ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 14 เป็นความคิดที่ดี(รีไรท์)
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
- บทที่ 14 เป็นความคิดที่ดี(รีไรท์)
บทที่ 14 เป็นความคิดที่ดี(รีไรท์)
ทั้งสามคนพูดคุยกับหญิงชราอีกสักพัก เมื่อถึงช่วงบ่ายก็ขอตัวออกมาจากบ้านของหลี่เจิ้ง มือขวาเหอซื่อจูงมือเหยียนอี้ไว้ ส่วนมือซ้ายจูงมือเหยียนจื่อ
เหยียนจื่อพูดเจื้อยแจ้วตลอดทาง แต่เหยียนอี้ขมวดคิ้วและก้มศีรษะลงเพื่อคิดอะไรบางอย่างจนไม่ได้ยินเสียงเรียกของทั้งสอง
“อี้เอ๋อร์ อี้เอ๋อร์?” เหอซื่อชะงักเท้า ก้มมองเหยียนอี้พร้อมกับเขย่ามือไปมา
“ท่านพี่! ท่านกำลังคิดอะไรอยู่” เหยียนจื่อเดินเข้ามาตรงหน้าเหยียนอี้ ลองแตะหลังมือนางเบา ๆ
เหยียนอี้ที่ได้สติกลับมา ฉายชัดประกายบนดวงตาสีดำ นางจับมือของเหยียนจื่อและเหอซื่ออย่างตื่นเต้น จากนั้นถามขึ้นว่า “ท่านแม่ เหยียนจื่อ คิดอย่างไรกับวุ้นในวันนี้”
เหยียนจื่อมีทีท่ากระตือรือร้นราวกับว่าวุ้นยังคงอยู่ในปาก นางพยักหน้าแล้วพูดว่า “อร่อยมาก ข้าไม่เคยกินอะไรอร่อยขนาดนี้มาก่อน”
ดวงตาของเหยียนจื่อเปล่งประกายเมื่อนางพูด ไม่ได้มีเพียงนางที่ไม่เคยลิ้มรส แต่ผู้คนที่นี่ไม่เคยกินวุ้น แม้แต่ชื่อก็ไม่เคยได้ยิน
“ข้ามีความคิดดี ๆ!” เหยียนอี้ลูบมือของเหอซื่อพร้อมส่งสายตาไปหา ในใจนึกกระวนกระวายใจอยากจะพูดถึงความคิดที่จะทำเงินในใจออกมา
เหอซื่อยังคงดึงลูกสาวสองคนให้เดินไปข้างหน้า
“ข้าต้องการขายวุ้นและตั้งแผงขายของในเมือง คนที่นี่ยังไม่เคยกินมัน อีกทั้งตอนนี้ยังคงเป็นฤดูร้อน มันจะต้องเป็นที่นิยมอย่างแน่นอน! แล้วเราก็จะสามารถหาเงินมาซื้ออาหารได้”
อย่างที่เหยียนอี้กล่าว พวกนางทั้งสามคนต้องหาทางทำเงิน มิฉะนั้นชีวิตของพวกนางจะไม่ดีขึ้นเลย
เมื่อได้ยินความคิดนี้ ปฏิกิริยาแรกของแม่ผู้เป็นอนุรักษ์นิยมคือไม่เห็นด้วย แต่เมื่อคิดดูดี ๆ แล้วนี่อาจจะเป็นทางออกให้ครอบครัวนี้ก็ได้
เมื่อเห็นว่าเหอซื่อลังเล เหยียนอี้ก็รีบคว้ามือมาอธิบายให้ฟังทีละข้อ
“ท่านแม่ เห็นไหมว่าตอนนี้เราไม่มีรายได้สักนิด เราสามคนไม่อาจอยู่แบบนี้ได้นะเจ้าคะ วุ้นนี้เป็นสิ่งที่เราสามารถทำเงินจากมันได้อย่างแน่นอน ถ้าท่านเป็นห่วงข้า เช่นนั้นเราสามคนก็ไปด้วยกัน ไม่มีใครกลั่นแกล้งเราสามคนได้หรอกเจ้าค่ะ!”
เหยียนอี้พูดพลางส่ายแขนของมารดา แม้จะคิดว่ามันดูเซ้าซี้ไปหน่อยที่ต้องอ้อนวอนเช่นนี้ ทว่าตราบใดที่เหอซื่อพยักหน้า ในวันรุ่งขึ้นนางจะไปที่เมืองแล้วขายวุ้นทันที
เงินทั้งหมดที่ได้รับคือเงิน เงิน!
เมื่อมองดูเสื้อผ้าที่ขาดวิ่นของลูกสาวสองคน พวกนางไม่มีแม้แต่ปิ่นปักผมบนศีรษะ เมื่อนึกไปถึงตอนที่ไม่มีอะไรในบ้านเลย ในที่สุดนางก็กัดฟัน พยักหน้าตกลงให้เหยียนอี้ “แม่สนับสนุนเจ้า”
ทันทีที่สิ้นเสียงเหอซื่อ เหยียนอี้ก็กระโดดโลดเต้น เปียถักปัดปลิวขึ้นไปในอากาศ สะท้อนไปกับแสงอาทิตย์ นางยิ้มกว้างเผยฟันขาวแล้วจับมือมารดาแน่น “ข้าจะไปที่บ้านลุงหลี่เจิ้ง ไปถามเขาว่าข้าจะเก็บผลโทงเทงได้จากที่ใด!”
