cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 36 เหอซื่อแต่งงาน(รีไรท์)

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 36 เหอซื่อแต่งงาน(รีไรท์)
Prev
Next

บทที่ 36 เหอซื่อแต่งงาน(รีไรท์)

เหยียนอี้วิ่งไปจนสุดทาง นางต้องการไปที่ศาลเพื่อรายงานเรื่องที่เกิดขึ้น

แต่เมื่อนึกถึงหน้าผู้ตรวจการคนนั้น นางก็รู้สึกไม่สบายใจ จะพูดอย่างไรดี หากเขาหน้ามืดตามัวโยนความผิดทั้งหมดให้นางและภัตตาคารกุ้ยซานเล่า?

ขณะที่นางกำลังคิด นางก็ชนกับใครบางคนอย่างจัง

หน้าอกของชายผู้นั้นหนามากจนเหยียนอี้รู้สึกเหมือนกระแทกกับแผ่นเหล็ก เขาก็คือเฉินฟู่เซินนั่นเอง นางเจ็บเสียจนน้ำตารื้นขึ้นรอบดวงตา

“เหยียนอี้ เหตุใดถึงมีเลือดเต็มตัวเจ้าไปหมด เจ้าบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่” เฉินฟู่เซินรีบมองพลางสำรวจร่างกายของนาง

“ข้าไม่เป็นไร เจ้าของภัตตาคารหว่านซิง…” เหยียนอี้ชี้ไปทางด้านหลังด้วยความกังวลใจมากล้น

“เจ้ารู้ข่าวหรือยัง” เฉินฟู่เซินถามด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“ข่าวอะไร” เหยียนอี้แปลกใจ

เฉินฟู่เซินตอบว่า “ข้าไปที่เมืองอวิ๋นเจี้ยน และได้พบกับใต้เท้าหวังอี้จือ เขาชอบขัดขาซือจือโจวผู้ตรวจการคดีนี้มาตลอด เขาจึงออกคำสั่งได้รวดเร็ว แน่นอนว่าเขาพาคนไปที่จวนผู้ตรวจการ จากนั้นก็พบกล่องทองคำและเงินสองกล่อง รวมถึงบัตรกำนัลของขวัญจากภัตตาคารหว่านซิง ของติดสินบนผู้ตรวจการ”

ตอนนี้ผู้ตรวจการคนนั้นถูกนำตัวไปที่เมืองอวิ๋นเจี้ยน มีคนจะไปยึดบ้านของเจ้าของภัตตาคารหว่านซิงเร็ว ๆ นี้ เมื่อเรื่องราวกลายเป็นเช่นนี้ เถ้าแก่เจิ้งและคนอื่น ๆ จึงพ้นผิด

เหยียนอี้คิดถึงเรื่องที่เฉินฟู่เซินเคยบอกว่าเขาจะไม่ยุ่งกับเรื่องนี้ แต่ที่จริง เขามีแผนในใจอยู่แล้ว

“ข้าตามหาเจ้าทุกที่ แต่หาเท่าไรก็หาไม่เจอ ข้าเลยแน่ใจว่าเจ้าจะต้องมาที่นี่ ไม่ต้องห่วง อีกไม่นานคนจากทางการก็คงจะมาถึง” เฉินฟู่เซินกล่าว “เกิดอะไรขึ้น? เหตุใดเจ้าจึงดูลำบากใจเช่นนี้”

เหยียนอี้กล่าวว่า “ข้าคิดว่าพวกเขาคงไม่จำเป็นต้องบุกเข้าไปในบ้านแล้ว คนที่หวังอันซินช่วยไว้คือสุนัขจิ้งจอก หมาป่า หรืออาจจะเสือ ไม่สิ เสือดาว เขาฆ่าทุกคนไปแล้ว”

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เหยียนอี้อดไม่ได้ที่จะน้ำตารื้น “แม้แต่เด็กสามขวบก็ไม่รอด”

“เขาเป็นใคร” เฉินฟู่เฉินถามอย่างจริงจังอีกครั้ง

“ข้าไม่รู้” เหยียนอี้ตอบ “อ๊ะ เจ้ามีทักษะการต่อสู้นี่ ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส เขาคงเดินไปไหนได้ไม่ไกล เร็วเข้า รีบไปจับเขาเร็ว!”

