ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 87 ความสนุกสนานในป่าของพี่น้อง (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 87 ความสนุกสนานในป่าของพี่น้อง (รีไรต์)
บทที่ 87 ความสนุกสนานในป่าของพี่น้อง (รีไรต์)
บทที่ 87 ความสนุกสนานในป่าของพี่น้อง (รีไรต์)
เย่ฉางอันกลับมาเร็วกว่าปกติ ในกระเป๋ามีของบางอย่างที่ดูพอง ๆ
เขาแบกจอบมาถึงบ้าน แล้วผิวปากเรียกเย่เสี่ยวจิ่น
“จิ่นเป่า มาดูสิว่าในกระเป๋าพี่มีอะไรดี ๆ”
เย่เสี่ยวจิ่นเข้าไปดูใกล้ ๆ “ไม่รู้สิคะ อะไรเหรอ?”
เย่ฉางอันหยิบนกตัวเล็ก ๆ นุ่มนิ่มออกมา “ดูสิ น่ารักจังเลย เป็นลูกนกที่ตกจากรัง”
หลี่ชุ่ยชุ่ยถือทัพพีอยู่ พอได้ยินก็รีบเดินมาตบหน้าเย่ฉางอันสองที
“แกนี่ว่างเกินไปแล้ว ไปเก็บนกมาทำไม?”
“แกไม่รู้หรือว่านกอาจมีเชื้อโรค? ยังจะเอามาให้น้องสาวเล่นอีก ช่างกล้าจริง ๆ”
“ถ้าน้องสาวแกติดเชื้อขึ้นมา ดูสิว่าแกจะรอดไหม!”
หลี่ชุ่ยชุ่ยไม่ปิดบังความสองมาตรฐานของตัวเองเลยแม้แต่น้อย
“ไม่ใช่หรอกครับแม่ นี่มันเป็นความเชื่องมงายแบบศักดินาทั้งนั้น” เย่ฉางอันส่งนกตัวน้อยให้เย่เสี่ยวจิ่น “มานี่ จิ่นเป่า”
“แกรีบเอาไปปล่อยเดี๋ยวนี้นะ!”
เย่ฉางอันเห็นแม่ยกตะหลิวขึ้นมา จึงถอยหลังด้วยความกลัวเล็กน้อย
เขาพูดอย่างไร้เดียงสา “ทำไมต้องโกรธด้วยล่ะ ผมแค่เห็นว่ามันน่ารักก็เลยอยากเอามาให้จิ่นเป่าเล่นเท่านั้นเอง”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มน้อย ๆ “พอเถอะแม่ อย่าโกรธพี่รองเลยนะคะ”
“พี่รองก็แค่อยากทำให้หนูมีความสุขนะ”
เธอดึงชายเสื้อของเย่ฉางอันเบา ๆ “พี่รอง ไปกันเถอะ เราไปปล่อยนกตัวน้อยกัน”
“แม่นกคงกำลังกังวลที่หาลูกไม่เจอนะ”
“พวกเราก็ไม่รู้วิธีเลี้ยงมัน แถมยังสอนให้มันบินไม่เป็นด้วย ใช่ไหมล่ะ?”
“น้องสาวเพิ่งจะ 3 ขวบครึ่งเอง! ทำไมถึงต่างกันมากขนาดนี้?”
เย่ฉางอันเป็นคนอารมณ์ดี ไม่โกรธ ยิ้มร่าเริงแล้วพูดว่า
“โอ๊ย พอเถอะ หูผมจะด้านไปหมดแล้ว”
“ผมจะพาจิ่นเป่าไปปล่อยลูกนก แล้วก็…ไปเก็บดอกไม้ป่าและผลไม้ป่าด้วย”
เย่ฉางอันหยิบตะกร้าใบเล็กที่ทำจากใบตาลที่หลี่ชุ่ยชุ่ยสานไว้ แล้วอุ้มเย่เสี่ยวจิ่นวิ่งออกไป
หลี่ชุ่ยชุ่ยยืนอยู่ที่ประตูส่ายหน้าอย่างจนปัญญา “เด็กคนนี้ อายุปูนนี้แล้วยังไม่มีความหนักแน่นเลย!”
แสงสนธยาทอดยาวไปถึงขอบฟ้า สายลมเย็น ๆ พัดผ่านแก้ม ทำให้ทุกคนรู้สึกสดชื่นขึ้น
เย่เสี่ยวจิ่นถูกพี่ชายอุ้มอยู่ “พี่รอง พี่เหนื่อยไหม? หนูเดินเองได้นะ”
“ไม่เป็นไร ที่นั่นไม่ไกล อยู่ข้างหน้านี่เอง”
เย่ฉางอันพาเย่เสี่ยวจิ่นมาที่ริมลำธาร
ริมลำธารมีต้นหม่อนอยู่ต้นหนึ่ง บนกิ่งก้านมีรังนกอยู่อย่างชัดเจน
สามารถวางลงไปได้อย่างง่ายดาย
เย่เสี่ยวจิ่นพูดอย่างจนปัญญา “พี่ชาย พี่แน่ใจเหรอว่าลูกนกตกลงมาบนพื้น ไม่ใช่พี่ขโมยมันมาหรอกเหรอ?”
เย่ฉางอันหัวเราะคิกคัก ไม่อธิบายอะไร
เขาเอาลูกนกกลับคืนรัง แล้วเด็ดลูกหม่อนลูกหนึ่งโยนเข้าปาก “อืม อร่อยจัง”
เย่เสี่ยวจิ่นก็เด็ดลูกหนึ่งโยนเข้าปากเช่นกัน ตาเป็นประกาย “อร่อยจริง ๆ”
ก่อนหน้านี้เธอเคยหลงใหลการย้อมผมด้วยลูกหม่อนดำอยู่ช่วงหนึ่ง สำหรับเธอที่กลัวผมร่วง
มันจำเป็นมากจริง ๆ!
แต่ลูกหม่อนที่ซื้อตามข้างทาง ไม่มีรสชาติอะไรเลย
แต่กลับเป็นที่นี่ที่มีรสชาติเปรี้ยว ๆ หวาน ๆ กินแล้วอร่อยทีเดียว
“พี่รอง เก็บเร็ว ๆ สิ”
เย่เสี่ยวจิ่นเริ่มเด็ดลูกหม่อนอย่างไม่เกรงใจแล้ว
เย่ฉางอันถอนหายใจอย่างจนปัญญา “มันมีอะไรอร่อยกันเชียว? ก็ธรรมดา ๆ นี่”
“มันช่วยให้ผมดำเงางามนะ” เย่เสี่ยวจิ่นพูดพลางเก็บไปด้วย “รสชาติก็หวานดีด้วย”
แม้เย่ฉางอันจะไม่เข้าใจ แต่ก็ยังคงช่วยเก็บ
ไม่นานก็เก็บได้มากแล้ว
“พอแล้ว ๆ พอได้แล้ว พี่จะพาเธอไปเก็บเบอร์รีป่าด้วยนะ”
เย่ฉางอันถือตะกร้า พาเย่เสี่ยวจิ่นไปที่ริมสระน้ำแห่งหนึ่ง
เย่เสี่ยวจิ่นเห็นเบอร์รีป่าสีแดงเต็มไปหมดตามคันนา ก็ตกตะลึงทันที เด็ดมากินลูกหนึ่ง รสชาติอร่อยสุด ๆ
“นี่ยังไม่ใช่ของที่อร่อยที่สุดหรอก ต้องแช่น้ำสามเดือนถึงจะอร่อย”
เย่ฉางอันเดินไปอีกด้านหนึ่ง แล้วโบกมือเรียกเย่เสี่ยวจิ่น “จิ่นเป่า มานี่สิ”
เย่เสี่ยวจิ่นเดินเข้าไปดู เห็นต้นไม้มีหนามเต็มไปหมด มีผลสีแดงเล็ก ๆ เต็มต้น
“นี่มันราสป์เบอร์รีไม่ใช่เหรอ?”
“อะไรนะ?”
