ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 318 พวกเราดูเข้ากันดีใช่ไหม
ตอนที่ 318 พวกเราดูเข้ากันดีใช่ไหม?
ตอนที่ 318 พวกเราดูเข้ากันดีใช่ไหม?
เซี่ยหลานตัดสินใจทุกอย่างไปแล้ว และเสิ่นเถี่ยจวินไม่มีเหตุผลดี ๆ มาขัดขวางเธอเลย เขาจึงต้องเห็นด้วยเท่านั้น
“อืม งั้นก็พาเขาไปหาแพทย์แผนจีนสกุลเย่เพื่อรักษาตัวเถอะ”
เมื่อลูกชายพูดออกมาอย่างนั้น คุณปู่เสิ่นจึงไม่มีอะไรจะพูดต่อ เขาเพียงหันมองลูกชายของตัวเองด้วยแววตาขุ่นเคือง
เพราะอีกฝ่ายทำให้เขาพ่ายแพ้ต่อเซี่ยหลาน
“อืม พวกคุณก็กลับไปได้แล้ว อย่าอยู่ที่นี่เพื่อรบกวนเราเลย”
“ผมจะรอส่งลูกไปหาแพทย์แผนจีนเย่ก่อน”
เสิ่นเถี่ยจวินเป็นพ่อของเด็ก และเซี่ยหลานไม่อาจโต้แย้งความจริงได้
เสิ่นอวี้อิ๋งมองเด็กชายบนเตียงด้วยความกังวลก่อนจะพูดว่า “แม่คะ หนูก็อยากจะไปส่งน้องชายด้วยค่ะ”
“จ้ะ”
เซี่ยหลานหันกลับมาหาคุณปู่เสิ่นและเสิ่นเสี่ยวเหมยก่อนจะพูดว่า “อย่างนั้นพวกคุณกลับไปก่อนเถอะค่ะ ฉันไม่อยากให้ที่นี่มีคนมากเกินไป”
เห็นชัดว่าเซี่ยหลานต้องการที่จะขับไล่ แต่เสิ่นเสี่ยวเหมยก็ยังอยากจะไป เธอหันมองปู่ตัวเองก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงเย่อหยิ่ง “คุณปู่ ไปเถอะค่ะ”
เสิ่นเสี่ยวเหมยเหลือบมองเซี่ยอวี่เล็กน้อย แต่ไม่คิดทักทาย
สุดท้ายแล้วหล่อนเป็นป้าของหลินเซี่ย และทั้งคู่สนิทสนมกันมาก
เธอเองก็ไม่อยากจะยั่วยุอีกฝ่าย
และตอนนี้เธอกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่
คุณปู่เสิ่นรู้จักเซี่ยอวี่ เพราะเขาเคยพบกับเซี่ยอวี่ตอนที่อยู่ในเมืองไห่เฉิงเมื่อยี่สิบปีก่อน
และเวลานี้หล่อนดูเหมือนหลินเซี่ยไม่มีผิด
แม้จะผ่านมานานหลายปี แต่รูปลักษณ์หน้าตาของพวกหล่อนก็ยังเป็นหนามแหลมแทงใจเขาเสมอมา
ทันทีที่คุณปู่เสิ่นและเสิ่นเสี่ยวเหมยออกไป เสิ่นอวี้อิ๋งหันมองเซี่ยอวี่ก่อนจะกล่าวเสียงหวาน “เป็นคุณป้าเซี่ยอวี่หรือเปล่าคะ? น้องสาวแสนดีของคุณแม่”
เซี่ยอวี่ตอบกลับเสียงอ่อน “ใช่จ้ะ”
เวลานี้เสิ่นเถี่ยจวินอยากจะทักทายเซี่ยอวี่ด้วยเช่นกัน “เซี่ยอวี่ ไม่เจอกันนานเลยนะ”
เซี่ยอวี่เม้มปากก่อนจะตอบกลับด้วยน้ำเสียงไร้อารมณ์ “ค่ะผู้อำนวยการเสิ่น ไม่เจอกันนานแล้ว”
ถ้าหากไม่ได้อยู่ในห้องพักผู้ป่วย เซี่ยอวี่คงจะจัดการกับเสิ่นเถี่ยจวินจนแหลกเป็นชิ้น ๆ แล้ว
อีกด้านหนึ่ง เมื่อเสิ่นเสี่ยวเหมยและคุณปู่เสิ่นเดินออกจากห้องพักผู้ป่วยไปแล้ว เสิ่นเสี่ยวเหมยก็เอ่ยปากกับคุณปู่เสิ่นทันทีว่า “ปู่คะ ผู้ชายที่หนูนัดบอดด้วยคือคุณหมอเย่ที่โผล่เข้ามาในห้องเมื่อกี้ค่ะ”
“เป็นเขาเหรอ?” คุณปู่เสิ่นพูดต่อ “เขาดูดีจริง ๆ แต่เพราะเขาไม่สนใจหลาน งั้นก็ไม่เป็นไรหรอก ไว้ปู่จะขอให้ใครสักคนแนะนำให้หลานรู้จักกับคนอื่น ๆ ต่อไปเองนะ”
เสิ่นเสี่ยวเหมยคว้าแขนคุณปู่เสิ่นก่อนจะกล่าวด้วยความเขินอาย “คุณปู่คะ หนูคิดว่าเขาก็ดูดีแล้วนะคะ อีกอย่าง…”
เธอมองห้องทำงานของแพทย์ขณะลังเลจะกล่าวต่อ
คุณปู่เสิ่นเข้าใจความคิดของเธอทันที เขาหยุดฝีเท้าก่อนจะพูดว่า “อืม เข้าไปคุยกับเขาสักหน่อยเถอะ”
ผู้ชายคนนั้นเก่งมากจริง ๆ และสถานะทางสังคมของเขาก็ค่อนข้างดี สุดท้ายแล้วอาชีพแพทย์เป็นอันดับสองรองจากราชการอย่างพวกเขา
ในเมื่อหลานสาวของเขาต้องการ เขาก็จะต่อสู้เพื่อหล่อน
ทั้งสองเคาะประตูก่อนจะเปิดเข้าไป
“หมอเย่”
เย่ไป๋กำลังเขียนเอกสารเวชระเบียนอยู่ เขาเงยหน้าขึ้นมองทั้งสองที่ผลักประตูเข้ามาก่อนจะถามด้วยน้ำเสียงสุภาพ “คุณสองคนมีอะไรหรือเปล่าครับ?”
คุณปู่เสิ่นเดินเข้าหาเขาด้วยรอยยิ้มก่อนจะจับมือเย่ไป๋อย่างสุภาพ “หมอเย่ ดูเหมือนช่วงนี้คุณจะทำงานหนักมากจริง ๆ”
เย่ไป๋จับมือกับคุณปู่เสิ่น “ไม่หนักหรอกครับ มันเป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
ขณะที่เย่ไป๋กำลังจะเทน้ำให้เขา คุณปู่เสิ่นดึงเสิ่นเสี่ยวเหมยมาด้านหน้าก่อนจะกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“บังเอิญจริง ๆ ผมได้ยินมาว่านัดบอดของเสี่ยวเหมยเป็นคุณสินะ”
เย่ไป๋ตื่นตระหนกจนมือสั่น และหยุดความคิดที่จะรินน้ำให้กับพวกเขาทันที
รอยยิ้มอึดอัดปรากฏขึ้นบนใบหน้าสุภาพ และเขาก็ยังอธิบายต่อว่า “มันเป็นเรื่องเข้าใจผิดน่ะครับ”
“เพราะเราทุกคนรู้จักกันดีอยู่แล้ว ทั้งหมดล้วนเป็นโชคชะตา เธอสองคนเป็นคนหนุ่มสาว ควรจะทิ้งข้อมูลติดต่อกันไว้และเป็นเพื่อนกันไว้ก่อนดีกว่านะ”
หลังจากที่คุณปู่เสิ่นพูดจบ เสิ่นเสี่ยวเหมยก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและคิดจะบันทึกเบอร์ของเย่ไป๋ลงไป
“ผมขอโทษด้วยนะครับ ปกติแล้วผมยุ่งอยู่กับงานและไม่มีเวลาจะหาเพื่อน อีกอย่าง…”
เซี่ยอวี่เดินออกจากห้องพักผู้ป่วย และหันมองประตูห้องทำงานแพทย์ เวลานี้เธอเห็นคุณปู่เสิ่นและเสิ่นเสี่ยวเหมยอยู่ด้านใน ใบหน้างดงามคิ้วขมวดเข้าหากันก่อนจะลอบสาปแช่ง… คนจากตระกูลเสิ่นจะปรากฏตัวในทุกที่เลยหรือไงนะ!
