cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 30 อันธพาลข้างถนน(รีไรท์)

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
  4. บทที่ 30 อันธพาลข้างถนน(รีไรท์)
Prev
Next

บทที่ 30 อันธพาลข้างถนน(รีไรท์)

เรื่องราวที่ชายสวมหมวกพูดฟังดูเป็นเรื่องไร้สาระ แต่เมื่อชาวบ้านคิดเกี่ยวกับมันอย่างรอบคอบก็ดูเหมือนว่ามันเป็นความจริง หลังจากกินข้าวโพดกรอบ พวกเขาก็รู้สึกว่าอาหารอื่นไม่รสโอชะเท่านี้ อีกทั้งยังอยากกลับมาซื้อทุกวัน หากไม่ใช่การเสพติด แล้วจะเรียกว่าอะไร

หลังจากพิจารณาอย่างถี่ถ้วน ดูเหมือนว่าท้องของตนจะอึดอัดเล็กน้อย ถึงแม้ว่าจะไม่ปวด แต่ก็รู้สึกอยากจะผายลมเพื่อปลดปล่อยทุกข์อยู่บ้าง

มียาพิษในข้าวโพดกรอบจริงหรือ?

ในเวลานี้มีผู้คนอยู่มามุงดูมากขึ้นเรื่อย ๆ รวมถึงร้านขายขนมขบเคี้ยวหลายแห่งในเมือง

ตั้งแต่เหยียนอี้เริ่มขายวุ้นและข้าวโพดกรอบ ธุรกิจของร้านขนมอื่น ๆ ก็แย่ลงเรื่อย ๆ ลูกค้าไปที่ถนนเพื่อซื้อของจากครอบครัวของเหยียนอี้ หากยังคงเป็นเช่นนี้ต่อไป เกรงว่าร้านค้าเหล่านั้นจะต้องปิดตัวลง

ดังนั้นการที่เหยียนอี้ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบาก จึงเป็นที่โปรดปรานของเหล่าเถ้าแก่และเด็กในร้านเป็นอย่างมาก

ทันทีที่ชายสวมหมวกตะโกน คนเหล่านี้ก็ตะโกนตามและชี้ไปที่เหยียนอี้ พวกเขากระตือรือร้นที่จะทำให้นางถอนตัวออกจากแผง และไม่สามารถแข่งขันกับพวกเขาเพื่อทำธุรกิจได้อีกต่อไป

“เจ้า… เจ้ากำลังพูดเรื่องเหลวไหล!” เหยียนอี้เห็นว่าสถานการณ์ไม่ถูกต้อง นางยังคงยืนกรานและตะโกนเสียงดัง

ชายสวมหมวกเยาะเย้ย “เจ้าบอกว่าเจ้าเป็นเด็กสาวตัวเล็ก ๆ เจ้าได้เรียนรู้การทำอาหารให้ฝีมือดีเช่นนี้มาจากที่ใด? หากเจ้าไม่ได้เพิ่มอะไรลงไป เจ้าจะมีสิ่งที่อร่อยเช่นนี้ได้อย่างไร? มันคือมนตร์ดำเป็นแน่!”

เหยียนอี้ฟังคำพูดพล่อย ๆ ของเขาที่อุกอาจมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อรู้ว่ามันเป็นไปไม่ได้ที่จะอธิบายเหตุผลกับคนเหล่านี้ นางเพียงแค่พูดว่า “ไปหาผู้ตรวจการและฟ้องข้าเลย แม้ข้าจะต้องไปศาล ข้าก็ไม่กลัวการใส่ร้ายของเจ้า!”

เฉินฟู่เซินดึงแขนเหยียนอี้และพูดด้วยน้ำเสียงต่ำลง “เจ้ากำลังเผชิญหน้ากับกฎหมายนะ เมื่อถูกกล่าวหาขึ้นศาล เจ้าจะต้องโดยโบยเสียก่อน”

เหยียนอี้แทบหายใจไม่ออกหลังจากได้ยินสิ่งนี้ นี่มันกฎหมายบ้าบออะไร?

นางกัดฟันและพูดว่า “ข้ากลัวว่าข้าจะโมโหตายเสียก่อน”

อย่างไรก็ตามเฉินฟู่เซินไม่ต้องการให้ชายคนนั้นไปฟ้องผู้ตรวจการ เขาอาจมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทางการ ถึงไม่กลัวที่จะขึ้นศาลเลย เขามีความสุขที่ได้ยินสิ่งนี้เสียด้วยซ้ำ ทันใดนั้นชายคนนั้นก็เข้ามาดึงเหยียนอี้ “สาวน้อย เช่นนั้นก็ไปศาลกับข้ากัน!”

เหยียนอี้ถูกจับได้ด้วยมือของเขา นางรู้สึกว่ามือของนางหยาบและสกปรก ทำเอาคลื่นเหียนไม่น้อย

ด้วยดวงตาที่ลุ่มลึกและมือที่รวดเร็วของเฉินฟู่เซิน เขาคว้าไหล่ของชายคนนั้นเอาไว้ได้ และใช้กลวิธีเล็กน้อยเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว

ชายคนนี้คุ้นเคยกับชีวิตอันธพาลข้างถนนจึงมีไหวพริบอยู่บ้าง เขาหมุนตัวไปรอบ ๆ แล้วแกว่งกำปั้นซ้ายพุ่งเข้าไปต่อยใบหน้าเด็กหนุ่ม

เฉินฟู่เซินคว้ากำปั้นของเขาด้วยมือข้างหนึ่ง สกัดขาขวาให้ล้มลงบนพื้นอย่างแรง

นี่คือ ‘สิบแปดล้มจับเสื้อผ้า’ ในเส้าหลินกังฟู มันเป็นทักษะระดับเริ่มต้นของผู้ฝึกศิลปะการต่อสู้ในเจียงหู มิได้แปลกตาเท่าไรนัก

อย่างไรก็ตามชายคนนี้ไม่เคยเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้อย่างจริงจัง เขาจะเข้าใจหมัดที่ยืดหยุ่นและการเคลื่อนไหวที่รวดเร็วของเฉินฟู่เซินได้อย่างไร?

ยังไม่ทันที่เขาจะลุกขึ้นและต่อว่า เฉินฟู่เซินก็เหยียบไปที่หน้าอกของเขาซึ่งทำให้เขาถึงกับกัดฟันด้วยความเจ็บปวด

“ยกโทษให้ข้าเถิด ๆ ข้ายอมแล้วท่าน!” ชายสวมหมวกนอนอยู่บนพื้นโดยที่ไม่สามารถเคลื่อนไหวได้ เขาหวาดกลัวจนเสียขวัญและร้องขอความเมตตา

ในฝูงชน ชายร่างกำยำในเสื้อคลุมสีน้ำตาลสั้นมองชายสวมหมวกนอนอยู่บนพื้นแล้วตะโกนว่า

“เจ้าไม่เพียงแต่ผสมพิษลงในอาหาร แต่ยังทำร้ายผู้คนด้วย! สวรรค์ จะมีใครในโลกที่เลวร้ายได้ถึงเพียงนี้บ้าง”

เฉินฟู่เซินพ่นลมหายใจ ยกเท้าของเขาออก

ชายบนพื้นกุมหน้าอกตัวเองลุกขึ้นและกรีดร้องออกมา คราวนี้เขาไม่ได้เสแสร้ง มันเจ็บจริง ๆ

ชายกำยำกลัวเล็กน้อยและไม่กล้าที่จะออกไปจากฝูงชน เขาเพียงขยิบตาให้ชายบนพื้นเท่านั้น

ชายคนนั้นเข้าใจแล้วนอนลงบนพื้นต่อ กุมหน้าอกและท้องตัวเอง พยายามทำให้ดูเหมือนว่ายังไม่อยากตาย

เหยียนจื่อมีสายตาที่เฉียบแหลมและจำได้ว่าชายร่างกำยำคือ สวี่ต้าเฟิง จากหมู่บ้านชูที่อยู่ถัดไป ภรรยาของเขาเปิดร้านน้ำชาในเมือง นางจึงกระซิบบอกเรื่องนี้กับเหยียนอี้

เหยียนอี้ถ่มน้ำลาย “เหอะ! เขาเกลียดที่ข้าแซงธุรกิจของเขาสิท่า!”

