cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ตำนานจอมราชันย์อหังการ - บทที่ 4 ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ตำนานจอมราชันย์อหังการ
  4. บทที่ 4 ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต
Prev
Next

    บทที่ 4 ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต

    

    การแสดงออกของฉินหลินพลันเคร่งขรึมยิ่งขึ้น “ผู้อาวุโสเฮย เรื่องนี้…”

    

    “อย่าบอกข้าเชียวว่าการที่เจ้าพาเขามาที่นี่ เจ้าไม่ได้คิดถึงความเป็นไปได้ที่เขาจะล้มเหลว หรือถูกพลังสะท้อนกลับจนตาย?” คำพูดที่เย็นชาของผู้อาวุโสเฮยทำให้ฉินหลินถึงกับพูดไม่ออก

    

    ในขณะที่อีกด้านหนึ่ง ลู่เฉินไม่สนใจสิ่งใด เขาเร่งฝีเท้าเดินไปที่กระบี่ดำ

    

    ทุกคนต่างมองหน้ากัน ส่วนผู้เฒ่าอ้วนมองมาที่ฉินหลิน ก่อนจะถามว่า “เจ้าต้องการให้เขาตายจริงหรือ?”

    

    ฉินหลินทำอะไรไม่ถูก เขาแสดงท่าทีลำบากใจขณะกล่าว “เขาเป็นคนเช่นนี้เอง”

    

    ผู้เฒ่าอ้วนได้ยินดังนั้นก็ได้แต่ถอนหายใจ “ถ้าผู้เป็นบิดามารู้ว่าลูกชายของเขาจะต้องมาตายตกเช่นนี้เพราะเจ้า แล้วเจ้าจะเอาหน้าที่ไหนไปเผชิญหน้ากับพ่อของเขา?!”

    

    ดวงตาของฉินหลินพลันเปลี่ยนเป็นสีแดงก่ำ เมื่อเขานึกถึงพ่อของลู่เฉิน

    

    ทว่าในขณะนั้น ลู่เฉินได้มายืนอยู่เบื้องหน้ากระบี่สีดำแล้ว ก่อนที่ชายหนุ่มจะยื่นมือข้างหนึ่งออกไป…

    

    และเพียงแค่สัมผัสด้ามของกระบี่ ตัวกระบี่พลันกะพริบแสงสีดำออกมา จากนั้นกระบี่ปราณนับไม่ถ้วนก็ได้ถูกปลดปล่อยออกมาทันที!!

    

    หนึ่ง…

    

    สอง…

    

    สาม!…

    

    ทุกคนต่างตกใจกับภาพตรงหน้า

    

    “สาม!”

    

    แล้วก็ยังมีกระบี่ที่สี่ กระบี่ที่ห้า…

    

    ทุกคนที่อยู่ในบริเวณนี้ต่างตกตะลึง ขณะที่ผู้อาวุโสเฮยขมวดคิ้ว “นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

    

    ไป๋อู่จินเองก็แสดงความประหลาดใจออกมาเช่นกัน “ไม่มีรากวิญญาณแท้ ๆ แต่เขากลับสามารถเรียกกระบี่ปราณออกมาได้มากขนาดนี้เชียว?”

    

    “นี่มัน!” ฉินหลินตกตะลึงนิ่งงันไปกับภาพตรงหน้า ในขณะที่ผู้เฒ่าอ้วนส่ายหน้า “เร็วเข้า รีบแต่งตั้งเขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์!”

    

    แม้จะเรียกกระบี่ปราณมาได้ถึงห้าเล่มแล้วก็ตาม ทว่าชายหนุ่มยังไม่คิดที่จะหยุดแม้แต่น้อย

    

    และขณะนี้ก็มีกระบี่ปราณปรากฏออกมามากถึงเก้าเล่ม!

    

    อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้เห็นภาพตรงหน้า ผู้อาวุโสเฮยกลับกล่าวอย่างเสียดายออกมาว่า “กระบี่ปราณเก้าเล่ม? เช่นนั้นแรงสะท้อนกลับก็จะยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้นไปอีก!”

