ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!! - บทที่ 2 ตอนที่ 71 ส่งท้ายความสุข เผชิญหน้ากับนรก (3)
- Home
- All Mangas
- ตัวของผมในต่างโลก…. แม่งบ้า!!!
- บทที่ 2 ตอนที่ 71 ส่งท้ายความสุข เผชิญหน้ากับนรก (3)
เสาลำแสงสองเส้น หนึ่งเส้นสีทองและอีกหนึ่งเส้นสีแดงพุ่งขึ้นสูงสู่ฟ้า จากใจกลางของกราซ่าร์(โคลอสเซียมทรงแปดเหลี่ยม) ท่ามกลางความหมองหม่น(ฟ้าแดง)
ณ ปลายสุดของลำแสงทั้งสองเส้น ผมและซาตานเคลื่อนที่กลางอากาศด้วยความเร็วที่เทียบเท่ากับแสง เพื่อไล่ล่ากันอย่างไม่ลดละ
แต่การที่ผมจะสู้กับซาตานได้อย่างสูสีมันไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
แม้ว่าผมจะมีปีกของทูตสวรรค์อยู่ก็ตาม มันก็ไม่ได้ช่วยให้ความเร็วของเราต่างกันมากสักเท่าไรนัก อีกทั้งยังต้องมาแบกรับความเจ็บปวดจากลองกินุสไว้อีก
คงต้องบอกเลยว่าสภาพผมในตอนนี้ไม่ได้พร้อมสู้เต็มร้อยเท่าไหร่ แต่ก็จะสู้เท่าที่ไหว.. แม้จะต้องฝืนตัวเองไปสักหน่อยก็เถอะ
[ บี๋! ระวัง!! ] ลูซี่
ฟุม-
ปัง!!!
ด้วยคำเตือนของลูซี่ ได้ทำให้ผมรอดจากมือขนาดยักษ์ทั้งสองข้างของซาตานได้อย่างหวุดหวิด
” เกือบไปแล้ว! แต๊งกิ้วนะลูซี่! “
ผมไม่คิดเลยว่าหล่อนจะสามารถใช้พลังจิตเรียกใช้มือปีศาจขนาดใหญ่ทั้งสองข้างเพื่อมาไล่จับผมได้ แถมความเร็วขแงมันยังน่ากลัวมากอีกต่างหาก
” … ฮึ่ม- “
” (ยิ้ม) “ซาตาน
ผมหันหลังกลับไปมองที่ซาตาน เจ้าตัวเองก็หยุดและส่งยิ้มมาให้ผมเช่นกัน จากที่ผมได้สำรวจแถวนี้ดูคร่าวๆแล้ว.. คิดว่าน่าจะมาไกลพอแล้วล่ะ
พวกเราอยู่ห่างออกมาจากกราซ่าร์นิดหน่อย แต่ก็ยังไม่ได้ออกจากเมืองหลวง จากข้างบนนี้ผมสามารถมองเห็นการต่อสู้ของคนอื่นๆที่ปะทะกับฝูงมอนสเตอร์และหัวหน้าของพวกมันได้เลย
และดูเหมือนว่าแขกอย่างลุงเฉินเองก็จะไปช่วยลูกสาวของเขาปกป้องพวกนักเรียนเหมือนกัน
เท่ากับว่าตอนนี้มีผมเผชิญหน้ากับซาตานผู้เปรียบเสมือนตัวแทนจากนรกทั้งขุมด้วยตัวคนเดียว
ชักจะตื่นเต้นแล้วสิ-
ART – พญานาคราชร่ายรำ
ผมก้าวขาขวาออกไปข้างหลังพอประมาณ แล้วย่อตัวลงคล้ายกับว่ากำลังจะปล่อยพลังอย่างอย่างออกมา
พรึบ พรึบ-
ฟู่ว~
โฮกกกกก!!!!!!
เพลิงชำระล้างจากร่างของผมได้หลอมรวมเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นพญานาคราชจำนวนนับไม่ถ้วน พวกมันส่งเสียงคำรามโฮกฮากออของพวกมันทั้งหมดยังกมาอย่างน่าเกรงขาม แถมแต่ละเศียรของพวกมันยังลุกไหม้ไปด้วยเพลิงสีขาวของผม
ตาแดงกลมโตของพวกมันนับร้อยๆดวงต่างก็จับจ้องไปที่ซาตาน..
