ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 9
ตอนที่ 9 ดันเจี้ยนนรกเยือกแข็งชั้นที่หนึ่ง บอสไฟท์ (boss fight)
ครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมกับอาร์ย่าก็นั่งหอบหายใจอยู่บนทางเดินสีขาว มองดูศพของโอเนียที่เรียงรายซ้ายขวาอยู่บนทางเดินตลอดทางที่เรามา ในใจก็มีความขมขืนชนิดที่พูดไม่ออก
“นึกถึงเมื่อตอนนั้น ฉันเล่นคอมพิวเตอร์อยู่ตั้งหลายสัปดาห์ยังไม่เหนื่อยเลย ตอนนี้แค่ครึ่งชั่วโมงก็เหนื่อยจนเป็นแบบนี้น่าอายจริงๆ”
“มีอะไรให้อาย”
อาร์ย่าตอบกลับด้วยรอยยิ้มขึ้น
“ความเป็นจริงคงยากลําบากแบบนี้แหละ เธอดูเกมจําลองสถานการณ์สิ ขอแค่กดสองที ค่าปัญญา ค่าเสน่ห์ ค่าเรียนรู้หรืออะไรก็ตามแต่ก็เพิ่มขึ้นในทันที แต่ดูตอนสมัยก่อนที่พวกเราอยู่โรงเรียนสิ ไม่ใช่ว่าต้องอดทนเรียนเป็นสิบปีเหรอ”
“ฮ่าๆๆๆ ก็ใช่ แต่ว่าพวกเราก็ดีกว่าคนของโลกนี้มากแล้ว คนอื่นลําบากเรียนเวทมน ตร์กันนานขนาดนั้น พวกเราแค่กดคลิกก็เรียนได้เลย…”
“ก็จําเป็นน่ะสิ ไม่งั้นพวกเราที่ทะลุมิติมาคงไม่ได้เปรียบ ฉันรู้สึกว่าถ้าไม่มีของประหลาดนีบนตัวเรา ฉันคงใช้ชีวิตได้ไม่เกิน ไม่สิ ไม่ใช่ใช้ชีวิต แต่เป็นเอาชีวิตรอดได้ไม่เกินหนึ่งเดือน”
“เฮ้ๆๆ อย่ามองโลกแง่ร้ายแบบนี้สิ จะยังไงพวกเราก็มาจากโลกแห่ง “วิทยาศาสตร์” ถึงแม้การต่อสู้จะไม่แข็งแกร่งเท่าพวกเขา แต่พวกเรายังสามารถใช้ความได้เปรียบจากความรู้ได้ไม่ใช่เหรอ”
“นั่นสินะ”
อาร์ย่าลุกขึ้นยืนแล้วปัดฝุ่นบนชุดเกราะ
ถึงแม้ผมจะอยากแขวะว่าที่นี่ไม่มีของแบบพวกฝุ่นหรอก แต่เพื่อหลีกเลี่ยงเรื่องไร้สาระที่ไม่จําเป็นผมก็เงียบไว้คงจะดีกว่า
“เอาละ ฆ่าโอเนียไปทั้งหมด 18 ตัว ค่าประสบการณ์ 1,800,000 แต่กว่าเลเวลจะอัพได้ก็ต้องการค่าประสบการณ์อีก 26ล้าน ลําบากซะจริงๆ”
“ฉันยังดีนะ เพิ่งอัพไปตั้งหนึ่งเลเวล”
อาร์ย่าชี้ที่ตัวเอง
“อีกนิดเดียวก็จะเลเวล 18 แล้ว”
“ฆ่าอีกสองตัวเหรอ”
“ไม่ดีกว่า เจ้านั่นหนังหนาเกินไป ฟันเหนื่อยสุดๆ ยาฟื้น MP นายยังเหลืออีกเท่าไร ฉันเพิ่งเห็นนายขยันใช้เวทมนตร์ไป”
“คือว่า…”
ผมเปิดเมนูดู
“ไม่ถึงห้าขวด…”
“ฮะ นายล้อเล่นหรือไง ไม่ถึงห้าขวดงั้นเหรอ ก่อนหน้านี้นายไม่เคยระวังเวลาเข้าไปในดันเจี้ยนเลยเหรอ อย่างน้อยก็เหลือไว้ช่วงหลังของดันเจี้ยนสักหน่อยสิ!”