    

    หลังจากได้ยินเรื่องนี้ บรรดาผู้คนโดยรอบต่างตระหนักได้ในทันทีว่ากำลังมาถึงส่วนสำคัญของการทดสอบแล้ว!

    

    ลู่เฉินหลับตาลง ปล่อยให้จิตสำนึกของเขาล่องลอยอยู่ในพื้นที่มืดมิดแห่งหนึ่ง

    

    ในพื้นที่แห่งนี้มีภูตกระบี่อยู่ตนหนึ่ง รูปลักษณ์ของมันค่อย ๆ ปรากฏออกมาอย่างชัดเจน …กระทั่งเผยให้เห็นชายหนุ่มในร่างโปร่งแสงผู้หนึ่ง!

    

    ชายคนนี้ก็คือวิญญาณกระบี่!

    

    ย้อนกลับไปในตอนนั้น จิ่วโหยวได้ขอให้ลู่เฉินตั้งชื่อวิญญาณกระบี่ตนนี้

    

    และเนื่องจากกระบี่เล่มนี้ได้รับการขัดเกลาโดยลู่เฉิน ชายหนุ่มจึงขนานนามมันว่า ‘สวีปิง’

    

    เมื่อสวีปิงเห็นร่างจิตสำนึกของลู่เฉิน วิญญาณกระบี่ตนนั้นก็พลันแสดงท่าทีตื่นเต้น และทักทายเขาว่า “ผู้อาวุโส!”

    

    “หนึ่งแสนปีมาแล้ว ทว่าเจ้าก็ยังคงไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย!” ลู่เฉินมองดูพลางยิ้มออกมาเล็กน้อย

    

    สวีปิงที่ได้ยินดังนั้นก็ตอบกลับด้วยความหวาดกลัว “ผู้อาวุโส ท่านเองก็ไม่เปลี่ยนแปลงเลยเช่นกัน!”

    

    “ข้าหรือ? ไม่เลย ข้าอ่อนแอนัก! ไม่เห็นหรือว่าตอนนี้ข้าอยู่เพียงขั้นกลั่นลมปราณระดับห้าเท่านั้น?” ลู่เฉินยิ้มอย่างขมขื่น

    

    วิญญาณกระบี่พลันพูดอย่างกังวลว่า “ผู้อาวุโส นี่มันเกิดอันใดขึ้น?”

    

    ลู่เฉินไม่ได้ตอบอะไร เขาเพียงบอกว่ามีบางอย่างผิดปกติกับการฝึกฝน

    

    หลังจากได้ยินเรื่องนี้ สวีปิงก็กล่าวอ้อนวอน “ผู้อาวุโส ท่านพาข้าไปได้หรือไม่?”

    

    “พาเจ้าไป?” ลู่เฉินไม่รู้ว่าอีกฝ่ายหมายถึงอะไร

    

    สวีปิงที่ได้ยินดังนั้นก็รู้สึกเศร้าเล็กน้อย “ตลอดแสนปีที่ผ่านมานี้ ไม่มีใครรับรู้ถึงการดำรงอยู่ของข้าเลยสักคน…”

    

    ลู่เฉินสัมผัสได้ถึงความเหงาของอีกฝ่าย จึงกล่าวว่า “เช่นนั้น เจ้าก็ตามข้าไปก่อนแล้วกัน”

    

    เมื่อได้ยินเช่นนี้ สวีปิงก็พลันตอบรับด้วยความตื่นเต้น “ขอรับ!”

    

    “ตกลง! เช่นนั้นข้าจะออกไปก่อนแล้วกันนะ!” หลังจากที่ลู่เฉินกล่าวจบ จิตสำนึกของเขาก็กลับเข้าร่าง และลืมตาขึ้นอีกครา

    

    ในขณะที่ลู่เฉินยืนอยู่ตรงนั้นคล้ายกับว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทว่าทุกคนในที่นี้ต่างพากันตะลึงงันกับภาพตรงหน้า

    

    เพราะเมื่อลู่เฉินเหยียดมือออก กระบี่ปราณทั้งเก้าพลันเกิดการเปลี่ยนแปลง

    

    พวกมันค่อย ๆ ผสานรวมกัน ก่อนที่สิ่งของมายาจะกลายเป็นของจริง หลอมรวมกันเป็นกริชเล่มเล็กร่วงหล่นลงมาสู่กลางฝ่ามือของชายหนุ่มอย่างนิ่มนวล!

    

    “น… นะ…. นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” ผู้คนที่อยู่ตรงนั้นถึงกับตะลึง และสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น

    

    เช่นเดียวกันกับทางฝั่งผู้อาวุโสเฮย เขาเองก็ประหลาดใจไม่น้อยเช่นกัน “เจ้าหนู เจ้าทำอันใดกับกระบี่สยบเก้าทิศ?”

    

    “กระบี่เล่มนี้ยอมรับข้าเป็นนายแล้ว มีปัญหางั้นหรือ?” ลู่เฉินกล่าวพลางมองผู้อาวุโสเฮย

    

    และเมื่อทุกคนได้ยินเช่นนั้นก็หันมาสบตากัน

    

    “ยอมรับเป็นนาย กระบี่เล่มนี้ยอมรับเขาเป็นนายจริงหรือ?!”

    

    “เป็นไปได้อย่างไร?!”

    

    “กระบี่เล่มนี้ไม่จำเป็นต้องขัดเกลา ก็สามารถยอมรับเป็นนายได้เลยหรือ?”

    

    มีคำถามผุดขึ้นมามากมาย

    

    แม้แต่ฉินหลินเองก็ยังสงสัย ทว่าไป๋อู่จินก็ได้ไขข้อข้องใจให้กับทุกคน

    

    ”แท้จริงแล้ว มีสองวิธีด้วยกันที่จะทำให้กระบี่ยอมรับคนผู้นั้นเป็นนาย หนึ่งคือการขัดเกลา และสองคือการที่วิญญาณของอาวุธชิ้นนั้น …ยอมรับคนผู้นั้นเป็นนายด้วยตนเอง! ทว่าตลอดชีวิตที่ผ่านมา ข้ากลับไม่เคยเห็นผู้ที่ทำสำเร็จด้วยวิธีที่สองมาก่อน!!!”

    

    “อะไรนะ” ทุกคนตกตะลึง

    

    ผู้เฒ่าอ้วนก้าวไปข้างหน้าและชมเชย “นับว่าเป็นโชคของสำนักเราอย่างแท้จริง!”

    

    ฉินหลินเองก็ได้กล่าวเสริมออกมาอย่างมีความสุขเช่นกัน “ด้วยการทดสอบนี้ อย่าว่าแต่ตำแหน่งบุตรศักดิ์สิทธิ์เลย แม้แต่จะขึ้นครองตำแหน่งที่เหนือกว่าผู้นำสำนักก็ยังไร้ปัญหา!”

    

    เหนือกว่าผู้นำสำนัก? นั่นคือตำแหน่งอะไรกัน?

    

    ศิษย์ทั้งหลายต่างตกใจ โดยเฉพาะผู้ที่เคยเยาะเย้ยลู่เฉิน บัดนี้พวกเขากลัวอย่างยิ่งว่าลู่เฉินจะสร้างปัญหาให้กับพวกเขาในอนาคต แต่ละคนจึงมีอาการประหม่าขึ้นมา

    

    ในขณะที่ผู้อาวุโสเฮยกล่าวขึ้นอย่างไม่พอใจ “ตามกฎแล้ว การทดสอบกระบี่นี้เป็นเพียงขั้นแรก ขั้นที่สองต่างหากเล่าที่สำคัญ!”

    

    “ยังมีขั้นที่สองอีกหรือ?” ฉินหลินตกตะลึง ขณะที่รอยยิ้มของผู้เฒ่าอ้วนค่อย ๆ หายไป และกล่าวว่า “ผู้อาวุโสรอง พวกเราไม่ทำการทดสอบขั้นที่สองได้หรือไม่?”

    

    “ตามกฎของสำนัก เมื่อมีผู้ใดเรียกกระบี่ปราณได้เกินเจ็ดเล่ม คนเหล่านั้นจะต้องรับการทดสอบขั้นที่สอง!” ผู้อาวุโสเฮยหยิบบันทึกกฎเกณฑ์ของสำนักเก้าสุขสงบออกมา

    

    ผู้เฒ่าอ้วนขมวดคิ้ว “แต่นั่นมันเมื่อหลายหมื่นปีที่แล้ว และในยุคสมัยนี้ ข้าก็ไม่เคยเห็นผู้ใดรับการทดสอบนี้มาก่อน!”

    

    “นั่นเป็นเพราะไม่มีใครสามารถเรียกกระบี่ปราณได้เกินเจ็ดเล่มมาก่อน!” ผู้อาวุโสเฮยอ้างเหตุผลที่ทำให้ผู้เฒ่าอ้วนวิตกกังวล และฉินหลินก็ถึงกับขมวดคิ้ว เนื่องจากไม่อาจโต้แย้งข้อเท็จจริงเรื่องนี้ได้เลย

    

    ทว่าลู่เฉินกลับยังคงสงบนิ่ง “การทดสอบขั้นที่สองคืออะไร?”

    

    “นำสำนักเก้าสุขสงบผงาดขึ้นเป็นอันดับหนึ่งแห่งแดนทักษิณา!” ผู้อาวุโสเฮยจ้องที่ลู่เฉิน ไม่มีทีท่าของการลดราวาศอก

    

    ทุกคนตกใจเมื่อได้ยินคำว่า ‘อันดับหนึ่งแห่งแดนทักษิณา’

    

    เนื่องจากแดนทักษิณาเป็นพื้นที่ทางตอนใต้ของจิ่วโหยว อีกทั้งยังมีสำนักและสำนักฝึกตนไม่น้อย อย่างเช่นสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ทว่าถึงแม้สำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์จะเป็นอันดับหนึ่งในบริเวณนี้ แต่ก็ถูกจัดให้อยู่เพียงร้อยอันดับแรกของแดนทักษิณาเท่านั้น!

    

    ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้เลยที่สำนักเก้าสุขสงบจะถือครองอันดับหนึ่ง และขึ้นเป็นผู้นำของแดนทักษิณา

    

    หลังคิดได้เช่นนั้น ฉินหลินและผู้เฒ่าอ้วนจึงเริ่มโต้เถียงกับผู้อาวุโสเฮย ทว่าอีกฝ่ายเพียงแค่นำบันทึกลายลักษณ์อักษรของสำนักมาเปิดออก พร้อมกับอธิบายสิ่งที่เขียนอยู่ภายใน ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงสิ้นข้อโต้แย้ง

    

    แต่ในเวลานี้เอง ไป๋อู่จินกลับกล่าวขึ้นว่า “การผงาดขึ้นมาเป็นสำนักอันดับหนึ่งของแดนทักษิณา หาใช่ที่จะทำได้ภายในชั่วข้ามคืน ดังนั้นตามกฎแล้ว ข้าคิดว่าเขาต้องเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์เสียก่อน!”

    

    หลังจากที่ฉินหลินได้ยินคำพูดของผู้อาวุโสไป๋ เขาก็เห็นด้วยทันที “ใช่แล้ว สิ่งที่ผู้อาวุโสใหญ่พูดนั้นถูกต้อง!”

    

    ผู้เฒ่าอ้วนเองก็เห็นด้วย “ใช่!”

    

    ส่วนผู้อาวุโสเฮยกำลังกังวล “ท่าน…”

    

    “ก็ดั่งเช่นที่เจ้าบอกไว้ก่อนหน้า การเรียกกระบี่ปราณได้เจ็ดเล่ม มันหมายถึงตำแหน่งเจ้าสำนัก …ไม่ใช่หรือไร?” ไป๋อู่จินกล่าว

    

    เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการบอกผู้อาวุโสเฮยว่า หากลู่เฉินจะขึ้นเป็นเจ้าสำนักก็ย่อมเป็นได้!

    

    เมื่อผู้อาวุโสเฮยถึงกับตกใจ …หากลู่เฉินกลายเป็นผู้นำสำนักจริง ๆ ตัวเขาจะต้องเผชิญกับคราวเคราะห์เป็นแน่! ดังนั้นหลังจากคิดดูแล้ว จึงจำใจเอ่ยว่า “เช่นนั้น ก็ให้เขาเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์ก่อนแล้วกัน!”

    

    ตอนนั้นเองที่ไป๋อู่จินหันมองลู่เฉิน “แล้วเจ้าเล่า เจ้ามีความคิดเห็นกับเรื่องนี้อย่างไร?”

    

    ลู่เฉินมาที่นี่เพื่อเอาวัตถุดิบบางอย่างเท่านั้น เขาไม่สนใจที่จะกลายเป็นผู้นำอันดับหนึ่งแห่งแดนทักษิณา แต่พอใจกับสถานะ ‘บุตรศักดิ์สิทธิ์’ เขาจึงตอบไปว่า “ไม่มีปัญหา!”

    

    ไป๋อู่จินพยักหน้า “ตามกฎของสำนัก ผู้ที่กลายเป็นบุตรศักดิ์สิทธิ์จะต้องเตรียมตัวให้ดี และเข้าร่วมงานประลองสิบสำนัก!”

    

    งานประลองสิบสำนักคืออันใด?

    

    ลู่เฉินไม่เข้าใจแม้แต่น้อย ทว่าฉินหลินกลับตกใจ เขารีบเอ่ยแย้งทันที “ผู้อาวุโส งานประลองจะจัดขึ้นในครึ่งปีหน้าแล้ว! …ข้าเกรงว่าสำหรับเขา มันจะไม่ทันการณ์เกินไป!”

    

    ทว่าไป๋อู่จินต้องการเห็นความสามารถที่แท้จริงของลู่เฉิน จึงกล่าวว่า “…นี่เป็นกฎ!”

    

    ผู้อาวุโสเฮยฉวยโอกาสนี้ในการกล่าวเสริม “ใช่แล้ว …นี่คือกฎ!”

    

    ไป๋อู่จินหันมองผู้เฒ่าอ้วน ก่อนจะสั่งว่า “การฝึกฝนของเขาในช่วงหกเดือนข้างหน้านี้ …มอบให้กับเจ้าแล้วกัน!”

    

    หลังจากพูดจบ ไป๋อู่จินก็พลันหันหลังจากไป เช่นเดียวกับผู้อาวุโสเฮยที่กลับไปพร้อมรอยยิ้มชั่วร้ายบนใบหน้า

    

    ลู่เฉินไม่ชอบความวุ่นวายนัก เขาจึงรีบออกมาจากฝูงชน โดยให้ผู้เฒ่าอ้วนและฉินหลินเดินนำ จนกระทั่งมาถึงเส้นทางที่ไม่มีคนอาศัยอยู่

    

    “ข้าว่า เจ้าควรไปเสีย” จู่ ๆ ฉินหลินก็พูดขึ้น

    

    เช่นเดียวกับผู้เฒ่าอ้วนที่ถอนหายใจ “เขาจะเข้าร่วมงานประลองสิบสำนักโดยไม่มีรากวิญญาณได้อย่างไร!”

    

    “งานประลองสิบสำนักคืออะไร?” ลู่เฉินถามด้วยความสงสัย

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 4 ไม่มีอดีต ไม่มีอนาคต"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved