ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 655 เขินอาย(2)
ตอนที่ 655 เขินอาย(2)
…………….
ตอนที่ 655 เขินอาย(2)
“สวัสดีค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มทักทาย ติดที่เธอยังมีเรื่องต้องทำ จึงให้เซียวหลินดูแลเพื่อนๆ ส่วนเธอก็ไปที่ห้องทำงานของกู้วั่งหลาน
หวงลี่อิงที่มองตามหลังฉินมู่หลานที่เดินออกไป ก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า “เพื่อนร่วมชั้นฉินคนนี้เก่งจริงๆ นะ อายุยังน้อย แต่ก็เก่งขนาดนี้แล้ว”
พูดเรื่องนี้เซียวหลินก็อดชื่นชมไม่ได้ “ใช่แล้ว ใครจะไปคิดว่ามู่หลานจะเก่งขนาดนี้ ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย เห็นได้ชัดว่าหล่อนเก่งมากแค่ไหน”
พอพูดจบเซียวหลินจึงรีบหันไปพูดกับเพื่อนว่า “ลี่อิง เราไปกันเถอะ เมื่อกี้ผู้จัดการกู้บอกให้เราไปกับหัวหน้าเซี่ย”
พอได้ยินอย่างนี้ หวงลี่อิงก็ละสายตาจากเธอแล้วพยักหน้าพร้อมเอ่ยตอบรับ “ได้”
ส่วนฉินมู่หลาน หลังจากที่ไปถึงห้องทำงานของกู้วั่งหลาน เธอก็ถามถึงเรื่องราวต่างๆ ของบริษัทยาในช่วงนี้ “ยาเชียนจินหวานผลิตออกมาได้มากขึ้นหรือยังคะ?”
“ไม่ต้องห่วง มู่หลาน ฉางกู้และทีมได้ผลิตยาเชียนจินหวานออกมาแล้วล็อตหนึ่งแล้ว แต่ว่ายาเชียนจินหวานมีกลุ่มเป้าหมายจำเพาะ พวกเขาก็เลยคิดว่าไม่ควรผลิตออกมามากเกินไปในคราวเดียว”
หลังจากได้ยินดังนั้น ฉินมู่หลานจึงพยักหน้าและพูดว่า “ก็ดีเหมือนกัน ที่ฉันมาวันนี้ก็เพราะอยากจะถามเรื่องเพื่อนร่วมชั้นของฉันที่มาทำงานที่โรงงานยาแห่งนี้ด้วยว่าพวกเขาทำงานได้ดีไหม?”
กู้วั่งหลานพยักหน้าพร้อมกับพูดว่า “ไม่ต้องห่วง เพื่อนร่วมชั้นของคุณมีฝีมือดีมากจริงๆ พวกเขาทำงานได้ดีมาก แม้แต่ฉางกู้ยังเอ่ยชมพวกเขาเลย”
พอได้ยินอย่างนี้ฉินมู่หลานก็สบายใจขึ้น
“อย่างนั้นก็ดีแล้วค่ะ”
หลังจากที่ทั้งคู่คุยกันสักพัก ฉินมู่หลานก็สังเกตเห็นว่ากู้วั่งหลานคอยดูเวลาบ่อยๆ
“เกิดอะไรขึ้นคะผู้จัดการกู้ คุณมีนัดหรือเปล่า?”
กู้วั่งหลานเห็นว่าฉินมู่หลานสังเกตเห็นแล้ว เขาก็เลยไม่ได้ปิดบัง “ใช่ เดี๋ยวผมต้องไปกินข้าวกับคนอื่น”
แต่เขาไม่ได้บอกว่าไปกินข้าวกับใคร
ฉินมู่หลานไม่อยากถามอะไรมากนัก
“ถ้าอย่างนั้น ฉันขอตัวกลับก่อนนะคะ”
หลังจากที่ฉินมู่หลานจากไป กู้วั่งหลานก็สั่งงานเซี่ยฉางกู้เล็กน้อย จากนั้นก็รีบจากไป และมุ่งหน้าไปที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งแถวถนนสายกลาง เมื่อมาถึงก็พบว่าเหมาชุนเถาอยู่ที่นั่นแล้ว
“คุณชุนเถา รอนานไหมครับ”
เหมาชุนเถาเห็นกู้วั่งหลานมาถึง จึงรีบส่ายหน้าพร้อมกับพูดว่า “ไม่ค่ะ ฉันและเสี่ยวจี๋เสียงก็เพิ่งมาถึงไม่นาน”
กู้วั่งหลานได้ดังนั้นจึงนั่งลง เมื่อเห็นว่าคู่แม่ลูกยังไม่ได้สั่งอาหาร จึงถามว่า “พวกคุณอยากกินอะไร?”
