ตอนที่ 644 ขอโทษ(2)
…………….
ตอนที่ 644 ขอโทษ(2)
หลังจากที่ทุกคนแยกย้ายจากไปแล้ว เซี่ยปิงหรุ่ยก็หันไปมองฉินมู่หลานแล้วถามว่า “มู่หลาน เราจะไปสืบหาข่าวของอดีตภรรยาผู้จัดการกู้ดีไหม”
ฉินมู่หลานพยักหน้ากล่าวว่า “อื้ม ฉันคิดแบบนั้นเหมือนกัน พอเราได้ข้อมูลมาแล้ว ค่อยมาวางแผนกันอีกที”
เกาซุนชิวที่อยู่ข้างๆ กล่าวเสริม “ดี ฉันก็จะช่วยหาข้อมูลอีกทาง”
เฉินเซี่ยวอวิ๋นไม่รู้จักกู้วั่งหลานดี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงอดีตภรรยาของเขา หล่อนจึงถามไปตรงๆ “แล้วฉันทำอะไรได้บ้างเหรอ?”
“เซี่ยวอวิ๋น ช่วงนี้ถ้าเธอมีเวลาก็มาช่วยดูแลชุนเถาหน่อย”
เฉินเซี่ยวอวิ๋นจึงพยักหน้ารับพร้อมรอยยิ้ม “ได้ ไม่มีปัญหา”
ทุกคนเดินออกมาจากบ้านเหมาชุนเถาด้วยกัน พอมาถึงหัวมุมถนนก็แยกย้ายกันไป ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยไปที่ร้านซิ่งหลิน เพราะต้องเปิดตัวยาแก้พิษ ดังนั้นทั้งสองคนจึงค่อนข้างยุ่ง
เมื่อทั้งสองไปถึงก็เห็นคังอันเหอกำลังพูดคุยกับเซี่ยปิงชิง ขณะที่คุณปู่ฉินกำลังยืนขอคำชี้แนะจากคุณปู่ลั่ว ส่วนชุยจวี๋ก็กำลังเช็ดโต๊ะไปด้วยรอยยิ้ม และเป็นคนแรกที่หันมาเห็นฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยที่เดินเข้ามา “มู่หลาน ปิงหรุ่ย พวกเธอมาแล้วเหรอ เดี๋ยวฉันไปเตรียมชาให้นะ”
ฉินมู่หลานกำลังจะเอ่ยปฏิเสธ ก็ไม่ทันชุยจวี๋ที่ได้เดินไปที่ด้านหลังร้านแล้ว
คังอันเหอเห็นทั้งสองสาวเข้ามาก็เอ่ยทันที “มู่หลาน ปิงหรุ่ย พวกเธอไม่ได้ไปลงทะเบียนเรียนวันนี้เหรอ ทำไมถึงมาที่นี่ได้ล่ะ?”
เซี่ยปิงชิงที่อยู่ข้างๆ ก็พูดเสริม “ใช่แล้ว พวกเราอยู่ที่นี่แล้ว พวกเธอไม่ต้องเหนื่อยวิ่งไปวิ่งมาแบบนี้หรอก ยิ่งช่วงนี้คนซื้อยาบำรุงร่างกายน้อยลง พวกเราก็เลยสบายขึ้นเยอะ”
คุณปู่ฉินและคุณปู่ลั่วไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองทักทายด้วยรอยยิ้ม จากนั้นก็เดินไปคุยเรื่องการแพทย์กันต่อ
“ช่วงนี้ต้องเปิดตัวยาแก้พิษแล้ว เราสองคนเลยมาคุยรายละเอียดกัน”
เซี่ยปิงชิงพูดทันทีที่ได้ยินแบบนั้น “เฮ้อ มู่หลาน เรื่องนี้ผู้จัดการกู้เขาจัดการแล้วล่ะ ฉันได้ยินมาว่าเขาเตรียมทุกอย่างไว้เสร็จเรียบร้อยแล้ว รอแค่ให้เพื่อนเธอเขียนคำโฆษณาให้เสร็จ แล้วให้ทางบริษัทโฆษณาทำการถ่ายทำ จากนั้นเราก็แค่รอเวลาเปิดตัวพร้อมๆ กันก็พอ”
ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยอดไม่ได้ที่จะรู้สึกประหลาดใจ
แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เหมาชุนเถาประสบเมื่อวาน พวกเธอก็เข้าใจ หลังจากเกิดเรื่องแบบนั้นใครจะไปจำเรื่องคำโฆษณาได้
ฉินมู่หลานเอ่ยเสริม “ใช่แล้ว และเป็นไปได้มากว่าผู้จัดการกู้ยังไม่มีเวลาบอกชุนเถาด้วยซ้ำไป”
เมื่อได้ยินถ้อยคำของฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย เซี่ยปิงชิงและคังอันเหอก็อดที่จะหันไปถามไม่ได้ “เกิดอะไรขึ้น มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นหรือเปล่า?”
เห็นว่าทั้งคู่มีความอยากรู้อยากเห็น เซี่ยปิงหรุ่ยจึงกระซิบถามอย่างรวดเร็ว “วันนี้ผู้จัดการกู้จะไม่มาที่นี่ใช่ไหม”
เมื่อเห็นท่าทางของเซี่ยปิงหรุ่ย ทั้งสองจึงยิ่งอยากรู้อยากเห็นมากขึ้นไปอีก “วางใจเถอะเขาไม่มาหรอก ผู้จัดการกู้น่ะปกติถ้าไม่มีธุระอะไรก็ไม่เคยมาที่นี่”
เซี่ยปิงหรุ่ยรีบเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ทั้งสองฟัง ก่อนจะกล่าวปิดท้ายว่า “อดีตภรรยาของผู้จัดการกู้นี่มันที่สุดแล้ว ทนทุกข์ไม่ไหวก็เลยทำร้ายลูกแล้วหย่าขาดจากผู้จัดการกู้แบบหัวชนฝา สุดท้ายก็ยังอยากย้อนกลับมาวุ่นวายกับเรื่องของผู้จัดการกู้ หล่อนต้องหน้าด้านขนาดไหนกัน”
เซี่ยปิงชิงและคังอันเหอก็คาดไม่ถึงว่าจะมีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้น ก่อนจะพยักหน้าเห็นด้วย “ใช่แล้ว ผู้หญิงคนนั้นหน้าด้านเกินไป”
ฉินมู่หลานมองพวกเขาสามคนซุบซิบกันพลางนินทา ก็อดไม่ได้ที่จะพูดขึ้นว่า “อย่าไปพูดอะไรแบบนี้ต่อหน้าผู้จัดการกู้ล่ะ เดี๋ยวจะยิ่งทำให้เขาต้องนึกถึงเรื่องไม่ดี”
“วางใจเถอะมู่หลาน เราสัญญาว่าจะไม่พูด”
ขณะนั้นเอง คุณปู่ฉินและคุณปู่ลั่วซึ่งเงียบอยู่ตลอด พูดขึ้นมาว่า “เราก็จะไม่พูดเรื่องนี้ต่อหน้าเสี่ยวกู้แน่นอน”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น ทุกคนจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าเมื่อครู่ท่านทั้งสองก็เงี่ยหูฟังเรื่องนินทากันอยู่เช่นกัน
คังอันเหอเห็นท่าทีนั้นก็อดขำไม่ได้พลางพูดว่า “คนวัยชราก็ยังสนใจเรื่องพวกนี้ด้วยเหรอคะ”
“ตั้งแต่เสี่ยวกู้เข้ามาที่นี่ เขาก็ช่วยงานเรามากมาย เราจึงเป็นห่วงเขาเป็นธรรมดา ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวเหมาก็ยังช่วยเขียนข้อความโฆษณาให้เราด้วย ก็นับว่าเป็นคนของเราอีกคน เรื่องของทั้งสองคนนี้ เราก็ต้องใส่ใจเป็นพิเศษอยู่แล้ว”
ขณะนั้นเองชุยจวี๋ก็เดินถือถ้วยชามา หล่อนได้ยินเพียงบางส่วนเท่านั้นจึงไม่รู้ว่าเรื่องราวเป็นมาอย่างไร คิดเพียงแค่ว่ากู้วั่งหลานและเหมาชุนเถาได้ลงเอยกันจริงๆ
ด้วยเหตุนี้หล่อนจึงพูดด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันมองว่าผู้จัดการกู้กับชุนเถาดูเหมาะสมกันดีนะคะ ทั้งที่ชุนเถาหย่าขาดจากสามีและยังมีลูกชายอีกหนึ่งคน แต่ว่าหล่อนก็เก่งมากนะ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ แถมตอนนี้ก็ยังหาเงินได้ด้วยตนเองอีก หล่อนเหมาะสมกับเสี่ยวกู้จริงๆ หากทั้งคู่คบหากัน พวกเราก็ต้องอวยพรพวกเขาอย่างดี”
หลังจากได้ยินคำพูดของชุยจวี๋ เซี่ยปิงหรุ่ยก็พูดอย่างรีบร้อนว่า “คุณอาเข้าใจผิดแล้ว ชุนเถากับผู้จัดการกู้ไม่ได้คบหากันค่ะ”
แล้วก็เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ฟังอย่างย่นย่อ
ถึงแม้ว่าชุยจวี๋จะรับรู้เรื่องราวทั้งหมดแล้ว แต่หล่อนก็ยังพูดด้วยความรู้สึกปลื้มปีติว่า “ฉันมองว่าพวกเขาสองคนนั้นเหมาะสมกันดี ถ้าคบหากันจริงๆก็คงจะดี”
แต่เรื่องความรักก็เป็นเรื่องของคนสองคน ดังนั้นหลังจากที่ชุยจวี๋ได้แสดงความคิดเห็นแล้ว หล่อนก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติมอีก
……………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
จะให้ผญ.คนนั้นมาขอโทษด้วยวิธีไหนนะ
อาชุยจวี๋มองเหมือนผู้แปลเลย
ไหหม่า(海馬)