นี่คือร่างใหม่ของอาร์ตผมที่ไม่เคยได้ใช้มาก่อน
อนันนาคราชแห่งเพลิงสวรรค์โชติช่วง
” ย๊าากกกกกก!!! “
และในขณะที่กำลังจะทำการโจมตี ผมขอคำรามเพื่อเพิ่มขวัญกำลังใจหน่อยก็แล้วกัน!
ฟูม!!
ร่างของผมอันตธานหายไปจากท้องฟ้า ก่อนจะกลายเป็นลำแสงพุ่งตรงพร้อมง้างลูกเตะที่มาพร้อมกับพญานาคจำนวนมากเข้าหานางปีศาจคนนั้น
ประโยชน์ของอาร์ตนี้อย่างนึงเลย คือผมสามารถใช้ร่างของพญานาคที่ปรากฏขึ้นมาช่วยโจมตีได้ แถมยังช่วยส่งเสริมอานุภาพของลูกเตะขึ้นหลายเท่าตัวอีกต่างหาก ถือว่าใช้ได้เลยล่ะ ค่อนข้างเหมาะที่จะเอาไว้สู้เลย
ทว่า ผมคิดตื้นเกินไป ชั่วขณะนึงผมลืมไปว่าคนที่กำลังสู้ด้วยคือจอมปีศาจที่แข็งแกร่ง เลยไม่ได้คิดถึงผลที่ตามมาเลยว่าการที่ผมพุ่งเข้าไปหาเธอด้วยตัวเองนั้น ก็เหมือนกับแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
หรือกวางที่ไปยั่วยุเสือถึงหน้าถ้ำ..
โฮกกก!!!
ปั๊กก!!!!!
โครมม!!!
ซาตานป้องกันลูกเตะด้วยการยกแขนขวาขึ้นมาบล็อค พร้อมกับรับคมเขี้ยวของพญานาคที่หมายมั่นจะงับทั้งหมดได้ในคราวเดียว
แม้การโจมตีนี้จะดูหนักหน่วงก็ตาม ในความเป็นจริงแล้วเจ้าพญานาคพวกนี้มันไม่แม้แต่จะฝังเขี้ยวลงบนร่างของหล่อนได้เลย
เมื่อรู้ว่าการโจมตีท่านี้ไม่ได้ผล ผมจึงรีบกระพือปีกเพื่อแดชออกมาตั้งหลัก สร้างระยะห่างระหว่างเราทันที
แต่ซาตานก็ไม่ได้ให้โอกาสนั้นกับผม
แว๊บ-
เธอหายไป-
” … หายไปแล้ว.. “
อยู่ที่ไหนกัน…
แล้วยิ่งอยู่กลางอากาศแบบนี้ ผมยิ่งต้องระวังตัวรอบทิศทางเลย คอยระแวงอยูาตลอดว่าซาตานจะมาจากทางที่ผมคาดไม่ถึง
อย่างเช่นข้างหลัง ข้างบน ข้างล่าง ในมุมอับสายตาหลายๆที่
แต่ไม่ใช่เลย
วิ๊ง*
เธอมาอยู่ต่อหน้าผมต่างหาก-
” !!! “
ซาตานง้างหมัดออกไปเล็กน้อย วินาทีนั้นเป็นวินาทีทีผมไม่ทันได้ตั้งหลักให้ดี
โทสะ – โกลาหลไร้ขอบเขต
เลยถูกซาตานต่อยด้วยหมัดที่อัดแน่นไปด้วยพลังเวทกับความโกลาหลเข้าหน้าท้องแบบเต็มเหนี่ยว ความหนักหน่วงนี้ ราวกับว่าจะแยกผมกับสิ่งผูกมัดด้วยพลังทั้งหมดออกจากกันเลย (คือวิญญาณจะหลุดจากร่างนั่นแหละ)
ไม่เพียงแค่นั้น ความรุนแรงนั้นยังสะเทือนไปถึงอีเดนที่อยู่ภายใต้จิตสำนึกของผมอีกด้วย
อั๊ก!!!
เพียงแค่หมัดเดียว ก็เหมือนกับโดนเสาเข็มตอกเข้ามารวดเดียวเป็นร้อยๆครั้งเลย..
.. เป็นพลังที่หนักหน่วงอะไรอย่างนี้
หลังจากที่ผมถูกกำปั้นนั้นอัดเข้ามาอย่างจัง สติผมก็เลื่อนลอยไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนที่จะถูกซาตานตอกส้นเท้าใส่หัว
ปั่ก!!
” อุ่ค!!- “
ฟิ้ว~!
โครมม!!!
จนตัวผมที่ได้ถูกอัดซ้ำกระเด็นลงมา ไถลไปกับตึกในเมือง ทำให้หลายอาคารที่ผมผ่านไปกลายเป็นซากในทันที
อู้ย… เจ็บชิบ..หาย
” … “
ผมไม่ได้รู้สึกเจ็บอะไรเลย กลับกันผมกลับรู้สึกด้านชาซะมากกว่า ..ก็คงจะเป็นเพราะลองกินุสที่ทำให้ตัวของผมเต็มไปด้วนแผลเป็นนั่นแหละนะ
แกร็ก-
ผมลุกขึ้นมาจากซากหิน ซากตึกราบ้านช่องอย่างทุกลักทุเล
พรึบ
สะบัดเศษหินออกจากปีกเล็กน้อย
” เอาล่ะ- “
ก่อนที่จะเตรียมออกตัว เพื่อที่จะกลับไปหาซาตานทันที ทว่า ทันใดนั้น-
ฝุบ*
” ห๊า-? ท- เท้า.. ?..”
ปั่กก!!
ส้นตีนของซาตานลอยมาอยู่ต่อหน้าผม แล้วหล่อนก็ออกแรงเหยียบมาสุดแรงเกิด ทำให้หัวของผมจมลงไปกับพื้นในท่าเอนหลังแบบผิดรูป
ทุ่มม!!!
ไม่จบเพียงแค่นั้น ซาตานก็ยังออกแรกเหยียบมากยิ่งขึ้นไปอีก แม้ว่าหัวผมจะไม่บุบ ไม่ยุบเนื่องจากว่ามันแข็งก็เถอะ
แต่แม่คู๊น สงสารตึกแถวนี้มั่งเถ๊อะ!!
ตึ้งง!!!!
โครมมม!!!!
ด้วยพลังของเจ้าหล่อน ทำให้ตึกที่อยู่แถวนี้ภายในรัศมี 5 กิโลเมตรทั้งหมดพังลงมาอย่างถล่มทลาย กลายเป็นเพียงเศษซากเท่านั้น
หมับ*
ผมคว้าขาของซาตานไว้ได้
จับข้อเท้าของเธอเอาไว้แน่นจนเป็นรอยแดง ตอนนี้มือข้างหนึ่งผมยันพื้นไว้ อีกข้างก็จับขาของซาตาน ก่อนที่จะใช้มือข้างซ้ายผลักตัวเองขึ้นมาจากพื้น ทำให้ซาตานทรงตัวไม่อยู่
จากนั้นนั้นผมก็ใช้จังหวะนั้น ทำการเหวี่ยงซาตานออกไปด้วยแรงทั่งหมดที่มีอยู่ ซึ่งการเหวี่ยงหล่อนออกไปแบบนั้น ทำให้เกิดคลื่นลมกรรโชกที่รุนแรงราวกับพายุทอร์นาโด
พัดพาซากตึกทั้งหมดออกไปให้เหลืออยู่เพียงหน้าดินโล้นๆ เลย
ยัยนั่น- ต้องรีบตาม!!
ถ้าไม่รีบตามไปซ้ำต่อล่ะก็ ซาตานอาจจะกลับมาหาผมได้เร็วกว่าที่คิด-
ครูดด*
ซาตานใช้มือทั้งสองข้างของตน จิกพื้นเอาไว้เพื่อไม่ให้ตนเองถูกแรงลมซัดปลิวไปไกลมาก
และเธอก็พุ่งเข้ามาหาผมอีดครั้ง.. พร้อมกับรอยยิ้มที่แสดงถึงความเป็นยันเดเระอันคุ้นเคย
เชี่ย!! จะมาไวเกินไปแล้ว!!!
