ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 50 น้ำมันมีปัญหาแล้ว! (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 50 น้ำมันมีปัญหาแล้ว! (รีไรต์)
บทที่ 50 น้ำมันมีปัญหาแล้ว! (รีไรต์)
บทที่ 50 น้ำมันมีปัญหาแล้ว! (รีไรต์)
หลี่กุ้ยฮวามองน้ำมันที่อยู่ในบ้าน ขมวดคิ้วแน่น
เย่จื้อเฉียงออกไปทำงานแล้ว
เย่จู๋ที่อยู่ข้าง ๆ ก็รู้สึกสงสัย “แม่ ทำไมน้ำมันนี่มีกลิ่นแปลก ๆ นิดหน่อยล่ะ?”
“ดูเหมือนจะไม่ค่อยบริสุทธิ์ด้วย…”
“นี่คือน้ำมันที่พวกเราซื้อมาจริง ๆ เหรอ?”
หลี่กุ้ยฮวารู้สึกไม่สบายใจ “ถ้ารู้ว่าน้ำมันเป็นแบบนี้ ไม่น่าซื้อมาตั้ง 30 ชั่งเลย”
“โอ๊ย นึกถึงเงินที่ฉันจ่ายไปมากขนาดนั้นแล้วเจ็บใจเหลือเกิน”
“แต่ถึงน้ำมันนี้จะดูไม่สวย ยังไงก็คงใช้ได้อยู่นะ”
หลี่กุ้ยฮวาพูดพลางเตรียมตัวจะตั้งกระทะเพื่อกรองน้ำมันด้วยตัวเอง
“กุ้ยฮวา เหวินชางล่ะ” หลิวต้าเม่ยถือชามเข้ามาในบ้าน “ฉันทำข้าวพองมาให้เขาเอาไปกินในเมืองด้วยนะ”
หลี่กุ้ยฮวาเห็นข้าวพองแล้วพูดว่า “อยู่นี่จ้ะ อยู่ในบ้าน”
หลิวต้าเม่ยนำข้าวพองไปให้ จากนั้นก็พูดกับหลานชายสองสามคำแล้วก็จากไป
หลี่กุ้ยฮวาหยิบข้าวพองมาหนึ่งชิ้น หักเป็นสองส่วน
“จู๋จื่อกินสิ”
เย่จู๋กินอย่างรวดเร็ว “อร่อยจัง”
หลี่กุ้ยฮวากินเสร็จ ก็พยักหน้า “น้ำมันนี้ถึงจะดูไม่ค่อยดี แต่ทอดของกินแล้วอร่อยอยู่นะ”
ในใจรู้สึกดีขึ้นมาก
ถึงอย่างไรก็ยังใช้ได้อยู่
ที่ฟาร์มไก่
หลี่ชุ่ยชุ่ยกำลังวุ่นวายอยู่กับการจัดการรางอาหารในเล้าไก่และกำจัดมูลไก่
เย่เสี่ยวจิ่นและหลินจวงกำลังตรวจสอบฟาร์มไก่
เธอเพิ่งอ่านหนังสือ ‘เรียนรู้การเลี้ยงสัตว์ใน 31 วัน’ จบไป ทำให้ได้เรียนรู้ทฤษฎีที่ทันสมัยมากมาย แต่ก็ยังขาดประสบการณ์ในทางปฏิบัติ
แต่เธอจำเป็นต้องหาคะแนนงาน เพื่อให้ครบตามเป้าหมาย 1,000 คะแนน
หลินจวงเดินตามหลังเย่เสี่ยวจิ่นพลางถามว่า “จิ่นเป่า เธอเห็นว่าตรงนี้มีปัญหาอะไรอีกไหม?”
เย่เสี่ยวจิ่นครุ่นคิดก่อนตอบว่า “ในมูลไก่มีเชื้อโรคมากมาย บางครั้งการแพร่ระบาดของเชื้อโรคก็เกิดจากปัญหาเรื่องมูลไก่นี่แหละ”
“แม้ว่าจะมีการตักทิ้งทุกเช้าและทำความสะอาดฆ่าเชื้อ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ”
“เดี๋ยวหนูจะสอนวิธีผสมน้ำยาฆ่าเชื้อสูตรหนึ่งให้ ซึ่งจะช่วยป้องกันโรคได้ดียิ่งขึ้น”
หลินจวงพยักหน้าและจดบันทึกไว้ “งั้นเธอก็อย่าลืมมาทำงานบ่อย ๆ นะ”
“เธออยู่บ้านเฉย ๆ ทุกวันก็คงไม่มีอะไรทำใช่ไหม? มาทำงานกับแม่ของเธอสิ เธอจะได้คะแนนงานด้วย”
“ฉันก็จะได้เรียนรู้จากเธอด้วย”
“ยังจะมาขอค่าเรียนจากฉันอีกเหรอ? งั้นเธอไปขอจากหัวหน้าเซี่ยสิ เขาเป็นคนบอกให้ฉันมาเรียนกับเธอเอง”
เย่เสี่ยวจิ่นรู้สึกเขินอายที่จะไปขอจากลุงเซี่ย
เธอเอามือไพล่หลัง เอียงตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย “ใครเขาเรียนวิชาความรู้แล้วไม่จ่ายค่าเรียนกัน?”
หลินจวงเห็นเป็นเด็กตัวแค่นี้แต่ริฉลาดแกมโกง ก็อดขำไม่ได้
“งั้นฉันทำงานแลกค่าเรียนได้ไหม?”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า “ได้”
หลี่ชุ่ยชุ่ยกำลังเก็บของ พอได้ยินอย่างนั้นก็อดหัวเราะไม่ได้
หล่อนชะโงกหน้าออกมา “จิ่นเป่าลูกคนนี้นี่ ทำไมถึงขี้โกงอย่างนี้ล่ะ?”
“หัวหน้าเซี่ยดูแลพวกเราดีขนาดนี้ พวกเราช่วยได้ก็ช่วย”
เย่เสี่ยวจิ่นทำปากยื่นเล็กน้อย “หนูก็ทำงานฟรีไม่ได้เหมือนกันนะ”
พูดจบเธอก็รู้สึกเขินอายแก้มแดงขึ้นเล็กน้อย แล้วหัวเราะออกมา “อย่างมากก็ทำให้ดีที่สุดก็แล้วกัน จริง ๆ หนูแค่พูดเล่นเองแหละ”
หลินจวงหัวเราะออกมาเช่นกัน “อ้อ ที่แท้จิ่นเป่าก็แกล้งฉันนี่เอง”
ทั้งสองคนเดินไปดูที่อื่นต่อ
เฉียนตงเลี่ยงวางแอกที่แบกไว้ลง แล้วเอ่ยปากชมด้วยรอยยิ้ม “ชุ่ยชุ่ย ลูกสาวเธอฉลาดจริง ๆ เลย”
“ตัวแค่นี้เอง แต่กลับมีความสามารถเยอะแยะไปหมด”
“ขนาดสัตวแพทย์มืออาชีพจากในเมืองยังต้องมาเรียนรู้งานจากลูกสาวเธอนะเนี่ย!”
“ลูกสาวฉัน… แค่หัวไวหน่อยเท่านั้นเอง” หลี่ชุ่ยชุ่ยตอบอย่างถ่อมตน
เฉียนตงเลี่ยงมองเข้าไปในเล้าไก่ “วันนี้หลี่ผิงทำไมยังไม่มาอีกนะ หล่อนไปทำธุระที่อื่นบนเขางั้นเหรอ?”
“ไม่ใช่หรอก หล่อนต้องไปรับน้ำมันที่ซื้อไว้ก่อนหน้านี้ที่บ้านจ้าวหลินหลินน่ะ”
“ตอนที่ฉันมา เห็นคนเยอะมาก คาดว่าคงจะช้าหน่อย”
ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ หลี่ผิงก็มาถึง ใบหน้าของหล่อนดูไม่สู้ดีนัก
พอเข้ามาในเล้าไก่ เห็นหลี่ชุ่ยชุ่ยก็ทำหน้าบึ้งตึงทันที
หล่อนพูดอย่างหงุดหงิด “ชุ่ยชุ่ย เธอคิดถูกแล้วที่ไม่ซื้อน้ำมัน”
“ฉันเสียเงินไปตั้งเยอะ รอนานแสนนาน แถมยังต้องเสียเวลาทำงานไปตั้งครึ่งวันเพราะเรื่องนี้”
“พอฉันถือน้ำมันกลับไป เด็กที่บ้านได้กลิ่นก็บอกว่าเป็นน้ำครำ”
“โอ๊ย ปวดหัวจริง ๆ…”
เฉียนตงเลี่ยงถามอย่างไม่เข้าใจ “น้ำมันจะกลายเป็นน้ำครำได้ยังไง หรือลูกเธอแกล้งพูดเล่น?”
“ไม่ใช่หรอก ได้กลิ่นแล้วมันเหมือนน้ำครำจริง ๆ” หลี่ผิงขมวดคิ้วพร้อมกับถอนหายใจด้วยความหนักใจ
“ตอนนั้นฉันมัวแต่โลภมากจนตาบอดที่เห็นว่าซื้อน้ำมันได้เยอะขนาดนี้”
“รอสามีฉันกลับมาเห็นน้ำมันแบบนั้น มีหวังโดนด่าตายแน่” หลี่ผิงพูดด้วยน้ำเสียงกังวล
สามีของหลี่ผิงเป็นคนร่างกายแข็งแรง ตัวโต แถมยังไม่กลัวใคร พอโมโหขึ้นมาแล้วน่ากลัวมาก
“แปลกจริง ตอนแรกยังบอกว่าน้ำมันของจ้าวหลินหลินทั้งดีทั้งถูก ทำไมตอนนี้เป็นอย่างนี้ไปได้” เฉียนตงเลี่ยงได้แต่คิดในใจ
หลี่ผิงถอนหายใจอย่างหนักหน่วง “น้ำมันห่วยแตกแบบนี้ อยากจะคืนก็คืนไม่ได้…”
“ในบรรดาจ้าวหลินหลิน ลู่เฟิง เซี่ยวเยว่ มีใครยอมคนกันมั่งล่ะ”
“เงินเข้ากระเป๋าพวกนั้นแล้ว คงไม่ยอมควักออกง่าย ๆ หรอก”
เฉียนตงเลี่ยงส่ายหน้า “เสียเงินซื้อของมาขนาดนี้ ถ้ามันห่วยขนาดนั้น คืนได้ก็ต้องคืนสิ”
“ถ้าพวกเธออยากจะเป็นคนโง่ให้เขาหลอก ก็เรื่องของพวกเธอสิ ยังไงซะก็ต้องมีคนที่ไม่ยอมเป็นควายให้เขาหลอกหรอกน่า”
หลี่ผิงลังเล “ก็ฉันไม่รู้ว่าคนอื่นเขาคิดยังไงนี่นา”
“ถ้าเกิดมีแต่ฉันที่คิดว่ามันมีปัญหา แต่คนอื่นเขาไม่คิดแบบนั้นล่ะ”
“แบบนั้นฉันก็กลายเป็นตัวตั้งตัวตีเรื่องไม่เป็นเรื่องน่ะสิ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยได้แต่ถอนหายใจ
ตอนแรกที่ทุกคนเห็นหล่อนไม่ซื้อ พวกเขายังหาว่าหล่อนโง่
ตอนนี้ทุกคนคงนั่งเสียใจที่ซื้อน้ำมันไปแล้ว
