ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 16 หาวิธีใหม่(รีไรท์)
บทที่ 16 หาวิธีใหม่(รีไรท์)
ทอดตาไปยังวุ้นที่ตกลงบนพื้น เหยียนอี้ได้แต่ถอนหายใจอยู่เพียงลำพัง นางยกสองมือปิดใบหน้า สูดหายใจเข้าลึก ๆ แล้วนั่งยองลงเก็บหยิบวุ้นใส่ชามทีละนิด
“มาลองอีกสักรอบ! ข้าไม่เชื่อว่าของอร่อย ๆ เช่นนี้จะขายไม่ได้!”
เหยียนอี้โยนวุ้นบนพื้นลงในถังขยะแล้ววิ่งกลับไปที่แผงอีกครั้ง คราวนี้นางถือตะกร้าไว้บนหลัง มุ่งมั่นที่จะขายไปเดินไป จะเอาแต่ขายอยู่ที่มุมถนนที่เดียวไม่ได้!
บนถนนสายหลักสามสายของเมืองอู่ซาน ปรากฏร่างเหยียนอี้วิ่งไปทั่ว นางตะโกนว่า “วุ้นจ้า วุ้นเย็นสบาย สดชื้นสดชื่น ของวิเศษบรรเทาความร้อน!”
“เพียงแค่ลองชิม แล้วท่านจะรู้สึกสดชื่น!”
ไม่นานหลายคนหันไปมองนาง แต่ก็ไม่มีใครซื้อ เหยียนอี้เหงื่อออกจนตัวเปียกโชก นางพบที่เย็นสบายจึงนั่งลงเช็ดเหงื่อบนหน้าผากตนเอง
มองไปที่ตะกร้าที่เต็มไปด้วยวุ้นแล้วก็อดถอนหายใจไม่ได้ “หากยังขายไม่ได้อีก วุ้นจะกลายเป็นน้ำและเสียรสชาติเอา!”
นางใช้สายตามองไปยังถนนที่พลุกพล่าน วางคางไว้บนหัวเข่า ดวงตาไร้การขลับประกายใดให้เห็นอีกต่อไป เหยียนอี้ทำเพียงขมวดคิ้ว พึมพำด้วยน้ำเสียงเสียงต่ำ “เหตุใดพวกเขาจึงไม่ซื้อ? หากไม่ลิ้มรสมัน พวกเขาจะรู้ได้อย่างไรว่ามันไม่อร่อย!”
เหยียนอี้ก้มลงหยิบชามออกมาอย่างระมัดระวัง กลืนน้ำลายที่อยู่เต็มปากแล้วบิดเสื้อผ้าที่เปียกไปด้วยเหงื่อพลางพึมพำ “กินแค่ชามเดียว ข้าก็สามารถบรรเทาความร้อนได้”
หลังจากนำวุ้นเข้าปาก รสชาติของสะระแหน่ก็ฟุ้งไปทั่วโพรงจมูก ลำคอเย็นสบาย หลังจากกินเข้าไปอีกคำหนึ่ง นางก็รู้สึกเย็นสบายไปทั่วร่างกาย เหยียนอี้หยิบก้อนวุ้นพลางถอนหายใจ นางคิดไม่ตกว่าจะขายวุ้นได้อย่างไร
เดี๋ยว! นางจะขายมันได้อย่างไรน่ะหรือ? หากนางตั้งแผงลอยแล้วเล่าเรื่องราวและตำนานระหว่างการขายล่ะ!
ราวกับว่าถูกสายฟ้าฟาด เหยียนอี้ลุกขึ้นยืน เช็ดมือบนเสื้อผ้าป้อย ๆ เมื่อมองไปที่ตะกร้าที่เต็มไปด้วยวุ้น นางดูเหมือนจะเห็นความหวังอีกครั้ง!
เหยียนอี้เริ่มต้นใหม่อีกครั้ง นางเดินไปที่มุมถนนพร้อมกับตะกร้าวุ้น แล้วหันหลังกลับไปหาพื้นที่สูง ๆ เพื่อไปยืนตรงนั้น นางวางตะกร้า ปรบมือพลางตะโกนไปที่ถนน
“ทุกคนมาดูนี่กันเถิด มีสิ่งใหม่ ๆ ให้ชม!”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนแน่ มันถูกทิ้งไว้โดยบรรพบุรุษของเมืองอู่ซาน และวันนี้มันกลับมาที่เมืองอู่ซานแล้ว!”
“มาดูกันดีกว่า ลองมาดูกัน!”
เสียงร้องดังเหมือนกลอง ดึงความสนใจของผู้คนได้!
หลายคนมองมาที่เหยียนอี้ทีละคน เหยียนอี้ปรบมือ เบิกดวงตากว้างขึ้น และยกมุมปากขึ้นเล็กน้อย นางเดินไปรอบ ๆ แล้วพูดว่า “นี่เจ้ารู้ไหม? เมืองอู่ซานมีเจ้าเมืองมาโดยตลอด!”
