ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 13 บทที่ 366 อาหลัว เหตุใดเจ้าถึงน้ำลายไหล
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 13 บทที่ 366 อาหลัว เหตุใดเจ้าถึงน้ำลายไหล
เซี่ยยวี่หลัวซักเสื้อผ้าเสร็จ จึงไปเด็ดผักที่จะกินตอนเที่ยงมาจากสวนหลังบ้าน ล้างและหั่นไว้ เมื่อถึงเวลาทำอาหาร นางตอกไข่หกฟอง นำไปนึ่งในหม้อ รอจนน้ำเดือด เซี่ยยวี่หลัวเทหมูสับที่เตรียมไว้ลงไปในกระทะเพื่อผัดแห้งครู่หนึ่ง เมื่อผัดจนเนื้อหมูกลายเป็นสีขาว จึงเทลงไปในชามไข่ไก่พร้อมน้ำมัน ปิดฝาหม้อ นึ่งต่อ
เมื่อกลิ่นหอมกรุ่นของข้าวลอยตลบอบอวล เซียวยวี่ก็กลับมาแล้ว
ได้ยินเสียงประตูเปิด เซี่ยยวี่หลัวจึงไปหา ในมือถือผ้าเช็ดหน้าสะอาดผืนหนึ่งที่เมื่อครู่เพิ่งบิดน้ำจนหมาด
“กลับมาแล้วหรือ? ” เซี่ยยวี่หลัวมองดูเซียวยวี่ที่มีเหงื่อโชกศีรษะด้วยความเห็นใจ นางรู้สึกปวดใจนัก รีบใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดหยาดเหงื่อบนใบหน้าเขาจนแห้ง
เซียวยวี่ไม่ได้เคลื่อนไหว จ้องมองเซี่ยยวี่หลัวที่กำลังเช็ดเหงื่อให้ตัวเองอย่างตาไม่กะพริบ แววตาฉายประกายยิ้มแย้ม ภายในใจรู้สึกหวานชื่นราวกับได้กินน้ำผึ้งก็มิปาน หยาดเหงื่อและความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักในแปลงนาเมื่อครู่ พอมือของเซี่ยยวี่หลัวโบกผ่านอย่างเบาหวิว ก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
ราวกับว่าตอนนี้ก็สามารถไปพรวนดินในแปลงนาได้อีกผืนหนึ่ง
“เหนื่อยหรือไม่? ” เซี่ยยวี่หลัวต้องเขย่งเท้า ถึงจะเช็ดหน้าผากเซียวยวี่ได้ เซียวยวี่เกรงว่านางแหงนหน้าจะเหนื่อยเกินไป จึงรีบก้มหน้าลง
ระยะห่างระหว่างทั้งสองคน อยู่ใกล้กันจนขอเพียงชิดกันมากขึ้นอีกเพียงเล็กน้อย ตัวก็จะติดกัน
เซียวยวี่ก้มหน้า สามารถมองเห็นประกายเห็นใจที่ฉายชัดในเบื้องลึกแววตาของนาง รวมทั้งภาพตัวเองที่กำลังจ้องมองนางด้วยความรักลึกซึ้งที่สะท้อนอยู่ในดวงตาใสสะอาดของนาง
บางครั้งรู้สึกว่า ช่างเป็นสิ่งที่แปลกประหลาดยิ่งนัก
เหตุใดทั้งที่ก่อนหน้านี้เขารังเกียจนางแทบตาย บัดนี้กลับรักนางลึกสุดหัวใจ
ส่วนนาง ก็เหมือนจะเปลี่ยนไปเป็นคนละคน ไม่ใช่นางในอดีตแล้ว!
