ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 629 หาคู่(2)
ตอนที่ 629 หาคู่(2)
…………….
ตอนที่ 629 หาคู่(2)
ฉินมู่หลานวางของขวัญที่เตรียมมาลง พร้อมเอ่ยถาม “หนูได้ยินมาว่าคุณปู่จะไม่กลับซีอานแล้ว วันนี้ก็เลยแวะมาเยี่ยม ปีนี้คุณปู่ฉลองปีใหม่ในปักกิ่งเป็นอย่างไรบ้างคะ ชินหรือยัง”
เมื่อได้ยินดังนั้น เซี่ยเหยียนลั่วก็ยิ้ม “ไม่ต้องห่วง พวกเราชินแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นปิงหรุ่ยก็ยังแวะมาหาตลอด พวกเราสบายดี”
ในจังหวะนั้นชุยจวี๋ก็ยกชาที่เพิ่งชงเสร็จเข้ามา และเชิญให้ฉินมู่หลานดื่มชา
“อาชุย คุ้นเคยกับที่นี่หรือยังคะ”
ชุยจวี๋พยักหน้ารัวๆ “คุ้นเคยแล้วค่ะ ฉันคิดว่าปักกิ่งดีมากๆ พอหลังปีใหม่ซิ่งหลินถังเปิดเมื่อไหร่ ฉันจะทำงานหนักกว่าเดิม”
“ดีมากเลยค่ะ”
ฉินมู่หลานยิ้มและพยักหน้าเมื่อได้ยินคำพูดของชุยจวี๋
เดิมทีเซี่ยฉางกู่กำลังยุ่งอยู่ในห้อง เมื่อได้ยินว่าฉินมู่หลานมา เขาก็ออกมาพูดคุยกับเธออยู่พักใหญ่ ส่วนชุยจวี๋เห็นว่าที่นี่ไม่มีอะไรที่ต้องทำแล้ว จึงกล่าวว่า “ฉันจะไปดูเสี่ยวเคอก่อนนะคะ” พูดจบก็เดินเข้าไปในบ้าน
เสี่ยวเคอคือลูกชายของเซี่ยฉางกู่ หลังจากที่นายท่านเซี่ยมาที่นี่ เขาก็พาหลานชายมาด้วย ตอนนี้ทั้งครอบครัวอยู่รวมกันในปักกิ่งก็ถือว่าครึกครื้นทีเดียว
“มู่หลาน เธอดูสิว่าชุยจวี๋ดีแค่ไหน ทั้งดูแลในบ้านนอกบ้านได้หมด แถมเสี่ยวเคอก็ชอบหล่อน แต่เซี่ยฉางกู่กลับบอกว่าไม่อยากแต่งงานอีกครั้ง”
ได้ยินเช่นนั้นฉินมู่หลานจึงไม่ได้กล่าวโน้มน้าวใดๆ อีก เพราะการแต่งงานนั้นเป็นเรื่องของคนสองคน “คุณปู่คะ เรื่องนี้คงต้องปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติดีกว่า ถึงเวลาที่เหมาะอาฉางกู่ก็คงตัดสินใจได้เอง”
“หวังว่าจะเป็นเช่นนั้น”
หลังจากเห็นว่าบิดาไม่บ่นพึมพำแล้ว เซี่ยฉางกู่จึงหันไปมองฉินมู่หลานอย่างซาบซึ้ง ก่อนจะเริ่มพูดถึงเรื่องโรงงานผลิตยาซิ่งหลิน “มู่หลาน พวกฉางซวนกลับซีอานกันหมดแล้ว คาดว่าคงจะกลับมาประมาณวันที่ 7 รอจนกว่าพวกเขาจะกลับมากันครบ เราก็คงจะย้ายเข้าโรงงานได้แล้วล่ะ”
เซี่ยฉางกู่พยักหน้า “ใช่ ความเร็วของเราจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน”
เห็นว่าแม้จะเป็นวันปีใหม่ ลูกชายก็ยังคงพูดคุยเรื่องงานกับมู่หลาน เซี่ยเหยียนลั่วจึงแทบจะกล่าววาจาใดๆ ไม่ได้ กระทั่งสุดท้ายก็ตัดบทไปตรงๆ ว่า “พอแล้ว ฉางกู่ วันนี้เป็นวันปีใหม่แท้ๆ แต่แกกลับพูดแต่เรื่องงานกับมู่หลาน รีบให้มู่หลานกลับบ้านไปดูเด็กๆ เถอะ”
เมื่อนึกถึงว่ามู่หลานต้องดูแลลูกๆ สี่คน เซี่ยฉางกู่จึงไม่ได้กล่าววาจาใดๆ เพิ่มเติมอีก และพาฉินมู่หลานไปส่งที่หน้าประตูบ้าน
เมื่อฉินมู่หลานกลับถึงบ้าน ลูกๆ ทั้งสี่ก็ตื่นกันหมดแล้ว ชิงชิงและเฉินเฉินสามารถแต่งตัวด้วยตนเองได้แล้ว ส่วนถวนถวนและหยวนหยวนมีเหวินเชี่ยนและชุยเสี่ยวผิงกำลังช่วยกันแต่งตัวให้
“แม่… แม่…”
เมื่อเจ้าตัวน้อยทั้งหลายเห็นฉินมู่หลานกลับมา ต่างก็วิ่งเข้าไปหาเธอทันที
ฉินมู่หลานกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ใจเย็นๆ นะ เมื่อแต่งตัวเสร็จแล้ว เราจะไปที่ลานหน้าบ้านกัน”
“เย้”
เสียงพูดอันน่าเอ็นดู ทำให้ฉินมู่หลานรู้สึกทั้งรักทั้งหลงยิ่งนัก
เมื่อเตรียมตัวเสร็จแล้ว ฉินมู่หลาน เหวินเชี่ยนและคนอื่นๆ ก็พาเด็กๆ ไปที่ลานหน้าบ้าน ส่วนอาหารค่ำก็เตรียมพร้อมเรียบร้อยแล้ว “วันนี้ชุนเถาช่วยงานได้มากจริงๆ ฝีมือเธอดีทีเดียว เธอช่วยทำอาหารจานเด็ดไว้หลายอย่างเลย”
“คุณน้าก็ชมเกินไปแล้วค่ะ ฝีมือของคุณน้าต่างหากคะที่ยอดเยี่ยม”
ฉินมู่หลานมองดูอาหารเต็มโต๊ะแล้วพูดพร้อมรอยยิ้มว่า “พวกเราโชคดีจริง ๆ ”
เมื่อฉินเจี้ยนเซ่อและฉินเคอวั่งมาถึง ทุกคนก็นั่งประจำที่พร้อมกินอาหารเย็น และฉินมู่หลานก็ถามฉินเคอวั่งเกี่ยวกับเรื่องที่จะออกไปข้างนอกในวันพรุ่งนี้
“วางใจเถอะพี่ ของขวัญอะไรต่าง ๆ แม่เตรียมไว้ให้หมดแล้ว พรุ่งนี้แค่ขนออกไปก็พอ”
“อย่างนั้นก็ดี”
ฉินมู่หลานเองก็วางแผนจะไปเยี่ยมบ้านตระกูลเซี่ย เพื่อไปอวยพรวันปีใหม่ให้แก่เซี่ยฉางชิงในวันรุ่งขึ้น
เช้าวันถัดมา พี่น้องทั้งสองก็ออกจากบ้านไปด้วยกันตั้งแต่เช้า
ฉินเคอวั่งไปที่บ้านของเกาเชี่ยนเชี่ยน ส่วนฉินมู่หลานไปที่บ้านของเซี่ยฉางชิง
เมื่อเซี่ยฉางชิงเห็นลูกสาวมาหา เขาก็ยิ้มอย่างมีความสุข อย่างไรก็ตามเมื่อเห็นว่ามีเพียงฉินมู่หลานมาคนเดียว ก็อดถามไม่ได้ว่า “เด็ก ๆ ล่ะ?”
เพราะสำหรับเซี่ยเจ๋อหลี่แล้วก็ไม่ต้องถามก็รู้ว่าน่าจะอยู่ที่ค่ายทหารไม่เช่นนั้นก็คงมาด้วย
“ฉันพาเด็ก ๆ มาไม่ไหว กลัวจะดูแลไม่ทั่วถึงก็เลยไม่ได้พามาด้วย เดี๋ยวรอให้อาหลี่หยุด แล้วฉันกับอาหลี่จะพาเด็ก ๆ มาอีกทีค่ะ”
“ก็ได้ พวกลูกต้องมานะ”
“ไม่ต้องห่วงหรอกค่ะพ่อ พวกเราจะมาแน่ ๆ ”
นายท่านเซี่ยและคุณนายเซี่ยก็ดีใจเช่นกันที่ฉินมู่หลานมาเยี่ยม หลานสาวคนนี้มีความสามารถมากมาย เวลาที่พวกท่านออกไปไหน ก็มักจะมีคนมาอิจฉาที่ท่านมีหลานสาวเก่งกาจเช่นนี้ ดังนั้นเมื่อเห็นฉินมู่หลาน จึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มแย้มด้วยความภูมิใจ
คุณนายเซี่ยถามว่า “มู่หลาน ย่าเห็นโฆษณาขายยาบำรุงร่างกายทางทีวีแล้วล่ะ ได้ยินมาว่าตอนนี้ใคร ๆ ก็อยากซื้อ แต่ก็ซื้อไม่ได้ หลาย ๆ คนก็ฝากย่ามาขอให้ช่วยหาทางหน่อย”
เมื่อนึกถึงท่าทางที่หญิงชราเหล่านั้นมาขอร้องให้ช่วยเหลือ คุณนายเซี่ยก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมา
“ไม่มีทางแก้ไขเลยค่ะ ตอนนี้ของแทบจะไม่มีเหลือแล้ว ต้องรอหลังปีใหม่เพราะเราจะย้ายเข้าโรงงานใหม่แล้ว รอผลผลิตออกมาเยอะ ๆ ค่อยให้ทุกคนรอกันไปก่อน”
ได้ยินแบบนี้ คุณนายเซี่ยรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย
“อย่างนั้นเหรอ ย่าก็ว่าจะซื้อให้ตัวเองสักหน่อย”
เมื่อฉินมู่หลานได้ยินเช่นนั้นจึงกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ฉันได้จัดเตรียมส่วนของคุณปู่คุณย่าไว้แล้ว แน่นอนว่าต้องให้ทุกคนได้ลอง”
พูดเสร็จฉินมู่หลานก็มอบกล่องยาบำรุงร่างกายให้กับทั้งสองท่าน โฆษณาทางโทรทัศน์ได้ออกไปแล้ว ของขวัญปีใหม่ก็คือยาบำรุงร่างกาย ฉะนั้นตัวเธอเองก็ต้องมอบให้เช่นกัน
นายท่านเซี่ยและคุณนายเซี่ยรู้สึกดีใจมากที่ได้รับยาบำรุงร่างกาย ส่วนเซี่ยฉางชิง ก็ได้รับของขวัญของเขาเช่นกัน เป็นยาบำรุงร่างกายกล่องหนึ่ง แต่นอกจากนั้นยังมีขวดยาบำรุงร่างกายอีกขวดหนึ่ง
“มู่หลาน ลูกช่างใส่ใจจริงๆ”
หลังจากที่บุตรสาวได้กลั่นยาให้แก่ตน เซี่ยฉางชิงก็รู้สึกว่าร่างกายของตนนับวันยิ่งแข็งแรง
ขณะที่ทุกคนกำลังพูดคุย ว่านจี้อวิ๋นและเริ่นม่านนีก็เดินเข้ามา และทั้งสองยังจูงเด็กน้อยมาด้วย
เริ่นม่านนีกล่าวพร้อมรอยยิ้มเต็มใบหน้า “ใช่ค่ะ เด็กๆโตเร็วมาก ฉันว่าอีกไม่นานพวกเขาคงตัวโตเท่าฉันแน่”
คุณนายเซี่ยเห็นเหลนชายเดินเข้ามา จึงรีบเข้าไปอุ้ม แต่ก็เป็นเริ่นม่านนีที่กล่าวว่า “ย่าคะ ปล่อยให้เขาเดินเองเถอะค่ะ อุ้มเขาไว้ตลอดไม่ดี”
ได้ยินเช่นนั้น คุณนายเซี่ยจึงรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก
ส่วนเริ่นม่านนีก็หาโอกาสบ่นกับฉินมู่หลานว่าที่บ้านตามใจเด็กมากเกินไป เกรงว่าในอนาคตเด็กจะเอาแต่ใจ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะพี่ม่านนี พี่คอยตักเตือนก็พอแล้ว บางครั้งพี่ก็พูดออกมาตรงๆ ได้เลย ให้คนในบ้านรับรู้ว่าแบบไหนถึงจะดีที่สุดสำหรับเด็ก”
เริ่นม่านนีพยักหน้าและกล่าวว่า “ได้ ฉันจะพูดทุกเรื่องอย่างแน่นอน”
ขณะที่กำลังพูดคุยกัน เริ่นม่านนีก็ก้มลงกระซิบข้างหูฉินมู่หลานอย่างลึกลับ “มู่หลาน เธอรู้หรือเปล่าว่าที่บ้านกำลังหาคู่ให้อารองอยู่”
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
จะให้ฉางชิงแต่งงานกับใครอีกล่ะนั่น จะเป็นแบบภรรยาเก่าหรือเปล่า
ไหหม่า(海馬)