ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 12 บทที่ 359 มีโทษต่อตนเองไม่มีโทษต่อผู้อื่น
- Home
- All Mangas
- ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต
- เล่มที่ 12 บทที่ 359 มีโทษต่อตนเองไม่มีโทษต่อผู้อื่น
เซียวยวี่นอนไม่หลับ ถึงแม้วันนี้จะตื่นแต่เช้า ทั้งยังเกิดเรื่องน่ายินดีและน่าหวั่นวิตกมากมายถึงเพียงนั้น เขาก็ยังนอนไม่หลับ
เซี่ยยวี่หลัวที่นอนอยู่ข้างๆ เพราะอากาศร้อน นางไม่ได้ห่มอะไรไว้บนตัว เสื้อซับในสีขาวห่อหุ้มเรือนร่างอรชรไว้ นางหลับสบายเสียยิ่งกว่าอะไร ทั้งยังส่งเสียงกรนเบาหวิว
ขอเพียงเอื้อมมือไป ก็สามารถโอบกอดคนตัวเล็กไว้ในอ้อมอกได้
เซียวยวี่มองด้วยอาการเหม่อลอย เอื้อมมือออกไปอย่างไม่อาจควบคุมตัวเองได้
ในจังหวะที่มือกำลังจะสัมผัสโดนแผ่นหลังของเซี่ยยวี่หลัว จู่ๆ คนข้างๆ ก็ส่งเสียงเบา ขยับตัวทีหนึ่ง เซียวยวี่ตกใจจนรีบชักมือกลับ ก่อนหันตัวไป
คนข้างๆ ก็พลิกตัว อาจเพราะได้กลิ่นหอม นางขยับเข้ามาชิดเซียวยวี่อีกเล็กน้อย
ลมหายใจอบอุ่นตกกระทบตรงซอกคอเซียวยวี่ เซียวยวี่รู้สึกราวกับต้องกระแสไฟฟ้าก็มิปาน แทบกระโดดลุกขึ้น
เซียวยวี่เกรงว่าหากตัวเองเคลื่อนไหวจะทำให้คนข้างๆ ตื่น จึงไม่กล้าขยับตัวแม้แต่น้อย ลมหายใจอบอุ่นถูกพ่นออกมาครั้งแล้วครั้งเล่า ตกกระทบตรงซอกคอของเขา ลอยไปยังใบหูของเขา
ลมหายใจอบอุ่นที่ทำให้รู้สึกอ่อนระทวย ปลุกความปรารถนาในร่างกายเซียวยวี่ที่หลบซ่อนมาตลอดให้ตื่นขึ้น
บัดนี้ประหนึ่งมังกรเร้นกายในน้ำ ได้รับสายฝนอันชุ่มฉ่ำหลังเผชิญความแห้งแล้งมายาวนาน ทุกส่วนของร่างกายกำลังส่งเสียงเรียกร้อง หมายจะพุ่งทะลวงออกจากพันธนาการของร่างกาย
ในจังหวะที่อารมณ์ปรารถนากำลังจะทะลักออกมา เซียวยวี่ลุกพรวดขึ้นทันที
เขาลุกแรงเกินไป ตอนเซี่ยยวี่หลัวพลิกตัวก็ทับผมของเขาไว้ เขาลุกขึ้นอย่างฉับพลัน ผมที่ถูกทับจึงโดนดึงหลุดไปไม่น้อย เจ็บจนเซียวยวี่ขมวดคิ้วมุ่น
แต่เขาไม่กล้าส่งเสียงแม้แต่น้อย ได้แต่กัดริมฝีปากไว้
ยังดีที่คนที่นอนหลับไป ยังคงหลับสนิทอยู่ ไม่รู้ตัวเลยสักนิดว่าใครบางคนเกือบกินนางเสียแล้ว
เซียวยวี่วิ่งหนีไปอย่างเร่งรีบ ราวกับว่าข้างหลังมีสัตว์ร้ายที่กินคนได้อย่างไรอย่างนั้น
กลับถึงห้อง เซียวยวี่สงบใจอยู่ครู่ใหญ่ หนังศีรษะที่ถูกดึงจนเจ็บก็หายเจ็บแล้ว ในที่สุดเซียวยวี่ก็สงบสติอารมณ์ได้ เมื่อขึ้นเตียงของตัวเองกำลังจะพักผ่อน ในห้วงความคิดก็คิดถึงเซี่ยยวี่หลัวอีกครั้ง
เมื่อครู่นี้ อีกเพียงนิดเดียวเขาก็จะแตะโดนนางแล้ว
หากนางนอนอยู่ข้างๆ เขา เหมือนกับเมื่อครู่นี้ คงดีไม่น้อยเลย
ความคิดนี้เพิ่งผุดขึ้นมา อารมณ์ปรารถนาที่สะกดไว้อย่างยากลำบากพลันทะลักขึ้นอีกครั้ง
เมื่อสัมผัสได้ถึงความผิดปกติของร่างกายตัวเอง เซียวยวี่ลุกขึ้นนั่ง ตีศีรษะตัวเองทีหนึ่งด้วยความจนใจ
การฝึกฝนของเขายังตื้นเขินเกินไป อย่าทำเรื่องที่มีโทษต่อตัวเองไร้โทษต่อผู้อื่นเช่นนี้อีกเลย
ในบ้านท่านป้าสี่ เมื่อท่านลุงสี่ได้ฟังเรื่องชั่วร้ายที่บุตรสาวของตัวเองกระทำ ก็ตาเหลือกทันที หายใจติดขัด แทบหมดสติไป
“ตาแก่ ตาแก่ เจ้าอย่าทำให้ข้าตกใจ!” ท่านป้าสี่กดตรงตำแหน่งเหรินจง [1] ของท่านลุงสี่ด้วยท่าทางลุกลี้ลุกลน จึงทำให้เขาฟื้นขึ้นมาได้
ท่านลุงสี่รู้สึกผิดหวังยิ่งนัก ทุบอกตัวเองด้วยความเจ็บปวดใจ “บาปกรรมนัก เด็กคนนั้นถูกพวกเราตามใจจนเสียคน เสียคนแล้ว แค่กแค่ก...”
