ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ - บทที่ 11 หลี่เจิ้งมาที่ประตูบ้าน(รีไรท์)
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นสนมตัวน้อยผู้ทำอาหารรสเลิศ
- บทที่ 11 หลี่เจิ้งมาที่ประตูบ้าน(รีไรท์)
บทที่ 11 หลี่เจิ้งมาที่ประตูบ้าน(รีไรท์)
“ขอบคุณสำหรับอะไร? ก็พวกเจ้าสามคนมีช่วงเวลาที่ยากลำบากนี่” ขณะที่พูดหลิวจูเงยก็หน้าขึ้นมองเหอซื่อที่กำลังเก็บข้าวของอยู่ไม่ไกล
เหยียนอี้คลี่ยิ้ม “ลุงค่อยซ่อมมันหลังมื้อเย็นเถิดเจ้าค่ะ มีแกงปลาอยู่ในบ้าน ข้าเพิ่งปรุงวันนี้เอง ไว้เรากินมันด้วยกันเป็นการขอบคุณดีไหมเจ้าคะ”
ก่อนที่หลิวจูจะได้พูด เหยียนอี้รีบไปจับมือเหอซื่อแล้วกระซิบกระซาบบางอย่าง จากนั้นทั้งสองคนก็พากันไปก่อไฟอีกครั้ง
การจัดการปลาของเหยียนอี้ทำให้หลิวจูประหลาดใจ ส่วนเหอซื่อนั้นชื่นชมฝีมือของลูกสาวเป็นอย่างยิ่ง
…
ยามเย็นในฤดูร้อน ดวงอาทิตย์เหนือภูเขาทางตะวันตกส่องแสงสีทองกระทบลานบ้านเป็นเงาทอดยาว
คนสี่คนล้อมรอบโต๊ะ ชามแกงปลาวางอยู่ตรงกลาง หลังจากที่เหยียนอี้วางชามให้หลิวจูและเหอซื่อ นางก็ลุกขึ้นแล้วพูดกับมารดา
“ท่านแม่ เหยียนจื่อและข้าจะเอาแกงปลาไปให้ท่านตาและลุงหลี่เจิ้งนะเจ้าคะ ท่านกับลุงหลิวกินกันไปก่อนเลยเจ้าค่ะ” จากนั้นนางก็ดึงเหยียนจื่อขึ้น ถือชามใส่น้ำแกงปลาแล้วออกจากลานไป ทิ้งให้คนที่เหลือประดักประเดิดใส่กัน
ระหว่างทางเหยียนจื่อพูดเรื่องความเมตตาของลุงหลิวแล้วยกย่องเขาตลอดเวลา
พวกนางไปหาตระกูลของหลี่เจิ้งก่อน เมื่อคนในตระกูลเห็นแกงปลาที่เหยียนอี้เอามาให้ด้วยตัวเอง ทุกคนก็ยินดีปรีดาเป็นอย่างยิ่ง แม่เฒ่าของหลี่เจิ้งก็เช่นกัน นางเอาแต่ชื่นชมความสามารถของเหยียนอี้ไม่ขาดปาก
ยิ่งหลังจากลองชิมแกงปลา แม่เฒ่าก็ประทับใจจนอดไม่ไหวที่จะคว้าเหยียนอี้มากอดไว้ในอ้อมแขน
ออกจากบ้านของหลี่เจิ้งไปแล้วก็ตรงไปบ้านของท่านตา ทว่าก่อนที่จะถึง เหยียนอี้ก็เห็นใครมารออยู่แล้ว เป็นป้าสะใภ้จาง ดูเหมือนนางจะได้กลิ่นน้ำแกงจากระยะไกล นางจึงยืนรออยู่ที่ประตู คลี่ยิ้มแล้วโบกมือให้เหยียนจื่อกับเหยียนอี้ “อี้เอ๋อร์ เหยียนจื่อ รีบเข้าไปในบ้านสิ ท่านยายของเจ้าเพิ่งบอกว่าเจ้าสองคนมา! เอาแกงปลามาให้ข้าก็ได้”
นางเอื้อมมือไปข้างหน้า รองชามน้ำแกงปลา หันหลังกลับแล้วตรงเข้าไปในห้องของนางเอง ก่อนจะลอบจิบชิมน้ำแกงปลาหอมกรุ่น
เมื่อทั้งสองคนมาที่ห้องด้านใน พวกเขาก็เห็นท่านยายนอนอยู่บนเตียงเตา นางปิดตาลงราวกับว่าหลับอยู่ ไม่มีคำใดเอ่ยออกมา
แต่แล้วครู่ต่อมา ป้าสะใภ้จางก็เดินบิดเอวของนางมาพร้อมกับแกงปลาครึ่งชามในมือ เห็นได้ชัดว่าน้ำแกงพร่องไปกว่าครึ่ง หากแกว่งเพียงนิดก็มองเห็นก้นชามได้แล้ว
เหยียนอี้และเหยียนจื่อมองดูชาม มิอาจเอ่ยคำใดได้นอกจากทำได้เพียงถอนหายใจในใจเท่านั้น
“ท่านแม่ ลุกขึ้นแล้วทานน้ำแกงเสียหน่อย อี้เอ๋อร์กับเหยียนจื่อเพิ่งนำมาให้ ข้าเตรียมให้ท่านแล้ว” ป้าสะใภ้จางกล่าวด้วยรอยยิ้ม คนที่ไม่รู้จักนางจริง ๆ คงคิดว่านางคือลูกสะใภ้ผู้จริงใจเป็นแน่!
นางส่งแกงให้แม่เฒ่าเหอ มองไปที่น้ำแกงปลาในชามด้วยดวงตาเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก ส่วนแม่เฒ่าเหอซดน้ำแกงราวกับว่านางกำลังกินเนื้อหนึ่งชั่ง
เหยียนอี้ยิ้มให้แม่เฒ่าเหอ “ท่านยาย แกงปลานี้ไม่เลวกระมัง หากท่านอยากดื่มอีก ข้าจะปรุงมาให้ท่านและท่านตาอีกนะเจ้าคะ”
แม่เฒ่าเหอส่ายหัว ใช้มือเช็ดน้ำแกงที่ตกค้างบนปาก นางยื่นชามเปล่าให้สะใภ้จาง ดวงตามองไปที่หลานสาวด้วยความเสียอารมณ์
“วันหน้า พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องเอาน้ำแกงปลามาให้หรอก พวกเจ้าเก็บไว้ดื่มกันเองเถิด มีบางคนในครอบครัวนี้รอฉวยผลประโยชน์อยู่ ข้าเป็นหญิงชราใกล้กลับคืนสู่ผืนดินแล้ว ไม่ได้ดื่มน้ำแกงก็ไม่ตายหรอก”
สะใภ้จางหรี่ตาลง ใบหน้าแดงก่ำฉาบไปด้วยรอยยิ้ม นางยกชามขึ้น เอ่ยกับแม่เฒ่าเหอว่า
“ท่านแม่กำลังพูดถึงอะไรเจ้าคะ? ข้าเพียงเก็บบางส่วนไว้ให้ท่านพ่อและหวงจือเลยเหลือให้ท่านแม่เพียงเท่านี้ เอาล่ะ ข้าขอตัวไปจัดการเก็บผักให้เรียบร้อยก่อนนะเจ้าคะ”
นางบิดสะโพกเดินนวยนาดออกไป
แม่เฒ่าเหอขึ้นไปนอนบนเตียง ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ นางเหยียดมือออกไปหาเหยียนจื่อและเหยียนอี้แล้วพูดว่า “เอาล่ะ เจ้าสองคนก็ควรกลับได้แล้ว ตอนนี้เริ่มมืด ไม่จำเป็นต้องส่งแกงปลามาให้อีกแล้ว เจ้าสามคนเก็บไว้กินเองเถิด”
เหยียนอี้และเหยียนจื่อมองหน้ากัน จากนั้นถึงลุกขึ้นยืนเตรียมตัวจะจากไป เหยียนอี้กล่าวลากับแม่เฒ่าเหอว่า “ท่านยาย พวกเราไปก่อนนะเจ้าคะ ท่านพักผ่อนเถิด”
แต่ก่อนที่จะพูดจบก็ได้ยินกรนบนเตียงแล้ว
เหยียนอี้ช่วยห่มผ้าให้แม่เฒ่าเหอเสร็จ นางและเหยียนจื่อก็เดินออกจากบ้านไปอย่างระมัดระวัง
ทันทีที่ไปถึงลานบ้านก็หันไปเห็นป้าสะใภ้อยู่ในห้องถัดไป นางกำลังซดน้ำแกงปลาด้วยความตะกละตะกลาม บนปากเปรอะคราบเนื้อปลา ขอบชามเปื้อนสีแดงจากชาดทาปากราคาถูก
…
ในตอนเย็นมีชาวบ้านไม่มากนักบนถนน แสงจันทร์สีขาวนวลสาดส่องยาวไปตามทาง สองพี่น้องจับมือกันเดินรับสายลมยามเย็นพลางร้องเพลงในลำคอคลอตลอดทางกลับบ้าน แต่เมื่อกลับถึงบ้านก็ไม่เห็นลุงหลิวแล้ว คนที่เหลืออยู่กลับเป็นหลี่เจิ้งที่นั่งรออยู่ในลานเท่านั้น
“ท่านแม่ ลุงหลี่เจิ้ง” เหยียนอี้และเหยียนจื่อพากันเดินไปที่ลานเพื่อทักทายก่อนจะนั่งลงข้าง ๆ
เหยียนอี้มองไปที่ชามเปล่าบนโต๊ะ นางลุกไปหยิบขึ้นมาแล้วถามเหอซื่อว่า “ท่านแม่ ลุงหลิวกลับไปแล้วหรือเจ้าคะ”
“ไม่นานหลังจากที่เจ้าจากไป เขาก็ออกไป” เหอซื่อผงกศีรษะตอบกลับไป
ในระหว่างนั้น หลี่เจิ้งมองไปที่เหยียนอี้หลายต่อหลายครั้ง เขาอ้าปากราวกับอยากจะพูดบางอย่าง แต่สุดท้ายก็ไม่เอ่ยคำใดออกมา
หลังจากเหยียนอี้ทำงานของนางเสร็จ เหอซื่อก็ระบายยิ้มและเข้าไปกุมมือของเหยียนอี้ไว้ “อี้เอ๋อร์ ลุงหลี่เจิ้งของเจ้าอยากรู้วิธีการปรุงน้ำแกงปลา เจ้าและเหยียนจื่อก็เอาไปให้มิใช่หรือ แม่เฒ่าทานอย่างเอร็ดอร่อยนัก อีกทั้งยังชมเจ้าไม่ขาดปาก ข้าอยากให้เจ้าไปทำอาหารที่บ้านนางพรุ่งนี้”