ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 4
ตอนที่ 4 เมืองหลวง
มีคนกําลังตามพวกเราอยู่ แต่อีกฝ่ายไม่ได้กลายเป็นจุดสีแดง บางที่น่าจะเป็นคนที่ทางพระราชวังส่งมาคุ้มครององค์หญิง
ผมหันกลับไปมองที่ตําแหน่งของอีกฝ่าย แล้วยิ้มเล็กน้อย
“เจ้ามองอะไรอยู่”
อาจจะเป็นเพราะเห็นท่าทางของผม องค์หญิงสโนว์จึงถามขึ้นมา
“เปล่า แค่รู้สึกประหลาดใจกับสถาปัตยกรรมของพวกคุณน่ะ ”
“ใช่ไหมล่ะ สถาปัตยกรรมของจักรวรรดิเอสเรามีเอกลักษณ์ที่สุดในทั่วทั้งทวีปใหญ่ ไม่ใช่มีแค่ลักษณะสวยงาม แล้วยังมีประโยชน์อีกด้วย แต่สิ่งก่อสร้างที่สวยที่สุดก็เป็นพวกที่ปรมาจารย์ เป็นคนออกแบบ พวกนั้นถึงจะเป็นจุดสุดยอดของศิลปะ!”
“จริงเหรอ ไว้มีโอกาสค่อยไปดูละกัน”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“แต่ว่า…”
ผมมองดูคนรอบด้าน ทุกคนมองเห็นองค์หญิงสโนว์แล้วก็ไม่ได้เผยแววตาประหลาดใจอะไรแต่กลับส่งยิ้มอบอุ่นมา
“องค์หญิงสโนว์ ดูเหมือนทุกคนจะคุ้นเคยกับคุณนะ”
“แน่นอนสิ ทุกคนเป็นคนดีกันนะ ทุกคนดีกับข้ามากเลยด้วย เพราะงั้นข้าเลยไม่ใช้อำนาจไปสั่งคนอื่นตามใจชอบ”
“คราวหน้าถ้าไม่ใช้วิธีนองเลือดแบบนั้นลงโทษคนอื่นก็คงดีกว่านี้นะ”
“…เจ้าเกลียดวิธีการแบบนั้นสินะ”
ได้ยินผมพูดแบบนี้ องค์หญิงสโนว์จึงหมุนตัวมามองผมแล้วถาม
“แน่นอนสิ ถึงจะลงโทษคนอื่นก็ต้องดูสถานการณ์ด้วย ถ้าไม่ได้เกิดผลลัพธ์ร้ายแรงอะไรก็ปล่อยไปเถอะ”
“ได้ในเมื่อเจ้าพูดแบบนี้ งั้นก็ตามนั้นเถอะ”
พูดจบ อีกฝ่ายก็ยิ้มแล้ววิ่งไปทางร้านค้าที่อยู่ข้างๆ
“นี่ๆ นึกไม่ถึงเลยนะว่าองค์หญิงจะเปลี่ยนนิสัยตัวเองได้ด้วยคําพูดเดียวของเพื่อน นายคิดว่าไงล่ะ”
อาร์ย่าแหยผมแล้วพูดขึ้น
“ฉันจะรู้ได้ไงล่ะ รู้ว่าผิดก็ควรแก้ไขสิ”
“…นายโงรึเปล่าเนี่ย”
“ฮะ”
“เอาเถอะ ฉันยอมแพ้ละ”
อาร์ย่ายักไหล่แบมือ จากนั้นก็ดึงญารินไป
“ไปเถอะ พวกเราไปดูทางนั้นกัน”
พูดจบ ก็ไม่สนใจว่าญารินจะพูดอะไร ทั้งคู่ก็เดินตรงไปทางที่องค์หญิงสโนว์อยู่
เฮ้ๆๆ พวกเธอจะทิ้งฉันไว้เหรอ เหลือเกินจริงๆ เลย….
ช่างเถอะ ในเมื่อเป็นแบบนี้ ผมก็หาของที่พอจะเป็นประโยชน์กับผมดีกว่า…แต่เสียงจ๊อกๆ ที่ดังมาจากท้องก็เตือนผมทันที ผมยังไม่ได้กินอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนี่
ผมมองดูรอบด้านแล้วก็ตัดสินใจได้ว่าจะกินอาหารที่นี่ให้หมดเลย
ปลาย่างนี้อร่อยจริงๆ! แล้วก็เนื้อทอดนี่อีก อร่อยเหาะไปเลย แล้วก็เครปนั่นอีก! อร่อยสุดยอด!
ไม่รู้ว่าเพราะช่วงนี้ออกไปกินอาหารน้อยหรือว่าเพราะหิวเกินไป ผมจึงอาหารที่สั่งมาเต็มโต๊ะจนหมดแล้วก็ยังไม่อิ่ม
“ป้าแรม ขอเครปอีกสองอันครับ”
“ได้สิ”
ป้าหัวเราะแล้วก็เดินไปทางห้องครัว
“รอหน่อยนะ เดี๋ยวก็ได้แล้ว!”
“ครับ”
“หนุ่มน้อย เจ้ากินเก่งจริงๆ เจ้าดูไม่ได้แข็งแรงแบบอัศวินพวกนั้น แต่กินเก่งกว่าพวกเขามากเลย”
คนที่พูดกับผมคือมาร์ลที่ทําหน้าที่ต้อนรับแขก เป็นลูกชายของป้าแรม
“ใช่ที่ไหนกัน ฉันแค่ไม่เคยปล่อยของอร่อยไปต่างหาก”
“ฮ่าๆๆ เจ้ามาพร้อมกับองค์หญิงข้าก็ยังนึกว่าเจ้าน่าจะเป็นชนชั้นสูง นึกไม่ถึงว่าเจ้าจะคล้ายกับองค์หญิงที่หยอกล้อกับพวกเรา”
“ใช่แล้ว ฉันไม่ใช่ชนชั้นสูง ฉันเป็นนักเวทอาณาจักร”
“นักเวทอาณาจักร…”
ดวงตาของอีกฝ่ายเบิกโพลงมองผมคล้ายกับมองสัตว์ประหลาด
“ไม่มีทาง! นักเวทอาณาจักรพวกนั้นไม่มีทางหัวเราะหรอก! อีกอย่างก็เป็นพวกตาลุงที่อายุเกินสี่สิบปีทั้งนั้น! ดูยังไงเจ้าก็ไม่ถึงสามสิบด้วยซ้ำ”
“ใช่น่ะสิ ฉันยังไม่ถึงยี่สิบเลยด้วยซ้ํา แต่ว่า…”
ผมหยิบตรานักเวทอาณาจักรออกมาแล้วแกว่งมัน
“ฉันเป็นนักเวทอาณาจักรจริงๆ”
“พระเจ้า…”
มาร์ลูกลอกตา
“ทุกวันนี้เรื่องอะไรก็เกิดขึ้นได้หมดจริงๆ แฮะ”
“ใช่สิ”
พูดแล้วผมก็กลืนเครปอันต่อไป
‘ฟิล! รีบมาเร็ว!’
ทันใดนั้น ก็มีข้อความแบบนี้เด้งออกมาจากบนกล่องข้อความผม คนที่ส่งมาย่อมเป็นอาร์ย่า
ให้ตายสิ ผมกินไปได้นิดเดียวเอง มีคนรนหาที่ตายเร็วขนาดนี้เลยเหรอ
ขณะที่ผมกําลังคิดแบบนี้อยู่ จู่ๆ ก็มีคนพุ่งเข้ามาในร้าน
“ท่านนักเวท พวกองค์หญิงถูกตระกูลดยุค…”
“ผมกะแล้วว่าเป็นแบบนี้! ไม่ต้องพูดแล้ว!”
ผมทิ้งเหรียญทองสามเหรียญไว้ แล้วกัดเครปชิ้นสุดพลางพุ่งตรงไปทางที่พวกอาร์ย่าอยู่บนแผนที่
อย่างที่คิดเลย ทันทีที่เข้าใกล้ก็ได้ยินเสียงองค์หญิงสโนว์
“เฮนดรี! ไสหัวไปซะ! ข้าเคยบอกชัดแล้วว่าไม่อยากเห็นหน้าเจ้าอีก! เจ้ายังกล้าพาคนเยอะแยะแบบนี้มาอยู่ต่อหน้าข้าอีก”
“ฮึ่ม! หากยังไม่ได้ล้างแค้นข้าก็ปล่อยเจ้าไปไม่ได้! ดูสิ ข้าแค่ได้ยินว่าเจ้ากลับมาคราวนี้ ทั้งยังกล้าไม่พาอัศวินออกมาด้วยอีก ดูท่าคราวนี้ข้าคงต้องจัดการเจ้าซะแล้ว!”
“มีคนมากมายขนาดนี้ เจ้ายังกล้าท้าทายอํานาจจักรพรรดิอีก!”
“ฮ่าๆๆ น่าขันจริงๆ ถ้าพวกเขากล้าพูดแม้แต่คําเดียว ข้าคงต้องทําให้พวกเขาพูดไม่ได้ไปตลอดชีวิต!”
“เจ้า…”
แม้ว่าจะมีองครักษ์มากมายล้อมรอบอยู่ แต่ผมก็ยังมองเห็นชื่อของพวกเขา
เฮนดรี อัศวินเลเวล 14 นักเวทเลเวล 2 สายน้ําแข็ง ชั่วร้าย
เมื่อยืนยันชื่อของอีกฝ่ายในกลุ่มคนได้ ผมจึงฉีกยิ้ม
ยืนยันเป้าหมาย ลงมือได้!
“คือว่า ขออะไรหน่อยได้ไหม?”
ผมเดินไปตรงหน้าอัศวินหนึ่งในนั้น
“ฮะ”
อัศวินคนนั้นมองผมอย่างประหลาดใจ จากนั้นก็มองไปที่เพื่อนของเขา
“ใช่แล้ว อย่าใช้คําว่าขอเลย พวกนายบินไปซะเถอะ”
โทเท็มน้ำแข็งสามต้นทะลุขึ้นมาจากพื้น องครักษ์สามคนนั้นยังไม่ทันได้มีปฏิกิริยาก็ปลิวออกไปซะแล้ว!
คนที่อยู่ในวงล้อมก็หยุดลงทั้งหมด แล้วมองมาทางผม
“ฟิล!”
“เจ้าเป็นใครกัน!”
องค์หญิงสโนว์กับเฮนดรีพูดขึ้นมาพร้อมกัน
“ฉันว่า อาร์ย่า เธอดูการแสดงอยู่ตรงนั้นสนุกไหม”
“ชิ ฉันก็ให้โอกาสนายไง พวกนั้นก็ไม่ได้คิดจะทําอะไรกับฉันด้วย แล้วฉันจะสนใจเขาทําไมล่ะ”
อาร์ย่าพูดด้วยใบหน้าดูถูก
“เธอนี้ใจดําจัง”
ผมส่ายหน้า จากนั้นพูดกับเฮนดรี
“นายหาอัศวินขององค์หญิงสโนว์อยู่ไม่ใช่เหรอ ฉันนี่แหละ นายตามหาฉันทําไมล่ะ”
เฮนดรีสวมชุดที่ประดับประดาด้วยเพชรพลอย ดูแล้วเหมือนกับพวกอวดรวย อีกทั้งเส้นผมสีขาวที่ดูไม่แข็งแรงยังดูเหมือนเป็นพวกขียาที่เพิ่งออกมาจากรังโจรอีกด้วย
“เจ้าหรือ นักเวทสินะ”
อีกฝ่ายหัวเราะ จากนั้นก็โบกมือ
“จัดการเขา!”
องครักษ์ห้าคนพุ่งตัวเข้ามาหาผม
อัศวินเลเวล 17 16 19 18 15 พวกแกล้อฉันเล่นเหรอ
“อุกกาบาตน้ำแข็ง”
ลมหนาวพัดผ่าน อัศวินห้าคนนั้นที่บุกเข้ามาถูกแช่แข็งกลางทางทันที และแน่นอน พวกเขายังคงอยู่ในท่าทางแบบเดิม
ขณะนี้ องครักษ์สามคนที่เพิ่งลอยขึ้นไปก็ตกลงมา กระแทกพื้นอย่างรุนแรง จนเลือดเหลืออยู่เพียงหยดสุดท้าย
“วางใจเถอะ ฉันไม่ฆ่าพวกเขาหรอก แต่ถ้าจะมีคนลงมือ ฉันก็รับประกันไม่ได้”
ผมฉีกยิ้มให้เฮนดรีพลางเดินเข้าไป ตอนนี้สีหน้าของคนที่ตามข้างหลังต่างก็ซีดเผือด แล้วเดินถอยหลัง
“เจ้า…เจ้าจะทําอะไร! เจ้าทําแบบนี้! รู้ไหมว่าเป็นการยั่วยุชนชั้นสูง!”
“ชนชั้นสูง…”
ผมยิ้ม
“ก็เหมือนที่นายพูดเมื่อกี้ ขอแค่ทําให้คนที่จะไปรายงานได้พูดไม่ได้ ถ้างั้นก็พอแล้วไม่ใช่เหรอ”
“เจ้า…เจ้าจะฆ่าข้า”
“ก็ต้องดูพฤติกรรมของนาย ตอนนี้ไสหัวไปซะ แล้วฉันจะปล่อยนายไป”
“ข้า…ข้า…”
เฮนดรีแยกเขี้ยวพลางพยายามจะต่อสู้ มองไปที่องค์หญิงสโนว์แล้วมองที่ผมอีก
“บอกให้ไสหัวไปไม่ได้ยินเหรอ!”
“ข้า…”
แต่ในขณะนั้นเอง จู่ๆ ก็มีมีดสั้นแทงเข้าที่หน้าอกผม
“ฮ่าๆๆ ใครให้เจ้าสู้กับข้าเล่า!”
HP ลดลงจนเหลือเพียงนิดเดียวในทันที! ผมจึงรีบใช้ ‘บลิงค์’ เคลื่อนที่ไปด้านหลังเขา
มูนร็อค นักฆ่าเลเวล 24 เป็นกลาง สมาชิกสมาคมทหารรับจ้างหมาป่า
นักฆ่าสวมเครื่องแบบสีดําทั้งตัว บนนั้นยังมีลวดลายเวทมนตร์คลุมอยู่ ดูแล้วสิ่งนั้นคงป้องกันการแจ้งเตือนของผมได้
เมื่อเห็นคําสําคัญ ผมก็ยิ้มขึ้นอย่างจนปัญญา
“นึกไม่ถึงว่าจะมีนักฆ่าอีก ไม่ธรรมดาเลย”
จากนั้นผมก็จับเขา ใช้มีดซ่อนแทงเข้าไปที่หลังเขาตอนที่เขายังไม่ทันได้ตอบสนอง
แม้ทําให้เลือดเขาลดลงเพียงหนึ่งในห้า แต่ด้วยโบนัสเอฟเฟกต์เสียเลือด 100% ติดพิษ 100% และกัดกร่อน 100% ผมก็รู้ว่ามันพอจะจัดการนักฆ่าอย่างเขาได้แล้ว
จากนั้นผมก็กางปีกเทวดา แล้ว HP ของผมก็เต็มในทันที
“ฉันบอกแล้วไง ถ้าไสหัวไปเมื่อกี้ฉันยังจะปล่อยแก แต่ตอนนี้…ถึงฉันจะไม่ฆ่าใครง่ายๆ แต่ใน เมื่อแกอยากให้ฉันตาย งั้นฉันคงต้องให้แกรับโทษสักหน่อย ไม่งั้นแกก็คงไม่โดนสั่งสอนน่ะสิ”