“ข้ารู้ เจ้าเมืองคนนี้เป็นบรรพบุรุษของเมืองอู่ซาน!” มีคนตะโกนกลับมา
“ถูกต้อง สมัยเจ้าเมืองสร้างเมืองอู่ซาน เกิดปัญหามากมายนับไม่ถ้วน ด้านหลังของเมืองถูกล้อมรอบด้วยภูเขา ภูเขาที่ให้ความเย็นในฤดูร้อน หรือที่เรียกว่าสวรรค์บนดินอย่างไรล่ะ”
“แต่เป็นที่รู้กันดีว่าเมืองอู่ซานขาดแคลนน้ำ!” เหยียนอี้ตบหัวของนาง ขมวดคิ้ว แล้วแสร้งทำเป็นรำคาญใจ
ชายชราที่อยู่ด้านล่างพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ยิ่งเป็นฤดูร้อนยิ่งขาดแคลนน้ำเข้าไปอีก ไม่มีน้ำก็เหมือนตายนั้นแหละ ร้อนเกินกว่าที่ใครจะอยู่ได้!”
หลังเหยียนอี้ได้ยินเสียงตอบรับจากชายชรา นางแอบดีใจ นางเลยรีบกล่าวต่อว่า
“ไม่! ในตอนนั้นก็ร้อนเช่นนี้เหมือนกัน เจ้าเมืองของเราเป็นคนอ้วนมาก ยามฤดูร้อนมาเยือน เหงื่อกาฬก็ไหลพล่านไปทั่วร่าง เขาเลยอดใจไม่ไหวที่จะกระโดดลงไปในแม่น้ำชำระร่างกาย แต่จะเป็นไปได้หรือ? ที่เจ้าเมืองจะแช่อยู่แต่ในน้ำทั้งวัน”
“ไม่มีทาง!” เด็กหญิงตัวเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านล่างเงยหน้าขึ้นแล้วตอบอย่างไร้เดียงสา
“ใช่แล้ว เจ้าเมืองคิดว่าตนไม่สามารถอยู่ในน้ำตลอดไปได้ เขาเลยต้องหาอะไรมาบรรเทาความร้อน” เหยียนอี้ขมวดคิ้วแล้วพูดต่อ
“วันหนึ่ง ขณะที่เจ้าเมืองของเรานอนอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ตอนเที่ยงวัน เขาฝันว่าในมือเขามีบางอย่างที่สะอาดและโปร่งใส แลดูเหมือนน้ำ แต่ไม่ใช่น้ำ เขาสงสัยว่ามันคืออะไร”
“มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาในหู บอกว่าสิ่งนี้คือรางวัลแก่ท่านสำหรับการทำงานหนักในการสร้างเมืองอู่ซาน! ตอนนี้เป็นฤดูร้อนแล้ว วุ้นพวกนี้สามารถบรรเทาความร้อน เนรมิตความเย็น กินแล้วสดชื่นไปทั่วร่าง!”
“ในตอนแรกเจ้าเมืองของเราไม่เชื่อ แต่อากาศร้อนขึ้นเรื่อย ๆ เขาเลยมองไปวุ้น เฮ้! ทุกคนลองเดาสิว่าเกิดอะไรขึ้นต่อจากนั้น?”
“ข้าเดาว่าเจ้าเมืองของเราต้องกินมันจนหมด!”
“ถูกต้อง! เจ้าเมืองอดไม่ได้ที่จะลิ้มลอง คอของเขาเลยสดชื่นมาก ร่างกายก็เย็นสบาย มันยอดเยี่ยมจริง ๆ! พอเขาตื่นขึ้นมา เขาก็ทำสิ่งที่เขากินตามความฝันของเขา นั่นเรียกว่าวุ้นนั่นเอง!”
เหยียนอี้ตื่นเต้นมาก หลายคนตะโกนว่าวุ้นนี้เป็นของดีจริง ๆ
จากนั้นเหยียนอี้ก็แสร้งทำเป็นน่าสงสาร ส่ายหัวตนเองคล้ายว่ากำลังทำอะไรไม่ถูก นางพูดว่า “น่าเสียดายที่ไม่มีใครรู้เรื่องวุ้นที่ทำโดยเจ้าเมืองเลย หากพวกท่านได้กินวุ้นชามนั้น พวกท่านเองก็จะสดชื่นและเย็นสบายอย่างแน่นอน!”
“นั่นหมายความว่าหากข้าสามารถกินวุ้นได้จริง ๆ ข้าก็ไม่ต้องกลัวความร้อนยามฤดูร้อนมาถึงอีกสินะ!” มีเสียงของใครบางคนตอบกลับมา