ดี-เจเนซิส : สามปีหลังจากดันเจียนปรากฏขึ้น - ตอนที่ 46 เล่ม 3 บทนำ
บทนำ
วันหนึ่งในเดือนธันวาคมปี 2018
โรงแรมอิมพีเรียลโตเกียว ฮิบิยะ
วันนี้ ดาวิด ชาญ ปิแอร์ การ์เซีย กำลังอารมณ์ไม่ดี ถึงแม้เขาจะเปลี่ยนตารางการสอนเพื่อไปยังประเทศเกาะทางตะวันออก แต่เขาก็ไม่ได้เบาะเเสอะไรเพิ่มเติม
“คนจัดงานประมูลนั่นก่อเรื่องใหญ่ไปทั่ว แต่นอกจากชื่อดี-พาวเวอร์สงี่เง่าอะไรนั่น ไม่มีใครรู้ตัวจริงของพวกเขาเลยรึไง” เขาพูดกับตัวเอง
เขาอารมณ์ไม่ดี ยืนกอดอกและมองลงไปยังเมืองเบื้องล่างจากชั้นบนของโรงแรม นักลงทุนทางเศรษฐกิจของประเทศนี้ไม่มีความสนใจในดันเจี้ยนเลย มันทำให้เขารู้สึกขยะแขยง
ดาวิดสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักการเมืองและเหล่านักลงทุนไว้ทั่วยุโรป และด้วยความสัมพันธ์นี้เอง ทำให้เขาได้รู้จักคนประเภทเดียวกันนี้ในญี่ปุ่น และด้วยพลังของแมรี่แอนก็ทำให้เขาชนะใจคนพวกนั้น และรู้อะไรล่วงหน้าหลายๆอย่าง แต่ทว่า คนในแวดวงการเมืองและเศรษฐกิจที่ว่านั้น ไม่ได้ให้รายละเอียดอะไรกับเขาเลยในเรื่องนี้ เขาตกใจมากเมื่อรู้ว่าคนพวกนั้นมองการประมูลออร์บเหมือนกับการประมูลผลงานทางศิลปะ
“จะต้องดึงคนระดับสูงของ JDA และ SDF มาเป็นพวกให้ได้” ดาวิดพูดกับตัวเอง “บางทีอาจจะต้องมีคนที่เกี่ยวกับสื่อด้วย”
JDA นั้นทำหน้าที่จัดการดันเจี้ยน ส่วน SDF จะมุ่งเน้นไปทางพิชิตดันเจี้ยน ทำให้องค์กรพวกนี้น่าจะมีข้อมูลรายละเอียดของคนประมูลออร์บ ส่วนคนของสื่อที่คอยยื่นจมูกสอดไปซะทุกเรื่องนั้น บางทีก็ไปเจอเบาะแสอย่างไม่น่าเชื่อ การเอาพวกนั้นมาเป็นพวกก็ไม่มีอะไรเสียหาย
“ควรจะเริ่มที่ใครดี” ดาวิดคิด
พอเขาเลือกเป้าหมายได้ “ฝันร้าย” น่าจะได้รับหน้าที่สำคัญ ตราบเท่าที่เป้าหมายเป็นผู้ชาย
ดาวิดมองลงไปที่สวนฮิบิยะ ถึงจะเป็นกลางฤดูหนาว แต่สีเขียวของต้นไม้ก็ปกคลุมไปทั่วบริเวณ สิ่งก่อสร้างที่มีหลังคาสีเขียวและแดงดูคล้ายกับบ้านพัก ตั้งอยู่รอบๆน้ำพุขนาดใหญ่เหมือนกับเป็นอาณาจักรมด เหล่าผู้คนผมดำที่สวมชุดสีดำกำลังรีบเดินไปมาอยู่รอบๆตึกพวกนั้น ดาวิดเอานิ้วชี้บี้ไปที่หน้าต่าง ราวกับกำลังบี้มดเหล่านั้น มุมปากของเขายกขึ้นเหมือนกำลังยิ้ม
บรัสเซล เบลเยียม
“ โตเกียวหนาวใช่ไหม” หญิงคนหนึ่งถาม
อาช่าหันมาหลังจากได้ยินคำถามภาษาฝรั่งเศส “อะไรนะคะ”
ผู้หญิงรูปร่างยั่วยวนอยู่ในชุดเดรสเบอร์กันดีดูทันสมัย เธอกำลังยิ้มให้เธออยู่
“เธอคือลูกสาวของจาอินใช่ไหม” ผู้หญิงคนนั้นถาม
“ใช่ค่ะ”
อาช่าตอบกลับเป็นภาษาฝรั่งเศสโดยไม่ทันคิด ซึ่งไม่ค่อยลื่นไหลนักเมื่อเทียบกับภาษาอังกฤษของเธอ
ผู้หญิงคนนี้เป็นใครกันนะ อาช่าคิด เธอดูโดดเด่นมาก ถ้าเคยเจอกันมาก่อนฉันน่าจะจำได้
“ยินดีด้วยสำหรับการฟื้นตัวนะ” ผู้หญิงคนนั้นประชด “ต้องขอบคุณเธอ วันหยุดที่ไมอามี่ของฉันต้องเปลี่ยนมาเป็นเมืองโตเกียวที่น่าเบื่อนั่น ดาวิดควรจะเพลาๆลงบ้าง อย่างน้อยถ้าเป็นที่โอกินาว่าน่าจะดีกว่านี้หน่อยนึง”
“ขอโทษนะคะ คุณกำลังพูดเรื่องอะไรอยู่” อาช่าถาม
“อ๋อ เธอไม่ต้องสนใจหรอก ฉันฝากความคิดถึงไปยังจอมขมังเวทย์ที่โตเกียวด้วยล่ะ”
เหมือนเธอจะพอใจแล้ว ผู้หญิงคนนั้นก็เดินจากไป ทิ้งไอช่าที่ยังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้นเอาไว้ ในระหว่างที่เธอกำลังมองผู้หญิงคนนั้นเดินไปอย่างไม่รู้ตัว เธอก็ถูกเรียกโดย ชายดูดีอายุประมาณ 30 คนหนึ่งที่ไอชาเห็นอยู่บ่อยๆในแวดวงชนชั้นสูงยุโรป
“มีอะไรรึเปล่า” ชายคนนั้นถาม
“สวัสดีค่ะ คุณมิเชล”
“สวัสดี เมื่อครู่มีอะไรหรอ”
“ไม่มีอะไรค่ะ แต่ว่า คุณรู้ไหมคะว่าคนเมื่อสักครู่เป็นใคร”
มิเชลมองตามสายตาของไอช่าไป
“เธอเป็นคนสนิทของการ์เซีย”
“การ์เซียจาก แอทลัม ฟอรามินิสหรอคะ”
“เธอรู้จักด้วยหรือ ใช่แล้วล่ะ”
อาการบาดเจ็บของไอช่านั้นเป็นที่รู้กันไปทั่ว เพราะฉะนั้นก็ไม่แปลกอะไรกับการที่พ่อของเธอเคยติดต่อไปยังโบสถ์แห่งห้วงลึกที่เป็นลัทธิเกี่ยวกับการรักษา แต่เเน่นอนว่าการฟื้นตัวราวกับปาฏิหาริย์ของเธอนั้นเกิดขึ้นที่ญี่ปุ่น
“ถ้าฉันจำไม่ผิด เธอคนนั้นชื่อ ซาร่า แมกดาเลน่า”
“เป็นชื่อที่โดดเด่นเลยนะคะ”
ตามตำนาน ซาร่าเป็นหญิงที่คอยรับใช้ผู้หญิงสามคนที่เฝ้าดูอยู่ตอนพระเยซูถูกตรึงกางเขนเเละตอนฝัง แต่หลังจากนั้น การเเต่งเรื่องให้เธอเป็นลูกสาวของพระเยซูกับ แมรี่ แมกดาเลน่านั้นเป็นที่นิยมอย่างมากในนิยาย
มิเชลยักไหล่อย่างขี้เล่นและบอกว่า “แต่แน่นอน สตรีศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาคือ เเมรีแอน เทเรซา มาร์ติน”
เทเรซา มาร์ติน เป็นนักบุญหญิงที่โด่งดังในฝรั่งเศส เธอถือดอกกุหลาบกับไม้กางเขน
“จากที่ฉันได้ยินมา มันเป็นชื่อจริงๆของสตรีศักดิ์สิทธิ์แห่งแอทลัม ฟอรามินิส”
“ใช่ ชื่อกับธรรมชาติของคนนั้นบางทีก็ตรงกัน แต่ถึงอย่างนั้น…” มิเชลมองไปที่ซาร่าอีกครั้ง เธอกำลังคุยกับชายอีกคนอย่างออกรสชาติ “ถึงเธอคนนั้นจะอยู่ในองค์การศาสนาที่เที่ยงธรรม แต่เธอเป็นผู้หญิงสวย น่าหลงไหลและเข้าสังคมเก่งจนเรียกได้ว่าผิดศีลธรรม ระวังตัวไว้ด้วยล่ะ ฉันได้ยินข่าวลือที่ไม่ค่อยดีมา”
“ข่าวลือที่ไม่ค่อยดีหรือคะ”
“อุ๊ป ฉันคงพูดมากเกินไปหน่อย เอาไว้เจอกันใหม่โอกาสหน้า”
ข่าวลือของจอมขมังเวทย์ในญี่ปุ่นที่ถูกเผยแพร่ด้วยพ่อของเธอนั้น มันเหมือนกับมีชีวิตขึ้นมาด้วยตัวเอง ตั้งแต่ที่เธอฟื้นตัวขึ้นมาก็มีคนมากหน้าหลายตามาถามเธอสนเรื่องนี้ บางคนก็ดูจะเป็นคนที่เกี่ยวข้องกับแอทลัม โฟรามินิส บางครั้งความสอดรู้สอดเห็นของคนพวกนั้นก็เข้าขั้นหยาบคายเลยทีเดียว
คนพวกนี้เข้าหาเธอด้วยคำถามหลายแบบ แต่สุดท้ายแล้วสิ่งที่พวกเขาต้องการมีอย่างเดียวคือ ‘ใครเป็นคนร่ายมนตร์นี้ให้เธอ’
ถ้าคนพวกนี้ประสบปัญหาเดียวกับที่ไอช่าเคยเจอและกำลังพยายามหาทางรักษา เธอคงจะยินดีที่จะให้ข้อมูล แต่ทว่ากิริยาของพวกเขานั้นมันกระเหี้ยนกระหือรือมากเกินไปจนน่ารังเกียจ
“เกิดอะไรขึ้นกันนะ”
จากที่ซาร่าเล่า เธอวางแผนว่าจะไปไมอามี่แต่ทว่าตอนนี้เธอต้องไปโตเกียวแทน มีเหตุผลอะไรกันนะที่องค์กรทางศาสนาที่เป็นที่รู้กันว่าขายปาฏิหาริย์ ต้องไปยังโตเกียว
ฉันคงต้องปรึกษาเรื่องนี้กับเคโกะทีหลัง ไอช่าคิดและเตือนตัวเองอยู่ในใจ