ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 13 บทที่ 369 ร่วมนอนเตียงเดียวกัน
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 13 บทที่ 369 ร่วมนอนเตียงเดียวกัน
ลองเงี่ยหูฟัง ประตูปิดลง ภายในห้องเงียบสนิท เซี่ยยวี่หลัวผ่อนลมหายใจยาวด้วยความโล่งอก ถอดเสื้อผ้าเพื่ออาบน้ำ
เพราะมีระดูไม่สามารถแช่ในอ่างอาบน้ำได้ จึงทำได้เพียงยืนอาบ
ในเมื่อสระผมไม่ได้ จึงทำให้อาบเสร็จอย่างรวดเร็ว
เพียงแต่มีเสื้อผ้าสกปรกหลายตัว ได้แต่วางไว้ข้างๆ พรุ่งนี้ค่อยซักตอนกลางวัน
หลังจากล้างเหงื่อเหม็นที่สกปรกบนกายออก ยามออกมาอีกครั้ง ก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าไปทั้งตัว รู้สึกสบายเป็นพิเศษ
“อาหลัว เจ้าเสร็จหรือยัง? ” เพิ่งนั่งลงริมเตียง เสียงของเซียวยวี่ก็ดังมาจากข้างนอก
เซี่ยยวี่หลัวรีบนั่งลงบนเตียง ใช้ผ้านวมผืนบางห่มบนกายไว้ ก่อนตะโกนบอก “อาบเสร็จแล้ว”
เซียวยวี่ผลักเปิดประตูเข้ามา ไม่มองคนที่อยู่บนเตียง เดินตรงเข้าไปในห้องเล็ก
เซี่ยยวี่หลัวเทน้ำที่ใช้อาบทิ้งไปแล้ว เขาจะเข้าห้องเล็กไปทำไม?
เซี่ยยวี่หลัว “ข้าจัดการเสร็จแล้ว…” ยังไม่ทันสิ้นเสียง ก็เห็นเซียวยวี่ถือเสื้อผ้าที่เซี่ยยวี่หลัวถอดเมื่อครู่ออกมา
“…” เซี่ยยวี่หลัวทั้งตกใจทั้งตกตะลึง
“เจ้าพักผ่อนก่อน ข้าจะนำเสื้อไปซัก” ไม่รอให้เซี่ยยวี่หลัวกล่าวอะไร เซียวยวี่ออกไปทันที
นั่นเป็นเสื้อผ้าที่ใช้แล้วของเซี่ยยวี่หลัว ตั้งแต่ชั้นในถึงชั้นนอก มีทุกอย่าง
เซียวยวี่คิดจะซักทั้งหมด?
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกเขินอายจนใบหน้าแดงก่ำ คิดอยากเรียกเขาไว้ แต่อีกฝ่ายรีบไปจนไม่เห็นแม้แต่เงาแล้ว ผ่านไปครู่หนึ่ง ในลานบ้านก็มีเสียงซักผ้าดังขึ้น
เอาเถอะ อีกฝ่ายกำลังซักแล้ว เสื้อผ้าที่ใส่ด้านในถูกเขาเห็นหมดแล้ว
เซี่ยยวี่หลัวหน้าแดงถึงใบหู เอนตัวลงนอนบนเตียงด้วยความอับอาย ใช้ผ้านวมปิดใบหน้าแดงก่ำของตัวเองไว้ ไม่กล้านึกภาพเซียวยวี่ที่แสดงสีหน้าเก้อเขินยามซักเสื้อผ้าซับในให้นาง
เสื้อผ้าซับในของนางถูกเซียวยวี่ใช้มือขยี้ซัก แค่คิดก็รู้สึกว่า… น่าอายเหลือเกิน!
