ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 74 ถ่ายทอดวิธีการต่อกิ่ง (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 74 ถ่ายทอดวิธีการต่อกิ่ง (รีไรต์)
บทที่ 74 ถ่ายทอดวิธีการต่อกิ่ง (รีไรต์)
บทที่ 74 ถ่ายทอดวิธีการต่อกิ่ง (รีไรต์)
เซี่ยงเหวินเหวินกวาดตามองเย่จู๋อย่างดูแคลน
ซ่งเสี่ยวจื่อแค่นเสียงฮึ “นังเด็กนี่ อย่ามายุ่งวุ่นวายที่นี่”
“ฉันเห็นเธอมากับเย่เสี่ยวจิ่น เธอตั้งใจจะไปฟ้องใช่ไหม?”
“พวกเราพูดความจริง ถึงเธอจะไปฟ้องก็ไม่เป็นไร”
เย่จู๋เม้มปาก “เซี่ยวเยว่หลอกคนให้ซื้อน้ำมันคุณภาพต่ำ เธอมีอะไรดี?”
ซ่งเสี่ยวจื่อไม่อยากสนใจเย่จู๋อีกต่อไป
เซี่ยวเยว่ถึงอย่างไรก็เป็นคนที่มาจากเมืองใหญ่ มีความรู้ แต่นิสัยก็ไม่ค่อยดีนัก
ส่วนเย่เสี่ยวจิ่นก็แค่เด็กบ้านนอกที่ไม่มีความรู้ ไม่มีความสามารถ
พวกหล่อนจึงอิจฉากันมาก
ถึงอย่างไร เงื่อนไขของเย่เสี่ยวจิ่น พวกหล่อนก็สามารถทำได้
แม้กระทั่งแข็งแกร่งกว่าเย่เสี่ยวจิ่นเสียอีก
ทำไมตำแหน่งหัวหน้าทีมนี้ถึงได้มอบให้เย่เสี่ยวจิ่นไปเฉย ๆ ล่ะ?
เซี่ยงเหวินเหวินพูดเสริมว่า “เย่เสี่ยวจิ่นทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ไม่รู้ว่าเป็นหัวหน้าทีมได้ยังไง คงเส้นสายดีล่ะมั้ง?”
เย่จู๋ลุกขึ้นยืน “เย่เสี่ยวจิ่นมีฝีมือนะ!”
ต้นแพร์เติบโตเขียวชอุ่ม
ทางเดินเล็ก ๆ เต็มไปด้วยวัชพืช
ตอนเช้ายังชื้นอยู่บ้าง ดูมีชีวิตชีวามาก
เมื่อคืนฝนตกในช่วงดึก ตอนนี้อากาศเต็มไปด้วยกลิ่นดินสดชื่น
มองไปไกล ๆ ยังมีหมอกลอยอยู่บนภูเขาใหญ่
ด้านข้างของภูเขาต้นแพร์ เย่เสี่ยวจิ่นกำลังดูต้นแพร์อายุ 3 ปีที่นี่กับหยางเจวียน
“ที่นี่เป็นต้นแพร์ที่ปลูกเมื่อเร็ว ๆ นี้ทั้งหมด”
“ก็ 3 ปีแล้ว”
“ดีทีเดียว” เย่เสี่ยวจิ่นเดินเข้าไปในสวน ดูขนาดและกิ่งก้านของต้นไม้ “ขนาดนี้ดีทีเดียว”
ด้านหน้าเป็นต้นไม้ใหญ่ทั้งหมด เย่เสี่ยวจิ่นไม่มั่นใจที่จะต่อกิ่ง เพราะยังขาดทักษะในการปฏิบัติจริง
ดังนั้นเธอจึงมาดูต้นไม้อายุ 3 ปีกับหยางเจวียน
ต้นไม้แบบนี้มีโอกาสต่อกิ่งสำเร็จสูงกว่า
“หนูจะต่อกิ่งต้นไม้อายุ 3 ปีทั้งหมดที่นี่” เย่เสี่ยวจิ่นชี้ไปที่ต้นไม้ “รอให้พวกนี้รอดชีวิตก่อน แล้วค่อยไปจัดการกับต้นใหญ่ด้านหน้า”
“คงมีประมาณ 100 ต้น” หยางเจวียนคิดสักครู่แล้วยิ้มพูดว่า “จิ่นเป่า เธอวางแผนมาดีทีเดียวนะ”
“ไม่ใช่หรอก หนูแค่กลัวว่าถ้าตายหมดทุกคนจะไม่มีลูกแพร์กิน” เย่เสี่ยวจิ่นอธิบายอย่างตรงไปตรงมา “ถ้าเกิดการต่อกิ่งที่นี่ล้มเหลว อย่างน้อยทุกคนก็ยังมีลูกแพร์หินกินบ้าง”
เมื่อพูดเช่นนี้ หยางเจวียนและเย่จื้อผิงที่อยู่ข้าง ๆ ต่างก็หัวเราะ
“กลัวอดตายเหรอ?” หยางเจวียนอดไม่ได้ที่จะหัวเราะ “ฉันนึกว่าเธอวางแผนไว้แล้วเสียอีก!”
เย่จื้อผิงมองดูต้นไม้ 100 ต้นเหล่านี้ ซึ่งปลูกไว้เมื่อไม่กี่ปีก่อน
พวกมันเติบโตอย่างแข็งแรง
เขายังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ที่นี่เคยเป็นป่าสน ผ่านมาหลายปีแล้ว
ต้นแพร์ที่ออกผลดกก็ต้องเปลี่ยนพันธุ์แล้ว
ไม่รู้ว่าจะเปลี่ยนจากแพร์หินเป็นแพร์อะไร
เย่เสี่ยวจิ่นเขย่าแขนของเย่จื้อผิง “พ่อคะ อย่าเหม่อสิ เรื่องดูแลการเสียบยอดของทุกคนฝากพ่อด้วยนะ”
“เดี๋ยวหนูจะเลือกคนขึ้นมา แล้วสอนวิธีเสียบยอด”
“แต่การลงมือทำจริง ๆ ก็ต้องให้พ่อคอยดูแลนะ”
เย่จื้อผิงพยักหน้า “ได้ จิ่นเป่าวางใจได้ พ่อดูจนเข้าใจหมดแล้ว”
“ได้ค่ะ” เย่เสี่ยวจิ่นพูดกับหยางเจวียน “ป้าเจวียน ช่วยเลือกคนที่ขยันทำงานมาสัก 10 คนค่ะ”
“ผู้ชายหรือผู้หญิงก็ได้ แต่ต้องอดทนหน่อยนะคะ”
“งานนี้ทำยากลำบาก คงต้องใช้เวลานาน”
“ต้นไม้ 100 ต้น คน 10 คนพอเหรอ?” หยางเจวียนสงสัย
เย่เสี่ยวจิ่นพึมพำ “ก็ทุกคนยังไม่คุ้นเคยกับงาน ถ้าคนเยอะเกินไปอาจจัดการยาก”
“ต้นไม้พวกนี้ตายไปแม้แต่ต้นเดียวก็น่าเสียดาย”
“ทำช้าหน่อยก็ไม่เป็นไร ต้องรักษาคุณภาพไว้ ยังไงก็…ทำได้เท่าไหร่ก็ทำไปค่ะ”
หยางเจวียนรับปาก รีบลงไปหาคนทันที
สวนผลไม้
จากผู้หญิงที่กำลังถอนหญ้าในสวน เธอเลือกมา 5 คนที่ขยันขันแข็ง
ส่วนผู้ชายที่กำลังขุดดิน ก็เลือกมา 5 คนที่ทำงานคล่องแคล่ว
รวมกับหยางเจวียนก็เป็น 11 คน
เย่เสี่ยวจิ่นคำนวณในใจว่า ต้นไม้ 100 ต้น คน 11 คน ก็น่าจะใช้เวลาแค่ไม่กี่วันก็พอ
ตอนที่หยางเจวียนกำลังเรียกคน กัวชิงซงกับซุนฉางซู่ก็มาด้วย
พวกเขาต่างอยากรู้ว่าเย่เสี่ยวจิ่นจะทำหน้าที่หัวหน้าทีมได้ดีแค่ไหน
พอได้ยินว่าเธอจะทำการต่อกิ่ง พวกเขาก็รีบมาเรียนรู้กันทันที
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบกิ่งไม้เล็ก ๆ จำนวนมากออกมาจากมิติพิเศษ
เย่จื้อผิงเพียงแค่หันหลังไปแปบเดียว ก็เห็นกองกิ่งไม้เล็ก ๆ บนพื้นแล้ว
“จิ่นเป่า…นี่คืออะไรเหรอ?”
“นี่คือกิ่งของต้นแพร์เสาร์ค่ะ”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มน้อย ๆ “ก็บอกว่าพ่อช่วยถือให้หนูไงคะ”
เย่จื้อผิงเกาหัวงง ๆ
เสียงพูดคุยดังใกล้เข้ามาแล้ว
คนที่นำหน้ามาคือซูต้าเฉียง
เขารูปร่างใหญ่โต ถือจอบมาด้วย
เย่เสี่ยวจิ่นจำเขาได้ ตอนที่มีเรื่องน้ำมันเสื่อมคุณภาพ เขาเป็นคนแรกที่ไปคืนน้ำมัน
“จิ่นเป่า เป็นยังไงบ้าง” ซุนฉางซู่เดินมาข้างหน้าสุด มองต้นไม้ข้าง ๆ เธอ “เธอตั้งใจจะเสียบกิ่งต้นไม้พวกนี้เหรอ”
“ใช่ค่ะ สอนทุกคนให้เป็นก่อน หลังจากนั้นอาจจะต้องเสียบกิ่งต้นไม้อื่น ๆ อีกก็ได้นะคะ”
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบกิ่งไม้เล็ก ๆ จากพื้นขึ้นมา แล้วพูดว่า “นี่คือต้นแพร์เสาร์”
“ลุงซุน ลุงกัว พวกคุณก็มาช่วยทำงานด้วยเหรอคะ?”
กัวชิงซงยิ้ม “มาขโมยวิธีการของเธอน่ะ ช่วยทำงานนิดหน่อยก็ได้”
ตอนนี้มีคนมามุงดูกันเยอะแล้ว
ผู้หญิงหลายคนที่ตามหยางเจวียนมาก็ยืนดูอยู่ด้านหลัง
หลี่ซิ่วมองอย่างสงสัย “เจวียนจื่อ พวกเขากำลังทำอะไรกันน่ะ? ทำไมทั้งผู้ใหญ่บ้านและเลขาฯ ก็มากันด้วย?”
“พวกเขากำลังเปลี่ยนพันธุ์ไม้ผลกัน เธอไม่ได้ยินเรื่องที่จิ่นเป่าได้เป็นหัวหน้าทีมเหรอ?” หยางเจวียนพูดอย่างภาคภูมิใจ “เธอจะสอนทุกคนเรื่องการต่อกิ่งไม้ผลน่ะ”
หลี่ซิ่วพยักหน้า
แล้วก็ได้ยินเสียงเย่เสี่ยวจิ่นพูดดังมาจากด้านหน้า “ทุกคนเข้ามาใกล้ ๆ หน่อยนะคะ ถ้ามองไม่เห็นชัดก็จะเรียนรู้ไม่ได้นะ”
หลี่ซิ่วเดินตามหยางเจวียนไปด้านหน้า
ทันใดนั้นก็เห็นเด็กหญิงตัวน้อยคนหนึ่งถือเลื่อยเล็ก ๆ กำลังพูดอยู่
เย่เสี่ยวจิ่นสาธิตวิธีการต่อกิ่งไม้ผลให้ทุกคนดูอย่างละเอียด
เธออธิบายอย่างละเอียด โดยทำการต่อกิ่งบนต้นไม้หนึ่งต้นถึงสามจุด
เธอสาธิตให้ดูถึงสามครั้ง
ทุกคนต่างเข้าใจกันหมดแล้ว
เย่เสี่ยวจิ่นเลือกต้นไม้อีกต้นที่อยู่ข้าง ๆ แล้วพูดกับซูต้าเฉียงว่า “คุณลองดูบ้างสิคะ”
เธอหยิบแผ่นฟิล์มบาง ๆ จำนวนมากออกมาจากกระเป๋า วางไว้ข้าง ๆ กิ่งไม้เล็ก ๆ ให้ทุกคนใช้
เมื่อมีคนถาม เธอก็บอกว่าซื้อมาจากในเมือง
ต้นไม้ต้นนี้มีกิ่งใหญ่อยู่สี่กิ่ง
ซูต้าเฉียงลองทำท่าดู แล้วมองไปที่เย่เสี่ยวจิ่น พูดอย่างไม่แน่ใจว่า “การเลือกกิ่ง คือเลือกสี่กิ่งนี้ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ”
ซูต้าเฉียงทำท่าชี้ตำแหน่งอีกครั้ง “งั้นฉันเลื่อยตรงนี้ใช่ไหม?”
ซูต้าเฉียงทำเสาหลักออกมาได้ดีทีเดียว
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้าอย่างพอใจ “ลุงกัว ลุงซุน พวกคุณจะลองทำให้ดูบ้างไหมคะ?”
ซุนฉางซู่ก้าวออกมาข้างหน้า แล้วลงมือปฏิบัติตามที่เย่เสี่ยวจิ่นสอน
ตอนเลือกตาของกิ่งไม้เล็ก ๆ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง
แต่สุดท้ายก็ทำออกมาได้ดี
กัวชิงซงก็อยากจะออกไปลองบ้าง แต่คนอื่นไปลองก่อนแล้ว
เขารู้สึกกระวนกระวายใจ กลัวว่าถ้าไม่ได้ลงมือทำสักครั้ง พอกลับบ้านจะลืมวิธีการหมด
เย่เสี่ยวจิ่นเห็นว่าทุกคนทำได้ใกล้เคียงกัน จึงพูดว่า “มันง่ายมากค่ะ เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย ขอแค่ระวังนิดหน่อยก็พอแล้ว”
“ป้าเจวียน คุณก็มาลองดูสิคะ”
หยางเจวียนไปทำเป็นคนสุดท้าย ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม แต่ก็มีท่าทางตื่นเต้นอยู่บ้าง
“จิ่นเป่า ดูสิว่าฉันทำแบบนี้ได้ไหม?”
“ได้ แต่คุณต้องระวังตอนปักชำนะ ต้องให้เปลือกชิดกับเปลือก”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มพลางกล่าว “เอาละ ทุกคนน่าจะเรียนรู้กันหมดแล้วใช่ไหมคะ?”
“ถ้าใครยังไม่เข้าใจตรงไหน ก็ให้พ่อของหนูสอนนะ”
“ส่วนหนูน่ะ… จะขึ้นไปดูบนยอดเขาหน่อย”
เย่เสี่ยวจิ่นไม่ได้ต้องการหลบเลี่ยงงาน แต่ตั้งใจให้พ่อได้แสดงบทบาทที่นี่
คนข้างล่างเห็นผู้ใหญ่บ้านและเลขาฯ ลงจากเขามาแล้ว
เซี่ยงเหวินเหวินสงสัย “ทุกคนขึ้นเขาไปเรียนรู้อะไรกับเย่เสี่ยวจิ่นกันเหรอ? ฉันนึกว่าหยางเจวียนพูดเล่นซะอีก”
“ไม่คิดว่าแม้แต่ผู้ใหญ่บ้านและเลขาธิการพรรคก็มาด้วย ช่างมีหน้ามีตาจริง ๆ”
“พวกเขายังถือกิ่งไม้เล็ก ๆ อยู่ในมือ นี่เรียนจบแล้วเหรอ?”
ซ่งเสี่ยวจื่อรู้สึกเสียดายเล็กน้อย “หยางเจวียนไม่เรียกพวกเราไปเรียนด้วยเลย ฮึ่ม คงยังไม่เห็นค่าพวกเราสินะ”
เซี่ยงเหวินเหวินยิ้มพูดว่า “เดี๋ยวพวกเราถอนหญ้าขึ้นไปข้างบน ก็จะได้ดูแล้ว”
เย่จู๋ได้ยินการสนทนาของทุกคนอยู่ข้าง ๆ
ในใจของเธอก็รู้สึกอยากรู้อยากเห็นเป็นอย่างมาก อยากไปเรียนกับเย่เสี่ยวจิ่นมาก
แต่เธอคิดว่า เย่เสี่ยวจิ่นคงไม่อยากสอนเธอแน่ ๆ
เย่จู๋รู้สึกเสียใจที่เคยรังแกเย่เสี่ยวจิ่นแบบนั้นในอดีต…
“ถ้าฉันขอโทษเธอ เธอจะให้อภัยฉันไหมนะ?”
เย่จู๋จมอยู่ในภวังค์ความคิด นึกถึงตอนที่เคยแย่งไก่กับเธอ และด่าทอเธอในอดีต
เย่จู๋รู้สึกมากขึ้นเรื่อย ๆ ว่าเย่เสี่ยวจิ่นคงไม่มีทางให้อภัยเธอได้แล้ว