หลังจากนั้นนางก็รีบวิ่งกลับไป ลมพัดเสื้อผ้าของนางจนสะบัดไปมา เหอซื่อมองไปที่ด้านหลังของลูกสาวคนโต พลันรู้สึกถึงความอบอุ่นที่ก่อเกิดในหัวใจของนาง
เมื่อเหยียนอี้มาถึงบ้านของหลี่เจิ้ง นางไม่เพียงแค่ได้ถามว่านางจะได้ผลโทงเทงจากที่ใด แต่หลี่เจิ้งเองก็ยังให้ตะกร้าผลโทงเทงใบใหญ่ที่เหลืออยู่แก่นางด้วย เขาบอกว่าเขาไม่ค่อยได้ใช้ เก็บไว้ก็เสียดายเปล่า
เหยียนอี้รู้สึกซาบซึ้งใจ นางคิดว่าหากนางทำเงินได้ นางจะทำอาหารอร่อย ๆ ให้พวกเขามากกว่านี้ในภายหลัง
หลังจากได้ผลโทงเทงแล้ว เหยียนอี้ก็รีบกลับไปที่บ้าน ล้างผลโทงเทงในครัวอยู่นานถึงจะวุ้นอีกยี่สิบชิ้น แม้ว่าจำนวนจะยังน้อย แต่นางก็จะนำไปขายในวันพรุ่งนี้ หากขายดีก็สามารถทำเพิ่มได้ในภายหลัง หากขายไม่ดีก็ไม่ใช่การขาดทุนอะไร
ผ่านไปครึ่งค่อนคืนนางถึงจะหลับลง นางตื่นเต้นราวกับได้กินน้ำผึ้งหวาน นางมาที่นี่เกือบสองเดือนกว่าจะพบวิธีหาเงิน
ช่วงเช้ามืด เหยียนอี้ไม่สามารถข่มตานอนต่อได้ ไม่ว่าเหอซื่อจะพยายามเกลี้ยกล่อมให้นางนอนอย่างไร นางก็ไม่ยอมนอน
ที่ข้างเตียง เหยียนอี้ใส่รองเท้าฟาง ผมถักเป็นเขาแกะ นางเอาแต่เดินไปเดินมา เอ่ยกับเหอซื่อว่า “ท่านแม่ ข้านอนไม่หลับ วันนี้ข้าต้องไปแต่เช้า จะได้หาแผงลอยที่ดี สถานที่ขายดี ๆ สำหรับธุรกิจเรื่องนี้สำคัญมากนะเจ้าคะ! ท่านและเหยียนจื่อรอข้าอยู่ที่บ้านเถิด! ขายเสร็จข้าจะรีบกลับมา!”
ด้วยเหตุนี้นางจึงกระโจนเข้าไปในครัวหยิบวุ้นทั้งยี่สิบชิ้นที่ทำเมื่อคืนนี้ออกมา ค่อย ๆ วางไว้ในตะกร้าสะพายหลัง จากนั้นสะพายมันขึ้น
แม้ว่าเหยียนอี้จะอายุเพียงแค่สิบสองสิบสามปี แต่เด็กส่วนใหญ่ในหมู่บ้านขาดสารอาหารและตัวเล็กกะจิดริด ตะกร้าจึงสูงพูนกว่าตัวนาง
เหยียนอี้ดึงเข็มขัดของตะกร้าบนไหล่อยู่หน้าประตู นางโบกมือให้เหอซื่อและเหยียนจื่อด้วยรอยยิ้ม “ท่านแม่ เหยียนจื่อ รอดูข้านำเงินกลับมาได้เลย”
“ระวังตัวด้วยนะลูก!” เหอซื่อไม่สบายใจ กำชับเหยียนอี้และโบกมือให้นาง ใบหน้าอันแสนใจดีเหยียนอี้เปี่ยมเต็มไปด้วยความสุข
ระหว่างทางไปเมืองอู่ซาน เหยียนอี้เดินเร็วขึ้นเรื่อย ๆ ดวงอาทิตย์บนภูเขาทางทิศตะวันออกค่อย ๆ ปรากฏขึ้นส่องแสงสีทอง สาดส่องลงบนพื้นผ่านช่องว่างระหว่างแมกไม้ พาดผ่านไปข้างหลังเหยียนอี้
ตอนนางมาที่เมืองอู่ซานครั้งแรก เหยียนอี้รู้สึกเพียงว่าทุกอย่างที่นี่สงบสุขดี บนถนนสายหลักมีผู้คนผ่านไปมาในตอนเช้าตรู่ แต่ส่วนใหญ่เป็นคนขายผักที่ตั้งแผงขายของบนถนนและเอาแต่ตะโกนขายเสียงดัง
มีมันเทศขายตรงนี้ ส่วนมันฝรั่งขายอยู่ตรงนั้น มีคนขายผักที่ตรงนี้ และมีคนขายเห็ดที่ตรงนั้น ร้านค้าที่อยู่บนถนนค่อย ๆ พากันเปิดร้าน ต่างคนต่างมารวมตัวกันในตอนเช้าเพื่อทำความสะอาดโต๊ะและขอบประตูเพื่อต้อนรับวันใหม่