เหยียนอี้รีบพาเฉินฟู่เซินกลับไปที่เดิม ทว่าคนจากทางการก้าวนำพวกเขาไปหนึ่งก้าว ที่เกิดเหตุเละเทะไปหมด พื้นเต็มไปด้วยคราบเลือด เหล่าสตรีล้วนตกใจกลัวจนเป็นลม แล้วคนร้ายอยู่ที่ใด?

พวกเขาค้นหาตัวคนร้ายทั่วเมืองอู่ซานเป็นเวลาสามวัน แต่กลับไม่พบแม้แต่เบาะแส

ตำแหน่งผู้ตรวจการถูกแทนที่ด้วยคนใหม่ เด็กรับใช้ในภัตตาคารกุ้ยซานก็ได้รับการปล่อยตัว โชคดีที่ทุกคนยังสบายดีหลังใช้เวลาหนึ่งวันในคุก

หวังอันซินรู้สึกหดหู่ใจมาก เขาใจดีพอที่จะช่วยชีวิตผู้คน แต่เขาก็เสียใจที่ความใจดีของตัวเองเกือบทำให้ภัตตาคารกุ้ยซานถูกปิดตัว และทำให้ครอบครัวของเจ้าของภัตตาคารหว่านซิงถูกฆ่า!

ทุกคนต้องการปลอบโยนเขา แต่ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเขาจะพูดอะไรได้อีก

‘ในอนาคตเมื่อเราเจอคนแปลกหน้าที่ต้องการความช่วยเหลือระหว่างทาง เรายังต้องช่วยเขาอยู่หรือไม่? หรือคิดว่ามิใช่กงการของตน?’

นี่เป็นคำถามที่ปลายเปิด บรรดานักปราชญ์ขบคิดเรื่องนี้มาหลายพันปีแล้ว แต่ก็ยังหาคำตอบไม่ได้ แล้วหวังอันซินผู้เป็นเพียงชายหนุ่มในภัตตาคาร จะคิดได้อย่างไร

ในอีกด้านหนึ่ง เหยียนอี้ถูกพาไปที่ศาลหลายครั้ง และถูกขอให้อธิบายลักษณะและรูปลักษณ์ของบุคคลนั้นอย่างละเอียด เพื่อที่จะสามารถติดประกาศเพื่อจับคนร้ายตัวจริงได้

เหยียนอี้พูดอย่างระมัดระวัง “เขาตัวเพรียวสูง กล้ามเนื้อแน่น จมูกโด่งเป็นสัน คิ้วและขนตายาวงอน ริมฝีปากบาง พูดติดสำเนียงจากทางเหนือ ไม่เหมือนเรา…”

ผู้ตรวจการที่เพิ่งถูกแต่งตั้งใหม่พูดไม่ออก “แม่นางเหยียนอี้ เจ้ากำลังพรรณนาถึงคนร้าย หรือกำลังพรรณนาถึงคู่รักของเจ้า”

เหยียนอี้รู้สึกเสียใจมาก “ก็คนผู้นั้นหน้าตาเช่นนี้นี่เจ้าคะ! ท่านคิดว่าเขามิอาจเป็นคนร้ายเพียงเพราะเขาดูดีมิได้หรอกนะเจ้าคะ!”

นางพูดความจริงมากมาย แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่นางไม่ได้พูดออกไป คือก่อนที่นางจะจากไป เขาพูดกับนางว่า ‘ยังไงก็ตาม ข้าชื่อจี้ชิงเฟิง ข้าคิดว่า… เจ้าควรจำชื่อนี้ไว้’

จี้ชิงเฟิง? เขาคือใคร?

เหยียนอี้ไม่รู้

แต่หากนางป่าวประกาศชื่อนี้ไปทุกที่ นางจะพบเขาหรือไม่?

เหยียนอี้ไม่รู้ว่านางกำลังคิดอะไรอยู่ ทว่านางกลับหวังลึก ๆ ว่าจี้ชิงเฟิงจะหนีไปให้ไกล เป็นการดีที่สุดที่จะไม่ถูกจับ

ภัตตาคารกุ้ยซานได้เปิดขึ้นอีกครั้ง เนื่องจากไม่มีภัตตาคารหว่านซิงมาเป็นคู่แข่งแล้ว ธุรกิจจึงเริ่มดีขึ้นเรื่อย ๆ

ผ่านไปสองสามวัน ซานกู่จื่อก็กลับมาจากการเดินทางไกล เมื่อได้ยินเรื่องนี้ เขาก็เม้มปากแล้วมองไปที่เหยียนอี้ “สาวน้อย เจ้าเกือบจะกลายเป็นผีเสียแล้ว ถึงเวลาแล้วกระมัง ที่เจ้าจะต้องเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้”

เหยียนอี้ยิ้ม “ท่านจะให้ข้าเป็นศิษย์หญิงของท่านอีกครั้งหรือ ข้าไม่เอาด้วยหรอกเจ้าค่ะ!”