เหมาชุนเถากำลังจะส่ายหน้าแต่เสี่ยวจี๋เสียงก็พูดขึ้น
“ผมอยากกินหมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดง”
เมื่อได้ยินดังนั้น กู้วั่งหลานยกยิ้มขึ้น “ได้สิ งั้นเอาหมูสามชั้นตุ๋นน้ำแดงแล้วกัน”
เสี่ยวจี๋เสียงจึงปรบมือด้วยความดีใจ อากู้ใจดีจริงๆ ไม่ว่าเขาจะขออะไร อากู้ก็จะทำให้ตลอด เขาดีใจมากๆ
เหมาชุนเถาเองก็มองดูลูกชายและกู้วั่งหลานด้วยรอยยิ้ม กู้วั่งหลานช่างเอาอกเอาใจเสี่ยวจี๋เสียงเป็นอย่างมาก
หลังจากที่ทุกคนสั่งอาหารเสร็จแล้ว พวกเขาก็นั่งรอ เสี่ยวจี๋เสียงเองก็เดินไปหากู้วั่งหลานตลอดเวลาเพื่อพูดคุยกับเขา เหมาชุนเถาพบว่าตัวเองแทบจะไม่มีโอกาสได้พูดคุยด้วยเลย แต่เมื่อได้เห็นลูกชายกระตือรือร้นและมีชีวิตชีวา หล่อนก็มีความสุข
ไม่นานอาหารก็มาเสิร์ฟ เหมาชุนเถาจึงรีบให้เสี่ยวจี๋เสียงเตรียมตัวนั่งลงให้เรียบร้อย แล้วก็เชิญชวนกู้วั่งหลานให้รับประทานอาหาร
“ผู้จัดการกู้ กินเยอะๆ นะคะ”
ครั้งนี้หล่อนยังคงขอบคุณกู้วั่งหลาน ไม่เพียงแต่เรื่องที่เล่อฉยงเยี่ยนขอโทษหล่อนเมื่อครั้งที่แล้ว แต่ยังเป็นเพราะเขาช่วยให้เสี่ยวจี๋เสียงได้เข้าร่วมการแข่งขัน หากเสี่ยวจี๋เสียงได้ผลการแข่งขันที่ดี เขาก็จะมีโอกาสได้เข้าเรียนในโรงเรียนมัธยมที่ดี ดังนั้นหล่อนจึงรู้สึกขอบคุณกู้วั่งหลานอย่างจริงใจ
กู้วั่งหลานได้ยินเหมาชุนเถาพูดเช่นนั้น จึงยิ้มพลางพยักหน้าก่อนจะตอบว่า “ครับ”
เพียงแต่สิ่งที่ทั้งสามไม่คาดคิดคือ ในขณะที่กำลังจะรับประทานอาหาร พวกเขากลับบังเอิญพบกับฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย
ฉินมู่หลานมองกู้วั่งหลานอย่างจับผิดก่อนกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ที่แท้คนที่ผู้จัดการกู้นัดกินข้าวก็คือชุนเถาเองเหรอ หากฉันรู้ว่าเป็นพวกคุณ ฉันก็คงขอตามมาด้วย”
เมื่อกู้วั่งหลานได้สบตากับฉินมู่หลาน ความรู้สึกเขินอายก็ผุดขึ้นมาอย่างฉับพลัน และเขาเองก็ตอบไม่ได้เหมือนกันว่าทำไมในตอนนั้นเขาจึงไม่ได้บอกว่าเขานัดกินข้าวกับเหมาชุนเถา
ในขณะเดียวกันเซี่ยปิงหรุ่ยก็มองกู้วั่งหลานสลับกับเหมาชุนเถาไปมา จนรู้สึกว่าบางสิ่งระหว่างบุคคลทั้งสองดูจะแปลกพิกล
ทว่าเหมาชุนเถากลับไม่รู้สึกเช่นนั้น หล่อนยังคงรู้สึกยินดีเป็นอย่างมากที่ได้เจอกับฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย ทั้งยังเชื้อเชิญทั้งสองอย่างกระตือรือร้นให้ร่วมโต๊ะด้วยกัน
แต่ฉินมู่หลานปฏิเสธอย่างไม่ต้องคิด “ชุนเถา ฉันและปิงหรุ่ยยังมีธุระ คงไม่ได้อยู่กินข้าวด้วยนะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้าเห็นด้วย “จริงด้วย ฉันกับมู่หลานยังมีธุระ”
เมื่อได้ยินฉินมู่หลานกล่าวเช่นนั้น หล่อนจึงไม่ได้พูดอะไรอีก
เหมาชุนเถาได้ยินเช่นนั้นเลยไม่ได้รั้งไว้ และเพียงบอกทั้งสองว่าเมื่อว่างแล้วให้ไปกินข้าวที่บ้านของหล่อน
หลังจากฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยออกไป เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดหันกลับไปมองเหมาชุนเถา เสี่ยวจี๋เสียงและกู้วั่งหลานไม่ได้ ก่อนจะพูดกับฉินมู่หลานด้วยเสียงพึมพำ “ฉันรู้สึกว่าผู้จัดการกู้ปฏิบัติต่อชุนเถาและเสี่ยวจี๋เสียงดีเป็นพิเศษ จริงอยู่ที่ก่อนหน้านี้ฉันไม่ได้รู้สึก แต่ในครั้งนี้ฉันกลับรู้สึกราวกับว่าผู้จัดการกู้มักจะปรากฏกายอยู่ใกล้ชิดชุนเถากับลูกเสมอ”
ฉินมู่หลานเหลือบมองเซี่ยปิงหรุ่ยและกล่าว “เธอเพิ่งรู้สึกเหรอ? ความจริงแล้วผู้จัดการกู้ปฏิบัติต่อเสี่ยวจี๋เสียงและชุนเถาเป็นพิเศษมานานแล้วล่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ยอดไม่ได้ที่จะเอ่ย “มู่หลาน เธอรู้มานานแล้วเหรอ ทำไมไม่บอกฉันบ้างเลย?”