เสิ่นเถี่ยจวินและเสิ่นอวี้อิ๋งอยู่ในห้องพักผู้ป่วย แล้วเธอจะหลบหลีกคนเหล่านี้ได้ยังไง?
เซี่ยอวี่คิดหันหลังกลับ
แต่เย่ไป๋คล้ายกับจะมองเห็นผู้ช่วยชีวิต
เขาหันมองเซี่ยอวี่ด้วยสายตาที่มีความหวัง ก่อนจะถามว่า “คุณมีอะไรหรือเปล่าครับ? เข้ามาได้เลยนะครับ”
ยามเห็นแววตาร้องขอความช่วยเหลือของเย่ไป๋ เซี่ยอวี่ก็เข้าใจทันทีก่อนจะพยักหน้า “อื้ม ฉันมีเรื่องจะคุยด้วยน่ะ”
เซี่ยอวี่เดินเข้ามาพร้อมกับถือเสื้อกันลมของเย่ไป๋ไว้ในมือ “ฉันเอาเสื้อมาคืนให้”
พูดจบ เธอนั่งลงบนเก้าอี้ทันที
เย่ไป๋เห็นผู้หญิงคนนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องทำงานของเขา แล้วทันใดก็เกิดความคิดบางอย่างและหันมองคุณปู่เสิ่นกับเสิ่นเสี่ยวเหมย
“ยังไงก็ต้องขอโทษด้วยนะครับคุณเสิ่น ผมมีแฟนแล้ว และไม่สามารถทิ้งข้อมูลติดต่อได้ครับ”
เสิ่นเสี่ยวเหมยเผยสีหน้าประหลาดใจ “แฟนเหรอคะ? คุณเพิ่งไปนัดบอดเมื่อวันก่อน และวันนี้คุณมีแฟนแล้วเหรอ?”
ดวงตาของเธอหันมองเซี่ยอวี่ด้วยความขุ่นเคือง
ก่อนจะหันมองถุงที่เซี่ยอวี่วางไว้บนโต๊ะ
ปากถุงเปิดอยู่และมีเสื้อผ้าด้านใน
เขา… กับเซี่ยอวี่งั้นเหรอ?
เซี่ยอวี่นั่งอยู่ตรงนั้นอย่างเงียบงัน ได้ยินถ้อยคำที่เย่ไป๋ปฏิเสธเสิ่นเสี่ยวเหมย และทันทีที่เห็นสีหน้าของตระกูลเสิ่นทั้งสองคน เธอก็เข้าใจเรื่องราวทันที
เสิ่นเสี่ยวเหมยหย่ากับน้องชายของเฉินเจียเหอ และเวลานี้คุณปู่เสิ่นกำลังพาหล่อนออกมาเร่ขายอีกครั้งงั้นเหรอ?
ชายชราคนนี้สุดยอดจริง ๆ!