เฉินฟู่เซินได้ยินเช่นนั้นจึงเอื้อมมือไปสกัดจุดชายบนพื้น

ชายคนนั้นรู้สึกได้ทันทีว่าคันที่ด้านหลังและมึนงง เขาวิตกมากจนไม่สามารถแม้แต่จะเกามันได้ และลืมอาการปวดท้องเสียสนิท

แต่ในสายตาของทุกคนรอบตัว ภาพที่เขากลิ้งไปมาบนพื้นนั้นช่างดูน่าขัน

เฉินฟู่เซินกระซิบกับชายผู้นั้นว่า “ข้าสกัดจุดเทียนจงและจุดกวานหยวน[1] ของเจ้า รู้สึกคัน มึนงงบ้างหรือไม่”

ชายบนพื้นพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

เฉินฟู่เซินกล่าวต่อว่า “จุดโทษทั้งสองนี้เป็นจุดตายของผู้คน หลังจากถูกสัมผัสพวกเขาจะรู้สึกคันและมึนงงมากขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งค่อย ๆ หมดสติ กลายเป็นอัมพาตและตายในที่สุด”

ชายสวมหมวกกัดฟัน “เล่นกลอะไรของเจ้า คิดว่าข้าจะเชื่อ…”

เฉินฟู่เซินพูดด้วยน้ำเสียงเบา ๆ ว่า “จะเชื่อหรือไม่ก็ช่าง แต่เจ้ารู้สึกแน่นหน้าอกหรือไม่”

ชายสวมหมวกแตะหน้าอกของเขาฃ หายใจเข้าลึก ๆ และแล้วก็ตามที่คาดไว้ เขารู้สึกขาดอากาศหายใจและเวียนศีรษะ

เสียงของเฉินฟู่เซินเย็นชา ไม่แสดงสีหน้าใด มันทำให้ผู้คนรู้สึกได้ว่าเขาน่ากลัวเพียงใด เลยต้องเชื่อในที่สุด

“ท่าน… โปรดไว้ชีวิตข้าด้วย!” ชายสวมหมวกกลัวจนปัสสาวะราดพื้นเปียกไปหมด “เป็นสวี่ต้าเฟิง เป็นเขาที่สั่งข้า! ข้าไม่เกี่ยว!”

เฉินฟู่เซินส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา “บอกทุกคนว่าเกิดอะไรขึ้น และข้าจะช่วยเจ้า”

“ตกลง… ตกลง!”

ชายสวมหมวกพยักหน้าตกลง

จากนั้นเฉินฟู่เซินก็จิ้มนิ้วใส่เขาแล้วเดินกลับไปที่เหยียนอี้และขยิบตาใส่นาง

ชายสวมหมวกยืนขึ้น อับอายมาก เขาโค้งคำนับผู้คนและกล่าวว่า “ทุกท่าน… ข้าเฉินอาซาน ไม่สมควรเป็นคน! คราวนี้ที่ข้าเล่นละครโง่ ๆ ที่นี่ทั้งหมดเป็นเพราะได้รับคำสั่งให้ใส่ร้ายเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ของตระกูลเหยียน!”

จากนั้นผู้คนก็รู้ว่าชื่อจริงของชายคนนี้คือเฉินอาซาน

เขาพูดต่อ “ไม่มีอะไรผิดปกติกับอาหารที่ขายโดยสาวตระกูลเหยียนทั้งนั้น เป็นข้าใส่ร้ายนาง! ข้าเบื่อที่จะเล่นละครแล้ว ข้ามันไม่สมควรเป็นคนจริง ๆ ข้ามันไม่ใช่คน!”

ด้วยเหตุนี้เขาจึงตบไปที่ใบหูทั้งสองข้างของตัวเอง

เหยียนอี้พ่นลมหายใจเย็นชา “หากเจ้าต้องการขอโทษ เจ้าควรบอกผู้บงการเบื้องหลัง และขอให้เขาคุกเข่าต่อหน้าข้าและน้องสาวของข้า เพื่อที่เราจะได้ระบายความโกรธของเราบ้าง!”

“สวี่ต้าเฟิงผู้นั้น!” เฉินอาซานชี้ไปที่ชายร่างกำยำในฝูงชนและพูดต่อ “เขาโกรธที่ผู้หญิงคนนั้นแย่งลูกค้า และให้เหรียญเงินสองเหรียญแก่ข้า เขาขอให้ข้าแสร้งทำเป็นป่วย!”

