ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 70 โชคชะตากำลังเปลี่ยนไป (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 70 โชคชะตากำลังเปลี่ยนไป (รีไรต์)
บทที่ 70 โชคชะตากำลังเปลี่ยนไป (รีไรต์)
บทที่ 70 โชคชะตากำลังเปลี่ยนไป (รีไรต์)
สมองของหลิวต้าเม่ยเหมือนถูกฟ้าผ่า เสียงดังสนั่นราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมา
จอบในมือของเธอแทบจะหลุดร่วง
เย่เสี่ยวจิ่นคนนั้น ดาวซวยคนนั้นได้เป็นหัวหน้าทีมงั้นเหรอ?
นี่มันกำลังล้อเล่นกับเธอใช่ไหม?
หลิวต้าเม่ยมองซุนหลานฮวาด้วยสายตาไม่สู้ดีนัก “เธอกำลังโกหกฉันใช่ไหม?”
“แค่เด็กคนนั้นน่ะเหรอ? อายุแค่สามขวบครึ่ง จะเป็นหัวหน้าทีม?”
“เธอคิดว่าพูดออกไปแบบนี้ ใครจะเชื่อ?”
ซุนหลานฮวาเห็นอีกฝ่ายเปลี่ยนสีหน้าโดยไม่มีเหตุผล ก็รู้สึกงุนงงไม่น้อย “โอ้โห ป้าหลิวนี่เป็นคนยังไงกัน?”
“ฉันจะโกหกคุณทำไม? นี่คุณดูถูกเย่เสี่ยวจิ่นหลานสาวของคุณเองเหรอ?”
“ฮึ่ม งั้นก็แสดงว่าเธอมีความสามารถนั่นแหละ”
ซุนหลานฮวาพูดจบก็ไม่สนใจหลิวต้าเม่ยอีกต่อไป
หลิวต้าเม่ยรู้สึกสับสนในใจ รีบไปถามคนอื่น ๆ ทันที
ในที่สุดหลังจากถามไปรอบหนึ่ง เธอก็เชื่อแล้ว…
เย่เสี่ยวจิ่นได้รับเลือกเป็นหัวหน้าทีมสวนผลไม้จริง ๆ!
ตอนเที่ยงกลับถึงบ้าน
เย่ฉู่เฉียงเห็นหลิวต้าเม่ยดูเหมือนคนไร้สติ “เป็นอะไรไป? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้นเหรอ?”
“เย่เสี่ยวจิ่นได้เป็นหัวหน้าทีมสวนผลไม้แล้ว!”
คราวนี้ไม่ใช่แค่หลิวต้าเม่ยคนเดียว เย่ฉู่เฉียงก็ตกตะลึงไปด้วย
คู่สามีภรรยาต่างรู้สึกสับสนอย่างมาก ไม่คิดว่าเย่เสี่ยวจิ่นคนที่เป็นตัวอัปมงคลนี่ จะกลายเป็นคนแรกในครอบครัวที่ได้เป็นหัวหน้าทีม
หลังจากเหตุการณ์นั้นเกิดขึ้น เย่จื้อเฉียงและครอบครัวต่างก็รู้สึกหดหู่และอิจฉาอยู่บ้าง
ท้ายที่สุดแล้ว หัวหน้าทีมคนแรกของตระกูลเย่ จะเป็นคนจากบ้านสามได้อย่างไรกัน?
บ้านสามที่พวกเขาดูถูกที่สุด กลับพลิกชีวิตได้แบบนี้เชียวเหรอ?
หลี่กุ้ยฮวากินข้าวไม่ลง ได้แต่ถอนหายใจ “ก่อนหน้านี้ฉันยังพูดว่า พวกเขาจะโชคดีแค่ไหนก็เป็นหัวหน้าทีมไม่ได้หรอก”
“ตอนนี้ดีแล้ว เย่เสี่ยวจิ่นคนนี้พูดเก่งเหลือเกิน”
“ถึงกับได้เป็นหัวหน้าทีมจริง ๆ ต่อไปฉันจะเชิดหน้าขึ้นต่อหน้าหลี่ชุ่ยชุ่ยได้อย่างไร?”
พูดไปพูดมา หล่อนก็ยิ่งรู้สึกแย่
เย่จื้อเฉียงรู้สึกแย่กว่าหลี่กุ้ยฮวาเสียอีก เขาอายุปูนนี้แล้ว กลับสู้เด็กอายุสามขวบไม่ได้?
หน้าเขาก็ขายหมดแล้ว
เย่จู๋เห็นพ่อแม่ต่างก็มีสีหน้าหดหู่
เธอคุ้ยข้าวในชาม พลางพูดว่า “พ่อแม่ การมีความรู้นี่ดีจริง ๆ นะคะ ฉันก็อยากเรียนหนังสือบ้าง”
“ครอบครัวเราไม่มีเงินให้เธอเรียนหนังสือหรอกนะ”
“อีกไม่กี่ปีเธอก็โตแล้ว เรายังหวังจะให้เธอแต่งงานเพื่อเอาสินสอด เอาไว้ให้พี่ชายของเธอแต่งงานไง!”
ดวงตาของเย่จู๋แดงก่ำขึ้นมาทันที เธอวางชามข้าวลงแล้ววิ่งออกไปข้างนอก
หลิวต้าเม่ยและเย่ฉู่เฉียงมาถึง
เย่ฉู่เฉียงมีสีหน้ากังวล “จื้อเฉียง เย่เสี่ยวจิ่นได้เป็นหัวหน้าทีมจริง ๆ เหรอ? แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงดีล่ะ?”
“ก่อนหน้านี้พวกเราเคยรังแกเธอมาตลอด ตอนนี้เธอได้เป็นหัวหน้าทีมแล้ว”
“ต่อไปเธอต้องมาเอาคืนพวกเราแน่ ๆ เลย”
หลิวต้าเม่ยก็คิดเช่นเดียวกัน “ใช่เลย แม่ลูกสองคนนั่นยุให้จื้อผิงไม่สนใจพวกเราด้วย”
“ตอนนี้ได้เป็นหัวหน้าทีมแล้ว ยิ่งถูกพูดถึงใหญ่เลย!”
เย่จื้อเฉียงและหลี่กุ้ยฮวาสามีภรรยามองหน้ากัน
ตำแหน่งหัวหน้าทีมนี่ มันเป็นตำแหน่งที่มีหน้ามีตามากทีเดียว
ใครกล้าไปหาเรื่องกับหัวหน้าทีมล่ะ?
หลี่กุ้ยฮวาในใจอยากจะแย่งตำแหน่งหัวหน้าทีมมาให้ได้ ความอิจฉาในใจแทบจะพุ่งพล่านออกมาเป็นควัน
หล่อนคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วกลืนความโกรธลงคอ “อย่างน้อยก็ต้องไปแสดงความยินดีหน่อยสิ?”
“เย่เสี่ยวจิ่นยังเด็ก ลูกชายคนที่สามก็ไม่ใช่คนคิดแค้น คงไม่มีอะไรหรอก”
หลิวต้าเม่ยพยักหน้า คิดว่าจะไปประจบประแจงด้วยเหมือนกัน
ถึงอย่างไรตอนนี้ก็ไม่เหมือนเมื่อก่อนแล้ว เย่เสี่ยวจิ่นอายุแค่สามขวบก็ได้เป็นหัวหน้าทีม อนาคตข้างหน้าก็ยังไม่รู้ว่าจะเป็นยังไง
ถ้าบังเอิญทำให้ครอบครัวของพวกเขาได้ดิบได้ดีขึ้นมาจริง ๆ ล่ะ
ตระกูลเย่จะต้องพึ่งพาพวกเขาแล้ว
หลิวต้าเม่ยคิดแบบนี้แล้ว ในใจก็รู้สึกสบายใจขึ้น
หลานสาวของเธอเป็นหัวหน้าทีม เธอก็มีหน้ามีตาด้วย!
เย่เสี่ยวจิ่นรับช่วงงานของเซี่ยวเยว่ในหมู่บ้านต่อ
กัวชิงซงพบว่า เด็กคนนี้มีความสามารถในการเรียนรู้สูงมาก
อะไรที่เขาไม่ต้องอธิบายมาก เธอแค่มองแวบเดียวก็เข้าใจแล้ว
ตัวหนังสือที่เขียนก็สวยงาม คิดเลขก็เร็วมาก
เป็นเด็กที่มีค่าอย่างแท้จริง
“เอาละ จิ่นเป่า เธอก็เข้าใจเกือบทั้งหมดแล้ว”
“ต่อไปถ้ามีอะไรไม่เข้าใจ ก็มาถามฉันได้เลยนะ”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้าและยิ้มจนตาหยี “ขอบคุณลุงกัวมากค่ะ ถ้ามีอะไรที่หนูไม่รู้ หนูจะมาถามลุงแน่นอน”
“ดี ๆ ดีมาก” กัวชิงซงยิ้มตอบ
เขาเป็นเลขาธิการพรรคที่ปกติแล้วไม่ค่อยเข้ากับใครในหมู่บ้านนัก
ถ้าใครทำอะไรผิด เขาจะด่าจนหมดสภาพไม่เหลือหน้าตาเลย
แต่กับเย่เสี่ยวจิ่น เขากลับเอ็นดูและเอาใจใส่เป็นพิเศษ
“เอาละ รีบกลับบ้านกับพ่อของเธอเถอะ ถึงเวลาทานอาหารกลางวันแล้ว”
เย่เสี่ยวจิ่นโบกมือลาแล้วเดินออกจากลานบ้านตามพ่อไป
เย่จื้อผิงยังคงถือไม้เท้าอยู่ มองดูเย่เสี่ยวจิ่นที่ถือสมุดโน้ตและของอื่น ๆ มากมาย
เขาอดไม่ได้ที่จะพูดว่า “จิ่นเป่า ตอนนี้ลูกเป็นหัวหน้าทีมเย่แล้วนะ”
“ใช่แล้วค่ะ ใช่แล้ว” เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า ตัวเองประสบความสำเร็จกลายเป็นผู้นำตัวน้อยแล้ว
รางวัลจากระบบก็ได้มาแล้ว พอกลับถึงบ้านก็จะสามารถรับค่าสุขภาพได้
สิ่งที่พ่อรู้สึกคือความภาคภูมิใจ
แต่เธอนั้นใจร้อนอยากจะรับรางวัลเสียแล้ว
ค่าสุขภาพเดิมที่มีอยู่ 50 แค่เปลี่ยนฤดูก็ป่วยเป็นหวัดได้ง่าย
ตอนนี้เพิ่มขึ้นอีก 20 ก็จะเป็นค่าสุขภาพ 70 แล้ว
อย่างน้อยถ้าออกกำลังกายเพิ่มขึ้น ก็จะสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ
“ดีจังเลย” เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มอย่างมีความสุข
เย่จื้อผิงคิดว่าเธอดีใจที่ได้เป็นหัวหน้าทีม “จิ่นเป่า ลูกต้องพยายามต่อไปนะ พวกเราไม่สามารถเป็นหัวหน้าทีมแบบเซี่ยวเยว่ได้”
เย่เสี่ยวจิ่นได้ยินเขาพูดถึงเซี่ยวเยว่ ดวงตาก็เป็นประกายขึ้นมาทันที
“เซี่ยวเยว่?”
“หึ!” เธอบีบหมัดเล็ก ๆ อย่างโกรธแค้น “ก่อนหน้านี้เธอชอบรังแกแม่หนูตลอดเลยนะ”
“ตอนนี้ตำแหน่งของเธอตกเป็นของหนูแล้ว หนูต้องแก้แค้นกลับให้สาสมใจแน่”
เย่เสี่ยวจิ่นเป็นคนที่จดจำความแค้นและต้องแก้แค้นให้ได้
เมื่อก่อนเธอถูกรังแกอย่างไร้ทางสู้ เธอไม่มีกำลังพอที่จะโต้ตอบกลับไป
แต่ตอนนี้มันต่างออกไปแล้ว…
โชคชะตาหมุนเวียนเปลี่ยนผัน
กลับถึงบ้าน เย่เสี่ยวจิ่นเก็บของเรียบร้อยแล้วขอให้แม่พาเธอไปดูที่ไร่ตอนบ่าย
หลี่ชุ่ยชุ่ยงุนงงไม่เข้าใจ
หลังกินข้าวเที่ยงเสร็จ หล่อนก็หยิบจอบพาจิ่นเป่าไป
ตอนกลางวันที่ฟาร์มไก่ มีคนมาแสดงความยินดีกับหล่อนมากมาย ทำให้หล่อนอารมณ์ดีทั้งวัน
ใบหน้าของหล่อนก็มีรอยยิ้มเช่นกัน
ในพื้นที่เพาะต้นกล้ามันแกว เย่จื้อผิงได้ใส่มูลวัวไว้มากมาย
ดูแล้วช่างอุดมสมบูรณ์เหลือเกิน
หลี่ชุ่ยชุ่ยพยักหน้า “แค่ชั่วโมงเดียวก็ทำเสร็จแล้วละ”
แม่ลูกสาวทั้งสองยุ่งอยู่กับงาน คนอื่น ๆ ที่ทำงานในแปลงมันแก้วข้าง ๆ ก็เข้ามา
ซุนหลานฮวาเห็นเย่เสี่ยวจิ่นก็ทักทายอย่างร่าเริง “หัวหน้าทีมเย่ มันแกวของคุณกำลังเพาะต้นกล้าอยู่เหรอคะ?”
“หลังจากนี้ถ้าเถามันแกวของคุณงอกออกมา ขอฉันบ้างได้ไหมคะ? จะเอาไปปลูกแถว ๆ บ้านฉันหน่อย”
“ฉันจะเอาต้นกล้าฟักทองของบ้านฉันมาแลกกับคุณนะ”
ทุกคนหยุดฝีเท้าลง
เซี่ยวเยว่และหลินเซี่ยงชุนอยู่ท้ายสุด พวกเขาอยากจะเดินผ่านไปตรง ๆ แต่ทางถูกคนข้างหน้าขวางไว้หมดแล้ว
เซี่ยวเยว่ก้มหน้าลง มองเย่เสี่ยวจิ่นและหลี่ชุ่ยชุ่ยด้วยความอิจฉา
หล่อนคิดในใจว่า ถ้าไม่ใช่เพราะหล่อนทำผิดพลาดจนถูกปลดออกจากตำแหน่ง
ตำแหน่งหัวหน้าทีมสวนผลไม้คงไม่ถึงคิวเย่เสี่ยวจิ่นหรอก!
เย่เสี่ยวจิ่นสังเกตเห็นสายตาแค้นเคืองของเซี่ยวเยว่
เธอยิ้มเหมือนไม่รู้ไม่เห็น “ดีจังเลย หนูปลูกต้นกล้ามันแกวไว้ 20 ต้นนะ”
“ใครอยากได้ก็มาขอได้เลยค่ะ”
“ที่ดินแปลงเล็ก ๆ ของหนูปลูกมันแกวไม่หมดหรอก”
ซุนหลานฮวาพูดยิ้ม ๆ “โอ้โห หัวหน้าทีมเย่นี่ใจดีจริง ๆ”
“การเป็นหัวหน้าทีมก็ต้องทำประโยชน์ให้ทุกคนแบบนี้แหละ!”
“ไม่เหมือนกับบางคนที่พอได้เป็นหัวหน้าทีมก็เชิดหน้าชูตามองคนอื่นไม่ขึ้น”
“แบบนั้นมันใช้ไม่ได้นะ”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้าเห็นด้วย “ป้าซุน สิ่งที่คุณพูดมานั้นถูกต้องมากเลยค่ะ!”
“คนเราไม่ควรอาศัยตำแหน่งหน้าที่มารังแกคนอื่น ไม่อย่างนั้นก็จะเป็นเหมือนหัวหน้าเซี่ยว…”
“โอ้ ไม่สิ ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นหัวหน้าแล้ว ก็คือเซี่ยวเยว่ไงล่ะ”
“ถ้าเป็นแบบเซี่ยวเยว่นี่ มันไม่ดีเลยนะ”