ท่านป้าสี่ตบหลังเขาเบาๆ ร้องไห้ตามเช่นกัน “จะทำอย่างไรได้ นั่นเป็นบุตรสาวเพียงคนเดียวของพวกเรา! นางคือชีวิตของพวกเรา!”
สองสามีภรรยาร่ำไห้อยู่ครู่ใหญ่ ท่านลุงสี่เช็ดน้ำตาจนแห้ง “ไปไปไป พวกเราไปขอขมาเซียวยวี่”
พอได้ยินว่าจะไปขอขมาเซียวยวี่ ท่านป้าสี่ก็ไม่พอใจ “หมิงจูถูกขังในศาลบรรพชนแล้ว ขังตั้งสิบสองวัน บทลงโทษนี้ยังไม่พออีกหรือ? เจ้ายังจะไปทำไมอีก!”
“ขังสิบสองวันสามารถลบล้างความผิดที่หมิงจูกระทำได้หรือ? เจ้ารู้หรือไม่ นางเกือบทำให้ภรรยาเซียวยวี่ต้องตาย เจ้าคิดว่าแค่ให้หมิงจูถูกขังในศาลบรรพชนก็พอแล้ว?” ท่านลุงสี่ตะคอก
“เช่นนั้นเจ้ายังอยากทำอย่างไรอีก? หรือเจ้าอยากให้ข้าเอาชีวิตแก่ๆ นี่ชดใช้ให้พวกเขาด้วย?” ท่านป้าสี่ตะคอกกลับ
ท่านลุงสี่ไม่สนใจนาง ไม่อยากโต้เถียงกับนาง “เจ้ารีบไป ไปเอาเงินสิบตำลึงมาให้ข้า!”
เงินสิบตำลึงถือว่าน้อยแล้ว บุตรสาวของพวกเขาเกือบทำให้เซี่ยยวี่หลัวต้องตาย! หาใช่เรื่องที่ใช้เงินเพียงสิบตำลึงมาแก้ไขได้!
“ว่าไงนะ? สิบตำลึง? เจ้าคิดว่าเงินในบ้านเราได้มาเพราะพายุพัดหอบมาให้หรืออย่างไร? ข้าไม่เห็นด้วย!”
“เจ้าไม่เห็นด้วยก็ต้องเห็นด้วย วันนี้เจ้าต้องเอาเงินมาให้ข้า!” ท่านลุงสี่ลุกขึ้นจะไปหาสถานที่ที่ปกติท่านป้าสี่ใช้เก็บเงิน
กำลังจะลงมือเปิดตู้ ท่านป้าสี่พุ่งพรวดเข้าไป กอดตู้ไว้ ทำอย่างไรก็ไม่ยอมปล่อยมือ “เจ้าคิดจะทำอะไร?”
“เจ้าหลบไป ข้าจะเอาเงิน!” ท่านลุงสี่เห็นว่าถึงเวลานี้แล้ว ภรรยาของตัวเองยังเห็นแก่เงิน จึงโมโหจนรู้สึกวิงเวียนศีรษะ
“หากเจ้ากล้าเอาเงินออกจากบ้านนี้แม้แต่อีแปะเดียว ข้าจะสู้ตายกับเจ้า นี่เป็นเงินที่ข้าเก็บสะสม ทำไมต้องให้ตัวซวยอย่างเซียวยวี่! หากไม่ใช่เพราะเขา หมิงจูมีหรือจะเป็นอย่างนี้!”
คราวนี้ท่านลุงสี่เข้าใจแล้ว “ตอนนี้ข้าเข้าใจแล้ว ที่แท้หมิงจูก็เรียนรู้มาจากเจ้า! ตัวเองทำผิดแล้วยังจะผลักความผิดไปให้ผู้อื่น เฉียนฟาง ตอนนี้ต้องช่วยชีวิตบุตรสาวของเจ้า ในสายตาเจ้ามีแต่เงินหรืออย่างไร?”
ท่านป้าสี่แซ่เฉียนนามว่าฟาง ท่านลุงสี่โมโห จึงเรียกทั้งชื่อและแซ่ออกมา
ท่านป้าสี่เองก็ไม่ยอมจำนน “เจ้าเอาแต่บอกว่าหมิงจูจะทำร้ายเซี่ยยวี่หลัวจนตาย เซี่ยยวี่หลัวก็สบายดีไม่ใช่หรือ? นางมีอะไรเสียหายตรงไหน กลับเป็นหมิงจูของเรา ตอนนี้ยังถูกขังอยู่ในศาลบรรพชน ชื่อเสียงถูกทำลายจนย่อยยับ”
“นางกระทำผิดสมควรได้รับโทษ!” ท่านลุงสี่โมโหจนช่วงอกยุบพอง หายใจติดขัด ก่อนจะล้มนั่งลงบนเตียง
ท่านป้าสี่เอาแต่เศร้าโศกเสียใจ ไม่เห็นเลยว่าท่านลุงสี่โมโหจนสีหน้าซีดเผือด หายใจไม่ออก หมดสติล้มลงไป
“พวกเรามีหมิงจูเป็นลูกสาวสุดที่รักเพียงคนเดียว เกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น ข้าก็ได้แต่คาดหวังจะใช้เงินนี่จะช่วยหาสามีดีๆ ให้นาง หากเจ้าเอาไป ต่อไปพวกเรายังจะใช้เงินช่วยค้ำจุนบุตรสาวของเราอย่างไร…”
ข้างหลังไม่มีผู้ใดตอบกลับ
ท่านป้าสี่กอดตู้พลางร่ำไห้กล่าวความในใจต่อ “ลูกสาวของเราไม่ได้ความ ไปชอบเซียวยวี่ เซียวหยวนต่างหากถึงจะเป็นคนที่เหมาะสม… ตาแก่ เจ้าว่า อาหยวนยังจะแต่งกับหมิงจูอยู่หรือไม่?”
ข้างหลังเงียบกริบ ไม่มีผู้ใดกล่าวอะไร
ท่านป้าสี่หันกลับมา เห็นตาแก่ที่นอนบนเตียงแน่นิ่งไม่ไหวติง ราวกับสิ้นใจแล้วอย่างไรอย่างนั้น จึงตกใจจนร้องเสียงแหลม
“ตาแก่…”
เซี่ยยวี่หลัวนอนไปกว่าหนึ่งชั่วยาม ถือว่าชดเชยการนอนที่หายไปในวันนี้ได้แล้ว
แต่นางนอนฝันถึงเรื่องหนึ่ง ฝันเห็นเซียวยวี่แปลงกายเป็นหมาป่าตัวหนึ่ง กินนางจนไม่เหลือแม้แต่ซาก
ถือเป็นความฝันที่น่ากลัวอย่างแท้จริง!
เซี่ยยวี่หลัวตบหน้าอกตัวเองด้วยความหวาดหวั่น ลุกขึ้นนั่ง เพิ่งขยี้ตา ก็เห็นว่าบนปลอกหมอนสีขาวผ่องดุจหิมะ มีเส้นผมสีดำสนิทอยู่หลายเส้น
ตอนแรกคิดว่าเหตุใดตัวเองถึงมีผมร่วงมากขนาดนี้ แต่พอลองหยิบขึ้นมาดู ก็พบความผิดปกติทันที
เส้นผมทั้งหนาทั้งดำ ถึงแม้เส้นผมของเซี่ยยวี่หลัวจะหนาเช่นกัน แต่เทียบกับผมเหล่านี้ ก็ยังบางกว่าเล็กน้อย นอกจากนั้น เส้นผมนี่สั้น
นี่ไม่ใช่เส้นผมของนาง และไม่ใช่ของจื่อเมิ่ง ยิ่งไม่ใช่ของจื่อเซวียน
ในบ้านนี้คนที่ผมทั้งหนาทั้งดำ และมีความยาวเท่านี้ ก็มีเพียงเซียวยวี่เท่านั้น
เส้นผมของเซียวยวี่?
เซี่ยยวี่หลัวหยิบเส้นผมขึ้นมาทั้งหมด ลองนับดู หนึ่ง สอง สาม สี่ ห้า…
แม่เจ้า ตั้งเก้าเส้น!
หรือว่าเซียวยวี่จะคิดมากเกินไป จึงผมร่วงตั้งแต่อายุน้อย?
ร่วงเยอะเกินไปแล้วกระมัง!
———————
เชิงอรรถ
[1] เหรินจง คือร่องเหนือริมฝีปากบนที่อยู่ใต้จมูก