบแผงขาย

“เหยียนจื่อ ข้าไม่ซื้อ อย่าเล่นแบบนี้!”

พ่อค้ากลัวว่าสองสาวจะวิ่งชนแผงขายของล้ม จึงรีบหยุดพวกนางด้วยภาษาจีนที่แปร่งหูประกอบกับทำไม้ทำมือ

“ฮ่า ๆ เราซื้ออยู่แล้ว พ่อค้าช่วยข้าจับพี่สาวของข้าที มาช่วยทำให้นางรู้ถึงประโยชน์ของสีชาดนี้เถอะ หากท่านช่วย เราจะซื้อสองกล่องเลย!” เหยียนจื่อหัวเราะคิกคัก จับมือเหยียนอี้แน่น

เหยียนอี้ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องก้มหน้าอย่างเชื่อฟังและปล่อยให้เหยียนจื่อ ‘ย่ำยี’ นาง

นางแต่งหน้าสองสามชั้นบนใบหน้าของเหยียนอี้ เขียนคิ้วให้ ทาริมฝีปากด้วยสีชาด และทำแม้กระทั่งคว้าปิ่นหยกเพื่อจัดทรงผมให้ใหม่

“พอ! พอ! พอ! หยุดเล่น! หน้าข้าแทบจะเหมือนก้นลิงอยู่แล้ว!”

เหยียนจื่อมองหน้าพี่สาว พอใจกับผลงานของนางมาก พ่อค้าก็ยินดีมากเช่นกัน เขายกกระจกใสมาให้เหยียนอี้ดู

เหยียนอี้มองดูตัวเองในกระจก แล้วก็ต้องตกตะลึง นางดูเปลี่ยนไปจนแทบจะจำตัวเองไม่ได้

“ท่านพี่ ที่ผ่านมาเหตุใดท่านไม่แต่งอะไรเลย ดูสิ แต่งแล้วก็สวยดีออก” เหยียนจื่อกล่าว

เหยียนอี้ดึงปิ่นปักผมออกจากหัว สอดกลับเข้าไปที่เดิม “ใช่ สวยดี แต่ลำบากจริง ๆ หากข้าต้องตื่นเช้าทุกวันเพื่อแต่งหน้าและหวีผมประมาณครึ่งชั่วยามเช่นนี้แล้วล่ะก็ ข้าเอาเวลานั้นไปนอนยังดีเสียกว่า”

เหยียนจื่อดึงปิ่นของนางออกมาอีกรอบ จากนั้นหยิบขนนกสีม่วงอีกอันหนึ่งมาติดให้พี่สาว “พี่สาวที่รักของข้า หญิงงามที่ไม่ยอมแต่งตัวให้ดูดี ช่างเสียของจริง ๆ หากท่านพี่แต่งตัวงดงาม พี่ก็จะได้หาพี่เขยไว ๆ อย่างไรเล่า!”

“ข้าอยู่กับแต่กับโจวเจียและขันทีคนอื่น ๆ จะให้ข้าหาขันทีมาเป็นพี่เขยเจ้าหรืออย่างไร”

เหยียนจื่อย่นจมูก “โธ่… นอกจากองค์ชายแล้ว ในวังก็มีแต่ขันที โลกนี้ช่างเลวร้ายเสียนี่กระไร!”

“ใช่ ฉะนั้นเจ้าควรกลับบ้านทันทีที่เสร็จธุระแล้ว อย่าอยู่ในเมืองหลวงกับข้าเลย!”

“ท่านพี่เองก็อย่ากลับไปเลย พวกเขาแค่ต้องการให้ท่านจากบ้านเข้าวัง แบบนี้มันกลั่นแกล้งเกินไปแล้ว” เหยียนจื่อกล่าว

“ข้าก็ไม่อยากไปเหมือนกัน เช่นนั้น… เหตุใดเราไม่หนีล่ะ?” เหยียนอี้กระซิบข้างหูของน้องสาว

เหยียนอี้เพียงแค่ล้อเล่นเท่านั้น แต่เหยียนจื่อคิดว่านางพูดจริง นางรีบปิดปากพี่สาวแล้วพูดว่า “ท่านพี่ที่น่ารักของข้า อย่าใจร้อนนักเลย ตอนนี้ฮ่องเต้และองค์รัชทายาทล้วนอยากทานอาหารที่ท่านปรุง ท่านกลายเป็นคนโด่งดังในพระราชวังไปแล้ว หากท่านหนีไป ครอบครัวของพวกเราจะต้องเดือดร้อนแน่!”

เหยียนอี้หัวเราะคิกคัก ลูบจมูกของนางแล้วพูดว่า “ในที่สุดเจ้าก็โต เจ้าฉลาดขึ้นมาแล้ว”

นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดต่อว่า “อันที่จริง การเป็นแม่ครัวของฮ่องเต้ไม่ใช่เรื่องใหญ่ ข้าได้ยินมาว่าเงินเดือนของแม่ครัวหลวงหนึ่งปีสามารถซื้อภัตตาคารกุ้ยซานได้ถึงห้าหลังเลยเชียว แม้ข้าจะเป็นแม่ครัวธรรมดาในวัง แต่ก็สามารถหารายได้มากกว่าตอนที่อยู่ในเมืองอวิ๋นเจี้ยนเสียอีก กล่าวได้เลยว่าฮ่องเต้ได้ให้รางวัลข้าจริง ๆ”

“เจ้ารู้อะไรไหม? ข้าได้ส่งขนมดอกฮวายที่ทำขึ้นใหม่ไปถวายพระองค์เมื่อวานนี้ ฝ่าบาทเสวยอย่างมีความสุขและให้รางวัลแก่ข้าด้วยทุ่งข้าวสาลีสิบหมู่ในแถบชานเมืองของเมืองหลวงด้วย!”

เหยียนจื่อเอามือขึ้นแนบอกแล้วพูดว่า “โอ้ ท่านพี่! ท่านโลภเกินไปแล้ว!”

เหยียนอี้แลบลิ้นของนางแล้วมอบเงินให้พ่อค้าสิบตำลึง จากนั้นนางก็ซื้อสีชาด แป้งน้ำ ปิ่นปักผม และผ้าคลุมศีรษะที่พวกนางเพิ่งลองสวมกลับ

“หากพี่สาวของเจ้าไม่ได้ทำงานหนักเพื่อหาเงิน แล้วนางจะซื้อสิ่งดี ๆ อย่างของเหล่านี้ให้เจ้าได้อย่างไร” เหยียนอี้กล่าวด้วยรอยยิ้ม

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 49 สีชาดและแป้ง(รีไรท์)"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved