ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 617 ประชาสัมพันธ์(1)
ตอนที่ 617 ประชาสัมพันธ์(1)
ตอนที่ 617 ประชาสัมพันธ์(1)
ฉินมู่หลานมองชายร่างผอมที่อยู่ตรงหน้า ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง “สหายกู้ อันที่จริงแล้วจากคุณสมบัติของคุณสามารถหางานทำที่ดีกว่านี้ได้นะคะ คุณแน่ใจแล้วจริง ๆ หรือว่าจะมาทำงานในโรงงานผลิตยาของเราที่ยังไม่แม้แต่เปิดทำการ?”
กู้วั่งหลานที่อยู่ตรงหน้าคุณสมบัติโดดเด่น ไม่ว่าฉินมู่หลานจะพูดอะไรขึ้นมา เขาก็ตอบกลับได้หมดและดูเหมือนจะเข้าใจจริง ถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้วางแผนอะไรมาเลยในส่วนเรื่องการพัฒนาบริษัทยา แต่ก็ยังเสนอแผนให้เธอได้ในทันที และแล้วแผนบริษัทยาในอีกห้าปีข้างหน้าก็ได้รับการวางแผนเอาไว้เรียบร้อย
กู้วั่งหลานได้ยินแบบนี้ก็หัวเราะเบา ๆ ก่อนจะกล่าวว่า “ทำงานที่ไหนก็เหมือนกันนั่นแหละครับ เพราะฉะนั้นผมจึงยินดีจะทำงานกับบริษัทยาซิ่งหลินถัง”
เมื่อเห็นกู้วั่งหลานพูดแบบนั้น ฉินมู่หลานก็ยกยิ้มแล้วยื่นมือออกไปก่อนจะกล่าวว่า “ยินดีต้อนรับเข้าร่วมงานกับบริษัทยาซิ่งหลินถังค่ะ”
กู้วั่งหลานยืนขึ้นและจับมือกับฉินมู่หลานพลางกล่าวว่า “ขอบคุณครับ”
“สหายกู้ ถ้าอย่างนั้นนับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปคุณรับหน้าที่เป็นรองผู้อำนวยการโรงงานผลิตยาของเรานะคะ เพราะฉะนั้นฉันจะเรียกคุณว่า ผอ.กู้ ไหน ๆ ก็มาร่วมงานกับพวกเราที่นี่แล้ว ต่อไปพวกเราก็ถือว่าเป็นครอบครัวเดียวกัน เอาไว้ตอนออกไปกินข้าวด้วยกันแล้วฉันจะแนะนำให้คุณรู้จักกับคนอื่น ๆ ค่ะ”
ก่อนหน้านี้เธอวางแผนจะหาจ้างผู้อำนวยการฝ่ายขาย แต่กู้วั่งหลานมีคุณสมบัติดีเกินไป เขามีคุณสมบัติครบถ้วนที่จะเป็นผู้อำนวยการโรงงานได้เลย แต่ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงงานมีคนอยู่แล้ว เธอจึงให้เขาเป็นรองผู้อำนวยการแทน
“ครับ”
กู้วั่งหลานก็ไม่ปฏิเสธเหมือนกัน พยักหน้ายอมรับ
เมื่อถึงเวลาพักเที่ยง ทุกคนก็มารวมตัวกันที่ร้านอาหารโรงแรมปักกิ่ง ฉินมู่หลานจึงเอ่ยแนะนำกู้วั่งหลานอย่างเป็นทางการ “นี่คือสหายกู้วั่งหลาน ต่อไปจะมาเป็นรองผู้อำนวยการโรงงานผลิตยา ขอให้ทุกคนต้อนรับเขาด้วยค่ะ”
เซี่ยปิงหรุ่ย เซี่ยปิงชิง เซี่ยฉางกู่ คังอันเหอและคนอื่นๆ ต่างปรบมือต้อนรับ แต่ทุกคนก็อยากรู้นิดหน่อย หากเมื่อสักครู่พวกเขาได้ยินไม่ผิด คนที่อยู่ตรงหน้าจะมาเป็นรองผู้อำนวยการโรงงานผลิตยา โดยที่ก่อนหน้านี้ไม่ได้บอกว่าจะรับสมัครรองผู้อำนวยการ
“สวัสดีทุกคนครับ ผมชื่อกู้วั่งหลาน ต่อไปหวังว่าจะได้ร่วมงานกับทุกคนอย่างราบรื่นครับ”
“หวังว่าจะได้ร่วมงานกันอย่างราบรื่นนะครับ/คะ”
จากนั้นฉินมู่หลานก็เอ่ยแนะนำคนอื่นอีกครั้ง “นี่คือสองพี่น้องเซี่ยปิงหรุ่ยและเซี่ยปิงชิง เป็นหุ้นส่วนของร้านขายยาซิ่งหลินถังและโรงงานยาซิ่งหลินถังค่ะ ส่วนนี่คือคุณหมอคังอันเหอ นั่นเซี่ยฉางกู่ เซี่ยฉางซวน เซี่ยฉางเหอ เซี่ยฉางซี เป็นคุณอาทั้งห้าจากตระกูลเซี่ย พวกเขาเก่งเรื่องยากันทุกคนเลยค่ะ”
กู้วั่งหลานได้ยินแบบนี้ ก็กล่าวทักทายแต่ละคน
ฉินมู่หลานหันมองอีกหลายคนก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “อาหารมาเสิร์ฟแล้ว พวกเรากินกันก่อนเถอะ”
“ได้เลย”
เซี่ยปิงหรุ่ยไม่รู้จะพูดอะไรดี จึงรีบพยักหน้าอย่างรวดเร็ว
เมื่อคนกลุ่มหนึ่งนั่งลงรับประทานอาหาร อยู่ ๆ บรรยากาศโดยรอบก็เงียบลง แต่ฉินมู่หลานก็ยังทำลายความเงียบ โดยการเล่าแผนการล่าสุดของบริษัทยาให้กู้วั่งหลานฟัง
หลังจากกู้วั่งหลานได้ฟัง ก็อดถามไม่ได้ “ถ้าอย่างนั้นตอนนี้ได้ติดต่อไปยังสถานีโทรทัศน์ปักกิ่งหรือยังครับ?”
ฉินมู่หลานส่ายหัวแล้วกล่าว “ยังเลยค่ะ พรุ่งนี้ฉันว่าจะลองเข้าไปดูที่โรงถ่ายทำ”
“ดีเลยครับ คุณไปที่โรงถ่ายทำ แล้วเรื่องทางฝั่งสถานีโทรทัศน์ให้เป็นหน้าที่ของผมเอง ผมจะติดต่อให้”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ ฉินมู่หลานก็ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว จึงพยักหน้าแล้วกล่าวว่า “ตกลงค่ะ ถ้าอย่างนั้นทางฝั่งสถานีโทรทัศน์ก็รบกวนคุณด้วยนะคะ”
กู้วั่งหลานยกยิ้มแล้วกล่าว “ผอ.ฉินครับ เรื่องนี้มีอะไรต้องรบกวน นี่เป็นหน้าที่ของผมอยู่แล้วครับ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็ไม่ได้พูดอะไรมากมายอีก
จนกระทั่งอาหารหมด หลังจากกู้วั่งหลานกลับไป เซี่ยปิงหรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะหันมองฉินมู่หลานแล้วเอ่ยถาม “มู่หลาน เธอจะให้เขาเป็นรองผอ.โรงงานผลิตยาจริงเหรอ ตำแหน่งจะไม่สูงเกินไปใช่ไหม”
ฉินมู่หลานกล่าวอย่างตรงประเด็น “กู้วั่งหลานมีความสามารถสูงมาก เขาทำงานตำแหน่งนี้ได้ นอกเหนือจากนี้ การตัดสินใจเรื่องสำคัญบางอย่างก็ยังเป็นของพวกเราอยู่”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เซี่ยปิงหรุ่ยก็ไม่ได้ค้านอะไร
ในวันรุ่งขึ้น ขณะที่ฉินมู่หลานไปมหาวิทยาลัย เธอก็ไปหาเหมาชุนเถา แล้วพูดคุยกับอีกฝ่ายเรื่องการเขียนข้อความโฆษณา
“ชุนเถา พวกเราจะคิดค่าบริการตามบทความ ถ้าเธอไม่รู้ว่าจะเขียนยังไง ก็ลองดูโฆษณาในทีวีมาใช้อ้างอิงได้” หลงัจากพูดจบ เธอก็ยังเสนอข้อความที่ตัวเองคิดเอาไว้ “คำพวกนี้เอาไปปรับใช้ได้นะ เธอก็ลองดูว่ามีคำไหนที่เหมาะสมกว่านี้”
เหมาชุนเถาได้ยินแบบนี้ก็โบกมือแล้วกล่าวว่า “มู่หลาน พวกเราไม่ต้องพูดถึงเรื่องเงินกันหรอก เดี๋ยววันนี้ฉันจะลองกลับไปศึกษาให้ดี น่าจะเขียนออกมาได้แล้วเสร็จในอีกสองถึงสามวัน”
หากไม่ใช่เพราะฉินมู่หลานเป็นคนเสนองานให้ หล่อนคงไม่ได้รับค่าลิขสิทธิ์มากมายขนาดนี้
“ถึงจะเป็นเพื่อนกันก็ต้องคิดเงินนะ เพราะฉะนั้นต้องคิดแน่นอน ไม่อย่างนั้นฉันคงเกรงใจเกินกว่าจะขอให้เธอเขียนให้ เธอคงไม่อยากให้ฉันส่งงานนี้ให้คนอื่นหรอกใช่ไหม”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เหมาชุนเถาจึงต้องกล่าวอย่างช่วยไม่ได้ “ได้ๆๆ ถ้าอย่างนั้นเธอให้ฉันนิดหน่อยก็ได้”
หลังจากทั้งสองคุยเรื่องนี้กันเสร็จ ก็ใกล้ถึงเวลาเริ่มคลาสเรียนแล้ว ทั้งสองจึงรีบกลับไปที่ห้องเรียน
เซี่ยปิงหรุ่ยเห็นฉินมู่หลานกลับมา ก็อดถามไม่ได้ “เธอคุยกับชุนเถาหรือยัง?”
“คุยกันเรียบร้อยแล้วล่ะ เดี๋ยวหลังเลิกเรียนพวกเราจะเข้าไปที่โรงถ่ายทำกัน”
“ตกลง”
ใกล้จะจบภาคการศึกษา การเรียนดำเนินมาจนจะจบหลักสูตรแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือต้องทบทวนความรู้ที่เรียนมาก่อนหน้า แต่มันไม่ใช่เรื่องยากอะไรสำหรับฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ย ดังนั้นทั้งสองจึงไม่รู้สึกกดดันอะไรเลย เมื่อคลาสเรียนช่วงเช้าจบลง ทั้งสองก็ออกจากรั้วมหาวิทยาลัย แล้วตรงไปที่โรงถ่ายทำ
ผู้กำกับโรงถ่ายทำในปักกิ่งมีแซ่ว่าหลิน หลังจากฉินมู่หลานพูดคุยจุดประสงค์ในการมาชัดเจนแล้ว อีกฝ่ายก็ตอบตกลงทันที
“ได้แน่นอนครับ พวกเราช่วยถ่ายทำโฆษณาได้”
ฉินมู่หลานจ่ายค่าตอบแทนให้ค่อนข้างสูง ดังนั้นจึงไม่มีเหตุผลให้พวกเขาต้องปฏิเสธ
หลังจากฉินมู่หลานยืนยันข้อตกลงเรียบร้อยแลว แววตาก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม “ตกลงค่ะผอ.หลิน เดี๋ยวเราสรุปบทแล้วก็เริ่มถ่ายทำได้เลย ส่วนเรื่องนักแสดงก็ใช้จากโรงถ่ายทำของคุณ อาจจะต้องใช้นักแสดงสูงอายุชายหนึ่งหญิงหนึ่ง เพราะฉะนั้นคุณสามารถเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้าได้เลยนะคะ พวกเราคิดเอาไว้แล้วว่าช่วงปีใหม่ จะฉายโฆษณาผ่านทางสถานีโทรทัศน์ปักกิ่ง”
“วางใจครับ พวกเราจะเตรียมการให้เรียบร้อย ทางฝั่งพวกคุณก็รีบสรุปบทโฆษณามาได้เลยครับ”
“ตกลงค่ะ”
หลังจากทางฝั่งฉินมู่หลานตกลงเรียบร้อยแล้ว กู้วั่งหลานก็มาคุยกับเธอในตอนเย็นถึงเรื่องความคืบหน้า
“สานีโทรทัศน์ปักกิ่งตอบตกลงแล้วครับ รอถ่ายโฆษณาเสร็จก็จะดำเนินตามขั้นตอน ฉายโฆษณาที่สถานีโทรทัศน์ปักกิ่งได้เลย”
เมื่อเห็นกู้วั่งหลานทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพขนาดนี้ ฉินมู่หลานก็อดกล่าวไม่ได้ “ทำงานหนักเลยนะคะ ผอ.กู้” จากนั้นเธอก็เล่าสถานการณ์ทางฝั่งตัวเองให้ฟังด้วย
หลังจากกู้วั่งหลานฟังจบก็พูดขึ้นตามตรง “เดี๋ยวถ้าเพื่อนร่วมห้องของคุณเขียนบทเสร็จ ผมก็อยากจะลองอ่านด้วยครับ”
“ได้ค่ะ ไม่มีปัญหา”
ฉินมู่หลานไม่ได้คัดค้านอยู่แล้ว ตอนแรกเธอคิดว่าจะต้องรออีกสองวัน ไม่ทันคาดคิดว่าเพียงคืนเดียวเหมาชุนเถาจะเขียนเสร็จแล้ว เมื่ออ่านบทที่อยู่ในมือ ฉินมู่หลานก็อดกล่าวไม่ได้ “ชุนเถา เธอเขียนได้ดีมากเลย สโลแกนโฆษณาก็สร้างสรรค์มาก ผู้ชมต้องประทับใจมากแน่นอน”
อันที่จริงแล้วคำโฆษณาที่เหมาชุนเถาเขียนไม่ได้มีอะไรพิเศษมากนัก เพียงแต่มันค่อนข้างติดดิน ทำให้ผู้คนที่เห็นรู้สึกว่าเข้าถึงง่าย นี่ก็ถือเป็นพรสวรรค์อย่างหนึ่ง
ตอนแรกเหมาชุนเถารู้สึกกังวลนิดหน่อย ตอนนี้เมื่อได้ฟังคำพูดของฉินมู่หลาน สีหน้าก็เต็มไปด้วยความประหลาดใจ
“จริงเหรอมู่หลาน ไม่ต้องแก้อะไรเลยจริงเหรอ แบบนี้ใช้ได้แล้วจริง ๆ ใช่ไหม?”
“ใช่ ไม่ต้องแก้ เอาไปใช้ได้เลย แต่ว่ารอง ผอ.โรงงานผลิตยาคนใหม่ของเราก็อยากจะลองอ่านดูด้วยเหมือนกัน ถึงตอนนั้นพวกเรามานั่งคุยกันให้เรียบร้อยเถอะ”
สำหรับเรื่องนี้ เหมาชุนเถาไม่คัดค้านอะไรอยู่แล้ว เพียงแต่นึกไปถึงจี๋เซียงน้อย จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยถาม “ถ้าอย่างนั้นฉันขอไปรับจี๋เซียงน้อยหลังเลิกเรียนก่อนได้ไหม แล้วฉันจะพาเขาไปด้วย ไม่อย่างนั้นเขาต้องอยู่บ้านคนเดียว”
“ได้อยู่แล้ว”
จนกระทั่งเลิกเรียน ฉินมู่หลานและเซี่ยปิงหรุ่ยก็ตามเหมาชุนเถาไปรับจี๋เซียงน้อยด้วยกัน หลังจากนั้นก็ตรงไปที่ซิ่งหลินถัง
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เริ่มฟอร์มทีมเป็นรูปเป็นร่างแล้ว ดูเหมือนจะไปได้สวยด้วย
ไหหม่า(海馬)