ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 7
ตอนที่ 7 ทางเข้าดันเจี้ยนนรกเยือกแข็ง
มุมมอง : องค์หญิงสโนว์
ฟีลเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อจริงๆ น้ำแข็งโลกันต์” ที่ตั้งตระหง่านมาหลายร้อยปีถึงกับถูกเขาแผดเผาได้!
ถ้านักเวทอาวุโสพวกนั้นที่สุดท้ายต้องหนีกลับออกไปอย่างเศร้าหมองมาเห็นภาพนี้ ไม่รู้ว่าพวกเขาจะรู้สึกอย่างไร
!!!
เดี๋ยวก่อน เปลวไฟนั่นมันคืออะไรกัน มันส่งเสียงกรีดร้องแสบหูได้ด้วยหรือ
ยิ่งกว่านั้น…
ยังมีกรงเล็บที่ก่อตัวจากเปลวไฟสีขาวด้วย! นี่มันอะไรกัน
ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างฉับพลัน ตอนที่ข้ารู้สึกตัว กรงเล็บสีขาวก็จับฟีลที่ลอยอยู่กลางอากาศไว้แล้ว!
“โจมตีมัน!”
ฟิลที่อยู่กลางอากาศร้องตะโกน
ใช่แล้ว โจมตี
“ราชินีน้ำแข็ง ในนามของข้า ข้าขออัญเชิญท่านผู้เป็นสุดยอดน้ำแข็งนิรันดร์! มาเถิด หยาดน้ำตาที่ร่วงหล่นบนพื้นดิน น้ำแข็งร่วงหล่น!”
ฟิลบอกให้ข้าเร่งความเร็วในการร่ายเวทอยู่ตลอด และตอนนี้ ในที่สุดข้าก็อัญเชิญน้ำแข็งร่วงหล่นได้ในสิบวินาที!
แต่ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาสบายใจ ข้าไม่อาจควบคุมทิศทางเวทได้ง่ายๆ เหมือนเช่นฟีล และยังต้องควบคุมเวทให้ตกลงมาอีกด้วย!
แต่ว่า น้ำแข็งร่วงหล่นของข้ายังไม่ทันร่วงลงมา จู่ๆ เปลวไฟสีขาวก็รุนแรงยิ่งขึ้น แล้วจับฟีลไปในทันที!
“ฟีล!”
แค่วอกแวก น้ำแข็งร่วงหล่นกลางอากาศก็กลายเป็นเศษซากทันที
ส่วนอาร์ย่าที่อยู่ข้างๆ กลับพุ่งตัวออกไปราวกับสายลม ดาบสั้นสองเล่มไขว้กันอยู่หน้านางแล้ววิ่งไปทางเปลวไฟทันที!
“อาร์เคน เกลียวไขว้แดนชําระ!”
กากบาทสีแดงขนาดใหญ่กางออกข้างหลังนาง แล้วหมุนวนขึ้นไปราวกับพายุหมุน!
จากนั้น ทั่วทั้งร่างของอาร์ย่าก็กลายเป็นเงาสีแดงพุ่งไปยังเปลวไฟที่จับฟีลไว้ แล้วกระแทกเข้าไปอย่างรุนแรง
เปลวไฟสีขาวเพียงแค่สั่นเล็กน้อย จากนั้นก็กลืนกินอาร์ย่าเข้าไป
ส่วนเปลวไฟที่จับฟีลก็หดกลับไป แล้วไม่ขยับอีก
เอ๋
เอ๋ๆๆๆ
มุมมอง : ฟีล
แสงสีขาวสว่างวาบ เมื่อสายตาของของผมกลับเป็นปกติก็พบว่าตัวเองลอยอยู่กลางอากาศ!
“โลดโผนขนาดนี้เลย”
จากนั้น ผมที่ไม่อาจต้านทานแรงดึงดูดได้ ก็เริ่มร่วงหล่นอย่างรวดเร็ว
บิน!
