ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 22
ตอนที่ 22 ข้อตกลง
เดินเข้าไปยังชั้นบนสุด หัวใจของผมก็เต้นเร็วสุดๆ
ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตาย ความตื่นตระหนกก็เป็นสิ่งที่เลี่ยงยาก ไม่สิ ควรบอกว่าเลี่ยงไม่ได้เลยมากกว่า ทุกการกระทำของผมในตอนนี้เป็นตัวตัดสินว่าผมจะได้สำรวจขุมนรกต่อไปหรือไม่ และสัญชาตญาณก็ได้บอกผมว่าผมจะเจอสิ่งของที่น่าสนใจจากที่นี่ได้เยอะแยะ เพราะงั้นผมไม่อาจล้มเลิกไปแน่ๆ
ดูจากสถานการณ์ก่อนหน้า ออร์แลนโดกับดาร์คโคลด์คงสมรู้ร่วมคิดกัน เพียงแต่สำหรับพวกเขาแล้ว ตัวเลือกตรงหน้าพวกเขาคือผลประโยชน์ระยะสั้นกับผลประโยชน์ระยะยาว
ฆ่าผมก็เป็นแค่ผลประโยชน์ระยะสั้น ยังไงซะถ้าพวกเขาจะฆ่าผมก็ไม่ต้องลงแรงมากมาย สิ่งที่ต้องทำก็แค่กำจัดหลักฐาน ส่วนสิ่งที่ได้รับกลับเป็นน้ำยาคืนชีพอันหายาก
ผลประโยชน์ระยะยาวคือเอื้อประโยชน์ให้ผม ขายน้ำใจให้เทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย จากนั้นก็จะได้รับการคุ้มครองจากเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายกลับคืน
ถึงผมไม่รู้ว่าเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายมีไพ่ตายอะไรที่ทำให้คนมากมายนึกถึง แต่ในเมื่อทำให้คนนึกถึงแบบนี้ งั้นก็ต้องมีสาเหตุแน่ๆ
แต่ว่า ตอนนี้ผมไม่อาจแยกแยะคุณสมบัติของดาร์คโคลด์ ผมก็ไม่อาจวิเคราะห์พฤติกรรมที่เป็นไปได้ของอีกฝ่าย หรือแปลว่า การกระทำต่อไปนี้ของผมถือเป็นการเดิมพัน
เดิมพันด้วยชีวิต
แม้ราชาปีศาจบอกว่าเขาจะรีบมา แต่ว่า…
ตอนนี้ผมรู้เพียงชื่อของอีกฝ่าย ถ้าไม่ใช่เพราะมีระบบสื่อสาร ผมคงไม่อาจตัดสินได้ว่าเขาเป็นคนข้ามมิติ และผมคงตายเร็วขึ้นถ้าพึ่งพาเขาอย่างเดียวในสถานการณ์แบบนี้
“ที่นี่คือชั้นของ VIP พวกเราไปห้องรับรองกันเถอะ”
หลังดาร์คโคลด์พูดจบก็พาปีศาจน้อยเดินไปข้างหน้า
ขณะนี้ผมถึงได้สติจากการครุ่นคิด จากนั้นก็สังเกตการณ์ชั้นที่เรียกว่าชั้น VIP
มันปูพรมลวดลายตระการตา เมื่อเดินไปก็สามารถรู้สึกถึงวัสดุที่คงทน กำแพงบนทางเดินทาสีฟ้าอ่อน แต่ดูจากจุดที่เป็นรอยร้าวกลับทำให้เห็นว่าที่จริงในนั้นคือโลหะ ซึ่งคงเป็นมิธริล
ส่วนที่สุดทางเดิน สิ่งที่เห็นมีเพียงโคมไฟ รอบๆ กลับไม่มีอะไรที่ดูเหมือนหน้าต่างอยู่เลยที่นี่…
เรียกว่าห้อง VIP ยังไม่สู้เรียกว่ากรงขังอันหรูหราจะดีกว่า มันคงออกแบบเพื่อเป็นห้องให้แขกเดินชมสินค้าล้ำค่า และโครงสร้างนี้ก็คงสร้างเพื่อป้องกันไม่ให้อีกฝ่ายหนีไปได้ยิ่งกว่านั้น
ตอนนี้ระบบแจ้งเตือนของผมก็ดังไม่หยุด มีสามคน..ไม่สิ มีสี่คนมองพวกเราจากคนละทิศทางแม้ผมไม่เห็นเงา แต่คนพวกนั้นกลับแผ่รังสีอาฆาตออกมาอย่างชัดเจนอีกทั้ง
แม้แต่ฉายาก็มองไม่เห็น ดูแล้วอีกฝ่ายคงไม่ได้ปิดบังรังสีอาฆาตที่แผ่ออกมา เพราะมั่นใจในความสามารถของตัวเองมาก
แต่ผมก็แค่รู้สึกถึงความประสงค์ร้าย ส่วนคนที่ไม่ประสงค์ร้ายก็คงมีอยู่เหมือนกันไม่ใช่เหรอ
ดูท่าตอนนี้ผมคงตกอยู่ในการควบคุมของอีกฝ่ายอย่างสมบูรณ์ ถึงบางทีผมอาจลองพุ่งตัวออกจากที่นี่ได้ แต่ตอนนี้มิสสโนว์มันสเตอร์ก็กำลังมองรอบๆ ด้วยความสนใจ ผมเลยไม่อาจทิ้งเธอไว้ได้
เทเลพอร์ตเหรอ
ตั้งแต่การต่อสู้ก่อนหน้านี้ที่ไม่อาจใช้ “บลิงค์: ได้ ผมก็ไม่กล้ามั่นใจในสกิลนี้อีก ในเมื่อเวทสายมืดมีวิธีจำกัดการเทเลพอร์ต ถ้างั้นที่นี่ก็คงเป็นแบบเดียวกัน
ปุ่มบ่ามใช้ไปก็มีแต่จะหาเรื่องใส่ตัว
หรือก็แปลว่า
ถ้าผมไม่ยื้อเวลารอจนราชาปีศาจมาถึง ผมก็ต้องดูสักตั้ง
ซึ่ง
ได้รับเควสต์ย่อย “การเดินทางในโลกปีศาจ”
เควสต์ที่หนึ่ง : หนีปัญหา
หลบหนีจากเหตุการณ์ (เลือกได้)
ชนะการต่อสู้ (เลือกได้)
ยื้อเวลา (เลือกได้)
ไม่ทราบ (เลือกได้)
รางวัลเควสต์ : ค่าประสบการณ์ 3,000,000 หน่วย
พระเจ้า ค่าประสบการณ์สามล้าน มันเยอะมากเลยนะ
แต่เมื่อเทียบกับความยากของเควสต์ ค่าประสบการณ์สามล้านก็สมเหตุสมผล
แม้ไม่รู้ว่าทางเลือกของเควสต์ ไม่ทราบ” คืออะไร แต่วิธีที่ค่อนข้างปลอดภัยคงจะเป็นยื้อเวลา แล้วรอให้ราชาปีศาจมาถึง
ช่วยไม่ได้นี่ ถึงคุณอยากทำอะไรก็คงไม่ได้ถ้าความสามารถไม่พอ และทำได้แค่เดินไปข้างหน้าแล้วคิดไปทีละขั้น
เมื่อเดินมาถึงห้องโถงแห่งหนึ่ง รอบด้านก็วางไว้ด้วยอาวุธต่างๆ ที่ดูมีความแข็งแกร่งมาก และตรงกลางห้องโถงยังมีโซฟาที่ดูหรูหราวางอยู่ชุดหนึ่ง
“นั่งสิ”
ขณะที่พูดแบบนี้ อีกฝ่ายก็นั่งลง
“ในเมื่อเจ้ามาจากแผ่นดินมนุษย์ งั้นเจ้าก็ต้องรู้เรื่องมากมายเลยสิ แน่นอน ข้าหมายถึงเข้าใจเรื่องที่เจ้าเป็นเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายน่ะ”
“ผมรู้ไม่เยอะหรอก”
“ฮ่าๆๆ เจ้าต้องแปลกใจว่าทำไมข้าถึงรู้สินะ ที่จริงตอนที่เจ้ามาถึงขุมนรกเยือกแข็ง ออร์แลนโดเคยถามข้าแล้วนี่ คาถาท่อนนั้นที่ถามว่าจะเข้ามาที่นี่ได้ไหมน่ะ”
บ้าเอ๊ย หรือมันจะไม่ใช่แค่คาถา แต่เธอฟังอยู่จริงๆ
ควรบอกว่าคุณนี่มืออาชีพจัง
“ตอนนั้นข้าสามารถเห็นพวกเจ้าได้ ก็ย่อมรู้สถานการณ์ของพวกเจ้าเป็นธรรมดา เพราะงั้นไม่ต้องคิดมากหรอก”
เธอพูดดูสบายใจไปหรือเปล่า แต่ทางฉันถึงกับเหงื่อท่วมหลังแล้วนะ
“เจ้ายังยืนอยู่ทำไม นั่งสิ ข้าไม่ได้จะกินเจ้าซะหน่อย”
“งั้นเหรอ…”
ช่วยไม่ได้ ผมเลยนั่งลงบนโซฟา แล้วมองอีกฝ่าย
อีกฝ่ายฉีกยิ้ม จากนั้นก็ตบๆ ศีรษะของปีศาจน้อยข้างๆ แล้วพูดต่อ
“ดูแล้ว เจ้าคงรู้เรื่องของเจ้ามาบ้างสินะ ก็ได้ ในเมื่อเจ้ารู้มาบ้างแล้ว งั้นข้าก็จะพูดตามตรงแล้วกัน แม้ใจกลางร่างกายเจ้าจะมีมูลค่ามาก แต่ข้ากลับไม่ได้สนใจ”
“จริงเหรอ”
ผมนิ่งเงียบอยู่สักพัก พลางจ้องเธอเขม็ง แต่สุดท้ายผมก็ได้แต่ถอนหายใจ แล้วถามต่อ
“เอาละ ในเมื่อคุณบอกว่าคุณไม่คิดทำร้ายผม แล้วคุณคิดจะทำอะไร”
“ ง่ายมาก พวกเรามาทำข้อตกลงกันเถอะ”
อีกฝ่ายฉีกยิ้ม
“ข้ามีหนังสือทักษะที่เทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตายใช้กันโดยเฉพาะ ข้าอยากให้เจ้าเรียนรู้แล้วกลายเป็นกำลังพลของข้า เป็นไง”
ผมมองเพดาน พลางคิดดู แล้วพูดอย่างกระอักกระอ่วน
“ขอเครื่องมือให้ผมด้วยได้ไหม”