ถ้าผมเกิดใหม่ใน RPG? (So What if it’s an RPG World !?) - ตอนที่ 18
ตอนที่ 18 ท่านชายกับสาวนักรบ
เมื่อกี้ผมเห็นบัตรประชาชนของมิสสโนว์มันสเตอร์นิดหน่อย และเผ่าพันธุ์บนนั้นคืออันเดด (ผีดิบ)
แม้ผมไม่เข้าใจว่าทําไมคําว่า “ผีดิบ” ถึงวางไว้ข้างหลัง แต่มันก็แสดงให้เห็นถึงสถานะของมิสสโนว์มันสเตอร์ในตอนนี้ คือผีดิบ
มันทําให้ผมต้องขมวดคิ้ว
พูดถึงผีดิบ สิ่งแรกที่ผุดขึ้นในสมองคือเหล่ากองทัพผีดิบที่ร่างกายเต็มไปด้วยบาดแผล อีกทั้งยังมีเลือดไหล มีของเหลวบางอย่างไหลจากปาก และขณะเดียวกันก็มีความเน่าเฟะในระดับที่แตกต่างกันไปบนร่างกาย
จากนั้นเมื่อมองดูท่าทางของสโนว์มันสเตอร์ในตอนนี้ เธอมีผิวสีเทาออกเหลือง ดวงตาสีแดง รวมกับใบหูแหลมอีกคู่ ถ้าไม่ดูดีๆ ผมคงคิดว่าเธอเป็นแวมไพร์มากกว่า
ก็ได้ ผมต้องยอมรับว่าที่จริงเธอก็น่ารักดี เพราะใบหน้าดั้งเดิมที่จิ้มลิ้มของสโนว์มันสเตอร์รวมกับท่าทางที่ดูหนักแน่นของเออร์วิน เมื่อเอกลักษณ์ของทั้งสองรวมกันจึงทําให้รู้สึกถึงความพิเศษ
“หืม เจ้ามองข้าทําไม”
“หา!”
แย่แล้ว โดนจับได้ซะแล้ว
“เปล่านะ ผมแค่กําลังดูว่าหน้าตาของเอลฟ์อันเดดเป็นยังไงเท่านั้นเอง”
“เอ๋ งั้นที่จริงเจ้าก็กําลังมองข้าสิ ฮ่าๆๆ ไม่เป็นไรๆ ข้าไม่ได้สนใจอยู่แล้ว อย่างไรซะร่างกายนี้ก็อยู่ในแหวนเก็บของของเจ้ามานาน หากเจ้าคิดจะทําอะไรจริงๆ ก็คงทําไปนานแล้วใช่ไหมล่ะ”
“เรื่องนั้น”
คุณพูดแบบนี้จะให้ผมตอบยังไงดีล่ะ
รู้สึกเหมือนตอบยังไงก็เป็นฝ่ายแพ้
“ก็ได้ ผมมองคุณอยู่จริงๆ”
“อื้มๆอยากลองจับดูไหม ว่าอันเดดเป็นยังไงกันแน่”
“ ไม่ต้องหรอก ผมรู้สึกเหมือนถูกมองเป็นโรคจิตเลย”
“เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนก็ใช้ข้าสัมผัสปีกของเจ้าดูสิ”
ที่แท้เป้าหมายของเธอคืออย่างนี้เองเหรอ
“ปีกเจ้าเท่ขนาดนี้ ทําไมถึงหุบไว้ล่ะ”
“กางออกมาก็ยุ่งแย่สิ ยังไม่ต้องพูดถึงชื่อเสียงของเทวดาศักดิ์สิทธิ์แห่งความตาย แค่แรงต้านลมระหว่างเดินที่เกิดจากปีกสองข้างก็ทําให้ผมลําบากจะแย่แล้ว!”
“แรงต้านลมหรือ”
“ก็คือสิ่งที่ขัดขวางการเดินไง”
ถึงอธิบายว่าแรงต้านจากปีกเทวดามากกว่าปีกอันเดดมากคุณก็คงไม่เข้าใจอยู่ดี เฮ้อ ให้ผมหงุดหงิดเองยังดีซะกว่า
“เอาละ พวกเราอย่าคุยเรื่องนี้กันเลย จะว่าไปเราเดินมานานขนาดนี้ คุณกลับไม่ดูร้านไหน เลยตกลงคุณกําลังหาอะไรกันแน่”
“หืม การเดินเล่นก็เพื่อจะซื้อเครื่องมือไม่ใช่หรือ”
“….”
นี่คุณล้อผมเล่นเหรอ
ผู้หญิงอย่างคุณบอกว่าการเดินเล่นก็เพื่อซื้อเครื่องมือเหรอ คุณเป็นพวกหัวรุนแรงออกมาจากเกมไหนเนี่ย
“คือว่า..คุณไม่เคยเดินเล่นเหรอ”
“เอ๋ เคยสิ เมื่อก่อนตอนอยู่ในชนเผ่าข้ามักซื้อเครื่องมือจากพ่อค้าตลอดเลย”
“ไม่ใช่ๆ”
ผมรีบส่ายหน้า
“นั่นไม่เรียกว่าเดินเล่น”
“ไม่เรียกเดินเล่นจะเรียกว่าอะไร”
“นั่นเรียกซื้อเครื่องมือ”
“ไม่เหมือนกันตรงไหน”
อีกฝ่ายเอียงศีรษะถาม
…
“ถึงคุณถามผมแบบนี้”
ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน ผมไม่ใช่ผู้หญิงซะหน่อย
อันที่จริง การเดินตลาดของผมก็จัดอยู่ในการ ‘ซื้อเครื่องมือ’ เหมือนกัน เมื่อได้สิ่งที่ตัวเองอยากได้ก็จบ ไม่ได้ใช้เวลาดูทีละอย่างแล้วตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ
บางทีพวกอาร์ย่าคงแนะนําได้ แต่ผมกลับไม่เข้าใจเลย
แต่ว่า..
มันอาจเป็นเรื่องดีก็ได้
“เอาเถอะ งั้นเราไปซื้อเครื่องมือเลยแล้วกัน แต่เราเดินมาตั้งนาน คุณยังไม่เห็นสิ่งที่คุณอยากซื้อเลยเหรอ”
“เรื่องนั้นน่ะ ”
มิสสโนว์มันสเตอร์มองรอบๆ แล้วส่ายหน้า
“แม้เสื้อผ้าในร้านค้าเหล่านั้นจะดูสวยดี แต่ชุดเกราะกลับบางเกินไป ไม่มีพลังป้องกันเลย”
…นี่มันลัทธิภาคปฏิบัติ
“ฮ่าๆๆ เจ้าอยู่ในตราผนึกนานเกินไปจริงด้วย ตอนนี้ไม่ใช่ยุคสงครามแล้ว ผู้หญิงที่สวมชุดเกราะอย่างเจ้าก็ยิ่งน้อยลงเรื่อยๆ”
ในที่สุดออร์แลนโดก็อดแขวะไม่ได้
“งั้นหรือ หรือว่าคนยุคนี้ชอบสวมเกราะผ้าที่พลังป้องกันต่ําเช่นนี้กันหมด”
“เกราะผ้าชื่อนี้ฟังดูตรงไปตรงมาดี แต่ตอนนี้พวกมันไม่ใช่เกราะผ้าด้วยซ้ํา พวกมันไม่มีพลังป้องกันเลย เป็นเพียงเครื่องแต่งกายธรรมดา และผลลัพธ์หนึ่งเดียวที่ได้ก็คือทําให้เจ้าดูดียิ่งขึ้นเท่านั้น”
“ดูดียิ่งขึ้น”
มิสสโนว์มันสเตอร์มองเสื้อเผ้าเหล่านั้นพลางจมอยู่ในความคิด
“ไม่งั้น…”
ขณะที่ออร์แลนโดจะพูดบางอย่าง ผมก็จับเขาทันที แล้วตัดบทเขา
“คุณจะทําอะไร”
“…ดูสายตาเจ้า ก็รู้นี่ว่าข้าจะทําอะไร”
หมอนี่เป็นโรคจิตขนานแท้
“ฮะ คุณคงไม่ได้อยากซื้อชุดสไตล์ก็อบลินมีดให้เธอใส่หรอกนะ คุณมันโรคจิต!”
“หึ เจ้าพูดอะไรอยู่ สายตาข้ามีประสบการณ์มาเจ็ดร้อยกว่าปีแล้ว! ชุดแบบไหนเหมาะกับข้า แค่มองปราดเดียวข้าก็รู้”
“ไม่ๆๆ จะดูยังไงรูปร่างของเอลฟ์ก็ใกล้เคียงกับเผ่าพันธุ์ผมมากกว่า ดูจากรสนิยมผมก็ดีกว่าเห็นๆ”
“จริงๆ เลย เจ้าต้องเคารพผู้อาวุโสไม่ใช่หรือ”
“คุณก็ต้องรักเด็กด้วยสิ แม้แต่เศษอายุคุณผมก็ยังไม่ถึงเลย ไม่ว่ายังไงก็ควรให้ผมจัดการสิ”
“นี่เจ้า”
“พวกเจ้าทําอะไรอยู่น่ะ”
จู่ๆ มิสสโนว์มันสเตอร์ก็เดินเข้ามาถามพวกผม
การถกเถียงของพวกผมสิ้นสุดทันที จากนั้นก็แยกกันไปคนละทาง
“คือ…พวกเราแค่เสนอความเห็นเรื่องของที่เตรียมจะซื้อให้มิสสโนว์มันสเตอร์เท่านั้นเอง ใช่ไหม”
ผมพูดไปด้วยพลางส่งสายตาให้ออร์แลนโด
“อ่า…อ่า ใช่แล้วๆ พวกเรากําลังคิดว่า ในเมื่อมิสสโนว์มันสเตอร์ไม่ค่อยรู้รสนิยมของยุคปัจจุบัน พวกเราก็…”
“อย่างนี้นี่เอง ไม่ต้องห่วง ข้าเลือกเสร็จแล้ว”
พูดจบเธอก็วิ่งไปยังร้านร้านหนึ่ง แล้วชี้ชุดข้างในพลางพูด
“แบบนี้ดูเรียบง่ายดี ข้าอยากได้ชุดนี้”
“….”
“….”
พอเห็นร้านนั้น ผมกับออร์แลนโดก็ตกตะลึง
“ทําไมล่ะ ชุดนี้ไม่ดีหรือ”
ผมกลืนน้ําลาย แล้วส่ายหน้าอย่างบ้าคลั่ง
“เปล่าๆๆ ชุดนี้เยี่ยมมาก ในเมื่อคุณชอบ เราก็ซื้อกันเลย! ใช่ไหม พี่ออร์แลนโด!”
“ใช่แล้วๆๆ! เจ้าดูไปข้าจะออกเงินให้ ใช่ไหม”
“โธ่ๆๆ พี่ออร์แลนโดเกรงใจไปแล้ว เดี๋ยวผมออกให้ชุดนี้เอง”
ผมพูดอย่างเด็ดเดี่ยว
“ได้ที่ไหนๆ ในฐานะที่ข้าเป็นผู้อาวุโสก็ต้องช่วยคนอายุน้อยออกเงินเจ้าว่าจริงไหมล่ะ”
“อย่างนั้นเหรอ ก็ได้”
ผมดึงมือที่เตรียมหยิบเงินกลับทันที
“ยกให้คุณแล้วกันนะ!”
“เจ้า…”
ออร์แลนโดนึกไม่ถึงว่าผมจะเปลี่ยนสีเร็วขนาดนี้ ทั่วทั้งใบหน้าเขาจึงแข็งเกร็ง
“เอาสิ รีบเข้าไปซื้อเร็ว!”
ผมผลักออร์แลนโดกับมิสสโนว์มันสเตอร์ให้เข้าไปในร้านด้วยกัน
อ้อ ใช่แล้ว ชื่อของร้านนี้น่ะเหรอ…
มันชื่อว่า ‘สาวใช้ของท่านชาย’