cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 48 การจัดทัพที่ยากลำบาก(รีไรท์)

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 48 การจัดทัพที่ยากลำบาก(รีไรท์)
Prev
Next

บทที่ 48 การจัดทัพที่ยากลำบาก(รีไรท์)

หลี่หรงอวี่ตรัสด้วยรอยยิ้ม “ดีแล้วที่เสด็จพ่อต้องการเลื่อนยศเขา แต่ข้าเกรงว่าเขาจะไม่อาจโน้มน้าวประชาชนได้ เขามาจากนายกองท้องถิ่น มิสู้ให้ท่านลุงมาช่วยเล่าพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ส่ายหัว “ลุงของเจ้าเป็นแม่ทัพอายุเจ็ดสิบปีแล้ว เขาจะเข้าสู่สนามรบได้อย่างไร”

หลี่หรงอวี่กล่าวว่า “ถึงลุงของหม่อมฉันจะแก่มาก แต่จิตวิญญาณของเขายังคงเดิม หากเสด็จพ่อยืนกรานไม่ปล่อยให้เขาไปรบเพราะกลัวจะได้รับคำวิพากษ์วิจารณ์ ก็ส่งเขาไปทางเหนือให้เขาคุมทัพ เมื่อมีทหารผ่านศึกอยู่ในกองทัพจะทำให้ขวัญกำลังของทหารมั่นคงพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้ถอนหายใจและกล่าวว่า “ก็ได้ ข้าสนใจแต่ทางด้านพลเรือนมากกว่ากำลังทหารมาหลายปี พอเกิดเรื่องขึ้นมา กลับไม่มีแม้แต่คนที่เป็นประโยชน์ ดังนั้นแล้วแต่เจ้า ส่วนเรื่องการจัดกองทัพ ไปเจรจากับกรมกลาโหมในวันพรุ่งนี้”

หลี่หรงอวี่ตกลงและกำลังจะจากไป แต่ฮ่องเต้รั้งเขาไว้ “เจ้ายกยอน้องแปดของเจ้าเหลือเกิน เหตุใดไม่พูดถึงน้องสี่ของเจ้าบ้างล่ะ”

หลี่หรงอวี่ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ไม่รู้จะตอบอย่างไร เขาจำต้องพูดความจริงว่า “น้องสี่คุ้นเคยกับตำราพิชัยสงครามเป็นอย่างดี ศิลปะการต่อสู้ของเขาก็เป็นเลิศ หากท่านพ่อเห็นว่าน้องสี่สมควร หม่อมฉันก็มิจำเป็นพ่ะย่ะค่ะ”

ฮ่องเต้พึมพำอย่างเย็นชา “ข้ารู้ว่าพวกเจ้าทุกคนคับข้องใจ”

องค์ชายสี่นามว่า หลี่หรงซือ เป็นบุตรชายของสนมจางซึ่งเป็นนางสนมคนโปรดในราชวงศ์ อาจารย์ของเขามีชื่อเสียงและโดดเด่น ครั้งหนึ่งเขาเคยเข้าร่วมงานประลองยุทธ์ในนามลูกชายคนโตของตระกูลจาง ฝีมือเลิศเป็นอันดับสอง ทว่าเขาเป็นทายาทฮ่องเต้ ไม่อาจแสดงศิลปะการต่อสู้ได้ ชื่อเสียงของเขาจึงเป็นโมฆะไป

หลี่หรงอวี่เข้ากันได้ดีกับพี่น้องของเขาเสมอ ยกเว้นน้องสี่ ดังนั้นเขาจึงหลีกเลี่ยงการตอบ

“เจ้าจงไปบอกให้เจ้าแปดไปทางใต้ และเจ้าสี่ไปทางเหนือเพื่อเก็บเกี่ยวประสบการณ์เสีย” ฮ่องเต้กล่าว

หลี่หรงอวี่รับคำและจากไปอย่างสุภาพ

เขารู้ว่าท่านพ่อไม่ยุติธรรม แต่เขาไม่อาจพูดอะไรได้

อาณาจักรเหยียนทางตอนเหนือนั้นทรงพลัง หากอาณาจักรอวี๋ต้องต่อสู้ในสองแนวรบ คงไม่พ้นต้องถูกลากไปตายหรืออย่างไร?

ดังนั้นหลี่หรงอวี่วางแผนที่จะไม่ต่อสู้กับอาณาจักรเหยียน

อิงกั๋วกงและหลี่หรงซือ พวกเขาเป็นคนแก่และคนหนุ่ม คนหนึ่งมีอารมณ์รุนแรง ส่วนอีกคนเป็นชายที่หมกมุ่นอยู่กับฐานะองค์ชาย หวังสร้างชื่อให้กับตน ย่อมนำมาซึ่งสงคราม หากส่งทั้งสองไปทางเหนือจริง ๆ มันจะดีได้อย่างไร?

ฮ่องเต้บอกว่าหลี่หรงซือก็ถือเป็นองค์ชาย แม้เขาจะส่งทหารผ่านศึกที่รอบคอบไปด้วยอีกคนเพื่อให้เป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุด แต่ใครจะกล้าไปต่อกรกับองค์ชาย?

กองกำลังสามแสนในอาณาจักรทางเหนือควรมอบให้แก่หลี่หรงซือหรือ?

ไม่ใช่ว่าองค์รัชทายาทไม่ยอมรับความสามารถของน้องชายคนนี้ แต่แดนเหนือไม่ใช่สถานที่ที่จะสามารถเริ่มสงครามได้!

หลี่หรงอวี่อารมณ์เสียมาก แต่เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ทำได้เพียงเดินไปรอบ ๆ มองขึ้นไปบนท้องฟ้าแล้วทอดถอนใจ

เมื่อเขาเดินไปที่สวนของลาน หลี่หรงอวี่ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นฟังดูเหมือนเป็นกลุ่มขันที แต่มีเสียงที่สดใสของสตรีอยู่ด้วย

“หลางกวนเอ๋อร์ วางบันไดทางทิศตะวันออกหน่อย ตรงนั้นยังมีอีก”

“ตกลง!”

“สาวน้อย ข้าเก็บสมุนไพรมามากมาย แค่นี้ยังไม่พออีกหรือ?”

“ไม่น่าแปลกใจที่นายของเจ้าบอกว่าเจ้าเกียจคร้านตลอดเวลาเพียงครึ่งตะกร้าของดอกฮวาย[1] ก็คิดจะพอแล้วงั้นหรือ!”

“แม่นางเหยียน ดอกไม้ครึ่งตะกร้าไม่พอหรือ เราจะทำอาหารให้ฮ่องเต้จานเดียวเท่านั้นไม่ใช่หรือ”

ดูเหมือนว่าแม่นางเหยียนและขันทีกำลังทำอะไรบางอย่าง ดังนั้นเขาจึงเดินตามเสียงไปและเห็นกลุ่มคนที่ล้อมรอบต้นฮวายใหญ่ในสวน เหยียนอี้และขันทีกำลังปีนบันไดเพื่อเก็บดอกฮวาย และคนอื่น ๆ คอยจับบันไดไว้

โจวเจีย ขันทีรับใช้เป็นคนช่างสังเกตมากที่สุด เมื่อเขาเห็นหลี่หรงอวี่ ก็รีบดึงแขนเสื้อของคนที่อยู่ข้าง ๆ เขาและเดินเข้าไปทำความเคารพทันที

เมื่อเห็นการปรากฏตัวอย่างกะทันหันขององค์รัชทายาท ทุกคนก็รีบคุกเข่าลง ทำให้ไม่มีใครจับบันไดให้คนสองคนที่ปีนอยู่ อีกทั้งพวกเขาพะว้าพะวงรีบปีนลงมาอย่างรวดเร็ว สุดท้ายเลยตกลงจากบันได

“ไม่นะ!” เหยียนอี้ที่ปีนขึ้นไปบนจุดสูงสุดตกใจ นางอุทานออกมาร่างร่วงหล่นลงพื้น

หลี่หรงอวี่รีบก้าวไปข้างหน้า ใช้วิชาทะยานบันไดเมฆา[2] เหยียบลำต้นของต้นไม้ เอื้อมมือไปจับเหยียนอี้ไว้ในอ้อมแขนแล้วลงพื้นอย่างแผ่วเบาและปลอดภัย

ขันทีอีกคนที่ไม่มีใครมารับไว้จึงตกลงกับพื้น โชคดีที่เขาไม่ได้ปีนสูง จึงไม่ได้รับบาดเจ็บที่กล้ามเนื้อหรือกระดูก แต่เขาก็ตกลงมาแรงจนต้องส่งเสียงร้องโอดครวญ

เหยียนอี้คิดว่านางคงจะตกลงพื้นแข้งขาหัก ไม่คาดคิดว่าจะอยู่ในอ้อมแขนขององค์รัชทายาทเช่นนี้

นางลืมตาขึ้นด้วยความงุนงง หัวใจของนางเต้นเร็วรัวส่งให้ใบหน้าของนางพลันแดงก่ำ

เมื่อเห็นท่าทางเขินอายของนาง หลี่หรงอวี่ก็อดหัวเราะไม่ได้ เขาวางนางลงบนพื้นอย่างระวังแล้วจัดผมให้นาง

“ขอบคุณ… ขอบคุณที่ช่วยชีวิตหม่อมฉันเพคะ องค์รัชทายาท” ผ่านไปนาน ในที่สุดนางก็รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น นางจึงรู้ตัวว่าต้องคุกเข่าทำความเคารพ

หลี่หรงอวี่ให้ทุกคนลุกขึ้น ก่อนจะเอ่ยถาม “เหตุใดเจ้าถึงเลือกดอกฮวาย”

“หม่อมฉันจะทำขนมดอกฮวายสำหรับฝ่าบาทเพคะ” เหยียนอี้ตอบกลับ

“ขนมดอกฮวาย? เจ้าถูน้ำดอกไม้ลงในแป้งงั้นหรือ?” หลี่หรงอวี่ถาม

เหยียนอี้ตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ท่านจ้าวกล่าวว่าช่วงนี้ฝ่าบาททรงอารมณ์ไม่ดี ทรงขอให้เราทำสิ่งใหม่ ๆ ให้มากขึ้น หม่อมฉันเห็นว่าดอกฮวายในสวนบานสะพรั่ง หากใช้ทำอาหารก็จะให้ความสดชื่นเพคะ”

หลี่หรงอวี่หยิบดอกฮวายจากตะกร้าที่พวกเขาเก็บมาแล้วตรัสว่า “ใช้ดอกไม้ทำอาหาร พบเห็นได้บ่อยนัก แต่ว่าดอกไม้ในวังไม่ค่อยสด ไหนจะเบ่งบานทุกที่ในลั่วหยางและเมืองหลวง”

เหยียนอี้กล่าวด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “หากอาหารที่เตรียมโดยสาวน้อยสามารถพบเห็นได้ทุกที่ในลั่วหยาง ฮ่องเต้คงไม่บังคับสาวน้อยคนนั้นมาที่วังหรอกจริงหรือไม่เพคะ”

หลี่หรงอวี่จึงถามต่อ “เช่นนั้นจงบอกมาว่าขนมดอกฮวายที่เจ้าทำมีความพิเศษอย่างไร?”

“เวลาที่เก็บดอกฮวาย อย่าเลือกกลีบดอกที่แห้งเหี่ยว ให้เลือกกลีบที่สวย เด็ดมันออกจากก้านและนำก้านไปแช่ในน้ำ”

“นำกลีบมาใส่ในหม้อใบใหญ่เพื่อนึ่งสลับกับตากแห้งสามรอบ จากนั้นกรองน้ำออก ใช้กลีบดอกประมาณหนึ่งชั่งครึ่ง”

“ต่อมานำกลีบดอกผสมกับแป้งสาลีและน้ำตาลทรายขาวทำเป็นขนม นำแกนดอกไม้ที่แช่น้ำก่อนหน้านี้ไปตากแห้ง นำไปทอดเพื่อทำชาหอม เพียงเท่านี้ก็จะได้ขนมดอกฮวายกลิ่นหอมหวานและรสชาติที่แสนอร่อย กินคู่กับชาหอมจากแกนดอกไม้ที่มีรสขมติดปลายลิ้นเล็กน้อย ยิ่งช่วยให้รสโอชามากขึ้น”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลี่หรงอวี่ก็หัวเราะ “วิธีทำของเจ้าเหมือนกับการเก็บดอกฮวายทั้งต้นเพียงเพื่อให้ได้ขนมแค่สามถึงห้าก้อนอย่างไรอย่างนั้น”

เหยียนอี้กล่าวจริงจัง “อาหารของฮ่องเต้จะทำอย่างสะเพร่าไม่ได้เพคะ กระบี่ต้องผ่านการลับอย่างอดทน การปรุงอาหารก็ต้องใช้ความมุมานะมากกว่านั้นเพคะ”

หลี่หรงอวี่วุ่นอยู่แต่เรื่องบ้านเมือง ดังนั้นเขาจึงไม่ได้กินอะไรมาก่อนหน้านี้ เมื่อพูดคุยกับเหยียนอี้อยู่พักหนึ่ง ก็รู้สึกหิวขึ้นทันใด หลี่หรงอวี่ลูบท้องตนแล้วสั่งขึ้น

“วันนี้คงไม่อาจได้กินขนมดอกฮวายของเจ้า แต่ตอนนี้ข้าหิวมาก เจ้าช่วยทำอาหารส่งไปที่ตำหนักเวยอวิ๋นที”

ทุกคนตอบรับและรีบออกไป

ไม่นานหลังจากที่หลี่หรงอวี่กลับไปที่ห้องบรรทม คนรับใช้ในห้องเครื่องของวังชั่วคราวก็นำอาหารมาให้ มันคือไข่ตุ๋นโรยหน้าด้วยต้นหอม ผักตุ๋นในหม้อดินเผา เผือกทอด และสาลี่ในขวดแก้วเคลือบ

หลี่หรงอวี่หยิบสาลี่ขึ้นมาเชยชมก่อน มีใบหน้าที่ยิ้มแย้มถูกวาดไว้ด้วยชาดด้านหนึ่ง และใบหน้าร้องไห้ด้วยน้ำหมึกอีกด้านหนึ่ง แลดูน่าสนใจจนเขาทำใจกินไม่ลง

เขารู้ว่าตอนที่เขาอยู่ในสวน สาวน้อยคนนี้ต้องเห็นหน้าเศร้าหมองของเขาเป็นแน่ นางจึงวาดอะไรเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่นนี้เพื่อให้เขามีความสุข

“เห็นข้าเป็นเด็กหรืออย่างไร?” หลี่หรงอวี่ส่ายหัวพลางคลี่ยิ้ม จากนั้นเขาก็วางสาลี่ไว้ข้าง ๆ

ขันทีใส่ไข่ตุ๋นลงในชามใบเล็กแล้วยื่นให้หลี่หรงอวี่ด้วยความเคารพ

หลังจากกินไปสองคำ หลี่หรงอวี่ก็มีความอยากอาหารขึ้น เขาหยิบตะเกียบแล้วเริ่มกินต่อ

ขณะที่เขารับประทานอาหารอยู่ องค์ชายแปด หลี่หรงเฉิง พรวดเข้ามาแล้วตะโกนว่า “พี่รอง!”

โดยไม่ต้องวางตะเกียบ หลี่หรงอวี่ขอให้ใครบางคนนำเก้าอี้มาให้น้องชายนั่ง ก่อนจะตรัสว่า “ข้ารู้ว่าเจ้าต้องการจะพูดอะไร ข้าบอกเสด็จพ่อแล้ว”

แม้ก้นของหลี่หรงเฉิงเพิ่งจะสัมผัสเก้าอี้ เขาก็ต้องลุกพรวดขึ้นอีกครั้ง “เสด็จพ่อตกลงที่จะให้ข้านำทัพปราบหนานโจวหรือไม่”

หลี่หรงอวี่บอกให้เขานั่งลงอย่างเงียบ ๆ “เจ้ายังเด็ก ไม่มีประสบการณ์ในการต่อสู้ ท่านพ่อขอให้เจ้าไปช่วยดูทัพเท่านั้น”

หลี่หรงเฉิงพอใจกับผลลัพธ์มาก เขาตรัสว่า “ตราบเท่าที่เสด็จพ่อเต็มใจที่จะเชื่อข้า และไม่มีความขัดแย้งใด ๆ กับข้า แค่นั้นก็พอแล้ว”

“เสด็จพ่อชอบเจ้าเสมอ แม้เขาจะบันดาลโทสะไปเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่เขาก็ไม่ได้โกรธเจ้า” หลี่หรงอวี่ตรัสต่อ “แต่เจ้ายังบาดเจ็บอยู่ ข้าไม่อยากให้เจ้าลำบาก”

หลี่หรงเฉิงตบหน้าอกเพื่อแสดงความแข็งแกร่งของตนเอง “หนานโจวอยู่ห่างออกไปตั้งหลายพันลี้ กองทัพของศัตรูจะเคลื่อนเร็วแค่ไหนกันเชียว หากข้าได้พักที่แดนใต้สักหน่อยก็ไม่เป็นไรแล้ว”

หลี่หรงอวี่ตรัส “คราวนี้ ท่านพ่อไม่ได้กลับไปที่เมืองหลวง แต่ได้เรียกกลุ่มขุนนางเก่าไปยังพระราชวังชั่วคราวของเมืองลั่วหยาง เพราะตั้งอยู่ตรงกลาง ไม่ว่าจะขึ้นเหนือหรือลงใต้ การเคลื่อนพลก็ล้วนเร็วทั้งนั้น ข้าคิดว่าเจ้าควรเคลื่อนพลไปที่ซานตงในอีกไม่กี่วันข้างหน้า อาจจะไม่ได้พักสักสองสามวัน”

“เกิดอะไรขึ้น เหตุใดจึงต้องเคลื่อนพลจากซานตงไปยังอาณาจักรหนานโจว? ทัพของท่านมู่มิได้ประจำอยู่ที่ตรงนั้นแล้วหรือ?” หลี่หรงเฉิงกล่าว

หลี่หรงอวี่มองหน้าหลี่หรงเฉิงครู่หนึ่ง ก่อนพูดแผ่วเบาว่า “เสด็จพ่อส่งแม่ทัพหลงเซี่ยงชือแห่งอู่เว่ยไปเป็นผู้บัญชาการทหารสูงสุดทางใต้”

“อา… เหตุใดเขาต้องไปไกลถึงเพียงนั้น” หลี่หรงเฉิงไม่อาจเข้าใจได้

“เป็นคำแนะนำของข้าเอง” หลี่หรงอวี่ตอบ

“พี่รอง ท่านเสียสติไปแล้วหรือ?” หลี่หรงเฉิงตกใจอีกครั้ง

หลี่หรงอวี่ใบหน้าหมองหม่น เขาก้มศีรษะลงและจิบชาก่อนกล่าวต่อว่า “ข้าแนะนำเสด็จพ่อให้ส่งเจ้าไปทางทิศใต้ เสด็จพ่อจะส่งเจ้าสี่ไปทางเหนือ”

“พี่สี่?” หลี่หรงเฉิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งและตระหนักได้ในทันใด “อา มิแปลกใจเลยที่ต้องไปสมทบท่านมู่”

หลี่หรงอวี่รู้ว่าน้องแปดของเขาไม่ค่อยระวัง และในราชสำนักก็เต็มไปด้วยเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน ดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะเตือนน้องชายว่า “หากมีพระราชโองการลงมา แต่งตั้งตำแหน่งเจ้าสี่สูงกว่าเจ้า อย่าถามเขาและอย่าแสดงความไม่พอใจ”

หลี่หรงเฉิงพยักหน้า เมื่อเห็นลูกสาลี่อยู่บนโต๊ะ เขาก็หยิบมันขึ้นมาโดยไม่ดูให้ดีแล้วยัดมันเข้าปาก

“เห้ย!” หลี่หรงอวี่อยากจะคว้าลูกสาลี่ แต่หลี่หรงเฉิงยิ้มแล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร คนใช้ต้องล้างลูกแพร์ก่อนที่พวกเขาจะนำมาที่นี่อยู่แล้ว”

เขากัดคำใหญ่ และรู้สึกถึงรสคาวและขมในปากของเขา เขาไม่อาจบอกได้ว่ารสชาติแปลก ๆ นี้คืออะไร จนเขาต้องคายออกมาและตะโกนว่า “นี่คือสาลี่พิษชนิดใดกัน!”

[1] ดอกฮวาย คือดอกไม้ชนิดหนึ่งของจีน มีสีเหลือง และมีสรรพคุณเป็นยารักษาโรค

[2] ทะยานบันไดเมฆา (梯云纵) วิชาหนึ่งในสำนักบู๊ตึ๊ง

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 48 การจัดทัพที่ยากลำบาก(รีไรท์)"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved