ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 623 ช่วยเหลือ(1)
ตอนที่ 623 ช่วยเหลือ(1)
…………….
ตอนที่ 623 ช่วยเหลือ(1)
ซุนหนานมองผู้ชายรูปร่างผอมเพรียวหล่อเหลาที่อยู่ตรงหน้า หลังจากนั้นก็หันไปมองเหมาชุนเถาอีกครั้ง ก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้าเหมือนเข้าใจอะไรอย่างถ่องแท้ “ฉันว่าแล้วเชียว ไม่แปลกใจเลยที่เธอรีบหย่ากับฉัน ที่แท้เธอก็มีชู้อยู่ที่นี่เอง แต่เธอก็เป็นแค่แม่ม่ายลูกติด จะไปหาคู่ครองที่ดีได้ยังไง ผู้ชายคนนี้ดูผอมกระหร่องขนาดนี้ คงเกาะเธอกินล่ะสิ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ กู้วั่งหลานก็นิ่งไม่ไหวติง ส่วนเหมาชุนเถาโมโหขึ้นในทันที
“ซุนหนาน คุณอย่าพูดไร้สาระ นี่คือสหายกู้วั่งหลานรอง ผอ. โรงงานผลิตยาแห่งซิ่งหลินถัง ก่อนหน้านี้พวกเราเคยร่วมงานกัน เขาก็เลยมาช่วยฉัน อย่าคิดว่าคนอื่นเขาจะทำตัวชอบเกาะคนอื่นกินไปทั่วเหมือนคุณสิ ”
เมื่อนึกไปถึงสิ่งที่อดีตสามีและครอบครัวของเขาเคยทำ แล้วนึกถึงสิ่งเขากล่าวหาตัวเองเมื่อสักครู่ เหมาชุนเถาจึงรู้สึกว่านี่เป็นการดูถูกหล่อนและกู้วั่งหลานเป็นอย่างมาก
แต่ถึงอย่างนั้นซุนหนานก็ไม่เชื่อ เขาจ้องมองเหมาชุนเถาด้วยสีหน้าประชดก่อนจะเอ่ยว่า “เหมาชุนเถา มาถึงตอนนี้แล้ว เธอยังจะปฏิเสธอะไรอีก ตั้งแต่เธอเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยปักกิ่ง ก็มาดูถูกคนชนบทอย่างฉัน เธอเข้ามาอยู่ในเมืองใหญ่ ได้รู้อะไรมากมาย จนลืมกำพืดว่าตัวเองก็มาจากชนบทสินะ เธอมันก็แค่ผู้หญิงหน้าด้านไร้ยางอายเท่านั้นแหละ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เหมาชุนเถาก็ตกใจมาก จ้องมองซุนหนานที่อยู่ตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อสายตา รู้สึกว่าเขาไม่เหมือนคนที่หล่อนรู้จักอีกต่อไปแล้ว
หลังจากทั้งสองแต่งงานกัน ก็ใช้ชีวิตอย่างมีความสุขมาตั้งหลายปี
ตอนที่หล่อนเพิ่งเข้าเรียนมหาวิทยาลัยใหม่ ๆ ซุนหนานก็เป็นฝ่ายสนับสนุนหล่อนด้วย แต่ยิ่งหล่อนห่างจากบ้านเกิดไปนานมากเท่าใด ซุนหนานก็เริ่มเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงตอนนี้ก็ได้กลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับหล่อนไปอย่างสิ้นเชิงแล้ว “ซุนหนาน ทำไมคุณถึงได้กลายเป็นคนแบบนี้ไปได้”
เมื่อเห็นท่าทางของเหมาชุนเถา ซุนหนานก็ได้แต่รู้สึกว่ามันช่างน่าตื่นตาตื่นใจ และน้ำเสียงของเขาก็ยิ่งฟังดูเฉียบคมมากขึ้นเรื่อย ๆ
“ทำไมล่ะ ฉันพูดอะไรผิดไปอย่างนั้นเหรอ เธอมันก็แค่ผู้หญิงจิตใจชั่วช้าที่ทิ้งครอบครัวทิ้งลูก”
ที่นี่เกิดเรื่องวุ่นวายขึ้นไม่น้อย เพื่อนบ้านรอบ ๆ จึงออกมามุงดูเพื่อรับชมความสนุก พวกเขาทราบกันดีว่าเหมาชุนเถาเป็นหญิงสาวที่พาลูกชายมาอยู่ด้วยหนึ่งคน ในบ้านไม่มีผู้ชาย ทราบเพียงแค่ว่าหย่ากับสามีคนก่อนแล้ว แต่พวกเขาไม่ทราบว่าหย่ากันเพราะสาเหตุใด วันนี้นึกไม่ถึงเลยว่าจะได้เห็นอดีตสามีของเหมาชุนเถา
คนรอบข้างไม่ได้ทราบรายละเอียดเรื่องนี้ หลังจากที่ได้ฟังคำพูดของซุนหนาน ก็มองว่าเหมาชุนเถาทำไม่ถูกนิดหน่อย
ที่แท้ก็เป็นเพราะว่ามาเรียนต่อมหาวิทยาลัย จึงได้ดูถูกสามีที่อยู่ในชนบท
“ดูไม่ออกเลยนะ ว่าชุนเถาจะเป็นคนแบบนี้”
“ใช่แล้ว ก็เห็นว่าปกติเป็นคนเรียบร้อย นึกไม่ถึงเลยว่าจะเป็นผู้หญิงที่ทิ้งสามีและลูก หล่อนนี่ช่างใจร้ายเหลือเกิน ทิ้งสามีที่มาจากชนบทแล้ว ยังหวังจะจับผู้ชายในเมืองหลวงหลังเรียนจบอีก”
เมื่อได้ยินคำครหารอบตัว เหมาชุนเถาก็จ้องมองซุนหนานด้วยความโกรธ หล่อนนึกไม่ถึงเลยว่าต่อให้จะหย่าแล้ว ซุนหนานก็ยังจะมาทำแบบนี้อีก
กู้วั่งหลานมองเหตุการณ์ตรงหน้าแล้ว ก็ยิ่งรู้สึกดูถูกซุนหนานมากยิ่งขึ้น
“นายนี่มันไม่ใช่ลูกผู้ชายเลยนะ มาโยนความผิดให้กับผู้หญิงที่อยู่ตัวคนเดียว เหอะ…ฉันนี่สมเพชนายเหลือเกิน” หลังจากพูดจบ กู้วั่งหลานก็พูดถึงเรื่องการหย่าร้างของเหมาชุนเถา จากนั้นจึงกล่าวต่อ “เห็นได้ชัดว่านายเองที่เป็นฝ่ายนอกใจหล่อน ไปแต่งงานกับญาติของแม่ตัวเอง แต่ตอนนี้กลับมาโยนความผิดให้อดีตภรรยา ช่างหน้าด้านจริง ๆ”
โชคดีที่ในวันนั้นเซี่ยปิงหรุ่ยเล่าให้ฟังเพิ่มเติม ไม่อย่างนั้นกู้วั่งหลานคงไม่ทราบความจริง และก็คงไม่รู้ว่าจะช่วยแก้ต่างให้ได้อย่างไร ตอนนี้เขาทำได้เพียงจ้องมองซุนหนานด้วยท่าทางดุดัน
เหมาชุนเถาหันมองกู้วั่งหลานด้วยความแปลกใจ นึกไม่ถึงว่ากู้วั่งหลานจะรู้เรื่องของหล่อนด้วย แต่เรื่องการหย่าร้างของหล่อนก็ไม่มีอะไรจะต้องปกปิด จึงไม่ได้คิดมากเกี่ยวกับเรื่องนี้ รู้สึกเพียงว่า ผอ.กู้ช่างเป็นคนดีเหลือเกิน ก่อนหน้านี้เคยเจอกันเพียงสองครั้งเท่านั้น แต่ก็ยังยื่นมือเข้ามาช่วยในยามวิกฤติ
ตอนแรกคนรอบข้างคิดว่าปัญหาเกิดจากเหมาชุนเถา แต่หลังจากได้ฟังคำพูดของกู้วั่งหลานแล้ว พวกเขาจึงทราบกันหมดแล้วว่าซุนหนานเป็นจอมหลอกลวง ตอนนี้ทุกคนจึงรู้สึกโกรธนิดหน่อยที่เหมือนถูกใช้เป็นเครื่องมือ
“ที่แท้ก็เพราะตัวเองเป็นตัวปัญหา แต่กลับมาโทษอดีตภรรยาแทน ช่างหน้าด้านเหลือเกิน”
“ใช่แล้ว เห็นได้ชัดว่าตัวเองยับยั้งชั่งใจไม่ได้ แต่กลับมากล่าวหาว่าอดีตภรรยาเป็นฝ่ายทิ้งเขา ทำไมถึงได้หน้าด้านอย่างนี้”
ตอนแรกซุนหนานรู้สึกสุขใจที่คนรอบข้างต่อว่าเหมาชุนเถา แต่ตอนนี้คำพูดเหล่านั้นกลับย้อนเข้าตัวเองเสียแล้ว ชั่วขณะหนึ่งจึงรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“พวกแกจะไปรู้อะไร เป็นเพราะเหมาชุนเถาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ถึงได้ดูถูกฉันไง”
อันที่จริงในตอนแรก ซุนหนานรู้สึกดีใจกับเหมาชุนเถาเป็นอย่างยิ่ง
เพราะท้ายที่สุดแล้ว การสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงอย่างมหาวิทยาลัยปักกิ่งด้วย แต่แล้วเวลาผ่านไป ทุกคนก็เริ่มพูดกรอกหูเขามากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าหลังจากเรียนจบเหมาชุนเถาจะกลับมาหรือเปล่าก็ไม่รู้ อาจจะได้ผู้ชายในเมืองหลวงแทนก็ได้
และยิ่งเขาทราบเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยปักกิ่งมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งตระหนักได้ถึงช่องว่างระหว่างตัวเองและเหมาชุนเถาได้มากขึ้นเท่านั้น ความคิดของเขาจึงค่อย ๆ เปลี่ยนไป หลังจากได้ทราบความคิดของแม่แล้ว ตอนนั้นเขาก็ไม่รู้ว่าตัวเองกำลังคิดอะไรอยู่ จึงยอมตอบตกลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจ สุดท้ายเรื่องนี้จึงนำมาสู่การหย่าร้างของเขากับเหมาชุนเถา
หลังจากที่หย่ากับเหมาชุนเถาแล้ว เขาก็บรรยายความรู้สึกของตัวเองไม่ได้เหมือนกัน
แต่ไม่ว่าจะอย่างไรเรื่องมันก็ผ่านไปแล้ว และแม่ก็ไม่เข้ามายุ่งวุ่นวายอีกเลย ดังนั้นเขาจึงรู้สึกว่าชีวิตก็ค่อนข้างดี แต่กลับนึกไม่ถึงว่าภรรยาคนนี้จะได้ลูกสาว
ตอนแรกแม่กับลูกสะใภ้ค่อนข้างเข้ากันได้ดี แต่เป็นเพราะภรรยาคนใหม่ไม่ได้ลูกชาย ตอนนี้จึงเริ่มมีปากเสียงกันในบ้าน จนกระทั่งเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา เขารู้สึกทนไม่ไหวอีกต่อไป จึงคิดจะมาปักกิ่งเพื่อตามหาชุนเถาและลูกชาย คิดอยากจะพาจี๋เซียงน้อยกลับไปด้วย
“ซุนหนาน คุณอย่าหน้าด้านไปหน่อยเลย”
เหมาชุนเถารู้สึกโกรธมาก กู้วั่งหลานรู้เพียงแค่เรื่องราวประเด็นหลักเท่านั้น แต่เขาก็พอจะทราบได้ว่าพวกคนตระกูลซุนนั้นน่ารังเกียจขนาดไหน
“อย่าบีบให้ฉันต้องพูดเรื่องทุกอย่างออกมานะ”
“เธอ…”
ซุนหนานคิดไม่ถึงว่าเหมาชุนเถาจะลืมความรู้สึกเก่า ๆ ไปได้ขนาดนี้แล้ว พูดถึงเรื่องหย่าร้างมันดูน่าภูมิใจมากนักหรือ หล่อนจึงอยากจะพูดออกมาต่อหน้าที่สาธารณะ
ในตอนนี้ฉินมู่หลานเพิ่งมาถึง ถึงแม้เธอจะไม่เคยเจอซุนหนาน แต่จากที่คนรอบข้างพูดคุยกัน เธอก็พอจะได้ยินเรื่องราวบ้างแล้ว เมื่อทราบว่าซุนหนานเป็นสามีเก่าของเหมาชุนเถา เธอจึงไม่ใจดีด้วย ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา เล่าเรื่องที่ตระกูลซุนเคยทำเอาไว้ก่อนหน้านี้อย่างหมดเปลือก
เหมาชุนเถานึกไม่ถึงว่าฉินมู่หลานจะมาที่นี่ด้วย ตอนนี้เมื่อเห็นว่าเพื่อนสนิทออกโรงปกป้องตัวเอง แววตาจึงแดงก่ำ สายตาเต็มไปด้วยความซาบซึ้งใจ แม้แต่จี๋เซียงน้อยก็จ้องมองฉินมู่หลานรู้สึกราวกับตัวเองมีที่พึ่ง
เด็กเป็นวัยที่โอนอ่อนไปตามความรู้สึก และเขาเองก็ทราบดีว่าเป็นเพราะน้าฉิน ชีวิตความเป็นอยู่ของเขาและแม่จึงดีขึ้นได้ขนาดนี้
“น้าฉิน…”
เมื่อเห็นจี๋เซียงน้อยทำท่าเหมือนจะร้องไห้ ฉินมู่หลานก็ได้แต่รู้สึกโกรธ สายตาที่จ้องมองซุนหนานไม่เหลือความเห็นใจเลยสักนิด
ในตอนนี้ผู้คนรอบข้างก็ต่างจ้องมองซุนหนานด้วยสายตาตำหนิ ราวกับดูถูกเขา
ซุนหนานไม่ทันคาดคิดว่าเรื่องจะกลับกลายเป็นเช่นนี้ ตอนแรกเขาคิดว่าในฐานะที่ตัวเองเป็นพ่อของลูก การจะพาลูกชายกลับไปนั้นคงเป็นเรื่องง่ายดาย แต่ตอนนี้เขายังไม่ทันได้ทำอะไร คนพวกนี้ก็มองเขาแบบนั้นเสียแล้ว เดิมทีเขาก็รู้สึกด้อยค่าอยู่แล้ว ตอนนี้จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตา
หน้าตาของซุนหนานค่อนข้างธรรมดาทั่วไป ทำให้คนรอบข้างที่มองดูในตอนนี้ต่างพากันเงียบเสียงลง รู้สึกเหมือนกำลังต่อว่าผู้ชายใสซื่อ
แต่ถึงอย่างนั้นกู้วั่งหลานกลับไม่ได้รู้สึกถึงความใสซื่อของซุนหนานเลย เมื่อสักครู่หากเขาไม่ได้มาที่นี่ จี๋เซียงน้อยอาจถูกพาตัวไปแล้ว “ครั้งนี้ที่นายมาปักกิ่ง ถ้าเดาไม่ผิดก็คงเป็นเพราะภรรยาใหม่ของนายได้ลูกสาวสินะ เพราะฉะนั้นจึงมาเกาะแกะลูกชาย แล้วคิดจะพาจี๋เซียงน้อยกลับไปอีก”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ทุกคนก็หันไปมองซุนหนาน
แม้แต่เหมาชุนเถาก็คิดขึ้นได้เหมือนกัน ก่อนหน้านี้ตระกูลซุนไม่อยากรับเด็กไว้ด้วยซ้ำ ดูเหมือนจะมั่นใจมากว่าผู้หญิงคนนั้นจะได้ลูกชาย แต่ตอนนี้ซุนหนานกลับอยากพาจี๋เซียงกลับไป ที่แท้ก็เป็นเพราะผู้หญิงคนนั้นได้ลูกสาวนี่เอง
เมื่อคิดได้แบบนี้ เหมาชุนเถาจึงปกป้องจี๋เซียงสุดฤทธิ์ แล้วจ้องมองซุนหนานด้วยท่าทางดุเดือด “คุณอย่าได้ฝัน ตอนฉันหย่า ฉันได้สิทธิ์เลี้ยงดูจี๋เซียง คุณมาหาได้ แต่ไม่มีสิทธิ์พาเขาไปเลี้ยงดู ต่อไปถ้าคุณทำแบบนี้อีก ฉันจะแจ้งตำรวจ”
ซุนหนานมีอะไรจะต้องไม่เข้าใจอีก เรื่องราวถึงขั้นที่จะแจ้งตำรวจแล้ว เขาเป็นเพียงคนบ้านนอก จึงกลัวตำรวจจับใจ ดังนั้นในใจจึงคิดจะถอยหนีอยู่แล้ว แต่ก็ยังแสดงท่าทางห้าวหาญแล้วกล่าวว่า “พวก…พวกแก ฉันฝากเอาไว้ก่อนเถอะ”
หลังจากพูดจบ ก็รีบวิ่งหนีไป
………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ตระกูลซุนนี่แปลกๆ หย่าไปได้ก็ดีค่ะ มีแต่คนไม่ปกติ
ไหหม่า(海馬)