ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 72 เต้าฮวย (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 72 เต้าฮวย (รีไรต์)
บทที่ 72 เต้าฮวย (รีไรต์)
บทที่ 72 เต้าฮวย (รีไรต์)
หลิวต้าเม่ยยิ้มอย่างไม่สู้ดีนัก
เย่เสี่ยวจิ่นกะพริบตาปริบ ๆ แกล้งทำเป็นสงสัย “ตอนที่ฉลองสอบเข้าเรียนมัธยมปลายให้พี่เหวินชาง แม่ของหนูก็เป็นคนทำอาหารไม่ใช่เหรอ?”
“พวกเราเป็นเจ้าของบ้าน ควรจะต้องคอยพูดคุยกับแขกสิ”
“ใช่ไหมคะ คุณย่า?”
หลิวต้าเม่ยพยักหน้าแล้วยิ้มแห้ง ๆ มองไปทางหลี่ชุ่ยชุ่ย “ชุ่ยชุ่ย พวกเราทำอาหารไม่อร่อย เธอมาทำเถอะ?”
หลี่ชุ่ยชุ่ยเห็นคนมากมายขนาดนั้น จะต้องวุ่นวายไม่รู้อีกนานแค่ไหน
หล่อนถอนหายใจ โดยไม่รู้ตัวก็กำลังจะยอมแพ้ “ฉัน…”
“แม่คะ แม่ยังต้องช่วยหนูจัดของอีกนะ” เย่เสี่ยวจิ่นจับมือหลี่ชุ่ยชุ่ยแล้วแกว่งไปมา “เพิ่งจะรับเรื่องสวนผลไม้มา มีหลายอย่างที่ต้องดู”
“หนูคนเดียวจะดูทันที่ไหนล่ะ?”
หลิวต้าเม่ยได้ยินแล้วพูดว่า “ใช่แล้ว กุ้ยฮวา วันนี้เธอมาทำอาหารเถอะ!”
“ชุ่ยชุ่ย ลูกสาวเธอเก่งนะ เธอไปนั่งคุยกับญาติ ๆ เถอะ”
“จิ่นเป่า เธอนั่งตรงนี้นะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยนั่งลงบนเก้าอี้ มองดูหลี่กุ้ยฮวาวุ่นวายไปมา
หล่อนรู้สึกกังวลใจและอึดอัดเหมือนนั่งบนเข็ม
ในที่สุด หล่อนก็ไปล้างผักช่วย
เย่เสี่ยวจิ่นรู้ว่านิสัยอ่อนโยนของแม่เป็นแบบนี้มานานแล้ว
เธอถอนหายใจ ส่ายหน้าอย่างจนปัญญา
ขาของเย่จื้อผิงยังไม่หายดี ไม่มีใครให้เขาทำงาน
แต่เขารู้สึกเกรงใจ เมื่อญาติ ๆ มาเยี่ยม เขาก็รู้สึกประหลาดใจ
“ชุ่ยชุ่ย ฉันจะช่วยเธอด้วย”
“คุณนั่งพักเถอะ ขาของคุณขยับบ่อย ๆ แบบนี้ มันจะหายดีเมื่อไหร่กันล่ะ?”
