ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 83 การเลี้ยงดูครอบครัวตระกูลเย่ (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 83 การเลี้ยงดูครอบครัวตระกูลเย่ (รีไรต์)
บทที่ 83 การเลี้ยงดูครอบครัวตระกูลเย่ (รีไรต์)
บทที่ 83 การเลี้ยงดูครอบครัวตระกูลเย่ (รีไรต์)
ตอนที่ครอบครัวกลับมาถึงบ้าน ก็เป็นเวลาประมาณหกโมงเย็นแล้ว
เย่หวายทำอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว และรอพวกเขากลับมาตลอด
ทุกอย่างในบ้านก็ถูกเขาจัดการอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย
“พี่สาม พวกเรากลับมาแล้ว!” เย่เสี่ยวจิ่นวิ่งเข้าบ้านมาพร้อมรอยยิ้ม
ในมือของเธอถือกรงใบหนึ่ง “พี่รีบมาดูสิว่าพวกเราซื้ออะไรดี ๆ มา?”
เย่หวายรีบตักข้าว “พวกเธอคงหิวกันมาตลอดทางแล้วสินะ? รีบกินข้าวกันเถอะ”
ทุกคนนั่งลงที่โต๊ะอาหาร
เย่เสี่ยวจิ่นออดอ้อน “พี่สามยังไม่ได้ดูของดีที่ฉันซื้อมาเลยนะ”
เย่หวายอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “เสียงก๊าบ ๆ ของเจ้าเป็ดพวกนั้น พี่ได้ยินตั้งแต่ไกล ๆ แล้ว”
“กรงเป็ดของเธอนี่ คงมีประมาณ 20 ตัวสินะ?”
เย่เสี่ยวจิ่นแลบลิ้นแล้วพูดว่า “มี 20 ตัวนะ พรุ่งนี้เราต้องทำเล้าให้ลูกเป็ดด้วยแล้ว”
“ไม่งั้นพวกลูกเป็ดจะไม่มีที่นอน”
เย่จื้อผิงพูดว่า “ไม่ต้องห่วง พรุ่งนี้พ่อจะทำตอนเที่ยง แล้วก็ทำต่อหลังกินข้าวเย็นอีกสักพัก”
“เดี๋ยวจะลากไม้ไผ่ไปวางไว้ข้างเล้าไก่”
“รับรองว่าพรุ่งนี้จะทำเสร็จ”
เย่หวายรีบพูดขึ้นว่า “พ่อ ให้ผมทำเองดีกว่าวันเสาร์หยุดเรียน”
“พ่อกับแม่ไปทำงานที่ทีมอย่างสบายใจเถอะ ผมจะอยู่บ้านทำเล้าเป็ด”
“พอดีต้องไปถอนหญ้าด้วย”
เย่จื้อผิงคิดว่าก็ดีเหมือนกัน จึงตบไหล่เย่หวายแล้วพูดว่า “ลูกชายคนที่สามของเราขยันมาก งั้นฝากลูกละ”
บนโต๊ะอาหารมีสองจาน
หนึ่งจานเป็นพริกผัดหน่อไม้ และอีกจานเป็นปลาหนีชิวผัด
โคมไฟพลังงานแสงอาทิตย์ส่องสว่างในครัว
เมื่อเร็ว ๆ นี้ เย่เสี่ยวจิ่นได้รับไฟฉายมาสองอัน เธอจึงนำโคมไฟมาใช้ในครัว
ไฟฉายดูไม่ค่อยเหมาะกับที่นี่เท่าไหร่ แต่มีประโยชน์มาก
หลี่ชุ่ยชุ่ยหยิบเงินออกมาจากกระเป๋า “วันนี้พวกเราทำเงินได้ 16 หยวน”
“รวมกับคนที่สั่งจองสตรอว์เบอร์รี 10 จินและจ่ายมัดจำมา 2 หยวน ก็รวมเป็น 18 หยวน”
“ซื้อเป็ดไป 3 หยวน และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ รวมถึงซื้อยา… เหลือ 14 หยวน 5 เหมา”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรู้สึกดีใจมาก
หล่อนคำนวณว่า “สตรอว์เบอร์รีนี่ทำกำไรได้ดีทีเดียว และยังเติบโตเร็วด้วย ฉันเห็นว่าอีกสองวันจะมีผลผลิตประมาณ 20 จิน”
“พอดีส่ง 10 จินนั้น แล้วก็สามารถไปขายเพิ่มได้อีก”
“ถึงตอนนั้นพวกเราก็ไม่ต้องไปกันทั้งหมด”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มตาหยี “ดีค่ะแม่ ครอบครัวของเราต้องรวยในไม่ช้าแน่นอน”
ทุกคนในครอบครัวต่างหัวเราะกับคำพูดของเธอ
ระบบความมั่งคั่งมหาศาลของเย่เสี่ยวจิ่น จะต้องคอยกำกับให้เธอรวยเละเทะแน่นอน
นี่เป็นเรื่องที่ไม่ต้องสงสัยเลย
เย่หวายยิ้มแล้วถามว่า “อาการป่วยของจิ่นเป่าเป็นยังไงบ้าง? ไปตรวจที่โรงพยาบาลหรือยังครับ?”
“หมอบอกว่าเป็นปอดอักเสบนิดหน่อย ไม่ได้รุนแรง” หลี่ชุ่ยชุ่ยพูด “ก่อนหน้านี้ที่หมอประจำหมู่บ้านบอกว่าอยู่ในระดับปานกลาง”
“ไม่รู้ว่าเป็นเพราะวินิจฉัยผิดตั้งแต่แรก หรือว่าอาการดีขึ้น”
“ตอนนี้ให้ยามาก่อน อีกไม่กี่วันค่อยไปดูอีกที”
เย่หวายถอนหายใจด้วยความโล่งอก “หวังว่าอาการป่วยของจิ่นเป่าจะดีขึ้นในเร็ววัน”
ไม่อย่างนั้นเรื่องนี้ก็จะกดดันอยู่ในใจของทุกคนตลอดไป
“โอ๊ย พ่อแม่พี่สามไม่ต้องกังวลหรอก อาการป่วยของหนูจะหายเร็ว ๆ นี้แหละ”
“ท่านเซียนบอกหนูมา”
เธอหยิบตะเกียบขึ้นมาคีบข้าวเข้าปาก “แล้วหนูก็แข็งแรงขนาดนี้ ยังทำงานได้ด้วย จะเป็นคนขี้โรคได้ยังไงกัน”
“ก่อนหน้านี้หนูอ่อนแอ แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้วนะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยคีบอาหารให้เธอ “กินเยอะ ๆ หน่อย จะได้แข็งแรงยิ่งขึ้นไปอีก”
เช้าวันเสาร์ เย่เสี่ยวจิ่นไปสวนผลไม้กับพ่ออีกครั้ง
หลี่ชุ่ยชุ่ยไปฟาร์มไก่ตามปกติ
เย่หวายขนไม้ไผ่ไปวางไว้ข้างเล้าไก่ตั้งแต่เช้า แล้วก็ไปถางหญ้าใต้ต้นลูกพลับ
เขาถือมีดฟันไม้ไผ่ เริ่มทำเล้าเป็ดตามแบบเล้าไก่
รอบ ๆ ตัวมีแต่เสียง ‘กุ๊ก ๆ ๆ’ กับ ‘ก๊าบ ๆ ๆ’
รวมกับเสียงแมลงร้องและนกร้อง ทำให้บรรยากาศคึกคักมาก
เย่หวายมองลูกเป็ดน้อย ๆ แล้วอดไม่ได้ที่จะยิ้ม “มีไก่เป็ดมากมายขนาดนี้ ชีวิตคงจะดีขึ้นเรื่อย ๆ นะ”
เขาละสายตากลับมาแล้วฟันไม้ไผ่ต่อ
พอถึงเที่ยงก็เห็นโครงร่างคร่าว ๆ แล้ว พอบ่ายโมงบ่ายสองก็มุงหลังคาด้วยหญ้าคาเสร็จเรียบร้อย
เขากินข้าวเที่ยงเสร็จแล้วก็หยิบจอบขึ้นเขาไปถางหญ้า
เย่เสี่ยวจิ่นสังเกตเห็นหญ้าอวบอ้วนหลายต้นในสวนผลไม้ ซึ่งต้องถูกกำจัดทิ้งอยู่แล้ว
เย่เสี่ยวจิ่นจึงบอกกับเย่จื้อผิงว่า “พ่อคะ เราเอาหญ้าพวกนี้กลับบ้านกันเถอะ หนูจะเอาไปทำอาหารเป็ด”
เย่จื้อผิงพยักหน้า “งั้นเดี๋ยวพ่อจะเอาตะกร้าไม้ไผ่มาใส่กลับบ้าน”
ตอนกลางคืน
ลูกเป็ดตัวน้อยเข้าไปอยู่ในเล้าที่ปูด้วยหญ้าอ่อน
ทุกตัวต่างหิวโหย
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบอาหารเป็ดเสริมกำลังออกมาจากระบบเพื่อทำอาหารเป็ด
เมื่อลูกเป็ดได้รับอาหาร พวกมันก็รีบกินอย่างมีความสุข
‘ก๊าบ ก๊าบ ก๊าบ’
เย่หวายเข้ามาช่วย “จิ่นเป่า อาหารเป็ดของเธอนี่…”
“ดีใช่ไหมล่ะ?” เย่เสี่ยวจิ่นตบราวเล้าเป็ดอย่างมีความสุข “อีก 40 วันพวกเราก็จะได้กินเป็ดแล้ว”
เย่หวายยิ้มน้อย ๆ “ใช่แล้ว ตอนนั้นจิ่นเป่าจะได้กินขาเป็ดใหญ่ ๆ”
เขาพูดพลางลูบหัวของเย่เสี่ยวจิ่น
“รีบกลับเข้าบ้านเร็ว พี่ทำน้ำผึ้งไว้ให้แล้ว ดื่มสักหน่อยเพื่อชุ่มคอนะ”
เย่เสี่ยวจิ่นถูกเย่หวายจูงมือพากลับเข้าบ้าน
เธอเดินไปพลางเล่าแผนการเลี้ยงสัตว์ของตัวเองให้พี่ชายฟังไปพลาง
เย่หวายไม่ได้รำคาญที่น้องสาวพูดมาก เขาตั้งใจฟังอย่างอดทน
เขามองดูใบหน้าด้านข้างของน้องสาว รู้สึกว่า…
ถ้าน้องสาวจะมีความสุขแบบนี้ตลอดไปก็คงจะดี
เขาจะพยายามสอบเข้ามหาวิทยาลัยดี ๆ ให้ได้ เพื่อจะได้พาน้องสาวไปใช้ชีวิตที่ดีในเมืองในอนาคต
ผ่านไปสองสามวัน
เย่จื้อผิงไปขายสตรอว์เบอร์รีในเมืองคนเดียว แม้ว่าขาของเขาจะยังไม่สะดวกนัก
แต่ก็ดีที่ฟื้นตัวไปได้มากแล้ว
คนเดียวค่าใช้จ่ายน้อยหน่อย อีกทั้งยังไม่ต้องทำให้คนอื่นในครอบครัวต้องหยุดงานด้วย
เย่เสี่ยวจิ่นตื่นนอนตอนเช้า ได้ยินเสียงเคาะประตู
เธอเห็นโจวเหวินรุ่ยที่หน้าประตู จึงขยี้ตาแล้วถามว่า “มีอะไรเหรอ รุ่ยเป่า?”
โจวเหวินรุ่ยดูอารมณ์ไม่ค่อยดี
เขาจับมือของเย่เสี่ยวจิ่น หางตาแดงเล็กน้อย ดูเปราะบางมาก
“จิ่นเป่า ฉัน…”
“พูดมาเถอะ อย่าเสียใจไปเลย” เย่เสี่ยวจิ่นตบมือเขาเบา ๆ “นายจะมาเกรงใจอะไรกับฉัน?”
โจวเหวินรุ่ยก้มหน้าลง ดึงชายเสื้อ “เป็ดน้อยที่ฉันเลี้ยงให้เธอป่วยกันหมดแล้ว…”
“ฉันไม่รู้จะทำยังไงดี คงจะตายกันหมดแล้ว”
“เธอช่วยมาดูให้หน่อยได้ไหม?”
“นายเลี้ยงเป็ดน้อยเหรอ?” เย่เสี่ยวจิ่นกะพริบตาปริบ ๆ อย่างงุนงง “เมื่อไหร่กันนะ?”
“ก่อนหน้านี้ฉันได้ยินเธอบอกว่าอยากกินเป็ด ฉันเลยเลี้ยงไว้ 20 ตัว”
“ฉันก็ไม่ค่อยเก่งเรื่องนี้ ทุกวันก็แค่ให้อาหารพวกมัน แต่พวกมันดูไม่ค่อยแข็งแรงเลย”
“เช้านี้ตัวที่หกตายไปแล้ว”
โจวเหวินรุ่ยพูดด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย
เย่เสี่ยวจิ่นรู้สึกอยากหัวเราะขึ้นมาอย่างประหลาด
เธอได้เรียนรู้วิธีการเลี้ยงสัตว์ด้วยตัวเองมา 31 วันแล้ว ดังนั้นตอนนี้จึงไม่จำเป็นต้องให้อาหารเป็ดแบบหยาบ ๆ โดยตรงอีกต่อไป
“ไปกันเถอะ ฉันจะช่วยดูให้”
“นายนี่นะ… ไม่มีความสามารถแบบนี้ แล้วยังจะเลี้ยงเป็ดตั้งเยอะแยะ?”
เย่เสี่ยวจิ่นบ่นอุบอิบ
ต้องรู้ว่าที่บ้านเธอสามารถเลี้ยงสัตว์ได้มากมายขนาดนั้น เป็นเพราะเธอมีอาหารสัตว์ สามารถใช้จูเฉ่าทำอาหารไก่และเป็ดเองได้
ไม่จำเป็นต้องใช้อาหารของครอบครัวมาเลี้ยงสัตว์เลย
โจวเหวินรุ่ยทำปากยู่ “จิ่นเป่า เธออย่าพูดอีกเลย ฉันก็เสียใจมากเหมือนกัน”
เย่เสี่ยวจิ่นเห็นเขาทำท่าเหมือนคนน้อยใจ อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา “ฮ่า ๆ… อย่ากังวลไปเลย”