“ก่อนหน้านี้ฉันก็ไม่ได้มั่นใจนัก ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องแบบนี้จะพูดออกไปได้ยังไง แต่หลังจากเหตุการณ์ในวันนี้ ฉันจึงมั่นใจว่าผู้จัดการกู้มีความรู้สึกพิเศษต่อเสี่ยวจี๋เสียงและชุนเถาจริง ๆ”
เซี่ยปิงหรุ่ยพยักหน้ารับ “ฉันก็รู้สึกว่าผู้จัดการกู้เป็นคนดีทีเดียว หากสุดท้ายชุนเถาได้คบหากับผู้จัดการกู้ก็คงจะดี”
ฉินมู่หลานมองเซี่ยปิงหรุ่ยแวบหนึ่งแล้วกล่าวว่า “แต่เรื่องนี้เป็นการคาดเดาของพวกเราเท่านั้น ยิ่งไปกว่านั้นฉันมองว่าชุนเถาไม่มีท่าทีอะไรเป็นพิเศษเลย ดังนั้นเราอย่าเพิ่งพูดจาเหลวไหลต่อหน้าชุนเถาดีกว่า”
“วางใจเถอะ ฉันไม่พูดแน่นอน”
ทว่าเซี่ยปิงหรุ่ยก็ยังรู้สึกตื่นเต้นอยู่ดี เพราะมันเหมือนได้ค้นพบความลับเล็กๆ
ทั้งคู่หาร้านอาหารแล้วกินข้าวอย่างง่ายๆ แล้วหลังจากนั้นก็ไปที่ร้านซิ่งหลินเพื่อที่จะหารือเรื่องราวบางอย่างกับเซี่ยปิงชิง
ทางด้านเหมาชุนเถากลับไม่มีความรู้สึกใดๆ หล่อนเพียงรู้สึกว่ากู้วั่งหลานดีกับเสี่ยวจี๋เสียงเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นก็ไม่มีแล้ว
หลังจากที่ทั้งสามกินข้าวเสร็จ กู้วั่งหลานก็ส่งหล่อนกับลูกกลับ ก่อนรีบกลับไปยังโรงงานยา
โฆษณายาเชียนจินหวานถูกถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยแล้ว พอโฆษณาออกอากาศทางทีวี ทุกคนก็รู้กันอีกครั้งว่าร้านซิ่งหลินได้ออกยาใหม่ เพียงแต่ว่ายานี้เป็นยาสำหรับสตรีหลังคลอดโดยเฉพาะ คนที่จะใช้ยานี้จึงค่อนข้างเฉพาะกลุ่ม
เกาซู่ฟางพาน้องสามีของตนเองมาที่ร้านซิ่งหลิน ตั้งแต่ที่ฉินมู่หลานได้ผ่าตัดเล็กๆ ให้กับหล่อน หล่อนก็ไว้วางใจฉินมู่หลานอย่างมาก และแน่นอนว่าเชื่อมั่นในร้านซิ่งหลินอย่างมากด้วย
เพียงแต่ว่าคราวนี้เกาซู่ฟางเห็นว่าฉินมู่หลานไม่อยู่
“ขอถามหน่อยค่ะ คุณหมอฉินไม่อยู่เหรอคะ?” หล่อนยังคงพยายามหาเวลาว่างมาในวันหยุดสุดสัปดาห์ เผื่อว่าจะได้พบฉินมู่หลาน
เซี่ยปิงชิงเห็นเกาซู่ฟางจึงตอบพร้อมด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่ค่ะ คุณหมอฉินไม่อยู่ ถ้าคุณมีธุระอะไร บอกฉันไว้ได้นะ แล้วเดี๋ยวฉันจะบอกคุณหมอฉินให้”
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรหรอกค่ะ ฉันแค่มาซื้อยาและขอคำแนะนำเล็กน้อยเท่านั้นเอง”
เกาซู่ฟางรีบเล่าอาการหลังคลอดของน้องสามีตัวเองแบบคร่าวๆ แล้วก็ถามว่า “อาการแบบนี้ ทานยาเชียนจินหวานได้ไหมคะ?”
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
ผู้จัดการกู้เหมือนจะมีใจ แต่ชุนเถาดูไม่รู้ตัวเลยนี่สิ
ไหหม่า(海馬)