เพราะเสียเลือดมากเกินไป วิงเวียนศีรษะเล็กน้อย เซี่ยยวี่หลัวนอนบนเตียงครู่หนึ่ง ก็รู้สึกง่วงนอนแล้ว
รู้สึกสะลึมสะลือ
แม้แต่เซียวจื่อเมิ่งเข้ามาก็ไม่รู้เรื่อง
เซียวจื่อเมิ่งเข้ามาในห้อง เพิ่งถอดรองเท้าออก นั่งบนเตียงกำลังจะถอดเสื้อออก เซียวยวี่ก็เข้ามาแล้ว
เขามองเซียวจื่อเมิ่งทีหนึ่ง “เจ้าจะทำอะไร? ”
เซียวจื่อเมิ่งกะพริบตา พลางกล่าวเสียงใส “พี่ใหญ่ ข้าจะนอนแล้ว ง่วงมากเลยเจ้าค่ะ! ”
เซียวยวี่ขานตอบทีหนึ่ง เดินเข้าไปหา อุ้มเซียวจื่อเมิ่งขึ้น “ไปนอนกับพี่รองที่ห้องข้างๆ วันนี้พี่สะใภ้ใหญ่ไม่สบาย พี่ใหญ่จะดูแลพี่สะใภ้ใหญ่”
ไม่รอให้เซียวจื่อเมิ่งกล่าวอะไร เขาอุ้มเซียวจื่อเมิ่งไว้ ก่อนหยิบรองเท้าขึ้น อุ้มนางไปยังห้องของเซียวจื่อเซวียน
เซียวจื่อเซวียนอาบน้ำเสร็จออกมา กำลังเช็ดผมที่เปียกชุ่ม ก็เห็นคนตัวเล็กที่นอนอยู่บนเตียงตัวเอง เซียวจื่อเซวียนเขย่าตัวเซียวจื่อเมิ่งด้วยความแปลกใจ “จื่อเมิ่ง ทำไมเจ้าถึงมานอนตรงนี้? ”
เซียวจื่อเมิ่งสะลึมสะลือ กล่าวโดยไม่ลืมตาด้วยซ้ำ “พี่ใหญ่บอกว่าพี่สะใภ้ใหญ่ไม่สบาย จะดูแลพี่สะใภ้ใหญ่ จึงให้ข้ามานอนกับท่านเจ้าค่ะ”
เซียวจื่อเซวียนรู้ว่าพี่สะใภ้ใหญ่มีระดู คิดถึงเรื่องที่วันนี้พี่ใหญ่งานยุ่งทั้งวัน ถ้าไม่ใช่ซักผ้าก็ต้มน้ำ ทั้งยังต้องทำอาหาร ดูแลพี่สะใภ้ใหญ่อย่างละเอียดทั่วถึง ภายในใจเซียวจื่อเซวียนก็รู้สึกดียิ่งนัก เช็ดเส้นผมจนแห้ง ขึ้นเตียงไปพักผ่อนเช่นกัน
เซียวยวี่อาบน้ำในห้องตัวเองเสร็จ หลังจากดับไฟแล้ว จึงไปที่ห้องของเซี่ยยวี่หลัว
เดินผ่านห้องของเด็กสองคน ไฟในนั้นดับไปนานแล้ว ดูท่าน่าจะนอนหลับไปแล้ว
เซียวยวี่เดินขึ้นหน้าไปหลายก้าว ผลักเปิดประตูเข้าไปในห้องของเซี่ยยวี่หลัว
ก่อนเขาจะไป เขาได้จุดไฟไว้หนึ่งดวง วางไว้บนโต๊ะ ยามนี้พอเปิดประตู ลมแรงพัดโชยเข้ามาระลอกหนึ่ง พัดจนเปลวไฟบนโต๊ะสั่นไหว เสี้ยววินาทีต่อมา ไฟก็ดับมอดลง ห้องจมดิ่งสู่ความมืดมิด
เซียวยวี่ไม่ได้เคลื่อนไหว ยืนอยู่ที่เดิมครู่ใหญ่
รอจนสายตาคุ้นชินกับความมืดมิดเบื้องหน้า เตียงอยู่ข้างหน้า
เซียวยวี่ที่เมื่อครู่ยังเกลี้ยกล่อมตัวเองว่าทำเพื่อดูแลคนป่วย บัดนี้กลับรู้สึกอยากถอยอีกครั้ง
ใช่ว่าจะไม่ยินยอมดูแลเซี่ยยวี่หลัว เขาย่อมยินยอม เพียงแต่…
เขากลัวว่าชายหนุ่มหญิงสาวอยู่ห้องเดียวกันตามลำพัง คนที่นอนอยู่ข้างกายก็เป็นภรรยาผู้เลอโฉมของตนเอง พลังควบคุมตัวเองที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิดจนน่าสงสารของเขา เกรงว่า…
เซียวยวี่กำหมัดแน่น ราวกับกำลังปลุกใจตัวเอง เขาเดินขึ้นหน้าสองก้าว ถอดรองเท้าออก หันตัวก่อนเอนตัวลงนอนทั้งที่ยังสวมเสื้ออยู่
เซี่ยยวี่หลัวนอนหันหลังให้เขา ยังคงนอนขดตัวประหนึ่งกุ้งแห้ง
เซียวยวี่ยื่นมือไป ทำเหมือนกับช่วงบ่าย ใช้ฝ่ามือประกบตรงท้องน้อยของเซี่ยยวี่หลัวที่เย็นเล็กน้อย
อาจเพราะคนข้างกายไม่สบาย ความคิดที่ไม่ควรมีของเซียวยวี่ ก็ไม่เกิดขึ้นจริงๆ
ครึ่งคืนแรกไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ เว้นแต่ในช่วงครึ่งคืนหลัง เซี่ยยวี่หลัวจะลุกขึ้น เปลี่ยนแถบผ้าซับที่เปียกชุ่มแล้ว
นางเพิ่งตื่นขึ้น ก็พบความผิดปกติบางอย่าง
ฝ่ามือใหญ่ข้างหนึ่งยังกุมอยู่ตรงท้องน้อยของนาง ฝ่ามืออุ่นร้อน ทำให้ท้องน้อยที่เย็นเฉียบของนางอบอุ่นขึ้น
เซี่ยยวี่หลัวลูบท้องเบาๆ อบอุ่นนัก ดูท่า เซียวยวี่ใช้มือทำให้ท้องของนางอบอุ่นอยู่ตลอด
เสียงกรนเบาหวิวของเซียวยวี่ดังขึ้นจากด้านหลัง ยังมีลมหายใจอุ่นร้อนของเขา เซี่ยยวี่หลัวไม่กล้าเคลื่อนไหว กลัวว่าตัวเองจะทำให้เขาตื่น เพียงแต่ ด้านล่างเปียกชุ่ม รู้สึกอึดอัดยิ่งนัก
นางขมวดคิ้ว ส่งเสียงเบาทีหนึ่ง จู่ๆ เซียวยวี่ก็ลุกขึ้น
มือขวายังคงวางไว้บนท้องน้อยของนาง มืออีกข้างหนึ่งค้ำตัวขึ้น เขาเคลื่อนไหวเร็วมาก แต่กลับแผ่วเบามาก ก้มหน้ามองดูเซี่ยยวี่หลัวที่แสร้งทำทีเป็นหลับสนิท ก่อนจะล้มตัวลงนอนอีกครั้ง
มือขวาที่วางไว้บนท้องของนางคอยลูบท้องนางอย่างระมัดระวัง จวบจนลมหายใจจากข้างหลังร้อนรุ่มยิ่งขึ้น หายใจแรงขึ้นเรื่อยๆ ร่างกายของเซี่ยยวี่หลัวแข็งทื่ออย่างชัดเจน “…”
จากนั้น คนที่อยู่ข้างหลังขยับตัวเล็กน้อย มือขวายังคงไม่เคลื่อนไหว ร่างกายท่อนบนกลับขยับถอยหลังไป ลมหายใจแรงจึงเบาลง
มือของเซียวยวี่คอยลูบไม่หยุด เซี่ยยวี่หลัวรู้ว่าเขายังไม่หลับ
เขายังไม่หลับ นางเองก็ไม่กล้าหลับ!
ทั้งสองคนนอนอยู่บนเตียงเช่นนี้ ทั้งยังอยู่ในท่าทางชวนคิดเช่นนี้ ถึงแม้นางจะรู้ว่าเซียวยวี่ทำไปเพราะหวังดีต่อนาง หากแต่…
ตั้งแต่เล็กจนโต นางไม่เคยอยู่ใกล้ชิดกับบุรุษใดมากถึงเพียงนี้มาก่อน อย่าว่าแต่นอนบนเตียงเดียวกัน แม้แต่จูงมือหรือโอบกอดก็ไม่เคยมาก่อน
ไม่ง่ายเลยกว่าจะยอมรับเรื่องการจูงมือและโอบกอดกับเซียวยวี่ได้ คราวนี้กลับหนักขึ้นอีก ทั้งสองคนถึงกับนอนด้วยกัน ถึงแม้ว่าการนอนนี้ ไม่ใช่การนอนอย่างนั้น ทว่า…
พอคิดว่าข้างหมอนตัวเองมีบุรุษเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน เซี่ยยวี่หลัวรู้สึก…
ทั้งเขินทั้งอาย… แทบอยากหารูบนพื้นมุดหนีไปเสีย