ทะลุมิติสู่ยุค 70 ไปแต่งงานกับผู้ชายคลั่งรัก - ตอนที่ 607 หลบซ่อน(1)
ตอนที่ 607 หลบซ่อน(1)
ตอนที่ 607 หลบซ่อน(1)
“โอเค คัต”
สวีก่วงซางตะโกนออกมาด้วยความพึงพอใจ เห็นฉากสุดท้ายของเฉาจิ้งในกล้องแล้วก็รู้สึกเพียงว่าสวยงามมาก
เฉาจิ้งรีบก้าวเดินมาข้างหน้าแล้วเอ่ยถาม “ผอ. ใช้ได้ไหมคะ?”
“ใช้ได้ โอเคเลยแหละ เมื่อกี้นี้เธอดูดีมาก”
เฉาจิ้งสัมผัสใบหน้าตัวเอง ได้แต่รู้สึกว่าหลังจากแต่งหน้าแล้ว หล่อนก็มีความมั่นมากขึ้น “ถ้าอย่างนั้นก็ดีค่ะ”
หลังจากพูดจบ หล่อนก็หันมองฉินมู่หลานอีกครั้งเพื่อจะฟังความคิดเห็นของเธอ
ฉินมู่หลานเห็นเฉาจิ้งมองมา ก็ปรบมือขึ้นทันที พลางกล่าวชม “ฉากเมื่อกี้นี้ดีมากเลยค่ะ เดี๋ยวรอโฆษณาออกอากาศ ทุกคนจะต้องประหลาดใจกับคุณแน่นอน”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานก็ชมตัวเอง แววตาของเฉาจิ้งก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม
สวีก่วงซางเห็นว่าไม่มีปัญหาอะไรแล้ว จึงบอกฉินมู่หลานว่าจะทำอะไรต่อไป “วันนี้ถ่ายทำเสร็จแล้ว แต่พวกเรายังต้องเอาไปจัดการต่อครับ คงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าวิดีโอจะเสร็จ”
ฉินมู่หลานได้ยินแบบนี้ก็โบกมือแล้วบอกกล่าว “ไม่เป็นไรค่ะ ไม่ต้องรีบ เคาน์เตอร์เครื่องสำอางที่ห้างสรรพสินค้าโหย่วอี้ยังไม่เปิด เพราะฉะนั้นพวกคุณใช้เวลาให้เต็มที่เถอะค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ สวีก่วงซางก็ถอนหายใจ “ครับ เดี๋ยววิดีโอเสร็จแล้ว ผมจะติดต่อไปหาพวกคุณครับ”
พูดจบเขาก็ขอข้อมูลการติดต่ออีกครั้ง
หลังจากฉินมู่หลานให้ข้อมูลการติดต่อแล้ว ก็กลับไปพร้อมซูหว่านอี๋และคนอื่น ๆ
หลังจากหลายคนมาถึงที่พักแล้วก็นั่งลงพักผ่อนอย่างเต็มที่ แม้พวกเธอจะไม่ได้ทำอะไรเลย แต่ก็ยังมีส่วนร่วมในการถ่ายโฆษณา จึงรู้สึกเหนื่อยบ้างนิดหน่อย
“มู่หลาน พวกเรามางีบกันสักพัก แล้วค่อยออกไปกินข้าวเย็นกันเถอะ”
“ค่ะ”
ทุกคนพากันพักผ่อนอย่างเต็มที่เป็นเวลาสองชั่วโมง หลังจากนั้นก็ลุกขึ้นแล้วเตรียมตัวออกไปกินข้าวข้างนอก เพียงแต่ยังไม่ทันได้ออกไป จ้าวจินหลงก็มาหาเสียก่อน
พูดจบ เขาก็รีบอธิบายทันที “หัวหน้าถานของเรานัดหมายกับหัวหน้าสถานีโทรทัศน์เรียบร้อยแล้วครับ จึงให้ผมมาหาพวกคุณ จะได้นั่งคุยรายละเอียดกัน”
ฉินมู่หลานคาดไม่ถึงว่าถานอี้จะดำเนินการเร็วขนาดนี้ แต่นี่ถือเป็นเรื่องดี เธอจึงยิ้มแล้วพยักหน้าพลางกล่าวว่า “ได้ค่ะ พวกเราไปที่นั่นกัน”
จ้าวจินหลงพาทุกคนไปที่ร้านอาหารของโรงแรมรัฐ
ถานอี้และหัวหน้าสถานีโทรทัศน์ไห่เฉิงอยู่ที่นั่นกันแล้ว “สหายฉิน ทางนี้ครับ”
ฉินมู่หลานเห็นแบบนี้ แน่นอนว่าก็ต้องยิ้มแล้วกล่าวทักทายเช่นกัน จากนั้นก็หันมองคนที่อยู่ข้าง ๆ ถานอี้ด้วยความอยากรู้
ถานอี้รีบเอ่ยแนะนำขึ้นทันที ”นี่คือเซิ่งชิ่งหัว ผอ.สถานีโทรทัศน์ไห่เฉิงครับ
หลังจากนั้นเขาก็แนะนำฉินมู่หลาน ซูหว่านอี๋และพวกเหยาจิ้งจือให้กับเซิ่งชิ่งหัว “คนเหล่านี้คือผู้บริหารบริษัทเครื่องสำอางมู่เสวี่ยที่กำลังจะวางขายในห้างสรรพสินค้าโหย่วอี้ของเราในเร็ววันนี้ สิ่งที่พวกหล่อนจะวางขายก็คือเครื่องสำอางของพวกหล่อนเอง ซึ่งถ่ายทำโฆษณาไปแล้ว ถึงเวลาก็จะออกอากาศกับสถานีโทรทัศนืของคุณครับ”
เซิ่งชิ่งหัว ฉินมู่หลาน รวมถึงพวกซูหว่านอี๋ต่างกล่าวทักทายกัน ขณะที่กำลังพูดคุย อาหารก็มาเสิร์ฟแล้ว
ถานอี้เห็นแบบนี้ จึงรีบยิ้มแล้วกล่าวว่า “พวกเรานั่งกินอาหารกันก่อนเถอะครับ กินไปคุยไปก็ได้”
จ้าวจินหลงที่นั่งอยู่ด้วยกันก็รู้งานเป็นอย่างดี วางตะเกียบและรินเหล้าให้ถานอี้และเซิ่งชิ่งหัวอย่างเอาใจใส่มาก
พวกฉินมู่หลานไม่ดื่มเหล้า กินเพียงอาหารเท่านั้น
หลังจากอาหารมาเสิร์ฟหมดแล้ว ทุกคนก็เริ่มกินกันอย่างช้า ๆ เซิ่งชิ่งหัวก็หันมองฉินมู่หลานด้วยความสงสัยก่อนจะเอ่ยถาม “ได้ยินว่าคุณจ้างนักแสดงจากโรงถ่ายทำมาถ่ายโฆษณา ไม่ทราบว่าจะถ่ายทำเสร็จเมื่อไหร่ครับ แล้วมีแผนจะออกอากาศตอนไหน? ต้องทราบก่อนนะครับว่าต้นทุนการลงโฆษณาในแต่ละช่วงเวลามันแตกต่างกัน”
“ผอ.เซิ่งคะ โฆษณาใกล้จะพร้อมออกฉายแล้วค่ะ ตอนนี้กำลังตัดต่อวิดีโออยู่ ส่วนเรื่องระยะเวลาที่คุณว่ามานั้น พวกเราต้องการลงช่วงเวลาหลักค่ะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ เซิ่งชิ่งหัวก็หันมองฉินมู่หลาน แล้วกล่าวว่า
“ช่วงเวลาหลักราคาไม่น้อยเลยนะครับ”
“ไม่สำคัญค่ะ เรื่องราคาไม่เป็นปัญหาอยู่แล้ว”
เมื่อเห็นว่าฉินมู่หลานดูท่าจะร่ำรวยมาก เซิ่งชิ่งหัวก็ยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้าอย่างนั้นก็ดีครับ ผมจะหาช่วงเวลาดี ๆ ยิงโฆษณาให้คุณเอง พวกคุณไม่ดื่มเหล้ากันเหรอครับ?”
พูดจบ เขาก็หันมองไปที่ซูหว่านอี๋ เหยาจิ้งจือ และหลี่เสวี่ยเยี่ยน ขณะเดียวกันก็รู้สึกประทับใจนิดหน่อย ทั้งสี่คนนี้มีช่วงอายุที่แตกต่างกัน แต่ก็ล้วนดูดีกันทั้งนั้น
อย่างที่คาดเอาไว้ว่าการทำธุรกิจเครื่องสำอาง การใช้หน้าตาเป็นจุดขายทำให้คนหลงเชื่อได้ง่าย
ยังไม่ทันที่ฉินมู่หลานจะได้พูดอะไร ถานอี้ก็รีบหันมาพูด “เอาเถอะเหล่าเซิ่ง
ผมก็ดื่มกับคุณอยู่นี่ไง มา พวกเราดื่มกันก่อน”
เมื่อเห็นถานอี้ว่าแบบนี้ เซิ่งชิ่งหัวก็มองเขาด้วยความประหลาดใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร แล้วดื่มไปหนึ่งจอก หลังจากนั้นก็พูดคุยกันระหว่างรับประทานอาหาร บทสนทนาค่อนข้างสนุกสนานทีเดียว
เมื่อกินอาหารจนใกล้หมดแล้ว ฉินมู่หลานก็เอ่ยปากกล่าวแนะ “ผอ.เซิ่งคะ
พวกไม่จำเป็นต้องลงนามสัญญากันก่อนเหรอคะ ให้ฉันวางเงินมัดจำก่อนอะไรแบบนี้ หลังจากโฆษณาออกมาแล้วจะได้ส่งให้คุณได้เลยในทันที”
“เหล่าเซิ่ง รีบลงนามเลย ลงสัญญาโฆษณาเพิ่มอีกตัว รายได้คุณทางฝั่งไต้หวันก็จะเพิ่มขึ้นด้วยนะ”
เซิงหัวชิ่งก็ทราบเรื่องนี้ดี จึงพยักหน้าเห็นด้วยแล้วกล่าว “ครับ พวกเรามาลงนามสัญญากัน”
เนื่องจากมีปากกาและกระดาษพร้อมแล้ว จึงเขียนข้อตกลงกันได้ง่ายมาก หลังฉินมู่หลานอ่านสัญญาแล้วพบว่าไม่มีปัญหาอะไร จึงลงนามทันที
หลังจากนั้นเซิ่งชิ่งหัวก็ลงนามด้วยเหมือนกัน เป็นการผนึกข้อตกลงสัญญาที่ราบรื่นด้วยดี
ฉินมู่หลานยิ้มแล้วกล่าวขอบคุณเซิ่งชิ่งหัว ซึ่งเธอไม่ได้ลืมถานอี้เช่นกัน เอ่ยขอบคุณถานอี้อย่างสุดซึ้ง
ถานอี้รีบโบกมือแล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องขอบคุณหรอก พวกเราก็ช่วยกัน”
“หัวหน้าถาน ถึงจะพูดอย่างนั้น แต่ก็ต้องขอบคุณคุณอยู่ดีค่ะ หลังจากพวกคุณตั้งเคาน์เตอร์เครื่องสำอางเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะนำเครื่องสำอางมาค่ะ”
“ตกลงครับ”
แต่มานานถานอี้ก็ถามเรื่องประเด็นนี้ขึ้นมาด้วย “คุณตั้งใจจะกลับเมืองหลวงเลยหรือเปล่าครับ?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ค่ะ เรื่องที่ต้องจัดการทางนี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว พวกเราจะกลับกันก่อน เดี๋ยวมีโอกาสอีกครั้งพวกเราจะมาหาค่ะ”
“ก็ดีครับ”
หลังจากฉินมู่หลานพูดกับถานอี้อีกสองสามคำ เธอก็บอกลาเขาและเซิ่งชิ่งหัว
พาซูหว่านอี๋และคนอื่นกลับไปที่พัก
หลังจากพวกฉินมู่หลานกลับแล้ว เซิ่งชิ่งหัวก็มองถานอี้ด้วยความสงสัยแล้วเอ่ยถาม “ทำไมฉันเห็นว่านายทำดีกับผู้หญิงพวกนั้นจริง เมื่อกี้ฉันก็แค่ถามว่าไม่ดื่มเหล้ากันเหรอเท่านั้นเอง แต่นายกลับออกโรงพูดแทน นี่เป็นการให้ความสำคัญกับพวกหล่อนมากเลยนะ”
“นายจะไปรู้อะไร”
ถานอี้เหลือบมองเซิ่งชิ่งหัวแล้วกล่าว “พวกหล่อนไม่ใช่แค่ผู้จัดการโรงงานเครื่องสำอางเท่านั้นนะ”
เมื่อได้ฟังคำพูดนี้ สีหน้าของเซิ่งชิ่งหัวก็เต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
“หรือว่าพวกหล่อนยังป็นบุคคลสำคัญในด้านอื่นอีกเหรอ?”
ถานอี้พยักหน้าด้วยท่าทางลึกลับ แล้วบอกกล่าว “นายเดาถูกแล้วล่ะ คนพวกนี้ไม่ใช่คนธรรมดา ฉันก็เพิ่งรู้ตอนสืบเรื่องในเมืองหลวง”
หลังจากพูดจบ เขาก็บอกเรื่องที่เขาทราบทั้งหมด หลังจากนั้นจึงเอ่ยว่า “เพราะฉะนั้นนายอย่าเห็นแค่ว่าพวกหล่อนหน้าตาดี จึงได้พูดจาเป็นกันเองเกินไป”
เซิ่งชิ่งหัวเพื่อนสนิทคนนี้ทำอะไรก็ดีไปหมดทุกอย่าง หลังจากได้ทำงานที่สถานีโทรทัศน์ ก็ชอบที่จะเห็นคนสวย ๆ
แต่ก็มองเพียงแค่รูปลักษณ์ภายนอกเท่านั้น นอกเหนือจากนี้เขาก็ไม่ทำอะไร
เขาเองก็ทราบเรื่องนิสัยนี้ของเพื่อนสนิทดี
เซิ่งชิ่งหัวรีบกล่าวหลังจากได้ยินเช่นนี้ “วางใจ นายบอกฉันทุกอย่างแล้ว ต่อไปฉันจะไม่พูดจาพร่ำเพรื่อแน่นอน นายก็เหมือนกันนั่นแหละ ทำไมถึงไม่บอกฉันก่อนหน้านี้เล่า”
“ไอ้หยา เหล่าเซิ่งผู้แสนดี เมื่อกี้ฉันก็คุยกับนายเรื่องโฆษณาเครื่องสำอางไม่ใช่เหรอ ยังไม่ทันคุยจบเลย พวกหล่อนหลายคนก็มากันแล้ว แล้วฉันจะไปบอกทันเหรอ”
เซิ่งชิ่งหัวก็เข้าใจเรื่องนี้ ดังนั้นเขาจึงไม่ว่าอะไร
“ได้ๆๆ ไม่พูดเรื่องนี้แล้ว แล้วเมื่อกี้ฉันก็ไม่ได้พูดอะไรเลย พวกหล่อนไม่รังเกียจฉันอยู่แล้ว”
ฉินมู่หลานและอีกหลายคนไม่ได้สนใจเรื่องนี้อยู่แล้ว ตอนนี้พวกหล่อนกลับมาถึงที่พักก็พูดถึงเรื่องเดินทางกลับ
“มู่หลาน พรุ่งนี้พวกเราจะกลับกันเลยไหม?”
ฉินมู่หลานพยักหน้าแล้วกล่าว “ใช่ค่ะ พรุ่งนี้ก็กลับเลยจะมาที่นี่อีกก็ต่อเมื่อจำเป็นต้องมา”
แต่ครั้งต่อไปเธอคิดเอาไว้ว่าจะให้ซูหว่านอี๋และเหยาจิ้งจือมากันเอง ต่อจากนี้ไปจะให้พวกหล่อนจัดการเรื่องทุกอย่างเกี่ยวกับโรงงานเครื่องสำอางกันเอง
“ตกลง ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาจัดของกันเถอะ”
เมื่อตอนเดินทางมา หลายคนมากันแบบสบายๆ แต่ตอนกลับไปมีของเพิ่มนิดหน่อย ต้องนำของที่ซื้อมาจากไห่เฉิงทั้งหมดกลับบ้าน
หลังจากจัดของเสร็จเรียบร้อยก็เป็นยามดึกแล้ว เหยาจิ้งจือจึงรีบบอกให้ทุกคนเข้านอน
……………………………………………………………………………………………………………………..
สารจากผู้แปล
อย่ามองกลุ่มสาวๆ เหล่านี้แต่ภายนอกเชียวนะ เรื่องฝีมือก็เก่งไม่แพ้ใครเลย
ไหหม่า(海馬)