เย่เสี่ยวจิ่นโบกมือ “ไม่มีอะไร นี่อร่อยนะ หนูรู้ว่ามันอร่อยมาก”
เย่ฉางอันดึงกิ่งไม้ที่มีหนามเต็มไปหมด เก็บผลไม้ใส่ชามให้เย่เสี่ยวจิ่น “เธอนั่งกินตรงนี้เฉย ๆ นะ พี่จะไปเก็บเพิ่ม”
“อย่าวิ่งไปไหนเด็ดขาดนะ ตรงโน้นเป็นสระน้ำ”
“ข้างในมีผีน้ำ ชอบกินเด็กตัวเล็ก ๆ ผิวบางเนื้อนุ่มแบบเธอ”
“กินทีเดียวหมด ไม่เหลือแม้แต่กระดูก”
เย่เสี่ยวจิ่นสะดุ้ง “พี่รอง ทำไมพี่ถึงตั้งใจหลอกให้หนูกลัวล่ะ?”
“ฉันไม่ได้หลอกนะ ถ้าไม่เชื่อเธอลองไปดูเองสิ ข้างในมีผู้หญิงคนหนึ่งอยู่จริง ๆ” เย่ฉางอันตั้งใจพูดเสียงเบา “เธอชอบเด็ก ๆ มาก ผมยาวมากเลย แถมยังใส่ชุดสีขาวด้วย”
เย่เสี่ยวจิ่นแค่นเสียง “หนูจะไม่วิ่งไปไหนหรอก”
เย่ฉางอันพยักหน้า “งั้นก็ดีแล้ว เธออยู่ตรงนี้ ผีน้ำจะไม่เจอเธอหรอก”
พูดจบ เขาก็ไปเก็บราสป์เบอร์รีและเบอร์รีป่า
เย่เสี่ยวจิ่นกินของว่างพลางมองท้องฟ้าสีแดงยามเย็น หรี่ตาลงด้วยความสบายใจ
เธอได้ยินเสียงแกรกกรากจากพุ่มไม้ รู้สึกกลัวเล็กน้อย
จะไม่ใช่งูใช่ไหม?
ที่ชื้นแฉะแบบนี้ ดูเหมือนจะมีงูเยอะ
เธอรีบหดเท้าเข้ามาทันที กลัวว่าจะมีงูพิษลายสวยงามพุ่งออกมาอย่างกะทันหัน
ขณะนั้น คางคกตัวหนึ่งกระโดดออกมาตรงหน้าเย่เสี่ยวจิ่น แล้วมุ่งหน้าไปที่สระน้ำทันที
‘ตูม’ เสียงคางคกกระโดดลงน้ำ
เย่ฉางอันเก็บผลไม้จนเต็มตะกร้า วิ่งเข้ามาหา “โชคดีจังเลย พวกนี้ยังไม่มีใครเก็บเลย ดูสิว่าพี่เก็บได้เยอะแค่ไหน?”
“พรุ่งนี้เรายังมาเก็บได้อีก พวกนี้สุกเร็วมาก”
เย่เสี่ยวจิ่นเห็นตะกร้าใส่ราสป์เบอร์รีและเบอร์รีป่าของเขา “ว้าว พี่รองเก่งจังเลย!”
“เยอะขนาดนี้เลยเหรอ?”
เย่ฉางอันได้รับคำชมจากน้องสาว รู้สึกปลื้มใจมาก
“แน่นอนอยู่แล้ว พี่ชายเธอคนนี้เป็นลิงป่าแห่งภูเขานี้นะ”
“ที่ไหนมีของดี ฉันรู้หมดแล้ว”
“ไปกันเถอะ พวกเราไปที่ริมสระน้ำกัน”
“ทำไมล่ะ? พี่ไม่ได้บอกหรอกเหรอว่ามีผีน้ำ?”
เย่ฉางอันแค่นเสียงหึ “ฉันเป็นผู้ใหญ่แล้ว ฉันไม่กลัวหรอก”
ทั้งสองคนมาถึงริมสระน้ำ เย่ฉางอันส่งตะกร้าให้เย่เสี่ยวจิ่น
จากนั้นเขาก็พับแขนเสื้อขึ้น เดินตรงไปยังกอหญ้าที่มีใบแหลมหนาทึบ
เย่ฉางอันไม่พูดพร่ำทำเพลง แหวกกอหญ้าออกทันที
แล้วก็สอดหัวเข้าไปในกอหญ้าคลำหาอะไรบางอย่าง
เย่เสี่ยวจิ่นงุนงงไปหมด “พี่รอง พี่กำลังจับปลาอยู่เหรอ?”
“ไม่ใช่ จะจับคางคกตัวใหญ่ให้จิ่นเป่ากินกับข้าวคืนนี้น่ะ”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ่งรู้สึกหมดคำพูด
เธอย่นจมูกแล้วส่งเสียงฮึดฮัด “การจับคางคกน่ะ มันจะทำให้มือเน่าเปื่อยนะ!”
“พรุ่งนี้มือของพี่ชายจะเต็มไปด้วยตุ่มน้ำแน่ ๆ!”
“ทั้งเจ็บทั้งคัน เหมือนกับคางคกเลยละ”
เย่ฉางอันพึมพำว่า “ฉันไม่กลัวหรอก ฉันจับมันเล่น ๆ คืนนี้จะเอาไปยัดใส่ผ้าห่มของจิ่นเป่า”
เย่เสี่ยวจิ่นรู้สึกหนาวสั่น “หนูจะบอกพ่อแม่ให้ตีพี่เลย!”
เย่ฉางอันไม่คิดว่าน้องสาวจะฟ้องเขา
เขามองดูเนื้อขาวนุ่มของลำต้น แล้วหักมันออกมา ใช้ชายเสื้อห่อเอาไว้
เขาหักต้นเจียวไป๋*[1]หลายกอในคราวเดียว ทันใดนั้นก็ได้หัวของต้นเจียวไป๋สีขาว ๆ มาห้าหัวแล้ว
เขาลุกขึ้นจากพื้น แล้วโยนเจียวไป๋หนึ่งหัวไปทางน้องสาวทันที
เขายังตั้งใจตะโกนเสียงดังว่า “จิ่นเป่า คางคกหนีไปแล้ว! จับมันเร็ว!”
“คางคก?” เย่เสี่ยวจิ่นตกใจจนหน้าซีด
ทันใดนั้นเธอก็กระโดดถอยหลังไปก้าวหนึ่ง
แต่กลับพบว่าสิ่งที่ตกอยู่บนพื้นเป็นเพียงแค่เจียวไป๋!
เธอจ้องเย่ฉางอันด้วยความโกรธ ในขณะที่อีกฝ่ายกลับกุมท้องหัวเราะ
ไม่มีความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย
“พี่ตั้งใจหลอกหนูนี่!”
เย่ฉางอันเดินเข้ามาเก็บหัวของต้นเจียวไป๋ขึ้นมา “ล้อเล่นน่ะ ใครจะไปจับคางคกกันล่ะ?”
“ไปกันเถอะ กลับบ้านกันได้แล้ว”
“หัวเจียวไป๋นี่เป็นของดีนะ ผัดแล้วหอมมาก”
“จิ่นเป่าเชื่อไหมว่ากินสดก็ได้?”
เย่เสี่ยวจิ่นพึมพำ “หนูไม่กินสดหรอก น้ำในสระที่แช่มันอยู่น่ะ หนูเพิ่งเห็นคางคกกระโดดลงไปในน้ำเมื่อกี้นี้เอง”
เย่ฉางอันเดิมกำลังจะกินสดหนึ่งต้น แต่พอได้ยินเธอพูดแบบนั้น เขาก็ชะงักมือ
เขารู้สึกรังเกียจเล็กน้อย “งั้นผัดกินดีกว่า!”
“ฉันจะบอกให้แม่ล้างหลาย ๆ รอบ รับรองว่าไม่มีกลิ่นคางคกหลงเหลืออยู่เลย”
เย่เสี่ยวจิ่นเม้มปากยิ้มแอบขำ “นั่นก็ไม่แน่นะ!”
[1] เจียวไป๋ (茭白) เป็นแกนอ่อนของพืชน้ำชนิดหนึ่ง ต้นจะคล้าย ๆ ต้นหญ้าคา แต่จะใช้แค่แกนอ่อน ๆ สีขาวมากิน รสชาติหวานกรอบ คล้าย ๆ หน่อไม้กับยอดมะพร้าว และเนื้อสัมผัสจะนุ่มกว่าหน่อย คนจีนนิยมนำมาทำเป็นอาหาร เช่น หั่นเป็นเส้น ๆ ผัดกับเนื้อสัตว์