เสิ่นเสี่ยวเหมยมองเซี่ยอวี่ด้วยแววตาเกรี้ยวกราด และเซี่ยอวี่ก็จ้องมองหล่อนกลับอย่างไม่เกรงกลัวเช่นกัน
เธอยืนขึ้นพร้อมกับเดินเข้าหาเย่ไป๋ “ใช่ ฉันเป็นแฟนของเขา เธอไม่มีโอกาสแล้ว กลับไปซะเถอะนะ”
เซี่ยอวี่กล่าวพร้อมคว้าแขนของเย่ไป๋ไว้อย่างเป็นธรรมชาติ
สีหน้าอ่อนหวานของเธอฉายชัดถึงความสุข
ใช่แล้ว เธอคือนักแสดงมืออาชีพเชียวนะ
“เธอ…”
เสิ่นเสี่ยวเหมยมองภาพตรงหน้าก่อนจะชี้ทั้งสองคนด้วยมือที่สั่นสะท้าน “เธออายุเท่าไหร่? แล้วรู้ไหมว่าเขาอายุเท่าไหร่?”
เซี่ยอวี่เม้มปากของเธอก่อนจะยิ้มหวาน ทั้งยังเอนศีรษะพิงเย่ไป๋แล้วกล่าวเย้ยหยัน “ทำไม? พวกเราดูเข้ากันใช่ไหมล่ะ?”
“ไป กลับบ้าน!”
คุณปู่เสิ่นอายุมากแล้ว และภรรยาของเขาก็จากไปนานกว่าสิบปี วันนี้เขาถูกบีบบังคับให้กินอาหารสุนัขอย่างช่วยไม่ได้ ชายชรากล่าวเสียงหนักก่อนจะหันหลังกลับอย่างเร่งรีบ
เสิ่นเสี่ยวเหมยเหลือบมองทั้งสองคนด้วยความโกรธ ก่อนจะวิ่งตามปู่ของตัวเองออกไป
ทันทีที่ทั้งสองคนจากไปแล้ว เซี่ยอวี่คล้ายได้ยินเสียงผู้กำกับสั่งคัท เธอปล่อยแขนของเขาก่อนจะปัดมืออย่างสบาย ๆ
จากนั้นก็คิดจะเดินออกไป
ส่วนเย่ไป๋กำลังสับสน ใบหน้าของเขาร้อนผ่าวจากการแสดงเมื่อครู่
เขาไม่เคยพบเจอกับผู้หญิงที่แตะเนื้อต้องตัวชายอย่างเป็นอิสระเช่นนี้มาก่อน
การเคลื่อนไหวของหล่อนสมจริงมาก ไม่ว่าใครมองมาก็ย่อมเชื่อว่าพวกเขาเป็นคู่รักกัน
เขาเอ่ยปากเสียงสุภาพ “ขอบคุณครับ”
“ไม่เป็นไร ฉันก็เบื่อพวกเขาเต็มทนเหมือนกัน และไม่ต้องการเห็นพวกเขาประสบความสำเร็จด้วย”
“เสื้อผ้าของคุณอยู่ในถุงนั่น”
หลังจากเซี่ยอวี่พูดจบแล้ว เธอเดินออกจากห้องทำงานแพทย์อย่างฉับไว
หลังจากที่หล่อนจากไปแล้ว เย่ไป๋ลดสายตาลงมองแขนของตนที่ถูกหล่อนคว้าไว้เมื่อครู่…
เวลานี้เขาจึงตระหนักได้ว่าไม่ใช่เพียงใบหน้าที่ร้อนผ่าว แต่หัวใจยังเต้นเร็วมากด้วย
ไม่นานเขารู้สึกว่าตนเองคือชายอายุสามสิบต้น ๆ แต่กลับรู้สึกตื่นเต้นราวกับเด็กหนุ่ม เขาอดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมาพร้อมกับส่ายศีรษะเบา ๆ
ฉันคงเหงา โดดเดี่ยว และอ้างว้างมานานเกินไปสินะ
เฉินเจียเหอพูดถูกแล้ว มันถึงเวลาที่ฉันจะต้องหาคู่ครองสักที…