“ฉันมีทางเลือกด้วยเหรอ ไม่งั้นพวกเราก็คงไม่มีทางเดินมาถึงตรงนี้ได้ในครึ่งวัน ถ้าไม่ใช่เพราะฉันใช้เวทมนตร์ละลายเกราะของพวกมัน เธอคงตัดมันไม่ได้หรอก”
“ เฮ้อ เอาเถอะ มันก็จริง”
ถึงแม้ปากจะพูดแบบนี้ แต่ดูเหมือนยัยนี้ก็ยังมีท่าทางไม่พอใจ
“เอาเถอะ แต่ตั้งแต่ตอนนี้ไป ถ้าไม่ถึงตอนสู้กับบอสนายห้ามใช้ยาฟื้น MP อีก! ไม่งั้นเราคงจัดการดันเจี้ยนนี่ไม่สําเร็จ แล้วก็ไม่รู้ว่าดันเจี้ยนนี่เข้าได้ครั้งเดียวหรือเปล่า ถ้าเป็นแบบเข้าได้ครั้งเดียวคงขาดทุนแย่”
“ได้ๆๆ เอาละ ไปต่อเถอะ เป้าหมายของเราก็อยู่ข้างหน้าแล้วไม่ใช่เหรอ”
พวกเราไม่ได้ฆ่าโอเนี่ยยี่สิบตัวตลอดทาง แต่พวกเราแทบจะฆ่ามันทุกครั้งที่เดินผ่านทางแยก
แต่เรื่องที่น่ากลัวคือ ถึงแม้ว่าตอนหลังพวกเราจะพบกล่องสมบัติอื่น แต่ข้างในนั้นต่า งก็เป็นพวกยาฟื้นฟู HP ต่างๆ นานาทั้งหมด และไม่เจออย่างอื่นเลย!
ใครเป็นคนสร้างดันเจี้ยนนี้กันแน่ หรือว่าเป็นนักเล่นแร่แปรธาตุ ทํานิทรรศการผลงานของตัวเองเหรอ
ถ้าเป็นแบบนี้ ก็สามารถอธิบายสิ่งปลูกสร้างประหลาดที่คล้ายกับโบสถ์ก่อนหน้านี้ได้ ถ้าไปตั้งอยู่ในโลกของพวกผม นี่คงเป็นผลงานชั้นยอดที่ได้รับรางวัลสูงสุดแน่นอน
โบสถ์คริสตัลน้ําแข็ง
จู่ๆ ก็มีกล่องข้อความที่มีคําแบบนี้เขียนไว้เด้งออกมา ทําให้ผมอดไม่ได้ที่จะตกตะลึง
“โบสถ์คริสตัลน้ําแข็ง เป็นชื่อที่แปลกจริงๆ”
จู่ๆ อาร์ย่าก็พูดขึ้นมาในเวลาเดียวกัน
“เธอก็มีหน้าต่างแบบเดียวกันเด้งขึ้นมาเหรอ ดูเหมือนไม่ใช่สกิลของฉัน ทําไมถึงมีคําใบ้แบบนี้ล่ะ”
“เป็นสกิลฉันเอง”
“เอ๋”
ผมมองทางอาร์ย่าอย่างประหลาดใจ อีกฝ่ายก็ยักไหล่
“ฉันอ่านจากหนังสือที่ขโมยมาในสถาบัน จากนั้นก็เรียนได้ง่ายๆ มันชื่อว่า “ดวงตาแห่งกลุ่มบุกเบิก” ดูเหมือนเป็นสกิลที่จะสามารถมองเห็นชื่อเฉพาะเจาะจงได้ตอนอยู่ในโหมดทีม”
“งั้นทําไมถึงไม่แสดงชื่อของดันเจี้ยนนี้ล่ะ”
“ดันเจี้ยนนี้เหรอ ชื่อว่าดันเจี้ยนนรกเยือกแข็ง นายไม่เห็นข้อมูลเหรอ”
“ไม่มีเลย”
ผมคิดอยู่สักพัก
“บางทีคงเป็นเพราะตอนที่เธอเพิ่งมาถึงอยู่ห่างกับฉันเกินไปรึเปล่า”
“ใครจะรู้ล่ะ”
ขณะที่กําลังพูดอยู่พวกเราก็เดินมาถึงทางเข้าโบสถ์คริสตัลน้ําแข็งแล้ว อาร์ย่าเดินตรงเข้าไป แล้วผลักประตูเป็นคนแรก แต่กลับเปิดไม่ออก จากนั้นจึงหยิบเอามีดสั้นเรียวยาวออกมาเล่มหนึ่ง
“เฮ้ๆ นี่เธอ…”
“ งัดสิ ลูกกุญแจก่อนหน้าก็พังไปแล้ว เลยใช้ได้แค่มีดสั้น อย่ายืนมองเซ่อๆ สิ รีบมาดูว่ามีทางเข้าอื่นไหม”
“โอ้”
ตอนที่ผมเดินไปทางด้านข้างโบสถ์ ทันใดนั้น ก็มีเสียงดังกร็อบแกร็บดูท่าไม่ดีดังเข้ามาในหู!
ราวกับมีแสงสว่างวาบเข้าในสมองของผม เสียงร้อยแบบที่อาจเป็นไปได้แวบผ่านไปในสมองของผมเหมือนกับโคมม้าวิ่ง จากนั้นเมื่ออ้างอิงตําแหน่งที่พวกเราอยู่กับระดับความปัญญาอ่อนของโลกใบนี้ สุดท้ายผมก็ได้ข้อมูลที่เป็นไปได้ที่สุด
“อาร์ย่า”
“ทําไม คนกําลังตั้งใจแงะอยู่”
“คือว่า…ที่นี่กําลังพัง”
“อ๋อ ฉันยังนึกว่าอะไรนะ! กําลังนั่งเหรอ”
เพิ่งสิ้นเสียงพูด ผมก็รู้สึกเท้าเบาหวิว พวกเรากําลังเริ่มร่วงลงไปพร้อมกับโบสถ์!
“เฮ้ๆๆ! นายบินได้ไม่ใช่เหรอ! รีบบินสิ!”
“ตอนที่เพิ่งเข้ามาฉันก็สังเกตว่าฉันบินไม่ได้”
“อะไรนะ”
“มิหนําซ้ํา ไม่ใช่แค่ที่นี่ที่ฟัง แต่เป็นทั้งดันเจี้ยน…”
ผมชี้ไปที่ข้างหลังพวกเรา ที่ที่พวกเราเดินผ่านก่อนหน้านี้กลายเป็นเศษซากไปทั้งหมด และ ค่อยๆ สลายร่วงลงไป
ไม่ว่าจะเป็นศพของมอนสเตอร์พวกนั้นหรือว่ากล่องสมบัติที่ว่างเปล่า ต่างพากันทยอยร่วงลงมาจากข้างบน ส่วนข้างล่าง…ดูเหมือนจะลึกจนมองไม่เห็นกัน!
“เฮ้ๆๆ มันคือจังหวะที่จะไปคืนชีพข้างนอกเหรอ”
“ฉันจะรู้ได้ไงล่ะ!”
อาร์ย่าหยิบเอาดาบคู่ออกมาปักไว้บนกําแพงโบสถ์ทันที ใช้มันตรึงร่างกายไว้
ที่แท้ใช้แบบนี้ได้ด้วยแฮะ เธอเป็นเครโทสเหรอ
“ดาบน้ําแข็ง ดาบน้ําแข็ง ดาบน้ําแข็ง…”
ดาบน้ําแข็งถูกผมเรียกออกมาเป็นชุด จากนั้นก็ปักไว้บนกําแพงเลียนแบบอาร์ย่า
แต่คนที่กล้ามแขนไม่เพียงพออย่างผมย่อมไม่อาจจับไว้ได้ ผมเลยใช้ดาบนับไม่ถ้วนตรึงไว้เป็นวงกลม แล้วมุดตัวเข้าไปในวงกลมนั้น
ผมนี่มันไหวพริบดีจริงๆ!
แต่ผมยังไม่ทันได้ดีใจเสร็จ เสียงคํารามเสียดหูก็ดังมาจากท้องฟ้า
เสียงนี้…
ทําไมผมรู้สึกเหมือนเสียงมังกรคํารามเลยล่ะ
หัวหน้าองครักษ์น้ําแข็งโอเนียส สายน้ําแข็ง เวทมนตร์ กายภาพ เลเวล 30
หัวหน้าระดับต้นแห่งดันเจี้ยนนรกเยือกแข็ง บังคับบัญชาหน่วยคุ้มกันระดับต้น ความคล่องแคล่วสูง
พระเจ้า ก่อนหน้านี้ยังสามารถหลบหลีกการโจมตีแรงๆ ได้ แต่เจ้านี่มันกลับบินได้ด้วย!
ไม่ยุติธรรม! ทําไมมันบินได้แต่ผมบินไม่ได้!
เจ้านี่เป็นร่างวิวัฒนาการของโอเนีย สิ่งที่ไม่เหมือนกันมากที่สุดก็คือมันมีปีกงอกออกมา ส่วนอื่นก็ดูไม่แตกต่างกันเท่าไร
แต่ทําไมเจ้านี่บินได้ล่ะ!
“ฟีล! นี่มันบอส! ใช้สกิลเมื่อกี้ของนายแทงมันเลย!”
อาร์ย่าตะโกนเสียงดัง
“อีกฝ่ายบินได้แบบนี้มันเล็งยาก! แล้วก็ดูสภาพตอนนี้ของพวกเรา ฉันตั้งใจเล็งไม่ได้เลย!”
“งั้นจะทํายังไง”
ผมมองดูมังกรที่อยู่กลางอากาศแล้วกัดฟัน
“เยี่ยม แกบินได้ งั้นให้ฉันขี่แกเป็นไง”
- โคมไฟที่ด้านในมีแกนติดกับกระดาษที่มักวาดรูปคนขี่ม้า ส่วนด้านบนแกนคือกระดาษที่ตัดเป็นรูปกังหัน เมื่อจุดเทียนในโคมไฟ จะทําให้ไอร้อนดันกังหันผลักให้แกนหมุน กระดาษรูปคนขี่ม้าจึงหมุนไปด้วย
- เครโทสคือตัวเอกจากเกม God of war