ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 15 ธุรกิจที่ไม่ดี (รีไรท์)
บทที่ 15 ธุรกิจที่ไม่ดี (รีไรท์)
โคมไฟสีแดงด้านบนห้อยสูงอยู่หน้าป้าย พลิ้วไหวตามแรงลมแลดูสวยงามนัก
เหยียนอี้ยืนอยู่กลางถนน กอดตะกร้าไว้แน่น หันไปรอบ ๆ ชำเลืองซ้ายชำเลืองขวาดูผู้คนที่หลั่งไหลเข้ามาเป็นจำนวนมาก
นางเห็นป้าคนหนึ่งสวมผ้าธรรมดากำลังโบกมือให้เหยียนอี้อยู่กลางถนน ใบหน้าฉายแววเป็นห่วง นางตะโกนขึ้น “สาวน้อย! เจ้ามาขายของรึ!? รีบไปจากที่นี่เสีย ทางการจะตรวจสอบในภายหลัง หากเจ้าไม่หาที่ปักหลักให้ดี ประเดี๋ยวของขายจะถูกริบไปนะ!”
ด้วยเหตุนี้ป้าคนเดิมจึงเดินไปคว้าตัวเหยียนอี้ ดึงนางไปข้างแผงตนเอง นางยังจัดแจงพื้นที่ว่างเปล่าให้เหยียนอี้ด้วย นางพูดอย่างระมัดระวังว่า “สาวน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เจ้าออกมาใช่หรือไม่”
เหยียนอี้มองไปที่นาง หญิงผู้นี้สวมเสื้อผ้าสีเทา มีรอยช้ำบนข้อมือ บนหัวพันผ้าพันคอดอกไม้สีฟ้าไว้ แม้ว่าจะเป็นฤดูร้อน มือของนางกลับแห้งและแตก ชวนให้คิดว่านางคงจะมาจากชนบท
จากนั้นเหยียนอี้ก็ค่อย ๆ อ้าปากพูดว่า “นี่เป็นครั้งแรกที่ข้ามาขายเจ้าค่ะ”
หญิงวัยกลางคนยิ้มพลางหยิบผักจากแผง นางพูดกับเหยียนอี้ว่า “วันนี้เจ้าขายตรงนี้ได้ ทุกเช้าคนจากทางการจะมาตรวจสอบ สองฟากถนนนี้มีระเบียบตั้งแผงลอย”
“หากเจ้าทำผิดระเบียบแล้วไม่อธิบายว่าเจ้ามีอะไร เจ้าจะต้องจ่ายเงิน สองวันที่ผ่านมามีสตรีนางหนึ่งเหมือนกับเจ้าถูกสอบสวน จะร้องไห้หรือตะโกนอยู่บนถนนก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ”
เหยียนอี้ตั้งใจฟัง กวาดตาไปทางซ้ายและขวา นางพบว่าคนที่ตั้งแผงขายของตามท้องถนนในเมืองอู่ซานล้วนมีความประพฤติดี ไม่มีใครไม่เป็นระเบียบ นางอดไม่ได้ที่จะรู้สึกว่าตนโชคดีที่ไม่ได้วางของขายไว้บนพื้นตามความคิดแรก
“ขอบคุณท่านป้า ข้ามาที่นี่ครั้งแรก ข้าไม่รู้จริง ๆ” เหยียนอี้ผงกศีรษะ กล่าวขอบคุณด้วยรอยยิ้ม
จากนั้นนางก็ถอดตะกร้าออกจากตัว วางวุ้นหนึ่งชามบนฝา แล้วครุ่นคิดว่าจะตะโกนขายอย่างไร
มองไปที่เจ้าของแผงลอยรอบ ๆ ต่างคนต่างลุกขึ้นไปยืนริมถนนแล้วร้องตะโกนว่ากำลังขายผัก เห็ด และมันฝรั่ง
ส่วนคนบางพวกที่ไม่จำเป็นต้องตะโกนก็มีคนมาซื้อของ คนพวกนั้นย่อมเป็นกลุ่มพ่อค้าแม่ค้าที่ขายมานานเป็นแน่
เหยียนอี้ศึกษาจากการพินิจอยู่นาน นางหยิบชามออกจากตะกร้าแล้วยิ้มร่า เดินไปตามถนนร้องตะโกนขาย
“วุ้นเย็นดับกระหาย บรรเทาความร้อนจ้า ชามละห้าเหวินเท่านั้น เย็นและบรรเทาความร้อนจ้า!” เหยียนอี้ตะโกนไปสังเกตฝูงชนไป
มีชาวนาคนหนึ่งอยู่ตรงหัวมุมถนน เหงื่อออกชุ่มร่าง เขาดึงเสื้อผ้าขึ้นเช็ดเหงื่อด้วยแขนเสื้อ จอบยังถือเอาไว้ เหยียนอี้เล็งเป้าหมาย เร่งฝีเท้าไปข้างหน้าพร้อมกับชามในมือ
เหยียนอี้พูดกับชาวนาด้วยรอยยิ้ม “ลุงลองทานวุ้นสักชามดูเถิด เพียงห้าเหวินก็คลายร้อนได้ ตอนนี้ลุงลิ้มรสมันได้เลย รับรองว่าลุงจะต้องซื้อไปหมดแน่นอน!”
ชาวนาขมวดคิ้ว อ้าปากพร้อมกับโบกมือปฏิเสธ “ไม่เอา! ข้าไม่เคยได้ยินเรื่องวุ้นเลย!”
หลังจากนั้นเขาก็หันหลังกลับ เดินเข้าไปในโรงเตี๊ยมข้าง ๆ ทิ้งเหยียนอี้ไว้บนถนนพร้อมกับวุ้นในมือ
“ไม่เป็นไรหรอก ประเดี๋ยวจะต้องมีคนมาอีกแน่!” เหยียนอี้หายใจเข้าลึก ๆ ประคองชามวุ้นในมือแล้วพึมพำกับตัวเอง
นางหันหลังกลับ วิ่งไปที่แผงลอยที่ตนปักหลักเพื่อพิจารณาผู้คนที่เดินผ่านไปมา ผู้ใหญ่บางคนยังขายไม่ได้ ท้ายที่สุดนางก็ยังเป็นแค่เด็ก เช่นนั้นนางก็ไม่จำเป็นต้องผิดหวัง!
เหยียนอี้มองหาเป้าหมายอีกครั้ง ดวงตาสีเข้มยังคงหันซ้ายแลขวาต่อไป นางมองไปที่คนเดินเท้าบนถนน และในที่สุดก็เห็นหญิงชราคนหนึ่งจูงหลานชายออกมาจากมุมถนน
เด็กชายตัวเล็กกะจ้อยร่อยยังคงเป็นเด็กวัยหัดเดิน มือน้อย ๆ จับแขนเสื้อของหญิงชราแน่น ดวงตาเสไปรอบ ๆ ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เหยียนอี้วิ่งไปหาเด็กชายพร้อมกับวุ้นหนึ่งชาม นางนั่งยองข้าง ๆ พลางกล่าวยิ้ม ๆ “เจ้าตัวน้อย! เจ้าอยากลองกินวุ้นหรือไม่? วุ้นข้าเย็นและสดชื่นไม่น้อย เหมือนกับกินก้อนน้ำแข็งเลยล่ะ! ยังมีรสชาติยอดเยี่ยมของสะระแหน่ด้วยนะ!”
เด็กชายตัวน้อยมองไปที่เหยียนอี้ บางทีเพราะกลัวคนแปลกหน้า เขาจึงหันหลังกลับ ก่อนจะเริ่มร้องไห้แล้วเดินตามหลังยายจนไป
“เจ้ากำลังทำอะไร? เจ้าขายของเช่นนี้ได้อย่างไร? มันทำให้หลานชายข้ากลัวจนร้องไห้แล้วเห็นไหม เจ้าตั้งใจใช่หรือไม่!” หญิงชราได้ยินเสียงร้องเลยตะโกนใส่เหยียนอี้ไปพลางโอบกอดหลานชายเอาไว้ในอ้อมแขนไปพลาง
ผู้คนที่สัญจรผ่านไปเริ่มมองมาทีละคน พากันกระซิบกระซาบ
“ขอโทษเจ้าค่ะ ข้าไม่ได้ตั้งใจ ขอโทษด้วยน้องชายตัวน้อย! ข้าไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เจ้ากลัว!” เหยียนอี้ก้มลงขอโทษ นางเงยหน้าขึ้น เขยิบไปข้าง ๆ เด็กชายพลางมองเจ้าตัวที่น้ำตานองหน้า ไม่รู้จะทำเช่นไร
เหยียนอี้ต้องการปลอบโยนเด็กน้อย นางไหวพริบดี นึกได้ว่าน่าจะให้วุ้นเป็นการไถ่โทษ บางทีเด็กน้อยอาจจะมีความสุขหลังจากกินมันก็ได้
“ข้าจะให้วุ้นนี้กับน้องชายก็แล้วกัน ข้าขอโทษจริง ๆ” เหยียนอี้พูดขณะที่นางยื่นวุ้นออกไป
อย่างไรก็ตามคนอื่น ๆ ไม่ได้ชื่นชมการกระทำของนาง ฝูงชนเดินมาข้างหน้า ทุบชามวุ้นจนแตก หญิงชราจ้องมองไปที่เหยียนอี้แล้วตะคอกออกมา “ใครสนใจวุ้นของเจ้ากัน? ไสหัวไปเสีย!”
หลังจากนั้นนางก็หันหลังกลับแล้วออกไปจากตรงนั้นพร้อมกับหลานชายในอ้อมกอด
ล้มเหลวครั้งที่สอง! นอกจากขายไม่ได้แล้ว ยังสูญเสียชามไปอีก