ซานกู่จื่อพูดด้วยรอยยิ้ม “ดูเหมือนว่าเจ้าจะคิดว่าอาจารย์เฉินของครอบครัวเจ้าดีกว่า ถึงข้าจะรู้ไม่มาก แต่อย่าได้ดูถูกวิชาข้าเชียว”

เหยียนอี้คิดในใจ เฉินฟู่เซินไม่ค่อยมาที่ภัตตาคาร กู่จื่อเคยเห็นเขาครั้งหรือสองครั้งและเขาไม่เคยแสดงการต่อสู้ต่อหน้าเขาเลย เช่นนั้นเขารู้ได้อย่างไรว่าเฉินฟู่เซินรู้ศิลปะการต่อสู้?

ดังนั้นนางจึงแสร้งทำเป็นไม่รู้และถามว่า “ศิลปะการต่อสู้ของเฉินฟู่เซินมีพลังมากหรือไม่เจ้าคะ”

ซานกู่จื่อตอบว่า “วรยุทธ์ของเด็กคนนั้นเก่งมาก เขาถือได้ว่าโดดเด่นในหมู่คนหนุ่มสาว เขาน่าจะได้รับคำแนะนำจากอาจารย์ที่มีชื่อเสียง แต่…”

เมื่อพูดอย่างนั้น เขาก็ทำแววตาเหยียดหยามและพูดต่อ “เขาแข็งแกร่งไม่ได้ครึ่งหนึ่งของข้าเลย”

เหยียนอี้รู้ว่าซานกู่จื่อเชี่ยวชาญทั้งในด้านบุ๋นและบู๊ แม้ว่านางจะไม่รู้ศิลปะการต่อสู้แม้แต่น้อย แต่นางก็เคยเห็นด้วยตาของนางเองว่าซานกู่จื่อสามารถกระโดดขึ้นไปยังชั้นสองได้อย่างง่ายดาย เขาเป็นคนที่ข้ามขั้นคนธรรมดาขึ้นมาหนึ่งก้าวเลยทีเดียว

แต่เหยียนอี้เป็นคนเกียจคร้านที่สุดในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ จึงพูดออกไปว่า “ต่อให้ท่านเก่งแค่ไหน ข้าก็จะไม่เรียนรู้จากท่าน”

ซานกู่จื่อพยักหน้า “อืม… ใช่แล้ว สำหรับคู่รักหนุ่มสาว แค่มีหนึ่งคนรู้ศิลปะการต่อสู้ เท่านี้ก็เพียงพอแล้ว”

“ท่าน!” เหยียนอี้กำลังจะทุบตีเขา “ชายชรากำลังพูดถึงเรื่องไร้สาระอะไร!”

ซานกู่จื่อรีบก้าวถอยห่างออกไปหนึ่งก้าวแล้วพูดว่า “นั่นสิ สาวน้อยขี้อาย เดือนนี้ข้าเกรงว่าจะไม่ได้ดื่มสุรามงคล ข้าเลยต้องกินหญิงชราก่อน”

เหยียนอี้ถามด้วยความสงสัย “หญิงชราอะไร”

ซานกู่จื่อมองไปทางชั้นล่าง พบหลิวจูกำลังยืนอยู่พร้อมกับไม้ค้ำในมือ กำลังทักทายพวกเขาด้วยรอยยิ้ม

เหยียนอี้ก็เข้าใจทันที

เหอซื่อและหลิวจูรักกันมานาน ในฐานะลูกสาว นางหวังว่าแม่ของนางจะมีคนรักและกลายเป็นครอบครัวเดียวกัน แม้หลิวจูจะเป็นชายโสดที่อายุมากแล้ว แต่เขาก็รักเหอซื่ออย่างสุดหัวใจ และเป็นคนที่จริงใจและซื่อสัตย์ที่สุด แน่นอนว่าเป็นคู่แต่งงานที่ดี

หลิวจู เดิมทีมาจากครอบครัวที่ยากจนและพิการ ดังนั้นผู้คนในหมู่บ้านจึงดูถูกเขาไม่น้อย

ตั้งแต่เหยียนอี้มาเป็นหัวหน้าแม่ครัวที่ภัตตาคารกุ้ยซาน นางจึงมอบหมายให้หลิวจูทำหน้าที่ซื้อผักให้ภัตตาคารกุ้ยซาน

ตอนแรกหลิวจูเก็บผักที่ปลูกในไร่เพื่อนำไปให้ภัตตาคาร ต่อมาธุรกิจของภัตตาคารดีขึ้นเลยต้องการวัตถุดิบมากขึ้นเรื่อย ๆ

หลิวจูเปลี่ยนความคิดและเริ่มต้นธุรกิจค้าส่งสินค้าเกษตร เขาไปบ้านต่าง ๆ เพื่อรวบรวมสิ่งของและขายให้กับภัตตาคารกุ้ยซาน และค่อย ๆ ทำเงินได้มากมาย

เหยียนอี้ยุ่งอยู่ในภัตตาคารกุ้ยซานทุกวัน ส่วนเหยียนจื่อก็หลงใหลในการเต้นรำหูซวน นางลงทะเบียนเรียนในชั้นเรียนเพื่อเรียนเต้นรำในเมืองใกล้เคียง เฉินฟู่เซินเป็นคนเดียวที่ไม่รู้ว่าจะไปที่ไหนตลอดทั้งวัน อยู่บ้านก็น่าเบื่อ ไม่มีสิ่งใดให้เขาทำ

โชคดีที่หลิวจูมาพบเหอซื่อและพูดคุยกับนางบ่อยครั้ง ทั้งสองคนคบกันมานาน แต่รู้สึกอายที่จะอธิบายให้ลูกสาวทั้งสองฟัง

เหยียนอี้คิดว่ามันไม่ถูกที่ครอบครัวของผู้หญิงจะเป็นฝ่ายเอ่ยปากเรื่องนี้ก่อน นางจึงวิ่งลงไปชั้นล่างและดึงหลิวจูมาเพื่อบอกใบ้

หลิวจูเก็บความกังวลนี้ไว้มาเป็นเวลานาน เหอซื่อเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว และเขาเป็นชายอายุมากที่ยังโสด เขากลัวว่าคนอื่นจะนินทา เขาจึงไม่กล้าพูดออกไป

เมื่อเห็นว่าเหยียนอี้สนับสนุน เขาพลันมีความสุขราวกับดอกไม้เบ่งบาน พร่ำสาบานว่าเขาจะดูแลแม่ของนางเป็นอย่างดี

เหยียนอี้ปิดปากก่อนจะหัวเราะออกมา “ลุงหลิว สาบานกับข้าก็ไม่มีประโยชน์อะไร หากท่านอยากเอ่ยคำหวาน ก็จงรีบกลับบ้านและไปคุยกับแม่ของข้าเถิด”

หลิวจูตอบด้วย “อื้ม!” และรีบกลับไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อเหอซื่อได้ยินคำขอของหลิวจูที่บ้าน นางก็น้ำตาไหลด้วยความปีติ มีเหตุผลอะไรที่นางจะไม่ตอบรับ?

เหยียนจื่อเพิ่งกลับถึงบ้าน หลังจากได้ยินสิ่งที่ทุกคนพูด นางก็ปรบมือเฉลิมฉลอง และขอให้ทั้งสองคนตบแต่งกันโดยไว

เหอซื่อจะแต่งงานใหม่แล้ว และไม่ต้องการเปิดเผยเรื่องนี้มากนัก แต่เหยียนอี้และเหยียนจื่อต้องการให้แม่ของพวกนางจัดงานอย่างยิ่งใหญ่ เชิญญาติและเพื่อนฝูงมาด้วย ในที่สุดงานแต่งงานก็ถูกจัดขึ้นที่ภัตตาคารกุ้ยซาน

แม้ว่าเหยียนอี้จะไม่เคยจัดการเรื่องแต่งงาน แต่เถ้าแก่เจิ้งคุ้นเคยกับการได้เห็นงานดังกล่าวเลยจัดการมันได้อย่างราบรื่น

เนื่องจากแม่ของเหยียนอี้แต่งงาน ทุกคนจึงมีความสุขมากและพยายามช่วยงานอย่างเต็มที่

ในที่สุดนางก็ได้สวมชุดแต่งงานสีแดง นางจำได้ว่าตอนที่นางทำตามคำสั่งของพ่อแม่โดยยอมแต่งงานกับเหยียนฟู่กุ้ย เขายากจนมากจนไม่มีแม้แต่ผ้าคลุมหน้า แต่ตอนนี้นางมีทุกอย่างจึงอดไม่ได้ที่จะร้องไห้ออกมา

งานแต่งงานนั้นยิ่งใหญ่มาก เหยียนอี้เชิญชาวบ้านทั้งหมดมาร่วมดื่มฉลอง ซานกู่จื่อทำหน้าที่เป็นผู้นำพิธีแต่งงาน บรรยากาศภายในงานมีชีวิตชีวาอย่างยิ่ง

หลังจากคำนับฟ้าดิน ซานกู่จื่อก็ประกาศในที่สาธารณะว่าหุ้นสี่ส่วนของภัตตาคารกุ้ยซานจะถูกส่งมอบให้กับเหยียนอี้

เหยียนอี้รู้สึกปลื้มปีติ นางยอมรับมันและสาบานในใจว่านางจะทำให้ธุรกิจของภัตตาคารกุ้ยซานเจริญรุ่งเรือง และยังภาวนาให้ซานกู่จื่อหาเงินเพิ่มได้อีกสักสองสามตำลึง

หลังจากดื่มอวยพรเสร็จ แขกก็ค่อย ๆ แยกย้ายกันไป ลำดับต่อไป เหอซื่อและหลิวจูก็ต้อง ‘หยอกล้อในห้องส่งตัว’ เหยียนจื่อยังเด็กอยู่ นางจึงตะโกนว่าอยากไปห้องส่งตัวพร้อมกับลากเสี่ยวหูเพื่อนบ้านของนางมาเล่นด้วย

ทางด้านซานกู่จื่อที่เมาเล็กน้อยหลังจากดื่มสุรา ดึงเหยียนอี้ไว้แล้วพูดว่า “สาวน้อย ตอนนี้ข้ามอบภัตตาคารแห่งนี้ให้กับเจ้าได้แล้ว!”

เหยียนอี้กล่าวว่า “ให้หุ้นสี่ส่วนแก่ข้าโดยเปล่าประโยชน์ แล้วยังท่านทำให้ข้ารู้สึกแย่กับเรื่องนี้อีกหรือเจ้าคะ”

ซานกู่จื่อหัวเราะแล้วพูดว่า “คิดว่าข้าไม่รู้จักเจ้างั้นหรือ เจ้าเป็นเด็กที่รักเงินมากที่สุด ข้ารู้ตอนนี้เจ้าก็มีความสุขมาก!”

เหยียนอี้เกาหัวตัวเองอย่างเขินอาย “อย่างไรท่านก็มีหุ้นอยู่สี่ส่วน และท่านยังคงเป็นหัวหน้าใหญ่ของข้า”

“ข้าไม่สนใจเรื่องนี้!” ซานกู่จื่อยืดเอวของเขา “ข้ายังมีกิจการที่ใหญ่กว่าต้องดูแล ข้าจะมอบภัตตาคารแห่งนี้ให้เจ้าแล้วกัน!”

เหยียนอี้ถามด้วยความสงสัย “ท่านมีกิจการอื่นที่ใดอีกบ้าง”

ซานกู่จื่อแสร้งทำตัวลึกลับ ชี้ขึ้นไปบนฟ้า แล้วชี้ลงที่พื้น ก่อนจะยกนิ้วขึ้นและแตะหน้าผากของเหยียนอี้

เหยียนอี้ยิ้มขำ “ท่านคงไม่ได้จะบอกว่าทุกสิ่งในโลกนี้เป็นทรัพย์สินของท่านใช่หรือไม่”

ซานกู่จื่อกล่าวว่า “ไม่ใช่ของข้า แต่ต้องเป็นของเขา…”

“เขาคือใคร?” เหยียนอี้ถามอย่างใคร่รู้

“เขาเป็นใคร?” ซานกู่จื่อยิ้มจนเห็นฟัน “ข้าจะรู้ได้อย่างไร”

ผู้ชายคนนี้เมามากแล้วจริง ๆ และเริ่มพูดจาไม่รู้เรื่อง “ข้าอยากเป็นคนที่มีชื่ออยู่ในประวัติศาสตร์… กิจการของข้า… คือโลกา…”

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 36 เหอซื่อแต่งงาน(รีไรท์)"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved