ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 67 การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 67 การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว (รีไรต์)
บทที่ 67 การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว (รีไรต์)
บทที่ 67 การแข่งขันเริ่มขึ้นแล้ว (รีไรต์)
เย่จื้อเฉียงรู้สึกไม่มั่นใจเล็กน้อย
เขาเห็นครอบครัวของเย่จื้อผิง จึงรีบตบไหล่เย่จื้อผิงทันที
“น้องสาม พวกนายเตรียมตัวมาอย่างไรบ้าง?”
เย่จื้อผิงหันมาเห็นเย่จื้อเฉียง “พี่ใหญ่ พวกเรา…ไม่ได้เตรียมตัวอะไรมากหรอก”
“จิ่นเป่าแค่มาร่วมสนุกเท่านั้น ใช่ไหมจิ่นเป่า?”
เย่จื้อผิงตั้งใจพูดถ่อมตัว
เพราะเขาก็ไม่มีความมั่นใจเช่นกัน
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้าอย่างจริงใจ “ใช่ค่ะ หนูแค่มาเล่นสนุกเท่านั้น”
เย่จื้อเฉียงพยักหน้าอย่างพอใจ รู้ว่าพวกเขาแค่มาลองดวง
“พวกนายก็อย่าเครียดกันมากนักเลย สำคัญที่การมีส่วนร่วมนะ!”
เย่เสี่ยวจิ่นแสดงความเห็นด้วย “คุณลุงคะ คุณลุงเตรียมตัวมาดีแน่ ๆ ใช่ไหมคะ? เมื่อกี้หนูได้ยินคุณลุงซ้อมท่องพูดอยู่เลย”
หลี่กุ้ยฮวาพูดอย่างไม่ถ่อมตัว “แน่นอนอยู่แล้ว พวกเราเตรียมตัวมาดีมาก ๆ”
“ไม่เหมือนพวกนาย ที่คิดจะมาลองดวงใช่ไหมล่ะ?”
“แต่เรื่องแบบนี้ จะมาหวังพึ่งดวงได้ยังไง? ต้องดูที่ความสามารถจริง ๆ ต่างหาก”
เย่เสี่ยวจิ่นเออออ “ใช่ ๆ งั้นคุณลุงคงมีความหวังสูงแน่เลย”
“ถ้าคุณลุงได้เป็นหัวหน้าทีม ก็จะพาพ่อของหนูไปทำงานด้วยได้ใช่ไหมคะ?”
เย่จื้อเฉียงกับหลี่กุ้ยฮวาต่างหัวเราะ
ถ้าพวกเขาได้เป็นหัวหน้าทีมจริง ๆ จะเป็นไปได้ยังไงที่จะพาคนขาเป๋ไปทำงานด้วย?
มันจะไม่เป็นที่ครหาของคนอื่นหรอกเหรอ?
หลี่กุ้ยฮวาหัวเราะพลางกล่าวว่า “นั่นก็ต้องดูที่ความสามารถของแต่ละคนนะ ลุงใหญ่ของเธอ… ยังไม่แน่ว่าจะได้รับเลือกหรอก”
“ตอนนี้เธอมาสร้างความสัมพันธ์ มันยังเร็วไปหน่อยนะ”
“แล้วฉันก็เคยบอกพวกเธอแล้วนะ ถ้าไม่ให้คะแนนเสียงกับพวกเรา ก็อย่าคิดจะมาประจบประแจงพวกเราล่ะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยแค่นเสียงหึ “จิ่นเป่า มาหาแม่นี่ลูก”
หลี่ชุ่ยชุ่ยดึงเย่เสี่ยวจิ่นไปอีกด้านหนึ่ง
หลี่กุ้ยฮวาพึมพำ “ยังจะรักษาหน้าอีก รอต่อไป… จะยังรักษาหน้าได้อีกไหม?”
หล่อนยิ้มอย่างเยาะเย้ย นึกภาพครอบครัวของหลี่ชุ่ยชุ่ยมาขอร้องพวกเขาแล้ว
ต้องมาอ้อนวอนพวกเขาอย่างนอบน้อมแน่ ๆ
รู้แบบนี้แต่แรก ตอนนั้นจะมาทำเป็นแข็งกร้าวทำไมกัน?
สายตาของหลี่กุ้ยฮวายิ่งดูถูกมากขึ้น “จื้อเฉียง คุณต้องทำให้ดี ๆ นะ อย่าให้คนอื่นเห็นแล้วหัวเราะเยาะได้”
เย่จู๋ก็พูดให้กำลังใจว่า “ใช่แล้ว พ่อต้องเก่งกว่าเด็กคนหนึ่งแน่นอน”
เป็นคนจากกลุ่มอื่น
“ผมชื่อหลินฝูกุ้ย มาสมัครเป็นหัวหน้าทีม ผมเป็นคนขยันขันแข็งและซื่อสัตย์ ไม่ชอบเอาเปรียบใคร”
“อะไรที่ทำได้ ผมจะพยายามทำให้ดีที่สุด รับรองว่าจะไม่ทำให้ทุกคนเสียเปรียบ”
“และผมก็เป็นคนพื้นเพของหมู่บ้านชงเถียนด้วย ผมปลูกผลไม้มาหลายปีแล้ว”
“ผมเข้าใจเรื่องการปลูกผลไม้เป็นอย่างดีแน่นอน”
เย่จื้อเฉียงฟังคนบนเวทีพูด สีหน้าก็เปลี่ยนไปทันที “เขาพูดอะไรน่ะ เหมือนกับที่ฉันจะพูดไม่มีผิด”
“เขาพูดไปหมดแล้ว ฉันจะพูดอะไรต่อล่ะ?”
หลี่กุ้ยฮวาตบแขนเขาทีหนึ่ง “งั้นนายรีบเปลี่ยนสิ!”
“ไม่ต้องพูดเหมือนคนอื่นทุกอย่างก็พอแล้ว”
เย่จื้อเฉียงคิดอย่างหนัก เริ่มรู้สึกลำบากขึ้นมา
สีหน้าของเขาก็เริ่มดูกระวนกระวายขึ้น
เขาเกาแก้มแล้วพูดว่า “ฉันจะพูดอะไรได้อีกล่ะ? นี่คือสิ่งที่ฉันต้องการจะพูดแล้ว”
หลี่กุ้ยฮวาคิดสักครู่แล้วพูดว่า “นายก็บอกว่านายมีความรู้สิ!”
“บอกว่านายอ่านออกเขียนได้ อ่านหนังสือมามาก”
“ปัญหาคือฉันก็อ่านออกไม่กี่ตัวหรอก แล้วต่อไปก็จะถูกจับได้ไม่ใช่เหรอ?” เย่จื้อเฉียงรู้สึกไม่มั่นใจ “แล้วฉันรู้จักตัวหนังสือกี่ตัวกัน? ทุกคนก็รู้กันดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ?”
สองคนนี้เริ่มพึมพำ และรู้สึกกังวลขึ้นมา
คนที่สองและคนที่สามก็ขึ้นเวทีไปแล้ว
พวกเขาพูดเรื่องคล้าย ๆ กันทั้งนั้น
จนถึงคนที่ห้า เป็นผู้หญิงคนหนึ่ง
เธอเป็นคนต่างถิ่นที่แต่งงานเข้ามา พอขึ้นเวทีก็ยิ้มน้อย ๆ “ฉันชื่อซุนชิวเซียง ฉันมาลงสมัครเป็นหัวหน้าทีม”
“ฉันจบการศึกษาระดับมัธยมต้น อ่านออกเขียนได้เกือบทุกตัวอักษร และฉันชอบอ่านหนังสือเป็นประจำ”
“ที่บ้านฉันปลูกผลไม้ไว้บ้าง ซึ่งฉันปลูกเองทั้งหมด”
“เมื่อเร็ว ๆ นี้ฉันกำลังอ่านหนังสือเกี่ยวกับการปลูกไม้ผล และตั้งใจว่าจะไปเรียนรู้วิธีการขั้นสูงจากครูผู้เชี่ยวชาญในภายหลัง”
ซุนชิวเซียงพูดอย่างมีหลักการ ทั้งยังดูหน้าตาสะอาดสะอ้าน และเป็นคนอัธยาศัยดี
หลายคนเริ่มรู้สึกชอบเธอแล้ว
“การเรียนรู้นั้นต้องไม่หยุดยั้ง สิ่งที่ฉันรู้ตอนนี้อาจจะยังไม่มากเท่าครูผู้เชี่ยวชาญ”
“แต่ฉันสามารถเรียนรู้ได้ ฉันยังอายุน้อย มีความรู้ เรียนรู้ได้เร็ว”
“ฉันหวังว่าผู้ใหญ่บ้าน เลขาฯ และพี่น้องชาวบ้านทุกท่าน จะให้โอกาสนี้แก่ฉัน”
หลังจากซุนชิวเซียงลงจากเวที ซุนฉางซู่และกัวชิงซงต่างพยักหน้าด้วยความพอใจ
หลี่ชุ่ยชุ่ยเห็นแล้วรู้สึกกังวลใจ “จะทำยังไงดีล่ะ? ซุนชิวเซียงอายุยังน้อย แถมยังเรียนจบชั้นมัธยมต้นด้วย”
เย่เสี่ยวจิ่นถอนหายใจ “แม่ เชื่อมั่นในตัวหนูหน่อยสิ”
“อย่าเพิ่งบอกว่าหนูไม่ได้รับเลือกตั้งแต่ยังไม่ได้เริ่มเลย”
“แม่พูดแบบนี้จะทำให้หนูหมดกำลังใจนะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยรีบแก้ตัว “โอ๊ย จิ่นเป่า แม่ผิดเองจ้ะ”
“จิ่นเป่าของเราเก่งที่สุดแล้ว ต้องทำได้แน่นอน”
ผู้ใหญ่บ้านประกาศชื่อ “คนต่อไป เย่จื้อเฉียง”
เย่จื้อเฉียงรู้สึกเหมือนถูกฟ้าผ่า เขาเดินขึ้นไปบนเวทีอย่างแข็งทื่อ
เขารู้สึกประหม่ามากเมื่อเห็นคนมากมายขนาดนี้
เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตัวเองพูดอะไรไปบ้าง พอลงมาก็เห็นสีหน้าของหลี่กุ้ยฮวาไม่ค่อยดี
เขาก็รู้เลยว่าตัวเองทำได้ไม่ดี
หลี่กุ้ยฮวาถอนหายใจ อยากจะดุ แต่ก็ไม่จำเป็น
“ช่างเถอะ ไม่เป็นไร คราวนี้ซุนชิวเซียงคงจะได้รับเลือกแน่นอน”
“ถึงนายจะไม่ได้รับเลือก คนอื่น ๆ ก็พอ ๆ กัน”
“นายไม่ต้องรู้สึกอับอายไป”
มีคนขึ้นไปกว่าสิบคน
ซุนชิวเซียงมีโอกาสชนะมากที่สุด
คนจากกลุ่มอื่นต่างรุมล้อมอยู่หน้าซุนชิวเซียง
“พวกคนแก่เหล่านี้ไม่รู้หนังสือกันทั้งนั้น ทุกปีเวลาเก็บเกี่ยวสวนผลไม้ จะต้องคำนวณและบันทึกตัวเลขด้วย”
“พวกเขาคงทำไม่ได้แน่ ๆ แม้แต่ประกาศของหมู่บ้านที่ส่งมาก็ยังอ่านไม่ออก”
“คนที่มีการศึกษาสูงมีโอกาสได้รับเลือกมากที่สุด”
ซุนชิวเซียงพยักหน้า เธอเพิ่งแต่งงานเข้ามาเป็นสะใภ้
ตัวเธอเองจริง ๆ แล้วไม่ค่อยเข้าใจเรื่องการเพาะปลูกเท่าไหร่
แต่เธอรู้หนังสือ นั่นคือจุดแข็งที่ใหญ่ที่สุดของเธอแล้ว
ก่อนหน้านี้ตอนที่เซี่ยวเยว่เป็นหัวหน้าทีม หล่อนก็ไม่ได้ปลูกผลไม้ทุกวัน
“ฉันแค่กลัวว่าถ้ามีคนที่ทั้งมีความรู้และเข้าใจเรื่องไม้ผลด้วย ฉันก็คงสู้เขาไม่ได้”
“แถมฉันเองก็ไม่ได้เรียนจบวิทยาลัยอาชีวะ ถ้ามีคนที่มีทั้งความรู้ทางวิธีการและอยากเป็นหัวหน้าทีมล่ะ?”
“คุณวางใจได้เลย ที่นี่มีคนมีความรู้ไม่กี่คนหรอก” คนข้าง ๆ พูดพลางหัวเราะ “คนที่มีความรู้จริง ๆ ก็เป็นหัวหน้าทีมกันไปหมดแล้ว”
“คนรุ่นใหม่ก็ออกไปเรียนหนังสือกันหมด ใครจะมาเทียบกับคุณได้ล่ะ?”
“ดูทั้งหมู่บ้านสิ ถ้าจะหาคนที่เรียนจบมัธยมต้นก็มีไม่กี่คนหรอก”
“งั้นก็ดีแล้ว” ซุนชิวเซียงยิ้มออกมาเล็กน้อย ในใจก็รู้สึกผ่อนคลายลงมาก
ด้านหลังก็เหลือคนไม่กี่คนแล้ว
เธอแค่รออีกนิดก็จะรู้ผลแล้ว
คนในกลุ่มของเธอจะลงคะแนนให้เธอทั้งหมด ขอแค่ผู้ใหญ่บ้าน เลขาธิการพรรค และหัวหน้าทีมคนอื่น ๆ ลงคะแนนให้เธอ
เธอก็จะได้ตำแหน่งอย่างแน่นอน
ซุนฉางซู่ดูไปอีกสองสามคน ก็ไม่รู้สึกตื่นเต้นอะไรมาก
อีกไม่นานก็จะไม่มีคนแล้ว
กัวชิงซงวาดบันทึกลงบนรายชื่อ เขากล่าวว่า “จากที่เห็นตอนนี้ ซุนชิวเซียงเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด”
“เธอจบมัธยมต้น รู้จักตัวอักษรมาก และสามารถอ่านหนังสือเรียนรู้ได้”
“หลังจากนี้ ไม่ว่าจะทำตารางอะไร ก็จะง่ายขึ้นมาก ไม่จำเป็นต้องสอนเธออีกมากมาย”
“การคำนวณก็น่าจะไม่มีปัญหา”
เย่เสี่ยวจิ่นยืนรออยู่ด้านหลัง ได้ยินคำพูดของพวกเขา
ทันใดนั้น ดวงตาของเธอก็เปล่งประกาย ทำตารางงั้นเหรอ?
เธอรับรองว่าไม่มีใครที่นี่จะเข้าใจการทำตารางได้ดีกว่าเธอแน่นอน