กลิ่นอายของปีศาจที่ออกมาตากซาคานตอนนี้เข้มข้นมากซะจน ทุกที่ที่หล่อนเคลื่อนผ่านได้กลายเป็นเหมือนกับพื้นที่ส่วนหนึ่งในนรกเลย
รังสีแห่งความตายได้แผ่กระจายไปทั่ว โดยมีต้นตอมาจากคนที่ผมกำลังต่อกรอยู่นี่แหละ
รู้สึกว่า.. ทุกอย่างมันเริ่มจะเกินควบคุมแล้ว-
ฟ้าว*
ไม่ทันไรที่ผมจะได้ตั้งหลักได้ทัน ซาตานก็หมุนตัวแล้วง้างขาหลังของเธอพยายามจะเตะสูงฟาดใส่หัวผมแล้ว
เห็นดังนั้นผมจึงรีบตั้งการ์ดขึ้นมาป้องกันทันที แต่การป้องกันการโจมตีระดับนี้อาจจะเกินมือผมไปสักหน่อย ..งั้นหลบเอาแทนละกัน
ขวับ*
ผมก้มตัวหลบมาได้อย่างหวุดหวิด พอได้โอกาสที่ดีแล้ว จังหวะนี้ผมเลยตีลังกากลับหลังออกไปตั้งหลักใหม่อีกครั้งหนึ่ง
” โอ้ว? “ซาตาน
” ฮึ่ม.. “
จ้องงง*
พวกเราหยั่งเชิงซึ่งกันและกันผ่านการมองหน้ากัน เพื่อวิเคราะห์สถานที่ และหาจุดอ่อนคู่ด้วยต่อสู้ด้วยตัวเอง
ตอนนี้ใครจะเปิดก่อนก็ขึ้นอยู่กับเวลาแล้วล่ะ
ผมใช้สายตาและประสาทสัมผัสแทบทั้งกมดในการจับตามองซาตานเพราะไม่รู้ว่าเธอจะมาไม้ไหนอีก
แกร๊ก-
แต่ยิ่งผมยื้อเวลาให้นานยิ่งขึ้นไปอีก รอยแตกร้าวสีทองบนร่างของผมก็เริ่มที่จะกระจายออกมากกว่าเดิม
” โอ๋~ ถอดเสื้อหรอ? “ซาตาน
” พอดีมันร้อนนิดนึงเลนขอถอนไว้ก่อน “
ผมถอดเสื้อคลุมที่ใส่อยู่ออก จนเหลือแค่ท่อนบนอันเปลือยเปล่า ที่ประดับไปด้งยรอยแผลเป็นของลองกินุส
แล้วพอผมโยนเสื้อนั้นทิ้งไป เจ้านั่นก็กลายเป็นฝุ่นเนื่องจากความร้อนในทันที
” ตัววอร์มก่อนได้เลยนะ เค้าไม่รีบ~ “ซาตาน
จ้ะ ปากก็บอกไม่รีบ แต่พอจะวอร์มจริงๆก็จะเข้ามายำหน้าตูอยู่ดีนั่นแหละ รู้นะว่าคิดอะไรอยู่น่ะยัยบ้านี่
อึ้ยย- ย๊า~
เอาล่ะ คิดว่าน่าจะพอแล้วมั้ง
ผมเริ่มบิดร่างกายไปมา เป็นการวอร์มร่างกายให้พร้อมสำหรับการต่อสู้อันหนักหน่วง พอทำๆไปสักพัก.. เสียงกระดูกลั่นมันก็ดังขึ้นมา..
กร๊อบ- แกร๊บ-
อึ๋ย.. นี่ตูห่างหายจากการออกกำลังไปนานขนาดนั้นแล้วหรอเนี่ย..
แล้วงี้จะเอายัยนั่นอยู่ไหมเนี่ย?
แม้ว่าร่างกายผมจะผ่านการสร้างร่างขึ้นมาใหม่หลายต่อหลายครั้ง ผมไม่ค่อยมั่นใจเท่าไหร่เลยว่าจะสู้กับสัตว์ประหลาดแบบนี้ได้
แต่ก็เอาไงเอากัน จะขอไปให้สุดทางเลยก็แล้วกัน
ฟู่บ!-
ขวับ
ผมเปลี่ยนรอยสักรูปหอกที่สลักบนแขนขวาให้กลายเป็นหอกสีนิลของลูซิเฟอร์ ที่ตอนนี้ผมยังไม่เอาลองกินุสออกมานั้น เป็นเพราะว่าหากผมไม่สลักลองกินุสไว้บนร่างแล้วล่ะก็..
ผมก็คงจะทนกับแรงกดดันระดับที่สามารถบดขยี้พื้นดินให้กบายเป็นผุยผงแบบนี้ไม่ไหวหรอก
[ มาสเตอร์.. ]
ทันใดนั้นเสียงหนึ่งก็ได้ดังขึ้นภายในหัว เป็นเสียงของผู้หญิง ที่ดูมีความขี้อายในระดับนึงเลย ทีแรกก็คิดว่าเป็นพวกทูตสวรรค์อยู่หรอก แต่เหมือนจะไม่ใช่แฮะ
ยัยพวกนั้นเองก็ไม่ได้ยินด้วย
” ..อืม.. “
[ ท่านกำลังจะไปตายหรือ ..? ]
” ไม่ “
” โอ้~ ? ” ซาตาน
ซาตานปล่อยให้ผมคุยกับเสียงนั้น ยังไงซะเธอก็ชิลๆอยู่แล้ว จะฆ่าตอนไหนก็ได้ ทำอะไรก็ทำ นั่นแหละจอมปีศาจแห่งโทสะล่ะ
[ … พี่ลูซิเฟอร์เคยบ่นให้ข้าฟังว่า คนโง่มักจะชอบเผชิญหน้ากับผู้ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างท่วมท้น.. และตายลงอย่างน่าสมเพช ]
[ มาสเตอร์.. ท่านเป็นคนโง่หรือ? ]
โอ๋ งั้นนี่ก็คือเสียงของหอกเล่มนี้สินะ?
” จะว่างั้นก็ได้ “
ผมยิ้มกว้างขึ้นมา เพราะรู้สึกสนใจในคำพูดของหอกเล่มนี้ เดาว่าหอกนี่คงจะอยู่มานานจนเกิดจิตวิญญาณขึ้นมา แต่ไม่เคยปรากฏตัวให้ลูซี่เห็นเลยสินะ
งั้นคำพูดพวกนั้นก็คือคำพูดที่ลูซิเฟอร์ เธอบ่นกับตัวเองน่ะสิ?
ฮ่ะ ฮ่ะ น่ารักจังเลยนะเนี่ย
อ่า… แย่แฮะ หน้าสิ่วหน้าขวานแบบนี้ยังจะมามีอารมณ์ขันอีก ผมนี่มันใช้ไม่ได้เลยจริงๆ
[ .. ทำไมท่านจะต้องสู้ด้วยล่ะ ในเมื่อท่านจะตาย ]
เธอคงสังเกตเห็นถึงพลังชีวิตที่กำลังริบหรี่ลงเรื่อยๆของผมล่ะสิ ผมไม่ได้ว่าอะไรเธอหรอกนะที่พูดแบบนั้น แต่แค่รู้สึกซึ้งแค่นั้นเอง
คือ.. ไม่ค่อยมีใครเป็นห่วงผมบ่อยนักหรอกนะ ยิ่งเวลาที่ผมกำลังจะไปตายเนี่ย ยัยพวกนั้นยิ่งเชื่อเลยว่าผมจะต้องรอด
และครั้งนี้ก็เหมือนกัน
ผมจะต้องรอด
” เพื่อตัวเอง และเพื่อผู้มีพระคุณล่ะมั้ง “
ผมไม่อาจจะปล่อยให้ผู้คนในกราซ่าร์นั้นเป็นอะไรไปได้ ยิ่งเป็นท่านแม่วิเวียนแล้วนี่ยิ่งค้องปกป้องให้ดีที่สุดเลย
ตอนนี้เธอคนนั้นเองก็เป็นเหมือนกับแม่ของผมคนหนึ่งที่คอยให้ความอบอุ่น และให้ที่อยู่อาศัยกับผม เพระงั้นทางเดียวที่จะแทนบุญคุณนั้นได้
คือจัดการซาตาน
” …เอ่อ ชั้นควรเรียกเธอว่าอะไรดีนะ? “
[ … อ่ะ ..ฮ่ะฮ่ะ อินเฟอโน่ ค่ะ.. หอกปีศาจผลาญชั้นฟ้า.. อินเฟอโน่ ] เฟิร์น
” โอเค เฟิร์น.. พร้อมสู้กับจอมปีศาจไปกับชั้นไหมล่ะ? “
[ เฟิร์น..? ฮุฮุ ถ้าเพื่อทำเป้าหมายของท่านให้บรรลุแล้วล่ะก็.. อะไรก็ยอมค่ะ! ]
ให้มันได้แบบนี่สิ! คุยด้วยง่าย พูดจาน่าฟัง ไม่เหมือนยัยลูซี่เมื่อตอนที่เจอกันแรกๆเลยสักนิด
” ว่าแต่ทำไมพึ่งมาพูดได้เอาตอนนี้ล่ะเนี่ย..”
[ ข้า..อ- อายค่ะมาสเตอร์.. ]
” ฮ่าฮ่า เข้าใจได้ งั้นก็ไปลุยกันเลย!! “
ผมควงอินเฟอโน่อยู่พักนึง ก่อนจะตั้งท่าเตรียมพร้อมที่จะเข้าปะทะกับยัยสัตว์ประหลาดตัวนั้นทันที
ART – เพลงหอกสงครามมหาศักดิ์สิทธิ์
อาร์ตนี้เป็นหนึ่งสิ่งที่ผมได้เรียนรู้มาจากคุณกอร์ในเรื่องของการใช้หอกที่สุดแสนจะดุดัน ผสานกับดุจแสงศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นท่าเฉพาะตัวของทูตสวรรค์ ผลลัพธ์ที่ได้ก็คือ กระบวนท่าหอกที่ร้ายกาจที่สุดเท่าที่บนโลกนี้จะมีสิ่งใดเปรียบเลย
พลังศักดิ์สิทธิ์อันมหาศาลกำลังหลั่งไหลเข้าสู่ร่างหอกของอินเฟอโน่จนก่อตัวขึ้นเป็นคลื่นประกายสายฟ้าสีทองหมุนเป็นเกลียวล้อมรอบหอกสีนิลเล่มนั้น
[ เมื่อมันได้รับพลังศักดิ์สิทธิ์ที่มากพอ หอกเล่มนั้นก็จะเผยรูปลักษณ์ที่แท้จริงออกมา.. ] ลูซี่
[ เจ้ารู้อยู่แล้วใช่ไหม บี๋ ] ลูซี่
“ ไม่รู้, แล้วไอ้รูปแบบที่แท้จริงที่ว่านี่มันเจ๋งขนาดไหนกันเชียว ถึงทำให้เธอพูด ออกมาด้วยตัวเองได้เนี่ย? ”
[ เดี๋ยวเจ้าก็รู้ ] ลูซี่
พูดแบบนี้.. ชักจะอยากรู้แล้วแฮะ ว่ามันเป็นอะไรยังไงกันแน่ ทำไมลูซี่ถึงอวยกันขนาดนี้.. แต่ก็เพื่อที่จะสู้กับซาตาน ผมจำเป็นที่จะต้องงัดมันออกมาใช้แล้วล่ะ
ฟูมม!!!!
ผมเร่งพลังศักดิ์สิทธิ์จนถึงขีดสุด พลังมากมายมหาศาลเข้าปกคลุมเสียจนท้องฟ้าที่เป็นสีแดงถูกย้อมกลับเป็นสีทอง
แล้วรูปร่างของอินเฟอโน่(หอก) ที่อยู่บนมือของผมก็ได้เปลี่ยนแปลงไปเล็กน้อย จากที่ตอนแรกมาปลายแหลมอยู่สองง่าม ตอนนี้กลับมีเพิ่มขึ้นมาอีกอันนึง เป็นปลายแหลมคล้ายใบดาบ กลายเป็นตรีศูลสีนิลในทันใด
ไม่เพียงเท่านั้น บนด้ามของหอกได้มีผืนผ้าสีขาวบางปรากฏขึ้นจากเพลิงสีนิล เวียนรอยหอกเล่มนี้คล้ายกับผ้ายันต์ที่เอาไว้ใช้พันอาวุธยังไงยังงั้น
“ !!!! ”
แต่สิ่งที่ผมชอบที่สุดสำหรับการคืนร่างที่แท้จริงให้กับอินเฟอโน่เลยก็คือ แขนขวาของผม อินเฟอโน่สร้างเกราะแขนอัศวินสีดำขึ้นมาจากเพลิงนิลเพื่อป้องกันตัวผมจากเปลวเพลิงของเธอโดยตรง
มันเป็นเพลิงที่ไม่เหมือนกับเพลิงอื่นๆ ..มันให้ความรู้สึกเหมือนกับว่าวิญญาณของผมนั้นกำลังถูกแผดเผาอยู่เลย
ARTIFACT – หอกปีศาจผลาญชั้นฟ้า(TRUE-FORM)
ปลอกแขนจอมปีศาจแห่งความหยิ่งยโส
หลังจากนั้น ผมและวาตานก็ได้พุ่งเข้าหากันอีกครั้ง
และความบรรลัยจากการปะทะกันของพวกเรา.. ทำให้ที่นี่แทบจะราบเป็นหน้ากลองไปเลยจากการต่อสุ้อันดุเดือดของทั้งผม และเธอ
ตัดจบตอน