ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 18 ปัญหาที่ตามมา(รีไรท์)
บทที่ 18 ปัญหาที่ตามมา(รีไรท์)
เช้าวันรุ่งขึ้นทั้งสามตื่นแต่เช้าตรู่ พวกนางกินเพียงแค่วอวอโถวประทังความหิว แบกตะกร้าไว้บนหลัง ลงกลอนประตูและเดินไปที่เมืองด้วยกัน
เหยียนจื่อผู้เข้าเมืองเป็นครั้งแรกนั้นตื่นเต้นมาก ไม่ว่านางจะไปที่ไหน นางก็แทบรอไม่ไหวที่จะดูสิ่งต่าง ๆ หากเหยียนอี้และเหอซื่อไม่ดึงนางไป เที่ยงวันก็คงจะไปไม่ถึงไหนเป็นแน่
เหอซื่อยังคงโพกผ้าไว้บนหัวและสวมใส่ชุดเดิม นางเดินตามเหยียนอี้ไปยังที่ที่ขายวุ้นเมื่อวานนี้
“ท่านแม่ เหยียนจื่อ แค่เอาตะกร้ามาไว้ตรงนี้ แล้วคอยดูข้าให้ดีนะ!” เหยียนอี้วางตะกร้าแล้วม้วนแขนเสื้อ เผยให้เห็นท่อนแขนบาง ๆ นางยืนอยู่ที่มุมถนน ร้องตะโกนว่า
“วุ้นจ้า! วุ้นมาแล้ว! เมื่อวานใครไม่ได้ซื้อรีบเร่เข้ามา! วันนี้ข้ามีแค่ห้าสิบชิ้นเท่านั้น ถ้าท่านมาช้ามันจะหมดเสียก่อนนา!”
ด้วยเสียงตะโกน ผู้คนบนถนนก็วิ่งเข้ามา หากมองจากด้านบนคงจะเห็นคนหลายคนวิ่งกรูไปในทิศทางเดียวราวกับแมวที่ไล่ล่าหนู แน่นอนว่าแมวนำอยู่ข้างหน้า
“ท่านแม่คอยรับเงิน! ส่วนเหยียนจื่อให้วุ้นแก่พวกเขานะ!” เหยียนอี้ยืนสู้แสงแดด เผยรอยยิ้มกว้างออกมา
เหอซื่อซึ่งเก็บเงินเป็นครั้งแรกกลัวที่จะทำผิดพลาด นางนับเงินอย่างระมัดระวัง คิ้วของนางขมวดกันแน่น ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองเหยียนอี้และพูดว่า “อี้เอ๋อร์ แม่กลัวว่าจะทำผิดพลาด ลูกมาดูเถิดว่าถูกต้องหรือไม่!”
แต่เหยียนอี้โบกมือไปมาแล้วพูดว่า “ท่านแม่ไม่ต้องกลัวเลย! ท่านต้องดูแลเงินทั้งหมดของเราในอนาคต ข้าจะทำอย่างไรหากท่านแม่ยังกลัวอยู่เจ้าคะ”
หลังจากนั้นนางก็เดินหน้าขายต่อไป แล้วสอนวิธีเก็บเงินและบันทึกรายการลงสมุดบัญชีให้เหอซื่อ เหยียนอี้มีความสุขมากเมื่อนางมองไปยังเหอซื่อที่กำลังเก็บเงินอย่างจริงจังและพูดคุยกับชาวบ้าน นางมีความสุขยิ่งกว่าเมื่อได้ดูชาวบ้านกินวุ้นที่พวกนางทำกันเอง รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของนางไม่จางหาย
ในเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วยาม วุ้นห้าสิบชิ้นก็หายเกลี้ยงและถูกแทนที่ด้วยเหรียญทองแดงหนัก เมื่อเห็นว่าถุงเงินเกือบเต็ม เหอซื่อก็ยิ้มแล้วพูดว่า “อี้เอ๋อร์ เราหาเงินได้ เราหาเงินได้จริง ๆ!”
เหยียนอี้เดินไปหาแม่และน้องสาวก่อนจะตบไหล่พวกเขา นางหยิบตะกร้าแล้วพูดว่า “ใช่เจ้าค่ะ เราทำเงินได้ หลังจากนี้เราทำได้มากกว่านี้อีก! กลับบ้านกันเถิดเจ้าค่ะ วันนี้ขายเสร็จเร็วนัก!”
หลังจากนั้น เหยียนอี้ก็มาขายวุ้นทุกวัน ภายในครึ่งเดือนผู้คนในเมืองอู่ซานก็รู้กันทั่วว่าเด็กสาวตัวเล็ก ๆ ชื่อเหยียนอี้เป็นคนขายวุ้นที่ทั้งเย็นและสดชื่น หนึ่งชามขายเพียงห้าเหวินเท่านั้น ไม่ว่าใครก็สามารถซื้อได้
วันหนึ่งเหอซื่อและลูกสาวทั้งสองไปที่ประตูหมู่บ้าน พวกนางพูดคุยและหัวเราะกัน ที่นั่นพวกนางก็ได้พบกับแม่เฒ่าหลี่ซึ่งไม่ได้พบเจอมานานแล้ว นางยืนอยู่ตรงนั้นด้วยไม้ค้ำยัน นางมองสามแม่ลูกพร้อมกับรอยยิ้มที่ประดับอยู่บนใบหน้าของนาง
ทว่าขณะเดินใกล้เข้ามา รอยยิ้มดูแปลกตาออกไป นางดึงแขนเหอซื่อไว้ เม้มริมฝีปากที่แห้งแตกของตัวเองก่อนจะพูดด้วยรอยยิ้มพิลึก “ฟางเอ๋อร์ ข้า…”
เมื่อมองดูสีหน้าของแม่เฒ่าหลี่ เหอซื่อรู้สึกประหม่าเล็กน้อย เหยียนอี้รีบตรงเข้าไปแล้วกล่าวอย่างเย็นชา “ท่านย่า พูดในสิ่งที่ท่านอยากจะพูดเถิดเจ้าค่ะ! ท่านไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนี่!”
แน่นอนว่าแม่เฒ่าหลี่ก็ได้ยินเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองเช่นกัน นางมองตรงไปที่เหยียนอี้แล้วรีบก้าวไปข้างหน้าเพื่อสัมผัสศีรษะของหลานสาว นางใช้มือที่หยาบกร้านลูบพวงแก้ม พาให้ร่างของเหยียนอี้สั่น หลบสัมผัสโดยไม่รู้ตัว
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของเหยียนอี้ แม่เฒ่าหลี่ก็ชักมือของนางกลับ ลูบกับเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นพลางหัวเราะออกมา
“ฟางเอ๋อร์ กลับบ้านเถิด ข้าได้ทำความสะอาดห้องให้เจ้าและลูกสาวทั้งสองไว้เรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ฟู่กุ้ยเอ๋อร์พูดถึงเจ้าทุกวัน เขาบอกว่าต้องการอยู่กับเจ้าให้ดีในอนาคต ตราบใดที่เจ้าพาลูกกลับมา!”
ด้วยเหตุนี้แม่เฒ่าหลี่จึงกัดฟัน ดึงสร้อยข้อมือที่นางนำมาจากข้อมือของเหอซื่อออกมา นางเช็ดมันด้วยแขนเสื้อ ยื่นให้เหอซื่อ คลี่ยิ้มเผยฟันเหลืองแล้วพูดว่า
“ฟางเอ๋อร์ ข้าจะคืนสร้อยข้อมือนี้ให้เจ้า มาอยู่กับฟู่กุ้ยเอ๋อร์อีกครั้งเถิด ในภายภาคหน้าเราจะยังคงเป็นครอบครัวเดียวกัน!”
เหอซื่อเห็นทัศนคติของแม่เฒ่าหลี่ นางรู้ว่าแม่เฒ่าหลี่มีชื่อเสียงในด้านความตระหนี่ เพียงแค่เห็นเงินนางก็ตาลุกวาวแล้ว วันนี้นางคงเห็นว่าลูก ๆ นางทำเงินได้จึงต้องการจะพากลับบ้าน!
ก่อนที่เหยียนอี้จะพูดสิ่งใดออกไป เหอซื่อก็ปฏิเสธสร้อยข้อมืออย่างตรงไปตรงมา นางมองไปที่ใบหน้าของแม่เฒ่าหลี่ที่ยิ้มแย้มอยู่ จากนั้นกล่าวออกไปด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“เราสามคนจะไม่อยู่กับฟู่กุ้ย ตกลงกันแล้วมิใช่หรือว่าน้ำในบ่อจะไม่รบกวนน้ำในแม่น้ำ ข้าพาอี้เอ๋อร์และเหยียนจื่อออกจากครอบครัวเหยียนของท่าน ตอนนี้ข้าจะไม่กลับไปอีกแล้ว!”
เหยียนอี้และเหยียนจื่อยืนอยู่ข้างหลัง เป็นครั้งแรกที่พวกเขาเงยหน้าขึ้นมองเหอซื่อด้วยความชื่นชม หลังจากที่นางพูดเช่นนี้ เหยียนอี้อยากจะกระโดดขึ้นแล้วปรบมือให้ แต่ตอนนี้นางต้องอดทนไว้ก่อน
“ฟางเอ๋อร์เจ้ากำลังพูดถึงอะไร? พวกเจ้าจะอยู่กันแค่สามคนได้อย่างไร? ฟู่กุ้ยเอ๋อร์ก็เป็นพ่อของเด็ก ๆ เจ้าจะเนรคุณในฐานะแม่ได้อย่างไร? เจ้าไม่อยากปล่อยให้เด็ก ๆ กลับไป ไม่อยากให้ลูกสาวจดจำพ่อของพวกนางอย่างนั้นหรือ”
ด้วยคำพูดเหล่านี้ แม่เฒ่าหลี่เดินไปที่เหยียนอี้และเหยียนจื่อด้วยไม้ค้ำยันและดึงเหยียนจื่อเพื่อลากกลับบ้าน
“เข้าใจเสียทีท่านย่า ข้าไม่ไป ข้าไม่อยากกลับไปบ้านเหยียน นั่นไม่ใช่บ้านของข้า!” เหยียนจื่อถูกแม่เฒ่าหลี่ลากไป นางดิ้นรนอย่างสิ้นหวัง ทิ้งตัวลงบนพื้น จากนั้นนางก็หมายจะกัดแม่เฒ่าหลี่