ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 654 เขินอาย(1)
ตอนที่ 654 เขินอาย(1)
…………….
ตอนที่ 654 เขินอาย(1)
ฉินมู่หลานได้ยินหลัวซงผิงพูดเช่นนี้ จึงตอบด้วยรอยยิ้มว่า “ไม่เป็นไรหรอกค่ะอาจารย์ ที่จริงแล้วฉันก็ดีใจที่เพื่อนๆ นักเรียนจะมีโอกาสไปช่วยที่โรงงานยา”
เมื่อหลัวซงผิงได้ยินฉินมู่หลานพูดแบบนี้จึงอดหัวเราะไม่ได้ “อย่างนั้นก็ดี”
หลังจากที่ฉินมู่หลานกลับเข้าห้องเรียน เซี่ยปิงหรุ่ยก็รีบหันไปถามเธอ “อาจารย์หลัวเรียกเธอไปมีธุระอะไร”
“ก็ไม่มีอะไรหรอก แค่พูดเรื่องที่พวกเราจะไปช่วยงานที่โรงงานยา”
เมื่อได้ยินดังนั้น เพื่อนๆ คนอื่นๆ ต่างหันมามองพร้อมถามเอ่ยถาม “มู่หลาน เธอคุยอะไรกับอาจารย์หลัว พวกเราจะได้ไปโรงงานยาจริงๆ ใช่ไหม”
“ได้ไปแน่นอนสิ”
ฉินมู่หลานตอบพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเล่าเรื่องสัญญาให้เพื่อนๆ ฟัง แล้วจึงกล่าวทิ้งท้ายว่า “พวกเราทุกคนจะมีสวัสดิการคุ้มครองขณะทำงาน ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงนะ”
เมื่อได้ยินฉินมู่หลานพูดเช่นนี้ ทุกคนก็สบายใจ
เมื่อถึงวันเสาร์ เพื่อนๆ นักเรียนก็ทยอยกันไปที่โรงงานยาและพบกู้วั่งหลาน
กู้วั่งหลานหยิบสัญญาที่ฉินมู่หลานจัดเตรียมไว้มาให้ทุกคนตรวจสอบและลงนาม เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว กู้วั่งหลานจึงให้เซี่ยฉางกู้พาพวกเขาไปยังหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย
ทางด้านฉินมู่หลานเองก็ได้รับข่าวว่าเพื่อนๆ นักเรียนได้ไปที่โรงงานยาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงแวะไปดูสักหน่อยและได้พูดคุยกับกู้วั่งหลานเกี่ยวกับเรื่องยาตัวใหม่
“อย่ากังวลเลยมู่หลาน ชุนเถาเขียนข้อความโฆษณาเสร็จแล้ว ผมกำลังจะไปเอาแล้วจะส่งมอบให้บริษัทผลิตโฆษณา เมื่อโฆษณาออกอากาศออกมา ยาเชียนจินหวานก็จะเริ่มวางจำหน่ายได้”
เมื่อฉินมู่หลานเห็นว่ากู้วั่งหลานจัดการทุกอย่างอย่างเป็นระบบ ก็ยิ่งปลาบปลื้มที่ได้ชักชวนเขาเข้ามาร่วมงาน ความสามารถของคนผู้นี้ไม่ต้องพูดถึง เขาสามารถจัดการทุกอย่างได้อย่างดี
คิดถึงตรงนี้ ฉินมู่หลานก็ยิ่งแสดงความห่วงใย
“ผู้จัดการกู้ ตอนนี้คุณเล่อเป็นยังไงบ้างคะ?”
ตั้งแต่เล่อฉยงเยี่ยนยอมขอโทษ หล่อนก็ค่อยๆ หายไปจากสายตาพวกเขา แต่เธอก็อดสงสัยไม่ได้ว่ากู้วั่งหลานยังมีไพ่ตายอีกหรือไม่
กู้วั่งหลานได้ยินดังนั้นก็ไม่ได้ปิดบัง
ได้ยินดังนี้ฉินมู่หลานก็มีสีหน้าที่เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
กู้วั่งหลานอธิบายเพิ่มอีกประโยค “ผมไม่ได้เป็นคนบอก”
คราวนี้ฉินมู่หลานถึงกับอยากรู้อยากเห็นขึ้นมาจริงๆ “ผู้จัดการกู้ คุณไม่ได้เป็นคนบอกจริงๆเหรอคะ?”
“ผมยังไม่ได้ลงมือเลย แต่อวี๋เฉิงอี้รู้ไปก่อนแล้ว จะว่าไปสามีของหล่อนก็คงสงสัยมานานแล้ว ถึงได้ตรวจสอบจนพบความจริง”
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินดังนี้ก็อดที่จะแค่นเสียงหัวเราะไม่ได้ “ดูท่าสิ่งที่เล่อฉยงเยี่ยนพยายามอย่างมากที่จะปกปิดจะปกปิดต่อไปไม่ได้เสียแล้ว แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าสามีปัจจุบันของหล่อนจะว่าอย่างไร”
เมื่อพูดถึงปฏิกริยาของอวี๋เฉิงอี้ กู้วั่งหลานกลับรู้สึกชื่นชม
“ผู้จัดการอวี๋รู้แล้วว่าลูกสาวไม่ใช่ลูกแท้ๆ และยังรู้ด้วยว่าเล่อฉยงเยี่ยนไม่สามารถมีลูกได้อีก เขาก็ไม่ได้ทำอะไรหล่อนและยังคงใช้ชีวิตคู่กันต่อไป แถมยังยอมรับลูกบุญธรรมมาเลี้ยงเป็นลูกแท้ๆ ของตน”
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินเช่นนี้ก็มองอวี๋เฉิงอี้ในแง่ดีขึ้นมา
“เขาต้องรักเล่อฉยงเยี่ยนมากแค่ไหน ถึงจะยอมรับในสิ่งที่เธอทำได้”
พอรู้ว่าเล่อฉยงยี่ยนไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ฉินมู่หลานก็อดที่จะมีความรู้สึกอะไรบางอย่างไม่ได้
“ดูเหมือนว่าโชคชะตาของหล่อนจะดีมาก ได้สามีที่รักเธอมากขนาดนี้ แม้เธอจะทำผิดอะไรไปมากมายก็ยังมีคนรักและปกป้องเธอ”
แต่ดูเหมือนว่ากู้วั่งหลานกลับไม่คิดเช่นนั้น
“ถึงแม้ว่าอวี๋เฉิงอี้จะไม่คิดเอาเรื่อง แต่เขายังมีพ่อแม่ เรื่องนี้ยังไงก็ไม่จบแค่นี้”
เมื่อฉินมู่หลานคิดตามสิ่งที่กู้วั่งหลานพูดก็รู้สึกเป็นอย่างนั้น
“ดูๆ แล้วฝั่งเล่อฉยงเยี่ยนยังมีเรื่องวุ่นวายอีกมากเลยนะ”
“ใช่ เมื่อเรื่องนี้ถูกเปิดเผยแล้ว ผมก็เลยไม่ต้องทำอะไร แค่รอดูผลสุดท้ายก็พอ” กู้วั่งหลานกลับรู้สึกสบายใจ
เมื่อพูดเรื่องนี้เสร็จกู้วั่งหลานก็คิดเรื่องอื่นขึ้นมาได้อีก
“อ้อ มู่หลาน เพื่อนร่วมชั้นคนหนึ่งของคุนถามผมว่าช่วยให้เพื่อนของเธอมาทำงานพิเศษหารายได้ด้วยได้ไหม เธอบอกว่าเพื่อนเธอเรียนที่มหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจิงเฉิง ผลการเรียนดีมาก”
กู้วั่งหลานคิดครู่หนึ่งจึงว่า “นักเรียนหญิงคนนั้นชื่อเซียวหลิน”
ที่แท้ก็เป็นหัวชั้นเซียวหลิน ฉินมู่หลานก็ไม่ได้ปฏิเสธและพยักหน้าตอบตกลง “ตราบใดที่เพื่อนของเธอมีความรู้ความสามารถที่จะทำงานในโรงงานยาได้ ก็ให้มาด้วยกัน”
เมื่อเห็นฉินมู่หลานตกลง กู้วั่งหลานก็รู้แล้วว่าต่อไปต่องดำเนินการอะไรต่อ “เดี๋ยวผมจะแจ้งผลไปให้พวกหล่อนทราบอีกที”
ส่วนเซียวหลินเมื่อรู้ว่าเพื่อนๆ ไปทำงานด้วยได้ก็ดีใจมาก ครั้นมีเวลาว่างก็พาเพื่อนไปที่โรงงานยาเพื่อกำหนดวันเข้าทำงาน
เรื่องนี้ฉินมู่หลานไม่ได้ใส่ใจ แต่เซียวหลินรู้สึกขอบคุณเธอมาก เมื่อถึงวันจันทร์ที่ไปเรียน หล่อนก็เอ่ยขอบคุณฉินมู่หลานไม่หยุด
“มู่หลาน ขอบคุณมากๆ เลยนะ เพื่อนของฉันจะได้ไปทำงานพิเศษที่โรงงานยาแล้ว ครอบครัวของเธอค่อนข้างลำบาก การที่เธอจะได้ไปทำงานพิเศษที่โรงงานยาในวันหยุดสุดสัปดาห์นับเป็นการบรรเทาความยากลำบากไปได้มากเลยล่ะ ขอบคุณเธอจริงๆ”
ฉินมู่หลานเองก็ตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม “ไม่ต้องขอบคุณหรอก เพื่อนของเธอเองก็เรียนเก่ง ตรงตามมาตรฐานการรับสมัครพนักงานของโรงงานยา เธอได้ใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองในการหาเงิน นั่นก็เป็นเรื่องที่สมควรอยู่แล้ว”
ถึงแม้จะพูดเช่นนั้น แต่เซียวหลินก็รู้ดีว่าเรื่องนี้ต้องอาศัยความช่วยเหลือจากฉินมู่หลาน จึงกล่าวขอบคุณไปอีกสองสามครั้งด้วยรอยยิ้ม ก่อนจะเดินกลับไปที่โต๊ะของตัวเอง
และเนื่องจากมีนักศึกษาที่ไปทำงานที่โรงงานยาทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ในระยะหลังๆ ฉินมู่หลานจึงได้เข้าไปที่โรงงานยาบ่อยขึ้นหากมีเวลาว่าง แต่ในวันนี้หลังจากที่ไปถึง เธอก็สังเกตเห็นใบหน้าที่ไม่คุ้นเคย แต่เมื่อเห็นว่าอยู่ข้างๆ เซียวหลิน ก็พอจะเดาได้ว่าน่าจะเป็นเพื่อนสนิทของเธอ
เซียวหลินก็เห็นฉินมู่หลาน จึงรีบแนะนำเธอพร้อมรอยยิ้ม “มู่หลาน นี่คือเพื่อนของฉันเอง หวงลี่ยิง” จากนั้นก็หันไปทางหวงลี่อิง “ลี่อิง นี่คือมู่หลานเพื่อนร่วมชั้นเรียนของฉันเอง เมื่อก่อนเธอชื่นชมมู่หลานบ่อยๆและอยากจะพบเธอมากไม่ใช่เหรอ วันนี้ก็ได้เจอกันแล้วนะ”
หวงลี่อิงมองฉินมู่หลานที่อายุน้อยแต่หน้าตาสะสวยและมีบุคลิกที่ภูมิฐาน “สวัสดีค่ะ เพื่อนร่วมชั้นฉิน”
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
ใช้ชีวิตสุขสบายดีก็ใช่ว่าจะไม่ได้รับผลกรรม เดี๋ยวรอดูทางครอบครัวสามีใหม่เลย
ไหหม่า(海馬)