ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 378 ชะตากรรมพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง
ตอนที่ 378 ชะตากรรมพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง
ตอนที่ 378 ชะตากรรมพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง
ได้ครองใจหล่อนอีกครั้ง?
ดวงตาของเซี่ยเหลยเปล่งประกาย ขณะที่เขาเงยหน้าขึ้นมองหลินเซี่ย
หลินเซี่ยพูดเสริมว่า “พ่อคะ แม่แค่กังวลมากไป พ่อน่าจะพอเข้าใจความรู้สึกของแม่ดี ถ้าพ่อเริ่มต้นใหม่กับแม่ เราสามคนจะเป็นครอบครัวที่มีความสุขแน่นอน แต่ว่าฝั่งแม่ยังมีพี่ชายอยู่ และน้องสาวฉันด้วย พวกเขายังไม่ได้แต่งงานเลย พ่อหลินก็ยังมาล่วงลับไปซะก่อน แม่เลยกลายเป็นคนในครอบครัวเพียงคนเดียวของพี่ชายและน้องสาวฉัน ตอนนี้แม่ไม่อยากจะมอบความสุขให้กับตัวเอง เพราะต้องรับผิดชอบลูกชายและลูกสาวในฐานะแม่ เมื่อไหร่ที่คนเรามีลูก แม้แต่ความสุขของตัวเองก็ไม่สำคัญน่ะค่ะ”
เมื่อเซี่ยเหลยได้ฟังคำพูดของหลินเซี่ย เขาก็เข้าใจในทันที
หลิวกุ้ยอิงมีปมปัญหาในใจหลายอย่าง เขาควรเข้าใจหล่อน
“เซี่ยเซี่ย พ่อเข้าใจแล้ว”
หลินเซี่ยยิ้มและพูดว่า “พ่อ แต่ฉันหวังว่าพ่อจะไม่ยอมแพ้นะคะ ถ้าพ่ออยากอยู่กับแม่ก็ต้องรับผิดชอบคนอื่นในครอบครัวของเราด้วย ถึงตอนนั้นแม่คงขจัดความกังวลไปได้แน่นอน สุดท้ายแล้วการเป็นพ่อเลี้ยงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย พ่อต้องกลับไปคิดเรื่องนี้ให้ดี”
เมื่อหลินเซี่ยพูดมาถึงตรงนี้ เธอก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อยในใจ
พวกเขาสามพ่อแม่ลูกมีชะตากรรมเดียวกันหมดเลยนี่นา?
ชะตากรรมของการเป็นพ่อเลี้ยงแม่เลี้ยง
เธอได้เรียนรู้มากมายจากความสัมพันธ์ระหว่างหลิวกุ้ยอิงและหลินจินซาน แน่นอนเธอมองเห็นว่าความผูกพันอันแน่นแฟ้นระหว่างแม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงระหว่างพวกเขาเป็นอย่างไร
ถ้าปฏิบัติต่อกันด้วยความจริงใจ และมีทัศนคติที่ดีต่อกัน แม่เลี้ยงและลูกเลี้ยงจะเข้าหากันได้ไม่ยากเย็นเลย
“ลูกรัก ขอบคุณที่บอกเรื่องนี้กับพ่อนะ”
หลังหลินเซี่ยให้คำแนะนำแก่เขา สีหน้าอารมณ์ของเขาจึงดูสดใสขึ้นมาก
ตอนนี้เขาพอจะเข้าใจความยากลำบากและความกังวลของหลิวกุ้ยอิงได้ดีขึ้น ทางหลินต้าฝูเองก็ดีกับหล่อนมากเช่นกัน หล่อนคงไม่อยากทำให้หลินต้าฝูที่อยู่บนสวรรค์ต้องผิดหวัง ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการปล่อยให้ลูกชายของหลินต้าฝูกลายเป็นเด็กขาดความอบอุ่น
ทั้งหมดนี้แสดงให้เห็นว่าหลิวกุ้ยอิงเป็นผู้หญิงที่ให้ความสำคัญกับความรักและความยุติธรรมมาก
หลินเซี่ยมองดูท่าทางผ่อนคลายของพ่อ แล้วพูดด้วยรอยยิ้ม “พ่อ ฉันไปก่อนนะคะ”
ไม่นานหลังจากที่หลินเซี่ยกลับมาที่ร้านตัดผม เซี่ยอวี่และลินดาก็มาถึงพอดี
ทั้งคู่สวมแว่นกันแดดดำสนิท ทำให้บุคลิกลินดาดูเท่ราวกับบอดี้การ์ด
ทันทีที่ทั้งสองเข้ามา ทุกคนในร้านตัดผมก็หันมองไปทางพวกหล่อนโดยไม่กะพริบตา
“คุณอา ลมอะไรหอบมาถึงนี่ได้คะ?”