เย่จื้อผิงเม้มปาก “ขาฉันดีแล้วนะ”
“ดีตรงไหนกัน? หลังจากนี้คุณต้องไปทำงานที่สวนผลไม้กับจิ่นเป่า ต้องเหนื่อยแน่ ๆ” หลี่ชุ่ยชุ่ยมองด้วยสายตามุ่งมั่น น้ำเสียงห่วงใย “คุณนั่งพักเถอะนะ”
หล่อนยังกังวลว่าเย่จื้อผิงจะไปช่วยงานที่สวนผลไม้ได้อย่างไรในสภาพแบบนี้
แต่อย่างน้อยก็ยังมีงานทำ ดีกว่าอยู่เฉย ๆ ที่นี่
หลี่ชุ่ยชุ่ยคิดพลางล้างใบผักกาดขาวอย่างคล่องแคล่ว
ผักกาดขาวในฤดูนี้ทั้งอ่อนและหวาน รสชาติดีมาก
หลี่กุ้ยฮวากำลังยุ่งกับการหั่นผัก ได้ยินเย่จื้อผิงและคนอื่น ๆ คุยกับญาติ ๆ และมีคนมาประจบ
ในใจของหล่อนรู้สึกไม่สบายใจเลย หล่อนคิดว่าเมื่อเหวินชางของครอบครัวหล่อนได้เป็นใหญ่แล้ว หล่อนก็จะไม่ต้องสนใจพวกคนจนน่ารังเกียจพวกนี้อีกต่อไป
หลี่กุ้ยฮวาคิดแบบนั้นพลางหั่นผักบนเขียงดัง ‘ปัง ๆ ๆ’
หลิวต้าเม่ยที่กำลังช่วยงานในครัวพูดว่า “กุ้ยฮวา เธอก็อย่าโกรธเลย”
“ตอนนี้บ้านสามได้เป็นหัวหน้าทีมของสวนผลไม้แล้ว ต่อไปถ้าจื้อเฉียงจะเข้าเลือกหัวหน้าทีม ก็คงจะสะดวกขึ้นมาก”
“เดี๋ยวก็ให้เจ้าสามจัดการส่งเย่จู๋ไปทำงานที่สวนผลไม้เถอะ”
การทำงานในสวนผลไม้สบายกว่าการทำนามาก
อย่างน้อยก็ได้ทำงานอย่างสะอาดสะอ้าน แค่ดูแลต้นไม้ผลเท่านั้น
แต่การทำนาต้องขุดดิน ถอนหญ้า ปลูกพืช พอถึงฤดูกาลเปลี่ยน ก็ต้องถอนหญ้าและทำความสะอาดทางน้ำตลอด
ทั้งปีเหนื่อยมากจริง ๆ
หลี่กุ้ยฮวาคิดถึงลูกสาวที่ร้องไห้อยากไปเรียนหนังสือมาตลอด ให้เธอไปกับเย่เสี่ยวจิ่นด้วยก็คงไม่เป็นไร
อย่างน้อยก็สามารถบอกให้เธอไม่ต้องเรียกร้องอยากเรียนหนังสือมากนักได้
“น้องสามจะตกลงไหม? หัวหน้าทีมก็คือเย่เสี่ยวจิ่นนะ”
“เธอไม่ค่อยถูกกับพวกเราอยู่แล้ว”
หลิวต้าเม่ยยิ้มเล็กน้อย “ถึงเย่เสี่ยวจิ่นจะเป็นหัวหน้าทีม แต่คนตัดสินใจก็ยังเป็นเจ้าสามไม่ใช่เหรอ?”
“เขาเป็นอา ช่วยเหลือหลานสาวหน่อยจะเป็นไรไป?”
“เดี๋ยวฉันจะพูดตอนกินข้าว เขาต้องไม่ปฏิเสธแน่นอน”
หลิวต้าเม่ยพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ
หลี่กุ้ยฮวารู้สึกสบายใจขึ้นมาหน่อย
หล่อนเปิดกระป๋องน้ำมันเคลือบเล็ก ๆ เห็นน้ำมันสีเหลืองทองอยู่ข้างใน ก็ตกใจทันที
นึกถึงน้ำมันคุณภาพต่ำที่บ้านตัวเองยังไม่ได้ขาย หล่อนก็รู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาทันที
“น้ำมันของบ้านสามช่างดีจริง ๆ ไม่แปลกใจเลยที่จื้อเฉียงพูดแบบนั้น”
“น้ำมันนี้ทั้งสะอาดทั้งหอม สมควรแล้วที่ต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกไม่กี่เหมาเพื่อซื้อในเมือง…”
หลี่กุ้ยฮวาพูดพลางถอนหายใจ
ยิ่งรู้สึกว่าบ้านสามกำลังมีชีวิตที่ดีขึ้นเรื่อย ๆ
ในใจทั้งอิจฉาทั้งริษยา
และยังกลัวว่าครอบครัวของตัวเองจะถูกคนจนเหล่านี้แซงหน้าไป
ถึงตอนนั้นหล่อนจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน?
หลี่ชุ่ยชุ่ยถือจานอาหารเข้าครัว วางอาหารทั้งหมดลงบนโต๊ะ
“แม่ พี่สะใภ้ใหญ่ ในโหลยังมีผักดองอยู่ ทำไว้เมื่อวานซืน ตอนนี้ยังสดใหม่อยู่”
หลี่กุ้ยฮวาพยักหน้า ในใจคิดลับ ๆ ว่า ‘พวกเราต่างก็ออกเนื้อออกข้าว ส่วนเธอก็ดีสิ ออกแค่ผักดอง’
‘หน้าด้านจริง ๆ เลย’
หล่อนขมวดคิ้วเล็กน้อย “ได้ ผักดองก็ดีนะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยวางของลง ไม่ได้ช่วยก่อไฟหุงข้าว แต่เดินตรงไปนั่งในห้องโถงเลย
หลี่กุ้ยฮวามองแผ่นหลังของเธอหายไป แล้วถ่มน้ำลายอย่างรังเกียจ
หล่อนใช้ตะหลิวตักอาหารเสียงดัง ‘โครม โครม’
หยางเจวียนและหยางลี่ลี่ถือเต้าฮวยและไข่มาด้วย
พอมาถึงหน้าบ้านเย่ ก็ได้ยินเสียงคนคุยกันมากมาย
“แม่คะ บ้านจิ่นเป่ามีแขก พวกเราจะไปส่งของดีไหม?”
“ไม่เป็นไร” หยางเจวียนถือของเดินเข้าบ้านไปเลย พอเห็นญาติของตระกูลเย่ เธอก็รู้สึกขำ
เธอรู้มาตลอดว่าญาติพี่น้องของตระกูลเย่ดูถูกครอบครัวของเย่จื้อผิงกันทั้งนั้น
ตอนนี้ เย่เสี่ยวจิ่นเพิ่งได้เป็นหัวหน้าทีม บ้านจึงเต็มไปด้วยผู้คนแล้ว
“ชุ่ยชุ่ย บ้านฉันทำเต้าฮวยจากถั่วเหลือง เอามาให้เธอกินสด ๆ หน่อย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรีบลุกขึ้นทันที เห็นเต้าฮวยก้อนใหญ่สองก้อนสีขาวนวลในตะกร้าของหยางเจวียน
“โอ้โห เต้าฮวยนี่ดีจังเลย บ้านเราไม่ได้กินเต้าฮวยมานานแล้ว”
หยางเจวียนกวาดตามองรอบ ๆ แล้วเห็นเย่เสี่ยวจิ่น “จิ่นเป่า มานี่สิ”
เย่เสี่ยวจิ่นเข้าไปใกล้ ๆ เห็นว่าในตะกร้าของหยางเจวียนมีชามเต้าฮวยนิ่มอยู่ด้วย
เธอดีใจทันที “ว้าว เต้าฮวยนิ่ม”
หยางเจวียนยิ้มพูดว่า “เธอรีบกินตอนร้อน ๆ เลย ฉันใส่น้ำตาลไว้ที่ก้นชามด้วยนะ”
“ใช่แล้ว จิ่นเป่า อันนี้อร่อยมากเลย” หยางลี่ลี่ก็ยิ้มพูดเช่นกัน “บ้านเรายังมีอีกนะ ถ้าเธอกินหมดแล้วก็ไปกินที่บ้านเราได้”
เย่เสี่ยวจิ่นอุ้มชามไว้ แล้วใช้ช้อนป้อนหลี่ชุ่ยชุ่ยคำแรก “แม่กินก่อนค่ะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยส่ายหน้า “จิ่นเป่ากินเถอะ แม่ไม่ชอบกินเต้าฮวย”
หล่อนลูบหัวของเย่เสี่ยวจิ่นพลางพูดว่า “เด็ก ๆ กินอย่างนี้ดีต่อสมอง จะทำให้ฉลาดขึ้น”
เย่เสี่ยวจิ่นกะพริบตาปริบ ๆ
หยางเจวียนพูดอย่างจนปัญญา “ฉันถือตะกร้าอยู่ ไม่สะดวกถือเต้าฮวย”
“จิ่นเป่าเป็นเด็กกตัญญู รีบกินเถอะ”
“เดี๋ยวค่อยพาเธอไปกินที่บ้านฉันอีกก็ได้”
เย่เสี่ยวจิ่นถูกหลี่ชุ่ยชุ่ยเกลี้ยกล่อม จึงได้กินเต้าฮวยหนึ่งชามคนเดียว
เต้าฮวยที่ทำออกมาไม่ได้ละเอียดนัก
แต่มีกลิ่นหอมของถั่วเหลืองอย่างเข้มข้น
เนื้อนุ่มลื่น เธอกินหมดในคำเดียว
หลี่ชุ่ยชุ่ยเห็นเธอชอบกิน จึงพูดว่า “อีกไม่กี่วัน พวกเราจะไปซื้อถั่วเหลืองมาทำเต้าฮวยกัน”
“ตอนนั้นลูกจะได้กินอย่างเต็มที่ ดีไหม?”
“ใช่แล้ว” หลี่ชุ่ยชุ่ยหยิบผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดปากให้เธอ แล้วพูดกับหยางเจวียนว่า “พวกเธอรีบเข้าไปนั่งก่อนสิ ฉันจะไปเอาเมล็ดแตงโมออกมา”
หยางเจวียนส่ายหน้า “แค่มาส่งเต้าฮวยให้เธอเท่านั้น ตอนนี้จะกลับบ้านแล้ว”
“พวกเธอมีจิ่นเป่าเป็นหัวหน้าทีม ก็เป็นเรื่องน่ายินดีนะ”
“ไม่มีอะไรจะให้พวกเธอหรอก พอดีทำเต้าฮวย เลยเอามาให้สองก้อน”
หยางลี่ลี่แอบจับมือเย่เสี่ยวจิ่นไว้ ดวงตาเป็นประกาย “จิ่นเป่า เธอเก่งมากเลยนะ”
“เมื่อคืนฉันเห็นเธอพูด พูดได้ดีมากเลย”
“พวกเราคิดว่าเธอเก่งมากจริง ๆ ฉันเห็นต้นลูกแพร์ริมลำธารบ้านเธอ ถูกเธอทำให้เกลี้ยงเกลาไปหมดแล้ว”
“นั่นคือ…อืม ต้นไม้ที่เธอต่อกิ่งใช่ไหม?”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า “ใช่แล้วค่ะ ถ้าป้าหยางต้องการต่อกิ่งหรือเปลี่ยนพันธุ์ มาถามหนูเรื่องต้นกล้าลูกแพร์ได้นะคะ”
“ดีเลย ดีมากเลย ต้นแพร์ริมบ่อน้ำบ้านฉันไม่อร่อยเลยสักนิด”
หยางเจวียนและหยางลี่ลี่ส่งของเสร็จแล้วก็กลับไป
หลี่ชุ่ยชุ่ยนำเต้าฮวยไปส่งที่ห้องครัว
หลิวต้าเม่ยเห็นหยางเจวียนมา เธอจงใจพูดว่า “ชุ่ยชุ่ย เธออย่าเพิ่งคิดว่าคนอื่นดีแค่เพราะน้ำใจเล็ก ๆ น้อย ๆ นะ”
“เขาแค่เห็นว่าจิ่นเป่าได้เป็นหัวหน้าทีม ถึงได้มาประจบประแจงเธอน่ะ”
“ขอให้ช่วยเหลือ เต้าฮวยแค่นี้มันไม่มีค่าอะไรหรอก!”
สีหน้าของหลี่ชุ่ยชุ่ยดูไม่ค่อยดีนัก “แม่ แม่คิดมากไปแล้ว พี่เจวียนเป็นคนดีนะ”
“เธอจะรู้อะไร ฉันเป็นผู้ใหญ่ มองคนไม่ผิดหรอก”