ผมกางปีกเทวดาออกอย่างรวดเร็ว แต่ว่า ไม่รู้ว่าทําไมถึงบินไม่ได้
คุณล้อผมเล่นเหรอ
ผมยังคิดไม่จบก็หล่นลงบนพื้นอย่างจัง เสียงดังสนั่น ใบหน้าของผมก็แนบชิดสนิทกับพระแม่ธรณี
“เจ็บจัง…นี่มันที่ไหนกันแน่เนี่ย”
ผมลุกขึ้นจากพื้น แล้วมองรอบๆ
ท้องฟ้ากับรอบด้านต่างก็เป็นสีครามที่มองไม่เห็นที่สิ้นสุด นอกจากทางเดินที่ผมอยู่ในตอนนี้รอบด้านก็ไม่มีอย่างอื่นอีก
ผมมองมินิแมพ ในบรรดาสิ่งที่ผมนึกออก มันก็เหมือนแค่สิ่งนั้น
“ไม่หรอกมั้ง มันคือดันเจี้ยนเหรอ”
“อ๊าๆๆๆ!!”
จู่ๆ เสียงกรีดร้องก็ดังขึ้นเหนือศีรษะผม เมื่อเงยหน้ามอง ก็เห็นจุดดํากลางอากาศที่กําลังขยายใหญ่ขึ้น
พระเจ้า มีคนอื่นตกลงมาด้วยเหรอ
“อาร์เคน พายุความเร็ว!”
กระแสลมสีเขียวหมุนขึ้นไปอย่างรวดเร็ว และคนที่ร่วงลงมาก็ตกลงตรงกลางมันพอดี กระแสลมจึงรับเธอเอาไว้ได้
จากนั้นผมก็ยื่นมือไปรับอีกฝ่ายไว้
“อาร์ย่า”
“…”
อาร์ย่าดูนึกไม่ถึงว่าผมจะรับเธอไว้ เธอมองผมอย่างตกตะลึงอยู่สักพัก แล้วพูดขึ้นทันที
“คือ…วางฉันลงก่อนได้ไหม”
“ได้สิ”
ผมวางอาร์ย่าลงช้าๆ แล้วถามต่อ
“ไม่เป็นไรนะ”
“ไม่เป็นไร ที่นี่มัน…”
อาร์ย่าค่อยๆ ได้สติ ก็มองรอบๆ แล้วถามขึ้น
“ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ฉันก็เพิ่งตกลงมาเหมือนกับเธอ แต่เธอยังดี อย่างน้อยก็ยังมีคนรับไว้ แต่ฉันสิที่ตกลงพื้นจังๆ”
“วางใจเถอะ ถ้าฉันตกลงมาก่อน นายก็ได้กระแทกพื้นอยู่ดี”
“…”
“ทําไมล่ะ นายหวังว่าฉันจะรับนายงั้นเหรอ”
“ไม่ได้หวังอยู่แล้ว แต่ยังไงเธอก็โกหกฉันว่าเธอจะรับฉันไว้ก็ได้นี่ ไม่สิ พลังนักรบของเธอควรสูงกว่าฉันไม่ใช่เหรอ”
“ชิ! แต่ยังไงก็อย่าหวังว่าฉันจะรับนายแล้วกันไอ้บื้อ!”
“ก็ได้ๆๆ แต่ตอนนี้ปัญหาของเราควรจะเป็นออกไปจากที่นี่นะ ดูจากมินิแมพแล้วที่นี่ดูเหมือนกับดันเจี้ยน แต่มันมีขนาดใหญ่จนฉันมองไม่เห็นแผนที่ทั้งหมด”
“ดันเจี้ยน…”
อาร์ย่ากลอกตา
“ฉันเกลียดดันเจี้ยนที่สุด”
“แต่ปกติในดันเจี้ยนต้องมีของเยอะแยะสิ ไปกันเถอะ ตอนนี้มีแค่ทางเดียวที่จะเดินหน้าไปได้ ดูแล้วเราคงอยู่ในจุดเริ่มต้นของดันเจี้ยน”
“ก็แปลว่าแค่เดินไปตลอดก็พอ”
ผมยักไหล่
“หวังว่า…จะเป็นงั้น”