ดวงใจประมุขมาร - ตอนที่ 22
ภายในห้องอาบน้ำที่ทำเลียนแบบน้ำตกจำลองมีบรรยากาศอบอวลไปด้วยความรัก จ้าวหยางหลงอยู่ในสภาพเปลือยด้านบนแต่ด้านล่างยังคงมีกางเกงซับสีขาว มือหนากำลังปลดผ้าคาดเอวออกอย่างเบามือพลางปลดชุดคลุมออกร่วงลงสู่พื้น จ้าวหยางหลงกลืนน้ำลายอย่างยากลำบากปทุมถันอวบอิ่มพอดีมือปรากฏสู่สายตาของเขาทั้งทีที่ชุดคลุมถูกถอดออกเผยให้เห็นเอี๊ยมตัวจิ๋วที่ปิดเนินอกสวยไม่มิด ผมหนานุ่มดำขลับราวเส้นไหมทิ้งตัวลงคลอเคลียลำคอช่างเป็นภาพงดงามหาใดเปรียบ
จางโม่ลี่ยกสองแขนขึ้นปิดบังทรวงอกที่ตอนนี้เหลือเพียงเอี๊ยมตัวจิ๋วปกปิดร่างกายก็ให้รู้สึกเขินอายผิวนวลขาวเปลี่ยนเป็นแดงก่ำดั่งผิงกั่วไปทั้งตัว นางยังคงก้มหน้าไม่กล้าสบตาผู้เป็นสามี
“อาบน้ำกันเถิด” เสียงทุ้มนุ่มทว่าแหบพร่าช้อนตัวนางขึ้นแนบอกก้าวเดินลงไปยังน้ำตกจำลอง
จ้าวหยางหลงหลังจากเดินมาถึงตรงกลางของน้ำตกจำลองที่มีความลึกเพียงหน้าอกของหญิงสาวก็ปล่อยร่างบางในอ้อมกอดให้ทรงตัวด้วยตนเองมือหนายังคงโอบกอดนาง
“พี่จะช่วยเจ้าอาบน้ำจะได้เสร็จเร็วๆ” ไม่ว่าเปล่ามือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามผิวกายที่ยังปรากฏสีแดงชัด ริมฝีปากหนายกยิ้มอย่างพอใจก่อนจะบรรจงประทับจุมพิตไปทั่วตามที่มือหนาลูบผ่าน
“พี่หลงขะ…ข้า…” จางโม่ลี่เรียกชายหนุ่มตะกุกตะกักรู้สึกอยากจะเอาหน้ามุดดินเสียให้ได้ “นางอยากจะบอกเขาเหลือเกินว่าขออาบเองได้หรือไม่ หากให้เขาอาบให้วันนี้ก็คงไม่เสร็จ แล้วเหตุไฉนเขาถึงได้รุกนางหนักนัก” นางได้แต่โอดครวญในใจ
“มีอะไร เจ้าหนาวหรือตัวสั่นเชียวมาเดี๋ยวพี่จะกอดเจ้าให้คลายหนาว” ว่าจบเขาก็จงใจเบียดกายเข้าหาร่างบาง พลางกระตุกเอี๊ยมตัวจิ๋วของอีกฝ่ายอย่างเบามือจนนางไม่รู้ จ้าวหยางหลงทำเป็นไม่รับรู้ถึงปฏิกิริยาของอีกฝ่ายที่แสดงออกมาอย่างชัดเจนนางกำลังเขินอายร่างสั่นราวลูกนก
“มะ…ไม่ใช่เจ้าค่ะ คือข้าจะบอกว่าให้ข้าอาบน้ำเองดีกว่าจะได้เสร็จเร็วๆ ตามที่พี่หลงกล่าว”
“ไม่…พี่อยากอาบให้เจ้าหรือว่าเจ้ารังเกียจพี่” จ้าวหยางหลงตีหน้าเศร้าน้ำเสียงที่ใช้แสดงถึงความเศร้าเสียใจที่นางรังเกียจเขา
“ข้าไม่ได้รังเกียจพี่หลงแม้แต่น้อย ข้าพะ…เพียงคิดว่าหากให้พี่หลงอาบให้คาดว่าพรุ่งนี้คงป่วยไข้อยู่บนเตียงเป็นแน่” นางรีบบอกคนตรงหน้าก่อนที่เขาจะคิดอะไรไปไกล แต่หารู้ไม่ว่าถึงนางจะไม่เจ็บไข้ได้ป่วยแต่พรุ่งนี้นางก็ลุกขึ้นจากเตียงไม่ได้อยู่ดี
“ให้พี่อาบน้ำให้เจ้าได้หรือไม่ พี่สัญญาจะรีบทำให้เสร็จโดยไว” จางโม่ลี่พยักหน้ารับอย่างจำใจกับความเอาแต่ใจของคนตรงหน้า
“วะ…ว้าย!!!” หลังจากที่ชายหนุ่มผละออกจากนางเอี๊ยมตัวจิ๋วที่ปิดบังอกอวบอิ่มก็หลุดร่วงลงสู่ผิวน้ำทันที ใบหน้านวลแดงซ่านไปด้วยความอาย สองมือรีบยกขึ้นมาปิดบังปทุมถันยอดอกสีชมพูสวยหวานและหันหลังให้ผู้เป็นสามีทันที แต่ยังเร็วไม่เท่าดวงตาคมเข้มที่เฝ้ามองอยู่ก่อนแล้ว
หลังจากได้ยลปทุมถันรวมทั้งยอดอกสีหวานที่น่าลิ้มลอง จ้าวหยางหลงพยายามข่มกลั้นบางอย่างที่เริ่มปวดร้าวขึ้นทุกขณะ เขาไม่อยากผลีผลามทำให้นางตื่นกลัวนัก ก่อนจะปรับเป็นสีหน้าจริงจังถึงในใจอยากจะลงโทษนางเพียงใด แต่หากนางไม่เต็มใจเขาก็พร้อมที่จะรอนางต่อไป
“ลี่เอ๋อร์อย่าได้เขินอาย พี่รักเจ้ามากกว่าสิ่งใด หากเจ้าไม่เต็มใจพี่ก็ไม่คิดหักหาญน้ำใจเจ้า” น้ำเสียงหนักแน่นจริงใจเอ่ยบอกสตรีที่รักพลางโอบกอดนางจากด้านหลังอย่างทะนุถนอมคางไร้หนวดเคราเกยอยู่บนไหล่นวลเนียน
จางโม่ลี่กำลังรู้สึกเขินอายและตื่นเต้นเสียงหัวใจที่เต้นโครมครามพลันสงบเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย หัวใจดวงน้อยสั่นไหวกับคำพูดที่แสนจริงใจ นางหยุดนิ่งครุ่นคิดบางอย่าง
จ้าวหยางหลงเห็นนางนิ่งไปครู่หนึ่งก็คิดว่านางคงไม่พร้อมที่จะเป็นของเขาดวงตาคมมีร่องรอยผิดหวังน้อยๆ แต่ก็ไม่อยากฝืนใจนาง จึงลดมือออกจากเอวบางเพื่อให้นางอาบน้ำได้สะดวก แต่ทว่านางกลับจับมือเขาไว้ข้างหนึ่งแล้วหันมาเผชิญหน้ากับเขาโดยมือของนางข้างที่เหลือกอดหน้าอกตนเพื่อปิดบังดอกบัวตูมคู่งาม
สายตาของคนทั้งสองฉายแววความรักออกมาชัดเจน จางโม่ลี่คลี่ยิ้มอ่อนหวานก่อนจะเขย่งปลายเท้าขึ้นจุมพิตเบาๆ ที่ริมฝีปากหนาเป็นคำตอบรับว่านางพร้อมที่จะเป็นของเขา จ้าวหยางหลงนิ่งตะลึงไม่คิดว่านางจะกล้าทำเช่นนี้ก่อนจะแปรเปลี่ยนเป็นความดีใจ
“เจ้าแน่ใจนะ” จ้าวหยางหลงยังคงถามนางเพื่อความแน่ใจ ใจเต้นระรัวลุ้นคำตอบที่จะได้รับ
“ลี่เอ๋อร์พร้อมจะเป็นของพี่หลงทั้งกายและใจเจ้าค่ะ” นางตอบรับอย่างนุ่มนวล ดวงตาหวานมีประกายหนักแน่น
“พี่สัญญาว่าจะถนอมและรักเจ้าแต่เพียงผู้เดียว” จ้าวหยางหลงกอดนางแนบอก
จ้าวหยางหลงจุมพิตไปตามใบหน้านวลก่อนจะหยุดมองนางอย่างรักใคร่ ริมฝีปากหนาทาบทับลงบนริมฝีปากบางแดงสดด้วยนางไม่ประสีประสาจึงตอบรับเขาอย่างเงอะงะทำให้เขาอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ เพียงไม่นานลูกศิษย์หัวไวก็เริ่มเรียนรู้ลิ้นหนาจึงแทรกเข้าไปกวาดชิมโพล่งปากหวานอย่างพอใจ จุมพิตนี้เต็มไปด้วยความอ่อนโยนโหยหาต่อมากลับร้อนแรงดั่งเปลวเพลิงที่พร้อมแผดเผาให้ทั้งคู่มอดไหม้
“อะ…”ฝ่ามือหนากอบกุมดอกบัวตูมเคล้าคลึงเบามือก่อนก้มลงครอบครองยอดอกสีหวานที่ชูชันล่อสายตา นิ้วเรียวอีกข้างกำลังวนรอบกลีบกุหลาบหวานด้านล่างเพื่อเตรียมความพร้อมให้นาง
ในคราแรกนางไม่รู้ถึงสัมพันธ์ชายหญิงจึงปล่อยให้เขาเป็นผู้นำส่วนนางจึงเป็นผู้ตามที่ดี ความรู้สึกแปลกที่เกิดขึ้นกับร่างกายตนทำเอานางรู้สึกอายไม่น้อยบิดเร้าไปด้วยอารมณ์ปรารถนายากจะดับ ใบหน้าแดงก่ำมองสามีของตนอย่างเขินอาย
“พี่หลงข้ากลัว” ถึงแม้จะถูกผู้เป็นสามีชักจูงให้เคลิบเคลิ้มอยู่ตลอดเวลาแต่กระนั้นนางก็ยังกลัวอยู่ดี
“มันจะเจ็บแค่ครั้งแรกเท่านั้นเชื่อพี่นะคนดี กอดพี่ไว้แน่นๆ” จ้าวหยางหลงรู้ร่างกายนางพร้อมแล้วจึงบอกนางอย่างปลอบประโลม ก้มจุมพิตนางก่อนจะกดตัวเข้าหากลีบกุหลาบงามช้าๆ
“อะ…กรี๊ดด…อื้ม…” เสียงกรีดร้องด้วยความเจ็บออกจากริมฝีปากบางก่อนที่จะถูกปากหนาครอบครองอีกครั้ง จ้าวหยางหลงมิได้ขยับตัว แม้ตนเองแทบจะทนความอึดอัดไม่ไหว แต่จำต้องหยุดนิ่งเพื่อให้นางได้ปรับตัว
“หายเจ็บหรือไม่คนดี” จ้าวหยางหลงถามอย่างเป็นห่วงพลางค่อยขยับตัวเข้าออกช้าๆ
“หะ…หายแล้วเจ้าค่ะ” นางตอบพลางแสร้งก้มหน้าลงซ่อนความอับอายกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ขณะนี้
“พี่รักเจ้านะคนดี” หลังจากพูดจบบรรยากาศในน้ำตกจำลองก็กลับมาเร่าร้อนอีกครั้งและอีกครั้ง ร่างหนาอุ้มนางที่อ่อนเพลียขึ้นจากน้ำเดินตรงยังเก้าอี้ไม้เพื่อเช็ดตัวและผมให้นางอย่างเบามือ
จางโม่ลี่รู้สึกเหนื่อยอ่อนจนคร้านจะใส่ใจว่าเขาจะทำสิ่งใดกับนาง ร่างเปล่าเปลือยมีเพียงผ้าขาวผืนบางคลุมก็หาได้ปิดสิ่งใดมิดแม้นางจะเขินอายจนตัวจะระเบิดทุกเวลาก็ไม่ทำให้สามีนางหยุดหยอกเย้านางได้
“พี่หลงข้าอยากใส่เสื้อผ้า ข้ารู้สึกหนาวเจ้าค่ะ”
“เจ้าหนาวรึมาเดี๋ยวพี่จะทำให้เจ้าอุ่นขึ้น อีกอย่างเจ้าเตรียมรับบทลงโทษได้เลยลี่เอ๋อร์คนดี” ว่าจบก็อุ้มช้อนตัวนางไปยังเตียงทันที สายตากรุ้มกริ่มจ้องมองนางอย่างรักใคร่
จางโม่ลี่ได้แต่เบิกตากว้างตกใจกับการกระทำของสามี อ้าปากหมายจะพูดอะไรบางอย่างก็ถูกริมฝีปากหนาครอบครองเสียแล้ว เสียงสอดประสานครวญครางอย่างมีความสุขของทั้งสองดังขึ้นในเรือนเจียวอ้ายทั้งคืนจวบจนกระทั่งยามเหม่า (05.00-6.59 น.) จึงหยุดลงทำให้บรรดาเงาที่หูดีทั้งหลายต่างนั่งหน้าแดงก่ำและทรมานอยู่ท่านคืน “ท่านประมุขเหตุใดท่านถึงคึกยิ่งกว่าม้าศึกเช่นนี้ น่าสงสารนายหญิงยิ่งนัก” บรรดาเงาและซิ่นหวารวมถึงพ่อบ้านม่านต่างคิดเช่นเดียวกัน
ยามอุ้ย (13.00-14.59 น.) ร่างบางที่หลับใหลไม่ได้สติเริ่มขยับตัวไปมา จ้าวหยางหลงที่จ้องมองและโอบกอดนางอยู่ก่อนแล้วก็ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะเอื้อมมือไปสัมผัสผิวกายนางลูบไล้เบาๆ อย่างเพลิดเพลิน
“อืม…” เสียงครางบ่งบอกถึงความรำคาญดังขึ้น
“หากเจ้าไม่ตื่นพี่จะกินเจ้าอีกรอบนะลี่เอ๋อร์” เสียงหยอกเย้าดังขึ้นข้างหูทำเอานางเบิกตากว้างรีบกระเด้งตัวขึ้นจากเตียงนุ่มอย่างลืมตัว
“อะ…ว้าย!!…” มือบางรีบคว้าผ้าห่มผืนหนาคลุมตัวทันทีแต่ก็ยังไม่ไวเท่ามือหนาที่แย่งคว้าผ้าไปเสียก่อน “แย่แน่ๆ” นางได้แต่ร้องในใจเมื่อเห็นสายตาของผู้เป็นสามีมองมา
“พะ…พี่หลงนี่ท่าน”
“เป็นเจ้าที่ผิดพี่เพียงจะปลุกเจ้ากินข้าวกินปลาเท่านั้น แต่เจ้ากลับยั่วยวนพี่เช่นนี้เจ้าต้องรับผิดชอบ” หยางหลงเอ่ยอย่างเจ้าเล่ห์
“แต่ท่าน…อื้ม” โม่ลี่ไม่คิดว่าเขาจะหื่นกามได้ขนาดนี้เตรียมจะค้านแต่ทุกอย่างก็สายไปเสียแล้ว
“เจ้าจะไม่เจ็บพี่รับรอง” เสียงทุ้มแหบพร่าบอกนางอยู่ข้างหู ก่อนที่ทุกอย่างจะกลับมาเป็นเช่นเมื่อวาน
พ่อบ้านม่านและซิ่นหวาเมื่อได้ยินเสียงเช่นเมื่อคืนก็ได้แต่ก้มหน้าลงก้าวขาออกห่างจากเรือนเจียวอ้าย พ่อบ้านรีบไปต้มยาบำรุงร่างกายให้ทั้งท่านประมุขและนายหญิงเตรียมไว้พร้อมอาหารบำรุงเพิ่มเข้ามาอีก 2-3 อย่าง พ่อบ้านม่านครุ่นคิดพลางยิ้มอย่างถูกใจ หากยังมีเช่นนี้อนาคตเข้าอาจจะได้เลี้ยงดูนายน้อยสัก 2-3 คนเป็นแน่