ตำนานวีรสตรีอันไร้ค่าของเด็กสาวต้องสาป - ตอนที่ 6 ไม่ยุติธรรม
บทที่ 6 ไม่ยุติธรรม
คริชเคี่ยวซุปและนวดแป้งสำหรับทำพาย พลางฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี
ด้วยนิสัยที่ชอบยึดตัวเองเป็นหลัก เธอจะมองสิ่งต่างๆในแง่ดีต่อตัวเองเสมอ
เมื่อไม่มีเกรซกับกอร์คาแล้ว
แปลว่าจะมีพายเหลืออีกสองชิ้นและเธอจะสามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติของฟักทองได้มากขึ้น
เธอพลาดมันมาสองครั้ง ถูกบังคับให้อดทนรอถึงสองอาทิตย์
ในที่สุด มื้อเย็นคืนนี้จะเป็นฟักทองที่เธอโหยหา
คริชถึงกับอดมื้อเที่ยงเพื่อที่จะได้กินพายสามชิ้นด้วยตัวคนเดียว
เธอจัดแผ่นแป้งอย่างระมัดระวังและเกลี่ยไส้ฟักทองใส่จนทั่ว พลางจินตนาการว่ามันจะออกมาเป็นอย่างไร
คริชยังคงฮัมเพลงจนกระทั่งพายของเธอเสร็จสมบูรณ์ เธอยิ้มออกมาน้อยๆด้วยความภาคภูมิใจ
หลังจากที่ ‘ชิมรสชาติ’ ซุปอยู่ซักพัก เธอก็อ่อนไฟลง
…อีกซักหน่อยแล้วกัน—— เธอ‘ชิมรสชาติ’ต่ออีกเล็กน้อย
เมื่อพึงพอใจกับซุปแล้ว เธอก็วิ่งปนกระโดดไปยังบ้านกาล่าอย่างร่าเริง
พายฟักทองในอุดมคติที่ถืออยู่ในมือนั้นถูกทำขึ้นอย่างละเมียดละไม
จนพายที่เธอเคยทำก่อนหน้าไม่อาจเทียบได้
คริชยิ้มขณะจินตนาการถึงตอนที่พายชิ้นนี้จะเสร็จสมบูรณ์——และเธอก็ได้ยินเสียงคนสองคนกำลังโต้เถียงกันดังแว่วออกมาจากบ้านของกาล่า
“เพราะเรื่องแค่นั้น——คุณผลักไสเด็กคนนั้นให้ไปอยู่ตัวคนเดียวเนี่ยนะ!?”
“ไม่ใช่! ฉันจะฝากฝังเธอไว้กับคนที่เชื่อใจได้ เธออยากให้เด็กคนนั้นอาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้ต่อไปแบบคนนอกคอกงั้นเรอะ!?”
ดูเหมือนพวกเขากำลังพูดเรื่องของคริชอยู่
เธอเอียงคอสงสัย แต่ก็ยังเคาะประตูอยู่ดี
“นั่นใคร?” กาล่าเอ่ยปากถามโดยที่ข่มอารมณ์ฉุนเฉียวไว้ภายใน
ส่วนคริชก็ตอบกลับไปตามปกติ “คริชค่ะ”
บานประตูถูกผลักออกในทันที กาล่าและกาเรนอยู่ข้างในบ้าน บรรยากาศระหว่างทั้งคู่ดูตึงเครียด
คริชถึงกับตัวแข็งเมื่อเห็นหน้าพวกเขา
“คริช มาทำอะไร——อ๊ะ”
“อะ เอ่อ…..คริช มาอบพายฟักทอง…”
——หรือว่าเธอจะพลาดโอกาสทำพายฟักทองอีกครั้งนึง
อาการลงแดงฟักทองที่สั่งสมมานั้นถึงขีดจำกัดแล้ว
ครั้งนี้เป็นครั้งที่สามแล้ว
“ตะ แต่ถ้ากำลังยุ่งอยู่ ก็….”
เธอมาจังหวะไม่ดีเอาเสียเลย น้ำตาที่ไม่เคยไหลซักหยดแม้ในตอนที่เธอสูญเสียแม่ไปกำลังเอ่อล้นขึ้นมา
กาล่ารีบพาคริชเข้ามาในบ้านอย่างร้อนรน พลางจ้องไปที่กาเรนเขม็ง
กาเรนถอนหายใจออกมา เขาปล่อยความฉุนเฉียวทิ้งไป แล้วพยักหน้า
“ขอโทษที่ทำให้ตกใจนะจ๊ะ พอดีพวกเรามีเรื่องที่ต้องคุยกันนิดหน่อยไม่ได้ทะเลาะกันหรอก เนอะ กาเรน?”