“แม่จ๋า! แม่จ๋า! แย่แล้ว!” ซูเอ้อร์หยาวิ่งหน้าตั้งมาหาหลี่ผิง
หล่อนบอกกับหลี่ผิงอย่างร้อนรนว่า “พ่อหนูกลับไปเห็นน้ำมันที่บ้านก็โกรธมาก แล้วยกพวกไปที่บ้านลุงจ้าวเลย”
“คุณย่าพยายามจะห้ามแล้ว แต่พ่อโกรธมากจริง ๆ ค่ะ”
หลี่ผิงหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ “ตายแล้ว แบบนี้แย่แน่ รีบไปดูกันเถอะ”
หล่อนไม่มีกะจิตกะใจจะทำงานต่อแล้ว หากคนพวกนั้นถูกทำร้ายขึ้นมาจริง ๆ คงแย่แน่
หลี่ชุ่ยชุ่ยเองก็เป็นกังวล “เรื่องมันกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง”
เฉียนตงเลี่ยงส่ายหน้า “น้ำมัน 30 ชั่ง ราคาตั้งสิบห้าหยวนแน่ะ”
“พวกเราทำงานกันหนึ่งปี เงินสดที่แบ่งกันได้ต่อคนก็แค่ร้อยกว่าหยวน”
“ดีนะที่ก่อนหน้านี้ฉันเก็บคูปองซื้อน้ำมันไว้เยอะ เดี๋ยวอีกสองวันค่อยเข้าเมืองไปแลก”
ณ บ้านตระกูลจ้าว
จ้าวหลินหลินทำงานบ้านอยู่นานครึ่งค่อนวัน
ตอนนี้แม้แต่อาหารกลางวันก็ยังไม่ได้แตะ ต้องล้มตัวลงนอนบนเตียง ร่างทั้งร่างภายใต้ผ้านวมรู้สึกไม่สบายเอาเสียเลย
“โอ๊ย… ปวดท้อง” หล่อนเอามือกุมท้องไว้ ความปวดแล่นริ้วไปทั่ว
รู้สึกได้ถึงเหงื่อที่ผุดพรายเต็มหน้าผาก
ก่อนหน้านี้หล่อนกินน้ำมันเข้าไป ทำให้ตอนนี้ลำไส้และกระเพาะอาหารปั่นป่วนรุนแรง
“อุ๊บ… แหวะ คลื่นไส้ อยากอาเจียนอีกแล้ว”
หล่อนยกมือขึ้นปิดปาก ความรู้สึกคลื่นเหียนแล่นปราดเข้ามา
ในลำคอมีแต่กลิ่นเหม็นหืนของน้ำมันติดอยู่ไม่ยอมไปไหน “นี่มันน้ำมันอะไรกันแน่ อุ๊บ…”
ความรู้สึกหวาดกลัวแล่นปราดไปทั่วทั้งใจราวกับหนูติดจั่น
ปัง ๆๆ
จู่ ๆ ก็มีเสียงใครบางคนมาเคาะประตูเสียงดังสนั่น
หล่อนสะดุ้งโหยงเกือบจะกระโดดลงจากเตียง
เสียงตะโกนดุดังลั่นมาจากหน้าประตู “จ้าวหลินหลิน! ฉันรู้ว่าเธออยู่ข้างในนั้น!”
“คิดว่าเมียฉันโง่เง่าเต่าตุ่น เลยจะมาหลอกต้มเอาเงินไปง่าย ๆ รึไง! ห้ะ!”
“ถ้าเธอยังไม่ยอมเผยหน้าออกมาอีกละก็ ฉันจะเผาบ้านหลังนี้ให้ราบเป็นจุณ!”
……………………………………………………………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
ไปเอาน้ำมันอะไรมาหลอกขายให้คนในหมู่บ้านเนี่ย จนคนซื้อมาเอาเรื่องถึงบ้านขนาดนี้ บ้านตระกูลจ้าวจะพังแล้วหรือเปล่านะ
ไหหม่า(海馬)