cat2auto | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
Advanced
  • หน้าหลัก
  • อ่านมังงะ
  • เว็บอ่านมังงะ
  • นิยายวาย [Yaoi]
  • Nekopost
  • Niceoppai
  • รออัพเดท
  • มังงะ18+
  • แทงหวย24
  • manga
  • Romance
  • Comedy
  • Shoujo
  • Drama
  • School Life
  • Shounen
  • Action
  • MORE
    • Adult
    • Adventure
    • Anime
    • Comic
    • Cooking
    • Doujinshi
    • Ecchi
    • Fantasy
    • Gender Bender
    • Harem
    • Historical
    • Horror
    • Josei
    • Live action
    • Manga
    • Manhua
    • Manhwa
    • Martial Arts
    • Mature
    • Mecha
    • Mystery
    • One shot
    • Psychological
    • Sci-fi
    • Seinen
    • Shoujo Ai
    • Shounen Ai
    • Slice of Life
    • Smut
    • Soft Yaoi
    • Soft Yuri
    • Sports
    • Tragedy
    • Supernatural
    • Webtoon
    • Yaoi
    • Yuri
Prev
Next

ตำนานจอมราชันย์อหังการ - บทที่ 33 ราชันย์กระบี่ร้อยคม ซือตู๋เทียน

  1. Home
  2. All Mangas
  3. ตำนานจอมราชันย์อหังการ
  4. บทที่ 33 ราชันย์กระบี่ร้อยคม ซือตู๋เทียน
Prev
Next

    บทที่ 33 ราชันย์กระบี่ร้อยคม ซือตู๋เทียน

    

    เถียนเฟิงหวาดกลัวยิ่งนัก ถึงขนาดที่ว่าทำได้เพียงกล่าวด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกักอย่างฉงน “จ… จะ… โจมตี?”

    

    “มัวยืนบื้ออันใด! ตอนนี้ถือเป็นโอกาสดีที่สุดแล้ว!!” สือเซียวซึ่งมีพลังอยู่ในขั้นสร้างรากฐานระดับกลางสามารถสัมผัสได้อย่างชัดเจนถึงความน่าสะพรึงของปราณกระบี่พวกนี้ เขาจึงร้องสั่งเพราะคิดอยากจัดการลู่เฉินให้เร็วที่สุด!

    

    เมื่อเถียนเฟิงเข้าใจคำสั่งดังกล่าวแล้ว เขาจึงรีบถ่ายทอดคำสั่งแก่พลธนูในบริเวณนั้นทันที “ยิง ยิงมัน!”

    

    พลธนูต่างก็ดึงรั้นคันศรพลางโคจรลมปราณเข้าใส่ และพร้อมแล้ว… ที่จะเหนี่ยวนำลูกธนูปราณให้พุ่งตรงสู่เป้าหมายได้ทุกเมื่อ!

    

    คันธนูเหล่านี้ไม่ใช่คันธนูธรรมดาทั่วไป แต่เป็นศาสตราวุธระดับต่ำ

    

    เมื่อรวบรวมพลังเข้าด้วยกัน มันก็จะเปลี่ยนรูปกลายเป็นปราณธนูที่ทรงพลัง!

    

    ฉับพลันนั้นเอง ปราณธนูก็ได้พุ่งออกไปหาลู่เฉินผู้เป็นเป้าหมาย

    

    แม้จะเห็นดังนั้น ทว่าลู่เฉินก็ยังปล่อยปราณกระบี่นับสิบออกโจมตี!

    

    ว่าแล้วปราณกระบี่เหล่านั้นก็พุ่งทะยานตัดสุญญะ มันทำลายม่านปราณของผู้นำตระกูลหลิว และส่งอีกสามเล่มที่เหลือพุ่งเสือกแทงร่างของเป้าหมาย ทำให้อีกฝ่ายถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนล้มลงกับพื้น

    

    เมื่อลู่เฉินปล่อยปราณกระบี่ออกไปหมดสิ้น เขาพลันหันไปบอกเจี่ยลัวว่า “เจ้าจงดูแลตัวเองให้ดี!”

    

    เจี่ยลัวเข้าใจโดยไม่ต้องเอ่ยถามใด ๆ เขาใช้พลังขั้นสร้างรากฐานปลดปล่อยพลังปราณสร้างม่าน และเมื่อมีม่านปราณเหล่านี้แล้ว ปราณธนูพวกนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป

    

    ทว่าเจี่ยลัวกลับเป็นห่วงลู่เฉินมากว่า

    

    อีกด้าน ณ จุดเดิม ปิงหลิวหลียังคงเฝ้าดูเหตุการณ์ทั้งหมด และนางรู้สึกเป็นกังวลยิ่งนัก “นี่มันบ้าไปแล้ว จะไม่หนีงั้นหรือ?”

    

    แต่ใครจะรู้ว่ารอบกายลู่เฉินจะปรากฏกำแพงโปร่งแสงสีน้ำตาลขึ้นรอบด้าน! ซึ่งกำแพงนี้ก็หนาถึงสองชั้นเลยทีเดียว!

    

    ผู้คนต่างสงสัยว่านี่คือเคล็ดวิชาแบบใดกัน ?

    

    จนกระทั่งปราณธนูเหล่านั้นพุ่งกระทบกับ ‘กำแพง’ ธนูเหล่านั้นก็พลันกระจายหายไปทีละดอก ส่วนลู่เฉินน่ะหรือ? ตัวเขาไม่แม้แต่จะถูกสะกิดปลายรูขุมขน!

    

    “นี่… เป็นไปได้อย่างไร?” บรรดาทหารยามต่างก็หวาดกลัวกันขึ้นมาบ้างแล้ว

    

    ส่วนเถียนเฟิงเองก็รู้สึกจุกแน่นที่ลำคอขึ้นมา “น… นะ… นี่!”

    

    สือเซียวที่เห็นภาพตรงหน้าเริ่มนั่งไม่ติด ขณะที่ปิงหลิวหลีกลับเอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม “กำแพงพันชั้น?”

    

    ‘กำแพงพันชั้น’ คือเคล็ดวิชาในธาตุดิน มีพลังป้องกันสูง และถูกจัดเป็นอันดับหนึ่งจากบรรดาเคล็ดซึ่งอยู่ในหมวดของธาตุดิน

    

    และที่สำคัญไปกว่านั้นคือมันยังเป็นหนึ่งในวิชาธาตุดินซึ่งฝึกยากที่สุดวิชาหนึ่งอีกด้วย!!

    

    แต่ลู่เฉินกลับร่ายเพียงครั้งเดียวก็สามารถเรียกออกมาได้ถึงสองชั้น!

    

    แม้ชายหนุ่มจะตกเป็นเป้าของศัตรูโดยรอบ ทว่าลู่เฉินกลับดูเคร่งขรึมและสงบมาก เมื่อสร้างกำแพงดินขึ้นมาแล้ว เขาก็พลันกวาดสายตามองผู้คนที่ล้อมรอบแล้วกล่าวว่า “ในเมื่อพวกเจ้าไม่ไสหัวไป เช่นนั้นก็อย่ามาโทษข้าแล้วกัน!”

    

    อึดใจถัดมา ภาพที่เกิดขึ้นก็ทำให้ผู้คนต่างหวาดกลัว!

    

    ลู่เฉินเริ่มร่ายเคล็ดวิชากระบี่เก้าสุขสงบ ก่อนจะส่งปราณกระบี่นับพันออกโจมตีไปทั่วทิศ และแน่นอนว่า… ผู้ฝึกตนที่มีขั้นพลังต่ำต้อยอย่างกลั่นลมปราณก็ไม่อาจต้านทานได้เลย พวกเขาบาดเจ็บก่อนจะล้มตายลงทีละคน

    

    สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้เถียนเฟิงหวาดกลัว เขาร้องสั่งให้ผู้ฝึกตนที่หลงเหลืออยู่มาโอบล้อมตนเองและสือเซียว

    

    ทว่าลู่เฉินไม่สนใจพวกเขาแม้แต่น้อย ชายหนุ่มกลับเดินเข้าไปหาอวิ๋นซานที่บาดเจ็บสาหัส

    

    ว่าแล้วลู่เฉินก็รีบตัดเชือกที่มัดอวิ๋นซานออก จากนั้นจึงมอบนางให้เจี่ยลัวช่วยดูแล แต่เมื่อพบว่าบาดแผลบนร่างของอวิ๋นซานนั้นค่อนข้างสาหัส ดวงตาของลู่เฉินก็ฉายแววเย็นชาขึ้นมา จากนั้นจึงหันมองไปยังกลุ่มคนที่ยังหลงเหลืออยู่พวกนั้น!

    

    เมื่อเห็นสายตาเช่นนี้ เถียนเฟิงพลันเอ่ยออกมาอย่างตะกุกตะกะ “ลู่… คุณชายลู่ ท่านอย่าวู่วามไป”

    

    “วู่วาม?”

    

    “ท่าน ท่านพึ่งทำร้ายผู้ตรวจการไป แล้วตอนนี้ท่านก็ทำร้ายคนในจวนเจ้าเมืองไปมากมาย ถ้าหากท่านยังทำผิดต่อไป ท่าน… ท่านอาจจะกลายเป็นนักโทษที่ราชสำนักต้องการตัวก็เป็นได้” เถียนเฟิงกล่าวขู่ลู่เฉิน

    

    ไม่เพียงแค่เถียนเฟิงเท่านั้น เพราะแม้แต่หลู่หยวนที่ถูกเจี่ยลัวจับอยู่ยังพูดละล่ำละลักออกมา “ข้าเห็นด้วย ท่าน ถ้าท่านปล่อยข้าไป ท่านจะยังมีโอกาสพ้นผิดได้”

    

    “โอกาสพ้นผิด?” ลู่เฉินยิ้มอย่างเย็นชา

    

    เมื่อหลู่หยวนเห็นรอยยิ้มดังกล่าว เขาก็ไม่กล้าที่จะคาดเดาต่อไป ทว่าในจังหวะนั้นเอง จู่ ๆ ลู่เฉินก็พลันปล่อยหมัดออกมา และแรงกระแทกของมันนั้นก็มากพอที่จะทำให้หลู่หยวนสิ้นชีวิตลงในพริบตา!

    

    การกระทำเช่นนี้ทำให้เจี่ยลัวรู้สึกตกใจยิ่งนัก!

    

    “เท่านี้ปัญหาก็หายไปแล้ว” สิ้นประโยคสุดท้ายของลู่เฉิน ผู้คนโดยรอบต่างก็หวาดกลัวขึ้นมาอีกครั้ง

    

    เพราะพวกเขาไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เฉินจะกล้าลงมือปลิดชีวิตผู้ตรวจการได้!

    

    สิ่งที่เกิดขึ้นต่อหน้านี้ทำให้เถียนเฟิงบ้าคลั่งในทันที ส่วนสือเซียวเองก็หวาดกลัวจนเหงื่อตก เขาเอาแต่พึมพำกับตัวเองว่า “เขาไม่มีรากวิญญาณ แต่เหตุใดกลับกลายเป็นน่ากลัวเช่นนี้?!”

    

    ลู่เฉินยกกระบี่ขึ้นมาอีกครั้ง สือเซียวที่เห็นเช่นนั้นก็ลนลานหยิบบางสิ่งออกมา มันดูคล้ายกับนกกระดาษ และเมื่อบีบให้แตกออก ประกายสีเขียวบางอย่างก็ได้เกิดขึ้นก่อนจะจางหายไป

    

    จากนั้นสือเซียวก็กล่าวออกมาอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ “ข้าจะบอกอะไรแก่เจ้า ข้าได้ส่งสารแก่ท่านอาจารย์ในสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์แล้ว ดังนั้น… ทางที่ดีคือเจ้าควรรีบหนีไปซะ มิฉะนั้นเจ้าอาจจะต้องจบชีวิตลงแน่!”

    

    “วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นใครมาก็ไม่มีประโยชน์ทั้งนั้น!” ลู่เฉินกล่าวอย่างเย็นชา

    

    ไม่มีใครคาดคิดว่าลู่เฉินจะบ้าได้ถึงเพียงนี้ และเมื่อได้ยินเช่นนี้สือเซียวเองก็ร้อนใจขึ้นมา “เจ้า… เจ้าจะทำอะไรกันแน่?”

    

    “เจ้าทำร้ายข้าย่อมได้ แต่เจ้ากลับหันไปทำร้ายคนในตระกูลลู่แทน เจ้าคิดว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปงั้นหรือ?” สิ้นเสียงลู่เฉิน ปราณกระบี่มากมายก็ถูกปล่อยออกมา ก่อนเงากระบี่นับพันจะถูกบีบอัดจนเหลือเพียงสิบอีกครา!

    

    บรรดาทหารยามที่อยู่ด้านหน้าเถียนเฟิง เมื่อหมดสิ้นแล้วซึ่งความกล้า พวกเขาก็ไม่อาจอดกลั้นได้อีกต่อไป ต่างก็พากันรีบหนีออกไปด้วยความหวาดกลัวในทันที!

    

    “กลับมา พวกเจ้ากลับมาหาข้าก่อน!” เถียนเฟิงเบิกตากว้างพลางตะโกนร้องเรียกเสียงดัง

    

    ส่วนสือเซียวก็หวาดกลัวจนหน้าซีดเผือด

    

    เมื่อเห็นลู่เฉินควบคุมปราณกระบี่นับสิบไปทางเถียนเฟิง อีกฝ่ายก็หวาดกลัวเสียจนล้มลุกคลุกคลาน ไม่กล้าแม้แต่จะคิดรับมือ ทำให้ปราณกระบี่ที่ถูกปล่อยออกมาพุ่งไปยังเสาหินต้นหนึ่งแทน!

    

    ซึ่งความรุนแรงของปราณกระบี่ก็มากพอที่จะทำให้เสาหินหักพังและแตกกระจายออก!

    

    สือเซียวที่อยู่ด้านข้างเสาหินนั้นถูกแรงกระแทกจากเศษหินเข้าเต็ม ๆ ทำให้เจ้าตัวต้องกรีดร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด

    

    …ขณะที่ลู่เฉินกำลังจะลงมืออีกครั้ง จู่ ๆ ก็มีเสียงหนึ่งตะโกนขึ้น “หยุดมือ!”

    

    ท่ามกลางสถานการณ์ในตอนนี้ ร่างของชายวัยกลางคนผู้หนึ่งพลันปรากฏขึ้น! เขาคนนี้มีใบหน้าที่เย็นชาและกำลังยืนเหยียบอยู่บนกระบี่บิน!

    

    หลังจากผู้คนเงยหน้าขึ้นมอง พวกเขาก็พลันรู้สึกตกตะลึงงัน “ราชันย์กระบี่ร้อยคมแห่งสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์”

    

    “อะไร? เขาคือราชันย์กระบี่ร้อยคม ซือตู๋เทียน?”

    

    “ใช่ คือเขา ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดแห่งสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์”

    

    ราวกับสือเซียวมองเห็นแสงแห่งความหวังขึ้นมาอีกครั้ง จึงรีบพาร่างที่อาบไปด้วยเลือดไปหาซือตู๋เทียนทันที “ท่านอาจารย์ ช่วย… ช่วยข้าด้วย!”

    

    ซือตู๋เทียนวางสองมือไพล่หลัง และกล่าวกับลู่เฉินด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น “เจ้ามีรากวิญญาณแล้ว?”

    

    ทว่าลู่เฉินตอบกลับอย่างไม่สนใจฐานะของอีกฝ่าย “จะมีหรือไม่มีแล้วเกี่ยวอะไรกับเจ้าด้วย?”

    

    ทว่าซือตู๋เทียนคล้ายไม่สนใจฟัง เขากวาดสายตามองผู้คนรอบ ๆ จนกระทั่งมาหยุดที่หลู่หยวนผู้สิ้นชีพ “เจ้าปลิดชีวิตผู้ตรวจการไปแล้ว ถ้าหากไม่อยากกลายเป็นนักโทษทางการก็จงติดตามข้ากลับไปสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ เช่นนั้นถึงจะรักษาชีวิตของเจ้าไว้ได้!”

    

    “กลับสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์? เจ้าคิดว่าเป็นไปได้งั้นหรือ?” ลู่เฉินตอบกลับ

    

    ซือตู๋เทียนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา “ด้วยวิชาความสามารถของเจ้า เพียงแค่กลับไปยังสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์และไปคุกเข่าสำนึกผิดกับเหล่าผู้อาวุโส เจ้าก็ย่อมสามารถกลับไปเป็นศิษย์สำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์เช่นเดิมได้ ถึงครานั้น พวกเราสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ก็จะส่งคนไปรายงานราชสำนักเพื่อช่วยแก้ต่างให้เจ้าเอง!”

    

    เมื่อผู้คนได้ฟังคำของซือตู๋เทียน ก็พลันรู้ว่าอีกฝ่ายมาเพื่อพาตัวลู่เฉินกลับไปยังสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์อีกครั้ง

    

    แต่สือเซียวกลับไม่ยินดีด้วยสักนิด “ท่านอาจารย์ เหตุใจจึงต้องพาเขากลับไป?”

    

    “ไอ้คนอัปยศ!” ซือตู๋เทียนตวาดขึ้น ทำให้สือเซียวหยุดคำพูดลงทันที จากนั้นซือตู๋เทียนก็หันไปกล่าวกับลู่เฉินต่อ “เจ้าคิดเห็นอย่างไร?”

    

    ลู่เฉินคลี่ยิ้มออกมา “อยากให้ข้ากลับไปสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์?”

    

    “ใช่” ซือตู๋เทียนตอบรับอย่างตรงไปตรงมา

    

    “ได้ เพียงแต่ว่า…”

    

    “เพียงแต่อันใด?” ซือตู๋เทียนถามอย่างสงสัย

    

    หากพิจารณาความสามารถของลู่เฉินก็ถือว่าเป็นสิ่งที่ดีทีเดียวหากสามารถพาอีกฝ่ายกลับไปยังสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ได้ เพราะขอเพียงได้ฝึกฝนอีกหน่อย ชายหนุ่มผู้นี้ก็มีหวังมากทีเดียวที่จะได้เข้าร่วมกับแดนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสามในอนาคต!

    

    “ให้ผู้อาวุโสพวกนั้นมาคุกเข่าสำนึกผิดต่อหน้าข้า แล้วก็ฆ่าคนที่ทำร้ายข้าทิ้งซะ” ลู่เฉินกล่าวด้วยรอยยิ้มเย็นชา

    

    เมื่อเอ่ยออกมาเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ทราบทันทีว่าลู่เฉินไม่ได้สนใจที่จะกลับไปยังสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย!

    

    ขณะที่ทางด้านของซือตู๋เทียน เมื่อได้ฟังคำเช่นนั้นก็พลันขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะกล่าวถามอย่างไม่เข้าใจ “เจ้าคิดหรือว่าเมื่อเข้าร่วมกับสำนักเก้าสุขสงบแล้ว พวกเขาจะออกมาปกป้องเจ้า?”

    

    “ทำไมเล่า คิดไม่ได้หรือ?” ลู่เฉินถามกลับ

    

    “ข้าจะบอกเจ้าให้ สำนักเก้าสุขสงบใกล้จะล่มสลายลงเต็มทีแล้ว ไม่ช้าก็เร็วมันจะถูกสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ทำลายจนไม่เหลือร่องรอยใด ๆ!” ซือตู๋เทียนกล่าวอย่างมั่นใจ

    

    ลู่เฉินพลันเผยรอยยิ้มเย็นชาออกมาอีกครั้ง “สิ่งที่จะหายไปจากประวัติศาสตร์ก็คือสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ของพวกเจ้า!”

    

    ซือตู๋เทียนไม่คิดว่าลู่เฉินจะไร้สติจนไม่ฟังคำใด ๆ ได้ขนาดนี้ “ดูเหมือนว่าเจ้าจะไร้สติจนไม่ฟังคำอะไรแล้ว!”

    

    “เจ้าคิดจะทำอะไรข้า?” ลู่เฉินถาม ในขณะที่ซือตู๋เทียนตอบกลับอย่างเย็นชา “เห็นทีข้าคงต้องลงมือ… บังคับเจ้าให้กลับไปยังสำนักฟ้าศักดิ์สิทธิ์ให้ได้!”

    

    พูดจบ ร่างของซือตู๋เทียนก็แผ่พลังปราณออกมา ภายในชั่วพริบตากระบี่นับร้อยก็พุ่งทะยาน ทว่ากระบี่เหล่านี้ล้วนแล้วแต่เป็นกระบี่จริง ๆ หาใช่ปราณกระบี่ไม่!!

    

    ผู้คนต่างก็ตกตะลึงกับภาพเบื้องหน้านี้ “ดูสิ เพียงชั่วครู่เขาก็สามารถควบคุมกระบี่นับร้อยได้แล้ว”

    

    “ไม่แปลกที่เขาจะถูกเรียกขานว่าราชันย์กระบี่ร้อยคม!”

    

    สือเซียวอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นกับสิ่งที่เกิดขึ้นจนต้องหันไปหัวเราะใส่ลู่เฉิน “เมื่อเจอกับอาจารย์ของข้า ชีวิตของเจ้าก็ถือว่าจบสิ้นแล้วล่ะ!”

Prev
Next
MY READING HISTORY
You don't have anything in histories
POPULAR MANGA
กระบี่จงมา
กระบี่จงมา
บทที่ 992.2 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 992.1 ดอกไม้แดงบนภูเขาเขียวดุจเพลิงลุกไหม้ 27 พฤศจิกายน 2024
323r
ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ
ตอนที่ 2138 จะทำลายพวกเจ้า 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2137 เทือกเขาแห่งความตาย 27 พฤศจิกายน 2024
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
เทพกระบี่มรณะ (chaotic sword god)
ตอนที่ 2528 - การตัดแขน 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 2527 - ชำระหนี้แค้น 27 พฤศจิกายน 2024
61d44445LSpjhqcZ
เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
บทที่ 869 ที่หลบภัย 27 พฤศจิกายน 2024
บทที่ 868 ผมซับเหงื่อให้ครับ 27 พฤศจิกายน 2024
Full-time-Artist-ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิ
Full-time Artist ใครว่าผมไม่เหมาะเป็นศิลปิน
ตอนที่ 775 อาภรณ์หลวมโพรกมิเสียดาย เพื่อเจ้าข้าผ่ายผอมยอมอิดโรย 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 774 ผีเสื้อรักบุปผา 27 พฤศจิกายน 2024
นิยายแปล-~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย-~-ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
[นิยายแปล] ~จ้าวนักสู้เกิดใหม่ทั้งทีดันเป็นนางร้าย ~ ลูน่าอยากรีไทร์แล้ว
ตอนที่ 53 - 030:แผนการฝึกนักบุญ⑦ ค้นหาศัตรู 27 พฤศจิกายน 2024
ตอนที่ 52 - 029:แผนการฝึกนักบุญ⑥ ก่อนการต่อสู้ 27 พฤศจิกายน 2024
Here for more Popular Manga

Comments for chapter "บทที่ 33 ราชันย์กระบี่ร้อยคม ซือตู๋เทียน"

MANGA DISCUSSION

ใส่ความเห็น ยกเลิกการตอบ

You must Register or Login to post a comment.

  • HOME
  • COOKIE POLICY

© 2025 Madara Inc. All rights reserved