เซี่ยอวี่ตอบว่า “ฉันต้องการความช่วยเหลือจากเธอ และเป็นเรื่องที่สำคัญมากด้วย”
ลินดาไม่ได้พูดอะไร เอาแต่กวาดตามองไปรอบ ๆ ร้านตัดผม มีลูกค้าสี่ถึงห้าคนกำลังรอตัดผมอยู่ในร้านตัดผมขนาดเล็กแห่งนี้ อาจารย์หวังและชุนฟางต่างกำลังยุ่งกันทั้งคู่ หลินเยี่ยนก็กำลังแต่งหน้าให้กับหญิงสาวที่กำลังจะเตรียมตัวไปนัดบอด
มีลูกค้ามากมายอยู่ภายในร้านจนไม่มีที่ว่าง
ลินดาพูดอย่างเย็นชา “เราไปหาที่คุยกันก่อนเถอะ”
เซี่ยอวี่เสนอว่า “เซี่ยเซี่ย ถ้างานส่วนของเธอไม่ยุ่งมาก เรากลับไปคุยกันที่บ้านดีกว่า”
“ได้ค่ะ”
เมื่อวานนี้ลินดาเพิ่งขอให้ใครบางคนซื้อรถมือสองเพื่อที่การเดินทางจะได้สะดวกขึ้น หลินเซี่ยจึงฝากงานที่เหลือให้อาจารย์หวังและชุนฟางก่อน จากนั้นก็ตามไปขึ้นรถ
มีเด็กผู้หญิงมัดผมหางม้าและสวมหน้ากากอีกคนนั่งอยู่ในรถด้วย เมื่อเห็นพวกเธอกำลังเดินมาขึ้นรถ หล่อนคนนี้ก็รีบขยับย้ายไปนั่งตรงตำแหน่งผู้โดยสาร
หลินเซี่ยและเซี่ยอวี่นั่งอยู่ด้านหลังด้วยกัน จากนั้นลินดาก็สตาร์ทรถ
หลินเซี่ยเห็นว่าพวกเขาต่างทำตัวลึกลับมาก เธอจึงกระซิบถามที่ข้างหูเซี่ยอวี่ว่า “คุณอา มีเรื่องจริงจังอะไรหรือเปล่าคะ?”
เซี่ยอวี่ตอบว่า “ฉันจะไปสถานีโทรทัศน์เพื่อเข้าร่วมในรายการประกวดคืนพรุ่งนี้ และฉันอยากให้เธอมาเป็นสไตล์ลิสต์ของฉัน”
อันที่จริงเซี่ยอวี่เคยพูดเรื่องนี้กับหลินเซี่ยมาก่อนแล้ว แต่ถูกผู้จัดการอย่างลินดาคัดค้าน
ลินดาไม่เคยเห็นทักษะของหลินเซี่ยมาก่อน และยังให้เหตุผลว่านี่เป็นการปรากฏตัวต่อสาธารณะครั้งแรกของเซี่ยอวี่ในไห่เฉิง ฉะนั้นจึงไม่ควรมีข้อผิดพลาดใด ๆ เพื่อความแน่ใจ พวกเขาคิดว่าควรให้เคลลี่ สไตลิสต์ที่มาจากฮ่องกงรับผิดชอบมากกว่า
แต่เซี่ยอวี่กลับยืนกรานที่จะให้หลานสาวของหล่อนแต่งหน้าให้ ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา ทั้งสองคนจึงติดอยู่ในทางตันกับปัญหานี้ ในที่สุดลินดาก็ยอมถอย และบอกว่าเธอจะให้หลินเซี่ยเข้ามาทดสอบการแต่งหน้าเพื่อดูทักษะก่อน โดยจะต้องแต่งหน้าทำผมให้ครบเซตเหมือนวันจริง
การปรากฏตัวครั้งแรกของเซี่ยอวี่ที่สถานีโทรทัศน์เซี่ยงไฮ้ จะต้องเปิดตัวด้วยภาพลักษณ์ที่ดีที่สุด เพราะการปรากฏตัวครั้งนี้ถือเป็นกุญแจสำคัญว่าหล่อนจะสามารถถีบประตูวงการบันเทิงของไห่เฉิงในอนาคตได้หรือไม่
ลินดาเป็นผู้หญิงที่เข้มแข็ง มีหลักการสูง และจะไม่ประนีประนอมไม่ว่าเรื่องไหน ตราบใดที่สิ่งนั้น ๆ ไม่ดีพอสำหรับเซี่ยอวี่ในหน้าที่การงาน