“อะ อื้ม… ขอโทษด้วย คงตกใจสินะ”
“คริชไม่เป็นไร…”
“เอ้า เข้ามาก่อนสิ”
กาล่าลูบหัวคริชและพาเธอไปที่เตาอบ
คริชถอนหายใจอย่างโล่งอกที่สามารถใช้เตาได้ ข้างในเตาอบเธอวางพายตรงกลางและจัดแจงใส่ถ่านลงไปรอบๆ
“…ถาดใหญ่เชียว”
“เอ่อ… เพราะว่า ครั้งที่แล้วที่เราไม่ได้กิน…”
เมื่อได้ยินคำตอบของคริช กาล่าก็กดนิ้วที่หัวตา
“จริงสิ เราสัญญากันไว้… ว่าพอเรื่องทุกอย่างจบแล้ว เราจะกินพายของคริชด้วยกัน”
“ค่ะ ถึงมันจะช้าไปหน่อย…”
คริชยิ้มออกมา แต่เมื่อเธอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้น ตาของเธอก็หลุบต่ำ
“…ทั้งๆที่คริชตั้งใจจะทำในทันทีเลยแท้ๆ”
แต่ว่าฟักทองมันเละไปแล้ว
ตอนที่คริชกลับไปที่บ้าน ฟักทองก็แตกกระจายไม่เหลือชิ้นดี
โจรป่าพวกนั้นมีเรื่องแค้นเคืองอะไรกับฟักทองของคริชนัก?
แม้เธอจะล้างแค้นให้มันไปแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้เธอพึงพอใจ
แค่คิดก็ปวดใจแล้ว——มันทำให้เธอรู้สึกอยากบดแขนขาพวกมันทั้งเป็นให้เหมือนกับที่ฟักทองของเธอโดน
โดยที่ไม่รู้ความในใจเหล่านั้น กาล่ากลั้นน้ำตาพลางมองคริชที่กำลังนั่งอบพายสำหรับห้าคน
เธอมือเปื้อนเลือดเพื่อปกป้องทุกคน มองแม่ตัวเองตายไปต่อหน้าต่อตา แล้วยังต้องเสียพ่อไปอีก
กาล่าเห็นภาพของคริชซ้อนทับกับตัวเองตอนที่สูญเสียลูกชายไปจาก ‘อุบัติเหตุอันน่าเศร้า’ ครั้งนั้น
ถึงคริชจะไม่ได้ร้องไห้ฟูมฟายและทำตัวตามปกติ ใช้ชีวิตแบบเดิมไม่เปลี่ยนแปลง
แต่นั่นกลับยิ่งทำให้กาล่ารู้สึกกังวล
บางทีเธออาจจะยังรับความจริงที่เกิดขึ้นไม่ได้
ไม่ว่าอย่างไร มันก็เป็นแผลใจที่รุนแรงเกินไปสำหรับเด็กสาวตัวเล็กๆแบบเธอ
คริชที่ทำพายแบบเดียวกับในคืนนั้น ราวกับกำลังปิดบังบางสิ่งที่พังทลายอยู่ภายใน
ยิ่งกาล่าคิดเรื่องนั้นมากเท่าไหร่ ความรู้สึกเกลียดชังต่อผู้คนที่แพร่ข่าวลือไร้สาระแบบนั้นออกไปแบบไม่ยั้งคิดก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น
คริชเป็นเด็กฉลาด ไม่มีทางที่เธอจะไม่รู้เรื่องข่าวลือเหล่านั้น
กาล่าเคยเห็นคริชเข้ากอดและออดอ้อนเกรซอยู่หลายครั้ง สิ่งที่เธอทำไม่ต่างอะไรจากเด็กสาวธรรมดา
แต่ตอนนี้กลับมีแม้แต่ข่าวลือว่าคริชเป็นคนลงมือฆ่าเกรซด้วยซ้ำ
กาล่าไม่อาจให้อภัยพวกเขาเหล่านั้นได้
คริชควรจะได้รับยกย่องเป็นผู้กล้าของหมู่บ้าน แต่สิ่งที่เธอได้รับนั้นไม่ยุติธรรมเอาเสียเลย
หัวใจของกาล่าเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและเกรี้ยวกราด
“คราวนี้หนูจะยังชวนป้ามาอยู่รึเปล่า?”
“ค่ะ ถ้าคุณป้าไม่ช่วยกินด้วย คริชคงกินเยอะขนาดนี้ไม่ไหว”
“ฮ่ะฮ่ะ นั่นสินะ พายถาดใหญ่ขนาดนี้… ป้าจะช่วยกินเผื่อในส่วนของสองคนนั้นให้เอง”
“เอ๋… ?”
คริชชะงักไปพักหนึ่ง
พายอีกสองส่วนนั้นเป็นของคริช เธออุตส่าห์อดมื้อเที่ยงเพื่อมันโดยเฉพาะ
เมื่อเธอได้สติ คริชกวาดสายตาไปรอบๆอย่างรวดเร็วพลางนึกหาคำพูดที่จะรับมือกับความไม่ยุติธรรมนี้
“อะ เอ่อ คุณป้าคะ อันนั้นมัน…… เป็นส่วนของ คริช…”
“อ้า…”
เมื่อเห็นการตอบสนองของคริช กาล่าก็เอามือป้องปาก
เธอคิดว่าคำพูดของเธอทำให้คริชจำเรื่องการสูญเสียพ่อแม่ของเธอขึ้นมาได้
มันเป็นเรื่องแปลก ที่พักหลังมานี้คริชไม่ได้พูดถึงเกรซและกอร์คาเลย
——เธอคงพยายามที่จะไม่คิดถึงพวกเขา
ขณะที่รู้สึกผิดในความโง่เขลาของตัวเอง กาล่าก็ดึงร่างเล็กๆของคริชเข้ามากอด
“…ป้าขอโทษนะคริช แต่ทุกๆอย่างจะโอเค”
มันไม่โอเคค่ะ คริชอยากจะแย้งออกมา แต่ก่อนที่เธอจะได้เอ่ยปาก
กาล่าก็กอดเธอแน่นและกดหน้าของเธอลงไปที่หน้าอก
“หนูคิดว่ามันไม่ยุติธรรมรึเปล่า”
คริชลังเลเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้า นี่มันไม่ยุติธรรมเอาซะเลย
“แต่นั่นเป็นเรื่องที่หนูต้องยอมรับ ซักวันหนึ่งหนูจะต้องยอมรับความไม่ยุติธรรมในชีวิตแล้วก้าวต่อไป… บางครั้งจะร้องไห้ออกมาดังๆก็ไม่เป็นไรหรอกนะ”
“อุก…”
“ตอนที่ป้าเสียลูกชายไปป้าทำใจไม่ได้เลย… แต่ก็มีหนูคริชนี่แหละที่คอยมาเยี่ยมแล้วก็ให้กำลังใจป้า ตอนนั้นป้ามีความสุขมากเลยรู้มั้ย เพราะอย่างนั้นป้าก็เลยให้สาบานกับตัวเองว่าในตอนที่คริชเสียใจ ป้าจะช่วยหนูแบบเดียวกับที่หนูเคยช่วยป้าไว้”
คริชไม่เข้าใจความคิดของกาล่าเลยซักนิด
เธอแย่งพายฟักทองของคริชไป ทำให้คริชเศร้า จากนั้นก็พยายามปลอบคริช
และกาเรนที่ยืนมองอยู่เงียบๆก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคำพูดของกาล่าเช่นกัน
นั่นยิ่งทำให้คริชสับสนเข้าไปใหญ่
คริชไม่เข้าใจหลักเหตุผลของสิ่งที่เกิดขึ้นเลยแม้แต่น้อย แต่ทุกคนกลับทำเหมือนมันเป็นเรื่องปกติ
ทันใดนั้น คริชก็นึกขึ้นได้ว่าเธอเคยฆ่าลูกชายของกาล่าแล้วมาปลอบเธอเพื่อขอยืมเตาอบเหมือนกัน
แปลว่ากาล่าต้องอยากกินพายนี้มากแน่ๆ คริชได้ข้อสรุปจากกระบวนการคิดที่แปลกประหลาดของเธอ
เมื่อเทียบกับคริชที่ปกปิดการสังหารลูกชายของกาล่าอย่างแนบเนียน วิธีของกาล่านั้นดูโจ่งแจ้งและหยาบกระด้างกว่ามาก แต่มันก็ถือเป็นเรื่องที่เข้าใจได้สำหรับคริช
และเธอเองก็ติดหนี้บุญคุณกาล่าไว้เยอะเช่นกัน
คริชตัดสินใจว่าเธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมแพ้
และปล่อยตัวตามสบายในอ้อมกอดของกาล่า
กาล่าที่มีน้ำตาไหลพรากลูบหัวคริชอย่างอ่อนโยน
“…หนูไม่ต้องเก็บความเสียใจเอาไว้กับตัวก็ได้ อย่างน้อยตอนที่หนูอยู่กับป้าก็ระบายความรู้สึกออกมาให้เต็มที่ ป้าจะคอยอยู่ข้างๆหนูจนกว่าความเศร้าจะหายไปเอง”
คริชได้แต่กล้ำกลืนความไม่พอใจลงไป และหันไปคิดหาทางว่าเธอจะตัดพายยังไงถึงจะได้กินฟักทองเยอะที่สุดแทน
นั่นเป็นสิ่งเดียวที่อยู่ในหัวเธอตอนนี้
=======================
——เมื่อพายอบเสร็จ ทุกคนก็กลับไปรวมตัวกันที่บ้านของคริช
แต่ความทรมานของคริชยังไม่จบลง
หลังจากที่ขบคิดและลังเลอยู่นาน คริชเลือกที่จะตัดพายออกเป็นห้าชิ้น
เธอเสิร์ฟพายสองชิ้นให้กาล่าอย่างไม่เต็มใจ แน่นอนว่าอีกสองชิ้นเป็นของเธอเอง ส่วนหนึ่งชิ้นสุดท้ายเป็นของกาเรน
คริชสัมผัสได้ถึงความกรอบของมันในตอนที่เธอลงมีด
มันเป็นพายที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่เธอเคยทำ
ไส้ฟักทองที่ละลายเป็นเนื้อเดียวกันเหมือนกับครีมส่งกลิ่นหอมหวานออกมา
แค่ความกรอบและกลิ่นหอมจากฟักทองก็ทำให้คริชมีความสุขตั้งแต่ที่ยังไม่ได้กิน
ราวกับมันกำลังเชื้อเชิญให้เธอลิ้มลอง
ซุปฟักทองก็ทำออกมาได้ดีเช่นกัน
เนื้อฟักทองถูกเคี่ยวด้วยไฟอ่อนเป็นเวลานานจนนุ่มได้ที่ นอกจากนี้เธอยังเติมฟักทองที่เธอเตรียมแยกไว้ต่างหากลงไปด้วย
กลายเป็นซุปสุดหรูหราที่มีความหวานของฟักทองทั้งจากในน้ำซุปและเนื้อฟักทองเอง
เป็นอีกหนึ่งเมนูฟักทองที่ยอดเยี่ยมที่สุดที่คริชเคยทำเช่นกัน
ถ้าเธอโฟกัสที่รสชาติของอย่างใดอย่างหนึ่งระหว่างซุปกับเนื้อฟักทอง จะทำให้รสชาติของอีกอย่างหนึ่งด้อยลง
คริชใช้เวลาทั้งอาทิตย์คิดแต่เรื่องนี้และตัดสินใจที่จะใช้ฟักทองจำนวนมากมาแบ่งออกเป็นสองส่วน เพื่อที่จะทำชุดอาหารสำหรับคนรักฟักทองนี้ให้สมบูรณ์แบบ
เมื่อจัดจานบนโต๊ะเสร็จเรียบร้อย คริชจ้องมองพายและซุปฟักทองด้วยความตื้นตันใจ
จากนั้นเธอก็หันไปหากาเรน
แม้พวกเธอจะไม่มีการสวดภาวนาก่อนมื้ออาหาร แต่โดยปกติแล้วกาเรนไม่ก็กอร์คาจะเป็นคนกล่าวเริ่มทานอาหาร
คริชเก็บความตื่นเต้นที่จะได้กินฟักทองไว้แทบไม่อยู่ แต่เธอก็ยังคงนั่งนิ่งและเฝ้ารอ
กาเรนนั้งจ้องชุดอาหารสำหรับคนรักฟักทองอย่างเหม่อลอย
เขาหลุบตาลงต่ำขณะที่ใช้นิ้วหัวแม่มือบีบที่สันจมูกไว้ แล้วพูดออกมาเบาๆ
“… คริช เรามีเรื่องต้องคุยกัน”
“คุย?”
ตอนนี้คริชเหมือนกับสุนัขที่มีของกินวางล่อไว้ตรงหน้า
แม้เธอจะมีมนุษยธรรมที่บิดเบี้ยวและเห็นแก่ตัวอย่างมาก แต่คริชก็เป็นเด็กที่สุภาพและว่าง่าย
เธอไม่เคยแหกกฎของชุมชนต่อหน้าใคร ถ้าเธอจะทำ ก็ต่อเมื่อเป็นที่ที่ไม่มีใครเห็นเท่านั้น
เคารพผู้หลักผู้ใหญ่ รู้จักทักทายและขอบคุณ รักษามารยาท ทั้งหมดนี้เป็นทักษะการใช้ชีวิตที่เกรซพร่ำสอนคริช
และเพราะคริชเป็นเด็กแบบนั้น เธอก็จะรอถ้ากาเรนสั่งให้ ‘รอ’
ถ้าเธอมีหูสุนัขบนหัว ตอนนี้มันคงกำลังลู่ลงอยู่
คริชกระวนกระวาย เธอมองพายและกาเรนสลับไปมา
“… กาเรน”
“เธอก็น่าจะเข้าใจไม่ใช่รึไง กาล่า”
“… แต่ว่า”
คริชกำลังสับสนแต่เธอสัมผัสได้ว่าบรรยากาศดูไม่สู้ดีนัก
เวลาค่อยๆผ่านไปขณะที่เธอเตรียมใจถึงสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด
แต่คริชก็ยังคงสงบนิ่ง
เพราะว่า—— เธอเป็นพวกลิ้นแมว
ไม่ว่ายังไง ตอนนี้เธอก็ยังกินอะไรไม่ได้จนกว่าอาหารจะเย็นลงซักหน่อย ดังนั้นถึงต้องรออีกซักนิดก็ไม่เป็นไร
คริชคิดแบบนั้น
แม้ว่าคริชจะชอบเป่าอาหารให้เย็นลงด้วยตัวเองก่อนจะกิน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องจำเป็น
ตราบใดที่คริชได้กินตอนที่มันอุ่นกำลังดี แค่นั้นก็พอแล้ว เธอพยายามบอกตัวเองแบบนั้น
“หลานได้ยินเรื่องที่เราคุยกันที่บ้านกาล่าแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ ก็ได้ยิน… นิดหน่อย”
“เรากำลังคุยเรื่องอนาคตของหลานอยู่”
กาเรนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง
และด้วยความหิวจากการอดมื้อเที่ยง—— คริชกำลังงุนงง เธอไม่เข้าใจว่าทำไมพวกเขาถึงอยากพูดเรื่องนั้นเอาตอนนี้
ความหิวโหยทำให้ระดับสติปัญญาของคริชลดต่ำลงอย่างมาก
“…… มันลำบากรึเปล่า?”
“อะ เอ่อ……”
“พูดออกมาตามตรงเถอะ ตอนนี้หลานรู้สึกยังไง?”
ตอนแรกก็กาล่า คราวนี้ก็กาเรน?
มันมีกฎอะไรที่ห้ามไม่ให้คริชได้เพลิดเพลินไปกับพายฟักทองหรือยังไง?
คริชพยักหน้า เธอรู้สึกว่านี่มันไร้เหตุผลสิ้นดี
“… ลำบากค่ะ”
ต้องอดทนต่อเหยื่อล่อชิ้นโตที่วางไว้ต่อหน้ากระเพาะที่กำลังหิวโหย
แน่นอนว่ามันลำบาก
“เข้าใจล่ะ…”
กาเรนหันมองกาล่า และเธอก็พยักหน้าด้วยสีหน้ายอมแพ้
“ตามีเพื่อนจากกองทัพที่อาศัยอยู่ในเมือง ตาพึ่งได้รับจดหมายจากเขา เขาบอกว่าเขากังวลว่าตาเป็นยังไงบ้างและยินดีจะทำทุกอย่างที่เขาพอจะช่วยได้….. ตาเลยเขียนเรื่องของหลานตอบกลับไป”
“เรื่องของคริช..…?”
“ใช่….. คริช หลานอยากจะลองย้ายไปอยู่ในเมืองดูมั้ย”
ทำไมเรื่องพายฟักทองของคริชถึงโยงไปถึงเรื่องนี้ได้กันล่ะ?
คริชตกใจเล็กน้อยกับหัวข้อบทสนทนาที่เปลี่ยนไปอย่างกระทันหัน
“ตาพึ่งได้จดหมายตอบกลับมาวันนี้ ถ้าคริชตกลง เขาก็ยินดีที่จะเจอหลานนะ”
คริชสับสนมากขึ้นเรื่อยๆ
คริชแค่อยากจะกิน
มันเป็นเรื่องใหญ่และกระทันหัน——สำหรับคริช—— เกินกว่าที่เธอจะตามทัน
“… ถ้าท่านตาให้ไป คริชก็จะไป”
“ตาไม่ได้หมายถึงแบบนั้น… จะตัดสินใจผ่านๆไม่ได้นะ ก่อนอื่นเลยตาไม่ได้อยากให้คริชไป แต่เพราะตารักหลาน ตาเลยอยากให้หลานได้เลือก”
“…? เอ่อ…”
“คนรู้จักของตาคนนั้นเขาเป็นคนที่เชื่อใจได้ เป็นสหายร่วมรบเคยที่กินนอนด้วยกันมา ช่วยชีวิตกันและกันมา… คริช ตาอยากให้หลานได้ไปเจอเขากับตาซักครั้ง แล้วค่อยตัดสินใจว่าหลานจะเอายังไงต่อ
แน่นอนว่าถ้าหลานอยากอยู่ที่หมู่บ้านต่อไป กาล่ากับตาก็พร้อมที่จะดูแลหลานเสมอ”
เมื่อกาเรนพูดในสิ่งที่ต้องการจะพูดแล้ว เขาก็ปิดปากเงียบ
เขากำลังรอคำตอบจากคริช
ในขณะที่คริชก้มหน้าด้วยความเศร้าหมอง กระวนกระวาย และจ้องมองไปที่พาย
มือของเธอกำแน่นอยู่ที่หน้าอก เธอทำแบบนั้นซ้ำไปซ้ำมาอยู่ซักพัก
จากนั้นคริชก็พูดขึ้นด้วยความอับอาย
“…อะ เอ่อ คือว่า… พะ พาย มัน กำลัง… จะเย็น เพราะงั้น”
สำหรับคริช การร้องขอคำอนุญาตที่จะกินเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบากและเจ็บปวด
การขอให้เริ่มมื้ออาหาร เหมือนกับการเปิดเผยความต้องการของเธอออกมากลางบทสนทนาอันตึงเครียดของกาเรน
มันเป็นการกระทำที่น่าอับอายในมุมมองแปลกๆของคริช
แต่เธออยากจะกิน
เธอรอมาสองอาทิตย์แล้ว
แต่เธอกลับเริ่มกินไม่ได้ซักที
ปกติแล้วคริชจะใช้สติปัญญาและหลักเหตุผลทั้งหมดในการเฟ้นหาวิธีที่จะตอบสนองความปรารถนาของเธอโดยปราศจากพฤติกรรมไร้ยางอายใดๆ ตามหลักความงามในอุดมคติของเธอ
แต่การที่ต้องนั้งมองพายค่อยๆเย็นลงนาทีต่อนาทีทำให้คริชถึงขีดจำกัด
เธอเอ่ยปากพูดออกมาด้วยเสียงที่แผ่วเบาราวเสียงกระซิบ
คริชเป็นคนที่ทะเยอทะยานในการรักษากิริยามารยาทและภาพลักษณ์ที่สมบูรณ์แบบอยู่เสมอ
นี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เป็นครั้งแรกและหวังว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย
หน้าของคริชร้อนรุ่มไปด้วยความอับอาย น้ำตาของเธอกำลังไหลเอ่อขึ้นมา
เมื่อเห็นสภาพแบบนั้นของคริช กาเรนก็ถอนหายใจออกมาเบาๆ ส่วนกาล่าก็ปรบมือเสียงดัง
“…..เธอพูดถูก คริชอุตส่าห์ทำอาหารอร่อยๆให้พวกเราทั้งที รีบกินกันก่อนที่มันจะเย็นเถอะ… ใช่มั้ย กาเรน”
“อืม… ขอโทษที ถูกต้องตามนั้น มากินกันก่อนเถอะ”
กาล่าเปลี่ยนบรรยากาศด้วยการชมพายและซุปของคริช
ส่วนกาเรน แม้จะไม่ได้พูดอะไรมาก แต่ก็เอ่ยปากชมเธอเช่นกัน
คริชที่พึ่งผ่านช่วงเวลาแห่งความยากลำบากมา ไม่สามารถเพลิดเพลินไปกับรสชาติของอาหารได้เต็มที่
แต่ต้องขอบคุณความพยายามของกาล่าที่ทำให้เธอร่าเริงขึ้นและสามารถกินอาหารได้อย่างเอร็ดอร่อยอีกครั้ง
เธอมีความสุขไปกับรสสัมผัสและความหวานของพายที่เต็มปาก เติมเต็มความปรารถนาที่ฝ่าฟันอุปสรรคมามากมาย
และเมื่อมื้ออาหารจบลง เธอก็อารมณ์ดีอย่างมาก
กาเรนสบตากับกาล่า ก่อนจะขอตัวกลับก่อนในคืนนี้
เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องที่คุยกันก่อนหน้านี้อีก และออกไปทันทีหลังจากที่กล่าวราตรีสวัสดิ์
กาล่ากับคริชล้างจานด้วยกันพลางพูดคุยอะไรเรื่อยเปื่อย
พวกเธอนำฟูกออกมาและเริ่มจัดที่นอน
คริชแสดงความดีใจออกมาอย่างเห็นได้ชัดเมื่อกาล่าบอกว่าจะค้างที่นี่
ในพื้นที่แถบนี้ อากาศช่วงกลางคืนจะเย็นตลอดทั้งปีและคริชเป็นพวกขี้หนาว
เธอจึงอยากได้หมอนข้างอุ่นๆไว้นอนกอด
หลังจากที่ดับไฟและล้มตัวลงนอนบนฟูก กาล่าก็เริ่มเล่าเรื่องสมัยก่อนของคริช
ตอนนั้นคริชอายุประมาณสามขวบ
กอร์คาไปเจอเด็กผู้หญิงนอนสลบอยู่ในป่าใกล้ๆกับถนนเส้นหลักและพาเธอกลับมาที่หมู่บ้าน
เกิดเป็นความโกลาหลเล็กๆขึ้นมา
คริชนอนติดเตียงอยู่สามวันเต็มโดยมีเกรซและกอร์คาคอยดูแล
หน้าตาของคริชนั้นโดดเด่นตั้งแต่แรกเห็น นอกจากเส้นผมสีเงินสลวยที่พบเห็นได้ยากในแถบนี้และหน้าตาที่น่ารัก เสื้อผ้าที่ใส่เองทำจากผ้าไหมคุณภาพดี
มันเป็นเรื่องธรรมชาติที่ผู้คนจะคิดว่าเธอน่าจะเป็นลูกสาวขุนนางคนไหนซักคน
แม้ในหมู่บ้านที่ห่างไกล การแก่งแย่งแข่งขันภายในหมู่ขุนนางก็เป็นที่รู้กันดีผ่านเรื่องเล่าของนักกวีและเหตุการณ์แบบนี้ก็เป็นสิ่งที่ชาวบ้านเคยได้ยินบ่อยๆ
พวกเขาคิดว่าคริชอาจถูกเอามาทิ้งในป่าด้วยเหตุผลด้านการเมือง การรับเลี้ยงเธอไว้อาจจะนำปัญหาเข้ามาสู่หมู่บ้านได้
แต่ชาวบ้านก็ไม่สามารถปล่อยให้เธอตายไปเฉยๆได้เหมือนกัน
พวกเขาเลยตัดสินใจว่าจะดูแลเธอไว้ก่อนและหากมีคนมาตามหาก็จะส่งตัวเธอให้ทันที
ในขณะเดียวกัน กอร์คาและเกรซที่ไม่มีโชคเรื่องลูกจึงเสนอตัวที่จะรับเธอมาดูแล
คริชเป็นเด็กเงียบๆและเรียบร้อย
แค่มองปราดเดียวก็รู้ได้ว่าเธอฉลาด แต่เธอแทบจะไม่ออกจากบ้านและยังหวาดระแวงกับสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้
คริชไม่ค่อยแสดงออก เธอแทบไม่มีพฤติกรรมแบบเด็กทั่วๆไปเลย เธอทำแค่จ้องมองผู้คนที่อยู่รอบๆเท่านั้น
เกรซจึงพาเธอออกไปข้างนอกโดยจูงแขนของเธอไว้ พยายามให้เธอคุ้นเคยกับหมู่บ้าน
คริชที่เดินเตาะแตะตามเกรซไปรอบๆ
กลายภาพชวนอบอุ่นหัวใจของชาวบ้านไปพักใหญ่ๆ
กาล่าพูดพลางหัวเราะออกมา ความรู้สึกอาลัยอาวรณ์เจืออยู่ในน้ำเสียงของเธอ
ยิ่งเวลาผ่านไป เกรซก็ปลี่ยนจากผู้ดูแลชั่วคราว เป็นแม่เลี้ยง แล้วก็กลายเป็นแม่จริงๆ
เกรซสอนสิ่งต่างๆให้กับคริชมากมายและรักเธอราวกับเป็นลูกสาวแท้ๆ
คริชนั้นทั้งฉลาดและตอบรับความคาดหวังของเธอได้ทุกอย่าง สำหรับพวกเขาที่ปรารถนาอยากมีลูก
การได้เจอกับคริชเป็นเหมือนปาฏิหาริย์ของเกรซและกอร์คา
เธอเป็นเด็กที่ทั้งกินเก่งผิดคาด ขี้อ้อน และชอบมุดเข้ามานอนกอดเกรซตอนกลางคืน
เกรซเล่าเรื่องเหล่านี้ของคริชไปทั่วหมู่บ้าน
กาล่าค่อยๆเล่าเรื่องราวชวนคิดถึงที่เธอนึกออกให้คริชฟังทีละเรื่อง
ส่วนคริชก็หน้าแดงเมื่อได้ฟังเรื่องเหล่านั้น
ถ้างั้นตอนที่เธอได้ของหวานเป็นรางวัลจากการช่วยงานบ้าน พวกเขารู้อยู่แล้วว่าเธอตะกละ
นั่นหมายความว่าพวกเขาให้ของหวานเธอโดยที่รู้ว่านั้นเป็นเป้าหมายของเธอตั้งแต่แรก
แน่นอนว่านั่นทำให้คริชรู้สึกอายมาก
โดยที่ไม่สนใจปฏิกิริยาของคริช กาล่ายังคงเล่าต่อไป
หลังจากที่พูดเรื่องของคริช เธอก็เริ่มเปลี่ยนไปพูดเรื่องเกรซและกอร์คา
กาล่าชอบกอร์คาตั้งแต่ที่พวกเขายังเด็ก และเมื่อเกรซที่อายุน้อยกว่ามาแย่งตัวเขาไป เธอจึงไม่ชอบหน้าเกรซไปช่วงหนึ่ง แต่เพราะความใจดีและซื่อตรงของเกรซ ทำให้กาล่ากลับใจมาอวยพรให้กับเธอแทน
จากนั้นก็มีชายคนหนึ่งตกหลุมรักกาล่าและเธอก็แต่งงานกับเขา
กาล่าเล่าเหตุการณ์ที่เธอสูญเสียสามีเร็วเกินไป และจากนั้นไม่นานก็เสียลูกชายไปอีก
ในเธอที่กำลังใจสลายก็ได้เกรซและคริชช่วยไว้
ตอนแรกเธอไม่เห็นด้วยที่จะรับคริชมาเลี้ยง
แต่ตอนนี้เธอเชื่ออย่างสุดหัวใจว่านั้นเป็นการทางเลือกที่ถูกต้อง
“ถ้าคริชอยากอยู่ที่หมู่บ้าน ป้าจะคอยปกป้องหนูแทนในส่วนของเกรซและจะรับหนูมาเป็นลูกสาว ป้าอยากให้เป็นแบบนั้น พูดตามตรงป้าไม่อยากให้หนูไปอยู่ในเมือง”
น้ำเสียงของกาล่าเต็มไปด้วยความรัก
เธอไม่รู้ว่าคริชเป็นคนฆ่าลูกของเธอและจะไม่มีวันได้รู้
ความรักที่กาล่ามอบให้คริชนั้นหนักแน่นเสียจนต่อให้คริชสารภาพบาปของเธอออกมาตอนนี้ กาล่าก็คงจะมองมันในแง่ดี แล้วบอกว่ามันเป็นแค่โชคร้ายหรืออุบัติเหตุมากกว่า
——การเอาคืนเล็กๆน้อยๆของคริชกลายเป็นอุบัติเหตุ และเธอเสียใจที่พวกเขาตาย
กาล่ารักและเชื่อในตัวคริชขนาดที่จะคิดแบบนั้น
แม้มันจะดูบ้าแค่ไหน แต่ในอีกมุมหนึ่ง ก็บอกได้ว่าตอนนี้เธอมีความสุขแล้ว
คริชที่ถูกห้อมล้อมด้วยความอุ่นสบายจากกาล่า นอนฟังเรื่องราวเหล่านั้นอย่างเหม่อลอย
แม้ว่าพวกเธอจะนอนด้วยกันในคืนงานศพ แต่หลังจากนั้นคริชก็นอนคนเดียวมาตลอด
คืนนี้จึงจะเป็นคืนแรกที่เธอได้นอนหลับสบายในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
คริชที่รู้สึกพึงพอใจ ยิ้มออกมาเล็กน้อย
แต่ความรักของกาล่านี้เองที่จุดประกายความสงสัยเล็กๆในใจของคริช
มันเป็นความสงสัยที่จะมีผลกระทบต่อจิตใจที่เป็นมนุษย์ของคริชในอนาคต
แต่ในตอนนี้ มันไม่ใช่เรื่องสลักสำคัญอะไร
“…..แต่ถึงอย่างนั้น ป้าก็ไม่คิดว่าการอยู่ในหมู่บ้านนี้ต่อไปเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดของคริชอยู่ดี หนูคริชเป็นเด็กฉลาด ยังมีโอกาสได้เรียนรู้อะไรอีกเยอะ มันจะเป็นการเปิดทางไปสู่อนาคตใหม่ๆ”
“อนาคตใหม่ๆ…”
“ใช่จ่ะ เป็นอนาคตที่มีความสุข คริชรู้รึเปล่าว่าทำไมเกรซถึงตั้งชื่อหนูว่าคริช?”
“…ค่ะ ท่านแม่เล่าให้ฟังเมื่อไม่นานมานี้”
กาล่าพยักหน้าอย่างสบายใจพลางยิ้มออกมา
“พระจันทร์ในวันที่เธอถูกขอแต่งงาน ช่วงเวลาที่เธอมีความสุขที่สุดในชีวิต มันอาจจะดูเป็นเหตุผลไร้สาระแต่ในชื่อของคริชมีความสุขของเกรซอยู่ในนั้น และความสุขนั้นก็จะเกิดขึ้นกับคริชเหมือนกัน”
“…จริงเหรอ?”
เกรซมักจะหัวเราะไม่ก็ร้องไห้บ่อยๆ ชอบทำเรื่องเล็กให้เป็นเรื่องใหญ่ ทำอะไรตรงกันข้ามกับหลักเหตุผล
แต่พอนึกถึงช่วงเวลาที่เกรซมีความสุขแล้ว——คริชนึกภาพตัวเองเป็นแบบนั้นไม่ออก
คริชเอียงคอด้วยความสงสัย
“แน่นอนสิ หนูคริชจะต้องได้พบกับความสุขแน่ๆ ป้ารับประกันเลย”
กาล่ามองตาคริชแล้วตอบเธออย่างมั่นใจ
“แทนที่จะอยู่ในหมู่บ้านนี้ สู้ออกไปเห็น ไปสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆจะดีกับคริชมากกว่า ที่นั่นหนูจะได้พบความสุขมากกว่าที่หนูจะหาได้ที่นี่ มันมีอะไรหลายๆอย่างที่คริชไม่เคยเห็นมาก่อนเลยล่ะ”
“ไม่เคยเห็นมาก่อน……?”
“อื้ม ทั้งเสื้อสวยๆ บ้านเรือน หรือแม้แต่อาหาร”
—— อาหาร
ถ้าคริชมีหูสุนัขติดอยู่บนหัว ตอนนี้มันคงกำลังตั้งขึ้น
คริชยังไม่ค่อยเข้าใจว่าเมืองเป็นยังไง เธอคิดว่ามันน่าจะเหมือนกับหมู่บ้านใหญ่ๆ
แต่ปัญหาคือ——
“…..แต่ว่า คริชจะไม่ได้มายืมใช้เตาอบของคุณป้าอีก”
มันทั้งอยู่ใกล้และใช้สะดวก
กาล่าชะงักไป ก่อนจะกอดคริชแน่นด้วยใบหน้าที่เหมือนจะร้องไห้
“คะ คุณป้าคะ…?”
“…ไม่เป็นไรหรอก ที่นั้นดูจะเป็นบ้านหลังใหญ่ เขาน่าจะมีเตาอบที่ดีกว่าของป้าเยอะ”
อย่างนี้นี่เอง คริชคิดขณะพยายามบอกกาล่ากำลังที่รัดตัวเธอแน่น
“หายใจ ไม่ออก……”
“อะ อ้า… ขอโทษที”
กาล่าขอโทษเสียงสั่น เธอคลายกอดของเธอออกแล้วลูบหัวคริช
“… ไม่ต้องห่วงหรอก ต่อให้หนูคริชอยู่ที่ไหนก็จะต้องไม่เป็นแน่ หนูเป็นความภาคภูมิใจของเกรซกับกอร์ค่า…… และของป้าด้วย เป็นลูกสาวที่น่ารักพวกเรา ขอแค่คริชเป็นตัวของตัวเอง หนูก็จะเข้ากับที่นั่นได้…… ป้าเชื่อในตัวหนูนะ”
น้ำเสียงของกาล่าสั่นไหว แต่ก็ยังแฝงไว้ด้วยความมั่นใจ
กาล่าไม่ได้พูดอะไรต่อ คริชเองก็เงียบไปเช่นกัน
เธอเบียดตัวเข้าหากาล่า
คริชที่รับรู้ว่าบทสนทนาจบลงแล้วเตรียมตัวนอน
ไม่นานนักคริชก็ผล็อยหลับไปด้วยลมหายใจที่แผ่วเบา
ภายใต้อ้อมกอดของกาล่า
=================
ขอโทษที่ลงช้านะครับ ช่วงนี้งานที่มหาลัยกำลังเดือดเลย555555
อาทิตย์หน้าน่าจะกลับมาลงทุกวันอาทิตย์เหมือน แต่ถ้าเลทก็จะเลทไปประมาณ 1-2 วันครับ