เซี่ยยวี่หลัวรู้สึกปวดใจยิ่งนัก มองดูใบหน้าของเซียวยวี่ที่ก่อนหน้านี้เป็นสีขาวเนียน บัดนี้ถูกแดดเผาจนดำขึ้นไม่น้อย สันจมูกสูงโด่ง รวมทั้งดวงตาทั้งคู่ที่ดูลุ่มลึกประหนึ่งบ่อน้ำโบราณ ประกอบกับสีผิวที่ดำคล้ำเล็กน้อย ตัวเขาดูเข้มแข็งและทรงพลังยิ่งขึ้น
เช็ดเหงื่อเสร็จ เซี่ยยวี่หลัวรับจอบจากมือเขา “รีบไปล้างมือที่ห้องครัวเถอะ เตรียมน้ำไว้ให้เจ้าแล้ว”
เซียวยวี่ขานตอบว่าได้ราวกับเป็นเด็กก็มิปาน แต่ไม่ไปห้องครัว กลับตามเซี่ยยวี่หลัวไปยังห้องเก็บของ
พอหันหลังก็เห็นคนที่ตามอยู่ข้างหลังตัวเอง เซี่ยยวี่หลัวจึงยิ้ม “เหตุใดถึงยังไม่ไปล้างมือ? ”
“ไปพร้อมเจ้า! ” เซียวยวี่ยิ้มพร้อมกล่าว เขาเอื้อมมือคิดจะจับมือเซี่ยยวี่หลัว แต่เพิ่งตระหนักว่ามือตัวเองสกปรกมาก จึงชักมือกลับ เซี่ยยวี่หลัวเห็นดังนั้น จึงจับมือเซียวยวี่ไว้
นิ้วทั้งสิบของทั้งคู่เกี่ยวประสานกัน แม้แต่ตอนหายใจยังรู้สึกว่าหวานชื่น
เตรียมอาหารที่จะทำในตอนเที่ยงไว้แล้ว เซียวยวี่ล้างมือจนสะอาด ปล่อยให้เซี่ยยวี่หลัวถกแขนเสื้อให้เขา จากนั้นจึงเริ่มทำอาหาร
กับข้าวสองอย่าง น้ำแกงหนึ่งอย่าง บวกกับไข่ตุ๋นหมูสับที่เซี่ยยวี่หลัวนึ่งไว้ ก็กินข้าวได้แล้ว
หลังจากกินอาหารเที่ยง เซี่ยยวี่หลัวเห็นเซียวยวี่กลับห้องไป รออยู่ครู่หนึ่ง จึงตามไปด้วย
เซียวยวี่เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จพอดี คิดจะพักผ่อนครู่หนึ่ง ช่วงบ่ายค่อยไปกลับหน้าดินต่อ เขากำลังพิงอยู่บนเตียงถือหนังสืออ่านได้สองหน้า เซี่ยยวี่หลัวก็ตามมา “เซียวยวี่ เจ้านอนหรือยัง? ”
ประตูแง้มไว้เล็กน้อย ไม่ได้ปิดสนิท เซี่ยยวี่หลัวไม่ได้เข้าไปทันที แต่เอ่ยถามเซียวยวี่จากด้านนอก
เซียวยวี่ไม่เคยได้ยินเสียงเซี่ยยวี่หลัวขณะอยู่ในห้องตัวเอง พอได้ยินเสียงเซี่ยยวี่หลัว ก็รู้สึกคาดไม่ถึง รู้สึกตื่นเต้นจนถึงกับลืมตอบกลับ
กวาดสายตามองดูรอบข้าง เมื่อเห็นว่าห้องของตัวเองยังถือว่าสะอาด จึงรีบวิ่งไปเปิดประตู
ข้างนอกยังมีคนอยู่ที่ไหนกัน!
เซียวยวี่รีบพุ่งพรวดออกไป ก็เห็นเซี่ยยวี่หลัวกำลังจะเดินกลับเข้าห้องของตัวเอง
“อาหลัว…” เซียวยวี่เอ่ยเรียกอย่างรีบร้อน
หลังจากเซี่ยยวี่หลัวเรียก ไม่ได้ยินเสียงใดๆ จากด้านใน นึกว่าเซียวยวี่หลับไปแล้ว จึงไม่ได้รบกวนเขา เดินจากไปอย่างเงียบเชียบ
เพิ่งเดินถึงหน้าประตู ก็ได้ยินเสียงเรียกของเซียวยวี่ เซี่ยยวี่หลัวหันกลับไปแย้มรอยยิ้ม ก่อนเดินไปหาเขา
“ยังไม่นอนหรือ? ”
“ยังไม่นอน”
เซี่ยยวี่หลัวไหวคิ้ว “ยังไม่นอนเหตุใดถึงไม่เปิดประตู? ”
เซียวยวี่ “…” ให้บอกว่าเพราะเขาตื่นเต้น? เขารู้สึกเขินอายที่จะกล่าวเช่นนั้น!
เซียวยวี่ไม่รู้ว่าควรกล่าวอะไร ยังดีที่เซี่ยยวี่หลัวก็ไม่ได้ดึงดันกับคำถามนี้ เพียงสาวเท้าก้าวเดินเข้าไปในห้อง
นางไม่ได้ไปห้องนอน แต่ไปยังห้องหนังสือของเซียวยวี่
ทั้งโต๊ะและเก้าอี้ภายในห้อง เซี่ยยวี่หลัวเป็นคนตระเตรียมเอง และนางก็เป็นคนจัดวางเองด้วย
หลังจากนางเข้าไปในห้อง ก็หาตำแหน่งนั่งลงทันที
เซียวยวี่ตามอยู่ข้างหลัง เห็นนางมีท่าทางคุ้นเคย ดูเหมือนเจ้าของห้องที่เข้าออกที่นี่เป็นประจำ
เจ้าของ?
เซียวยวี่แอบยิ้มอยู่ในใจ นางก็เป็นนายหญิงของเรือนหลังนี้ไม่ใช่หรือ?
เซี่ยยวี่หลัวมีเรื่องจะปรึกษากับเซียวยวี่ เห็นเขาตวัดมุมปากแย้มรอยยิ้ม เหมือนมีเรื่องน่าดีใจอะไร จึงเอ่ยถาม “เจ้ายิ้มอะไร? ”
เซียวยวี่กล่าวตามจริง “เจ้าช่างคุ้นเคยกับที่นี่เสียจริง! ”
เซี่ยยวี่หลัวพูดโพล่งออกไปโดยไม่คิดด้วยซ้ำ “ย่อมต้องเป็นเช่นนั้น ข้าวของทั้งหมดที่นี่ข้าเป็นคนจัดวางเอง! ” อาจเพราะเซียวยวี่รู้สึกว่าจัดวางได้ดี ข้าวของในนี้แม้แต่ตำแหน่งของกระถางดอกไม้ก็ไม่เคยเปลี่ยน
เซียวยวี่มีความสุขเสียยิ่งกว่าอะไร “ใช่ ขอบคุณมากภรรยาข้า! ”
ใบหน้าของเซี่ยยวี่หลัวขึ้นสีแดงทันที มองค้อนเซียวยวี่เป็นเชิงตำหนิ เช่นนี้ถือว่าถูกบุรุษผู้นี้พูดจาแทะโลมหรือไม่?
เซียวยวี่ยิ้มอย่างมีความสุขยิ่งขึ้น คิ้วเข้มโก่งโค้ง หน้าตาตอนยิ้มดูดีเกินไป ดูดีจนเซี่ยยวี่หลัวมองอย่างเคลิบเคลิ้ม ลืมธุระที่ตัวเองจะคุยกับเซียวยวี่ไปชั่วขณะ
ไม่รู้ว่ามองอยู่นานเพียงใด เซียวยวี่กะพริบตาปริบๆ “อาหลัว เหตุใดเจ้าถึงน้ำลายไหล? ”
เซี่ยยวี่หลัวเช็ดมุมปากด้วยท่าทางเหม่อลอย…
เซียวยวี่ปิดริมฝีปากกลั้นยิ้ม ดวงหน้าเต็มไปด้วยประกายยิ้มแย้ม
เซี่ยยวี่หลัว “…” นางไม่พอใจแล้ว ยื่นมือไปทุบเซียวยวี่ “เจ้าน่ะสิน้ำลายไหล”
เซียวยวี่จับมือนางไว้ ดึงตัวนางเบาๆ เซี่ยยวี่หลัวลุกขึ้น ถูกดึงจนนั่งลงบนตักเซียวยวี่
เซี่ยยวี่หลัวส่งเสียงอุทานด้วยความตกใจ เซียวยวี่อ้าแขนทั้งคู่ โอบกอดเซี่ยยวี่หลัวจากด้านหลัง จากนั้นจึงจับมือน้อยที่อยู่ไม่สงบของเซี่ยยวี่หลัวไว้ พิงคางไว้ตรงไหล่เซี่ยยวี่หลัวเบาๆ เอ่ยถามเสียงเบา “หาข้าทำไมหรือ? ”
น้ำเสียงอ่อนโยนดุจสายน้ำ
เขาไม่กล้ามองนางต่อ หากมองต่อ เขาคงคิดอยากหยอกนางอีก
เหตุใดถึงมีคนที่น่ารักถึงเพียงนี้ น่ารักจนเขามีเพียงความคิดเดียว อยากโอบกอดนางไว้ในอ้อมอกดีๆ
เซี่ยยวี่หลัวสัมผัสได้ถึงความอบอุ่นจากบุรุษข้างหลังและกลิ่นอายเฉพาะตัวของเขาที่ค่อยๆ โอบล้อมนางไว้
เสียงของเซียวยวี่ไพเราะมาก แฝงเร้นด้วยความแหบแห้งทุ้มต่ำ จังหวะไม่เร็วหรือช้าเกินไป ทั้งหนักแน่นและเต็มไปด้วยแรงดึงดูด ทั้งยังมีเสน่ห์ชวนหลงใหล
คำพูดง่ายๆ เพียงห้าคำ เมื่อใกล้จะสิ้นเสียง หางเสียงตวัดสูงขึ้นเล็กน้อย เซี่ยยวี่หลัวได้ยินแล้วรู้สึกราวกับต้องกระแสไฟฟ้าก็มิปาน
ห้วงความคิดสับสนวุ่นวาย ถึงกับไม่รู้ว่าควรตอบเขาเช่นไร