ทางด้านเซี่ยอวี่เองก็เห็นแก่ตัวและดื้อรั้นมาก หล่อนต้องการให้หลานสาวมาช่วยปรับลุคของตัวเองใหม่ แน่นอนว่าเหตุผลที่สำคัญกว่านั้นก็คือหล่อนรู้มาว่าความงามโลกตะลึงของเจียงอวี่เฟยในการประกวดครั้งก่อนหน้าเป็นฝีมือของหลินเซี่ยที่รังสรรค์ขึ้นมา และหล่อนก็ประทับใจมาก
หลินเซี่ยเหลือบมองลินดาที่ขับรถอยู่ข้างหน้า กระซิบกับเซี่ยอวี่อีกครั้งว่า “คุณลินดาหล่อนยอมเหรอคะ?”
“ถ้าผลงานออกมาดี หล่อนอาจจะยอมก็ได้”
หลินเซี่ยชูมือทำท่าโอเคให้เธอ
“คุณอา ฉันจะตั้งใจทำงานสุดฝีมือเลยค่ะ”
ผู้จัดการที่มากความสามารถและเก่งกาจอย่างลินดา มีสิทธิ์เด็ดขาดในการตัดสินใจเหมือนกัน
ถ้าผลงานของเธอออกมาไม่ดีอย่างที่คาดหวัง ลินดาก็ไม่มีวันเปิดทางให้เธอทำลายภาพลักษณ์ของเซี่ยอวี่เพียงเพราะเธอเป็นหลานสาวของเซี่ยอวี่แน่
หลินเซี่ยจะต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ได้ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
เดิมทีลินดาตั้งใจจะจอดรถตรงหน้าประตู แต่มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ที่หน้าประตูก่อนแล้ว ขวางพื้นที่จอดบริเวณหน้าบ้านเต็ม ๆ
หล่อนจึงต้องจอดรถอยู่หลังมอเตอร์ไซค์เล็กน้อย
ลินดารู้ทันทีว่ามอเตอร์ไซค์คันนี้เป็นของใคร หล่อนหันหน้าไปมองผู้หญิงที่นั่งเบาะหลัง แล้วพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “แฟนคุณมาน่ะ”
เมื่อเซี่ยอวี่ได้ยินคำว่าแฟน หล่อนก็ตกตะลึงไปไม่กี่วินาที ก่อนจะรู้ว่าลินดากำลังพูดถึงใคร
เซี่ยอวี่และหลินเซี่ยลงจากรถ เห็นรถมอเตอร์ไซค์ของเย่ไป๋อย่างชัดเจน
เซี่ยอวี่พลันลำบากใจขึ้นมา
ทำไมเขาถึงมาที่นี่ล่ะ?
ทันทีที่พวกเธอเข้ามาข้างใน ก็ได้ยินเสียงหัวเราะดังลั่นของหญิงชรา
“เสี่ยวเย่ เธอนี่เป็นคนดีจริง ๆ มาวัดความดันและตรวจร่างกายให้ฉันโดยเฉพาะแบบนี้ คงจะดีไม่น้อยถ้าครอบครัวเรามีหมอประจำบ้าน”
เย่ไป๋ตอบกลับอย่างอบอุ่นว่า “ยินดีอย่างยิ่งครับคุณป้า ถ้ารู้สึกไม่สบายหรือป่วยยังไง สามารถโทรหาผมได้ตลอดเวลาครับ”
“แม่” เซี่ยอวี่ขอให้ลินดาพาเคลลี่ไปรอที่ห้องด้านข้าง จากนั้นหล่อนกับหลินเซี่ยก็เข้าไปในห้องโถง
เมื่อเย่ไป๋เห็นคนเดินเข้ามา จึงถอดหูฟังแพทย์ออกจากหูของเขา
“กลับมาแล้วเหรอครับ?” ท่าทางของเย่ไป๋อ่อนโยนราวกับสายลมฤดูใบไม้ผลิ “เซี่ยเซี่ยก็มาด้วย?”
เมื่อหลินเซี่ยได้ยินเย่ไป๋เรียกเธอว่าเซี่ยเซี่ยอย่างเป็นธรรมชาติราวกับว่าเขาเป็นอาเขยของเธอจริง ๆ เธอก็มีท่าทางผ่อนคลายลงและตอบกลับว่า “ค่ะ พอดีคุณอามีธุระต้องคุยกับฉัน”
“แม่ เป็นอะไรมากหรือเปล่า? ทำไมไม่บอกเราตั้งแต่เช้าล่ะ จะได้พาไปโรงพยาบาล”
ดวงตาของคุณแม่เซี่ยกะพริบเล็กน้อยขณะอธิบายว่า “แม่รู้สึกปวดหัวนิดหน่อยหลังจากงีบไปพักหนึ่ง เลยวานเสี่ยวเย่เข้ามาตรวจอาการให้”
เย่ไป๋ยืนอยู่ที่นั่นและมองไปทางเซี่ยอวี่ เซี่ยอวี่หันไปสบตาเขาพอดี ทั้งสองทำได้แค่แสดงละครต่อหน้าหญิงชราต่อไปเท่านั้น “เสี่ยวไป๋ ขอบคุณที่มาช่วยดูแลแม่ของฉันนะคะ”
น้ำเสียงของเย่ไป๋อ่อนโยนลงมากกว่าเดิม “ผมเองก็ตั้งใจแวะมาหาคุณด้วยเหมือนกัน”
เซี่ยอวี่ “!!!”
หลังจากความทรงจำของเซี่ยเหลยฟื้นคืนแล้ว หมอเย่บอกว่าเขาไม่จำเป็นต้องฝังเข็มทุกวัน นอกจากนี้ยังพูดอีกว่าการรักษาที่เหมาะสำหรับเซี่ยเหลยคือการมอบความสบายใจให้ และยังต้องพึ่งพาผู้คนรอบตัวเพื่อค่อย ๆ ปลุกให้ความทรงจำของเขาตื่นอย่างเต็มที่
หลังจากที่หมอแผนจีนเย่สั่งยาบำรุงเส้นประสาทให้กับเซี่ยเหลย เขาก็ขอให้เซี่ยเหลยมาตรวจดูอาการสัปดาห์ละครั้ง
หลิวกุ้ยอิงก็พาเซี่ยเหลยมารับการรักษาในสัปดาห์นี้ด้วยตัวเอง
เย่ไป๋ไม่ได้เจอเซี่ยอวี่มาหลายวันแล้ว
เขาคิดว่าแม้พวกเขาจะเป็นแค่คู่รักปลอม ๆ แต่พวกเขาก็ควรออกไปเที่ยวอย่างที่คู่อื่น ๆ เขาทำกันบ้าง
“ลูกสาวฉันนี่ก็จริง ๆ เลย ไม่ค่อยออกไปเจอใครเพราะตัวเองงานยุ่ง จากนี้หาเวลาว่างพาเสี่ยวเย่ไปกินข้าวด้วยกันบ้างสิ”
คุณแม่เซี่ยหันไปมองเย่ไป๋ด้วยรอยยิ้มแล้วพูดต่อ “เสี่ยวเย่ หลังจากนี้ถ้ามีเวลาว่างก็อย่าลืมโทรหาหล่อนให้บ่อยขึ้นหน่อย หรือไปเที่ยวกับหล่อนบ่อย ๆ ก็ได้นะ”
“ครับคุณป้า ผมเข้าใจแล้ว”
เซี่ยอวี่ตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์ “แม่ เราจะหาโอกาสเจอกันเมื่อมีเวลาแน่นอน ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะ”
……………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
หมอเย่รุกหนักมาก ท่าทางคู่รักปลอมๆ จะกลายเป็นคู่รักจริงๆ ขึ้นมาแล้วไหมน้า?
ไหหม่า(海馬)