สวี่ต้าเฟิงพุ่งออกมาจากฝูงชนและสาปแช่ง “เฉินอาซานอย่าพูดเรื่องไร้สาระ ข้าไปรู้จักเจ้าตั้งแต่เมื่อใด”

เฉินอาซานร้องว่า “ท่านพอเถอะ นี่คือจุดจบของเรื่องแล้ว อย่าโกหกอีกเลย เงินที่ให้ข้า แม้จะเป็นเรื่องยากจริง ๆ ที่จะได้มา ข้าไม่ต้องการมันแล้ว!”

หลังจากนั้นเขาก็โยนเงินลงพื้นและวิ่งหนีไปโดยพลัน

สวี่ต้าเฟิงไม่ได้ปากโป้งเช่นเฉินอาซาน อีกทั้งตอนนี้ทุกคนกำลังจ้องมองเขา เขาจะสามารถพูดอะไรได้อีก?

แม้ว่าเขาต้องการโต้เถียง แต่ก็ไม่มีใครเชื่อเขาอยู่ดี

เขาเกรงว่าหลังจากวันนี้คงจะไม่มีใครไปอุดหนุนร้านน้ำชาของภรรยาเขาอีกแล้ว

สวี่ต้าเฟิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มหัวและเดินไปหาเหยียนอี้ ก่อนจะกำหมัดโค้งคำนับ “สกุลเหยียน วันนี้ข้าทำผิดไปแล้ว ข้าจะจดจำไว้! แต่ใต้เข่าของลูกผู้ชายมีทองคำค้ำอยู่ ข้าจะไม่คุกเข่าให้เจ้า!”

เหยียนอี้กล่าวว่า “ข้าก็ไม่อยากให้เจ้าคุกเข่าแล้วเช่นกัน ไปซะ!”

สวี่ต้าเฟิงไม่ได้เอ่ยสิ่งใดอีกและจากไป

เมื่อละครจบลง ฝูงชนก็แยกย้ายกันไปในไม่ช้า

เหยียนจื่อกุมข้อมือตัวเองที่ได้รับบาดเจ็บและยังคงโกรธ “ท่านพี่ เหตุใดไม่ดุด่าเขา! ข้าโกรธเหลือเกิน!”

เหยียนอี้กล่าวว่า “ข้าดุเขาไปก็เสียลิ้นเปล่า”

เฉินฟู่เซินกล่าวพร้อมกับรอยยิ้มลึกล้ำว่า “เจ้าช่างใจดีเหลือเกิน”

เหยียนอี้เก็บแผงขาย ขอให้เหยียนจื่อช่วยดันเกวียน นางยิ้มให้เฉินฟู่เซิน “ขอบคุณมากในวันนี้ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าเก่งถึงเพียงนี้”

เฉินฟู่เซินตอบว่า “ในช่วงปีแรก ๆ ข้าไม่มีความสามารถที่จะจัดการอันธพาลพวกนี้ แต่หลังจากนั้นข้าก็ได้เรียนรู้มาเรื่อย ๆ จนรู้วิธีแล้ว”

เมื่อทั้งสามคนกลับบ้าน เหอซื่อรออยู่ที่ประตูอย่างใจจดใจจ่อ

เมื่อเห็นว่าเป็นเวลานานแล้วแต่ลูกสาวของนางยังไม่กลับมา เหอซื่อจึงกังวลมาก ลังเลว่าจะไปหาหลิวจูและออกไปตามหาลูกสาวดีหรือไม่

เหยียนจื่อกระโจนใส่เหอซื่อและพูดเจื้อยแจ้วเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในตลาดวันนี้

นางอธิบายถึงเหตุการณ์อันตรายที่เกิดขึ้น และบอกว่าเฉินอาซานเป็นโจรที่สวี่ต้าเฟิงจ้างมา ก่อนจะสวมบทบาทเป็นสวี่ต้าเฟิงที่มีร่างกายกำยำราวกับยักษ์

เหยียนอี้พูดไม่ออก “เหยียนจื่อ มันคงน่าเสียดายหากเจ้าไม่ได้เล่าเรื่องด้วยตัวเอง”

เหอซื่อรู้จักสวี่ต้าเฟิง นางรู้ว่าแม้เขาจะเป็นคนหยิ่งผยองเล็กน้อย แต่เขาก็ไม่ใช่คนที่ชั่วร้าย เหตุการณ์ในวันนี้อาจเป็นเพียงความผิดพลาด นางอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจกับหลิวจู จิตใจคนยากแท้หยั่งถึง

เหยียนจื่อกล่าวว่า “ท่านแม่ หากไม่ใช่เพราะเฉินฟู่เซินในวันนี้ ข้ากับพี่สาวคงถูกคนเลวจับและคงต้องอับอายขายหน้าเป็นแน่”

เหอซื่อพยักหน้าอย่างซาบซึ้งใจกับเฉินฟู่เซิน เหยียนอี้เองก็ดูซาบซึ้งใจเช่นกัน

เฉินฟู่เซินรู้สึกเขินเล็กน้อย “ข้าหิวแล้ว ท้านป้าเหอมีอะไรให้กินหรือไม่ขอรับ”

“มี ๆ ข้าเห็นว่าเลยเวลามื้อเย็นแล้วแต่พวกเจ้าก็ยังไม่กลับมา ข้าจึงอุ่นในหม้อไว้ให้แล้ว” เหอซื่อรีบลุกขึ้นและนำอาหารมาให้ทั้งสามคน

เมื่อเหยียนจื่อเห็นขนมข้าวโพด ขนมปังข้าวโพด โจ๊กข้าวโพด และข้าวโพดกรอบหลายแท่งที่ขายไม่หมดในตอนเช้า นางก็เบ้ปากทันที

เหยียนอี้ยิ้ม “เจ้าไม่ชอบข้าวโพดหรือ? เหตุใดเจ้าดูไม่มีความสุข?”

“ข้าเบื่อที่จะกินข้าวโพดทุกวันแล้ว! ท่านพี่ ข้าอยากกินไก่ย่าง” เหยียนจื่อกล่าว

เหยียนอี้กล่าวต่อว่า “วันนี้แม่ไม่ได้ทำไก่ย่าง พรุ่งนี้ค่อยกินแล้วกัน”

เหอซื่อยังกล่าวอีกว่า “มีปลาตุ๋นครึ่งชามอยู่ในครัว แม่จะเอามาให้”

เมื่อเหยียนจื่อได้ปลาตุ๋นในน้ำปรุงรสสีน้ำตาล นางไม่พูดอะไรอีก แต่ปากเล็ก ๆ ของนางคว่ำลง เห็นได้ชัดว่านางไม่พอใจ หัวใจยังคงวนเวียนอยู่ที่ไก่ย่าง

หลังอาหารเย็น เหยียนอี้รู้สึกเหนื่อยล้าจึงรีบกลับไปที่ห้อง ก่อนจะเอนตัวนอนลง

ก่อนที่นางจะนอนหลับ เหอซื่อปลุกนางขึ้นมา เมื่อพูดถึงทักษะการทำอาหารของเหยียนอี้ ร้านอาหารหลายแห่งในเมืองต้องการจ้างนางเป็นแม่ครัวด้วยเงินเดือนที่สูงเป็นแน่

เหยียนอี้คิดว่าธุรกิจของนางกำลังดีขึ้นในขณะนี้ แต่นางสามารถทำกำไรได้เพียงเล็กน้อยโดยการออกไปตั้งแผงขายของทั้งวัน อีกทั้งมันยังไม่มั่นคงพอ ด้วยนางไม่อาจขายของที่แผงได้ในสภาพอากาศที่มีลมแรงและฝนตก

ยิ่งไปกว่านั้นนางต้องตื่นก่อนรุ่งสางทุกวันเพื่อเตรียมอาหารให้พร้อม เมื่อเห็นดวงตาของเหอซื่อเป็นเบ้าลึกลงไปเพราะความเหนื่อยล้า นางก็คิดได้ว่ามันไม่ควรเป็นเช่นนี้ในระยะยาวจริง ๆ

แต่ในใจนางรู้สึกเสมอว่าการเป็นนายตนเองย่อมดีกว่าเป็นลูกน้องทำงานให้คนอื่น ดังนั้นหากนางต้องการหารายได้มากขึ้น คงง่ายกว่าถ้าตั้งร้านและเป็นเจ้าของร้านเสียเอง

เหอซื่อรู้ว่าความคิดของลูกสาวของนางช่างกว้างไกล แน่นอนว่าเหอซื่อไม่สามารถโน้มน้าวนางได้ จึงไม่ได้พูดถึงมันอีก

[1] ตำแหน่งสกัดจุดของจีน

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 30 อันธพาลข้างถนน(รีไรท์)"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved