ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 5 ป้าใหญ่หน้าหงาย (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 5 ป้าใหญ่หน้าหงาย (รีไรต์)
บทที่ 5 ป้าใหญ่หน้าหงาย (รีไรต์)
บทที่ 5 ป้าใหญ่หน้าหงาย (รีไรต์)
“จิ่นเป่า พอได้แล้วลูก…” หลี่ชุ่ยชุ่ยร้อนใจราวกับไฟสุมอก “พวกเรายอมแลกไก่แล้ว”
ถ้าเรื่องบานปลายไปกว่านี้ พวกเขามีหวังได้ขายหน้า แถมยังเสียไก่ไปด้วย
“พูดออกมาแล้วยังจะกลับคำอีกเหรอ!” หลี่กุ้ยฮวาหัวเราะเยาะเย้ย “ผู้ใหญ่บ้านอยู่ที่นี่พอดี ให้เขามาเป็นพยานให้เลยแล้วกัน”
เย่เสี่ยวจิ่นกลับคิดว่าแบบนี้ยิ่งดีกว่า
เพราะหล่อนกลัวว่าหลี่กุ้ยฮวาจะกลับคำพูด
แต่ก็ยังไม่วายระแวดระวัง
เด็กน้อยกลอกตาไปมา “เอาข้าวสาร 100 ชั่งมาให้หนูก่อน แล้วหนูจะรักษาแม่ไก่ให้”
หลี่กุ้ยฮวาไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอนี้
เพราะปกติหล่อนมักจะกอบโกยผลประโยชน์โดยไม่ลงทุน มีหรือที่หล่อนจะยอมควักเนื้อตัวเอง?
ยิ่งไปกว่านั้นยังแอบคิดว่ายัยเด็กโง่ดูมั่นใจขนาดนี้ หรือว่าตัวเองจะถูกหลอกเข้าแล้ว?
โจวเหวินรุ่ยก็ออกมายืน พูดอย่างหนักแน่นว่า “คุณเป็นผู้ใหญ่ พูดแล้วห้ามคืนคำ!”
“ใช่แล้ว พูดแล้วห้ามคืนคำ” โจวเซียวพยักหน้า
ซุนฉางซู่โกรธเล็กน้อย “หลี่กุ้ยฮวา เธอคิดว่าพวกเราว่างมากหรือไง? ถึงมานั่งฟังเธอพูดจาเหลวไหลได้ ตอนนี้จะมาบอกว่าไม่ยอมทำอย่างงั้นเหรอ?”
หลี่กุ้ยฮวาตอนนี้อยู่ในสถานการณ์ที่ถอยก็ไม่ได้ ไปต่อก็ลำบาก
เมื่อเผชิญหน้ากับผู้คนตรงหน้า หล่อนก็กัดฟันพูดว่า “ได้!”
หล่อนไม่เชื่อหรอกว่าเด็กอย่างเย่เสี่ยวจิ่นจะมีความสามารถอะไร!
หล่อนกลับไปที่บ้านให้สามีขนข้าวสาร 100 ชั่งมา
ยุ้งฉางบ้านพวกเขาเต็มไปด้วยข้าวสาร
ไม่เพียงแค่ข้าวของครอบครัวตัวเองเท่านั้น ข้าวส่วนของปู่กับย่าเย่ก็แบ่งให้พวกเขาหมดแล้ว ทั้งยังไปขอข้าวจากบ้านน้องสองกับน้องสามอีก
สุดท้ายพ่อกับแม่ก็แทบไม่ได้กินเลย อาหารส่วนใหญ่ถูกขนไปยุ้งฉางครอบครัวหลี่กุ้ยฮวาจนหมด
ถึงจะเป็นแบบนั้น หล่อนก็รู้สึกเสียดายแทบขาดใจ
เย่เสี่ยวจิ่นเห็นท่าทางอึดอัดใจของพวกเขา ก็อดขำในใจไม่ได้
แต่ในใจของหลี่ชุ่ยชุ่ยกลับรู้สึกกังวล เพราะปกติแล้วหลี่กุ้ยฮวาและสามีไม่เคยยอมเสียเปรียบใคร
ในขณะที่เย่จื้อเฉียงกลับไปขนข้าวสาร
เย่เสี่ยวจิ่นก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป เธออุ้มไก่แก่สองตัวไปที่บ่อน้ำหลังบ้าน
คนอื่น ๆ ก็เดินตามหลังไป
เด็กน้อยแอบเอาอาหารเสริมที่เตรียมไว้ให้ไก่แก่สองตัวกิน จากนั้นก็แสร้งทำเป็นลูบขนไก่เบา ๆ คล้ายปลอบใจ
จากนั้นก็ตักน้ำจากบ่อให้ไก่แก่ทั้งสองตัวกิน
“แม่ไก่ แม่ไก่ กินน้ำแล้วก็หายเร็ว ๆ นะ”
หลี่กุ้ยฮวากลอกตามองขึ้นไปบนฟ้า ยกมือขึ้นปิดปากหัวเราะแล้วพูดว่า “ตอนนี้ไม่ใช่เด็กโง่แล้ว แต่มันกลายเป็นเด็กบ้าไปแล้ว”
“โตไปก็คงเป็นยายแก่เพี้ยน ๆ แน่”
“ฮึ่ม ๆ ดูท่าไก่สี่ตัววันนี้ ฉันต้องขนกลับบ้านทั้งหมดแล้ว”
“หลี่ชุ่ยชุ่ย พวกแกเป็นคนตกลงเองนะ อย่ากลับคำเชียวล่ะ!”
หลี่ชุ่ยชุ่ยมองลูกสาวราวกับกำลังเล่นขายของ ในใจพลันรู้สึกทั้งท้อแท้และสิ้นหวัง
ทว่า หล่อนก็ยังเหลือความหวังสุดท้ายอยู่รำไร
ลูกสาวของหล่อนไม่พูดไม่จาอยู่ 3 ปี พอพูดได้ก็ฉลาดเฉลียวปานนี้ แถมยังบอกว่าตัวเองเป็นเทพเจ้าแห่งวรรณกรรมลงมาเกิดบนโลกอีก…
บางทีลูกสาวเธออาจจะเป็นเทพเซียนจุติลงมาจริง ๆ ก็ได้!
ถ้าอย่างนั้นวันนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องเสียไก่แก่สองตัวนี้ไปแล้ว!
ซุนฉางซู่ทนมองแทบไม่ไหว “พวกเธอนี่ช่างเหลวไหลจริง ๆ”
“ลุงผู้ใหญ่บ้าน ใจเย็นก่อนค่ะ ดูแม่ไก่แก่สองตัวนี้สิ พวกมันหายแล้ว” เด็กน้อยปล่อยมือจากไก่แก่
จากที่นอนซมอยู่กับพื้น เดินไม่ไหว ตอนนี้ไก่แก่ทั้งสองตัวก็ค่อย ๆ ยืนขึ้น เดินโซเซไปมา
ดูเหมือนพวกมันจะกลับมามีเรี่ยวแรงในพริบตา กระพือปีกจะบินขึ้นต้นไม้
“นังเด็กสารเลว! ไก่ของฉันจะบินหนีไปแล้ว รีบจับมันไว้เร็ว!” หลี่กุ้ยฮวารีบคว้าไก่แก่ที่กำลังจะบินหนีเอาไว้
ทว่า ไก่แก่ทั้งสองตัวแรงเยอะมาก
พวกมันดิ้นรนอย่างหนัก แม้แต่หลี่กุ้ยฮวายังเกือบจับไว้ไม่อยู่
ไก่แก่ทั้งสองตื่นตระหนกจนออกไข่มาสองฟอง แต่โชคร้ายที่ตกลงบนพื้นแตกละเอียด
หลี่กุ้ยฮวาเจ็บใจจนแทบกระอักเลือด
“เหลือเชื่อ เหลือเชื่อจริง ๆ จิ่นเป่า หนูทำได้ยังไง?” ซุนฉางซู่มองจนตาค้าง
เย่เสี่ยวจิ่นไม่พูดความจริงออกไปแน่นอน เธอหัวเราะแล้วพูดว่า “หนูก็ไม่รู้เหมือนกัน”
ซุนฉางซู่มองเย่เสี่ยวจิ่นราวกับมองเห็นขุมทรัพย์
แม้ว่าสัตวแพทย์จากในเมืองจะมารักษาแล้ว แต่ก็ไม่ได้ผลเท่าที่ควร
ซุนฉางซู่คิดว่า ในเมื่อเย่เสี่ยวจิ่นมีความสามารถขนาดนี้ ทำไมไม่พาเธอไปที่ฟาร์มไก่เพื่อรักษาไก่ล่ะ?
เมื่อคิดเช่นนี้ สายตาที่ซุนฉางซู่มองเย่เสี่ยวจิ่นก็อ่อนโยนขึ้นมาก
“จิ่นเป่า หนูชนะพนันแล้ว”
“หลี่กุ้ยฮวา เธอต้องให้ข้าวสาร 100 ชั่งนี้กับพวกเขา”
หลี่กุ้ยฮวากลับพลิกลิ้นอีกครั้ง “เป็นไปไม่ได้! ข้าวสาร 100 จิน พวกเราสามารถใช้กินได้อีกนานแค่ไหน? ให้พวกเขาไปหมด พวกเราจะกินลมตะวันตกเฉียงเหนือ*[1]หรือไง?”
โจวเซียวเดินออกมา ขมวดคิ้วมองหลี่กุ้ยฮวา
“พูดอย่างไรก็เป็นอย่างนั้น ไม่มีสิทธิ์กลับคำ”
หลี่กุ้ยฮวาเห็นว่าแม้แต่ผู้ใหญ่บ้านยังให้เกียรติชายหนุ่มคนนี้ ก็ไม่กล้าทำตัวกร่างใส่เขา
“พวกแกจะเอาข้าวของฉัน ก็เหมือนกับเอาชีวิตฉันไปนั่นแหละ ฉันไม่ได้อยากจะขัด แต่ฉันก็ไม่มีทางเลือกจริง ๆ ผู้ใหญ่บ้าน”
ตอนนั้นเอง เย่จื้อเฉียงก็ขนข้าวมาถึงพอดี
เห็นภรรยาทำท่าทางแบบนี้ ก็คิดว่าหล่อนถูกกลั่นแกล้ง
รีบคว้าไม้คานขึ้นมาทันที “พวกแกทำอะไรกัน? คิดจะรังแกเมียฉันตอนฉันไม่อยู่รึไง?”
ซุนฉางซู่ตะคอกเสียงดัง “ยอมรับความพ่ายแพ้ซะ ไก่ก็รักษาให้หายแล้ว ข้าวสารก็ทิ้งไว้ พวกเธอกลับบ้านไปได้แล้ว”
เย่จื้อเฉียงถึงกับพูดไม่ออก
ก่อนหน้านี้หลี่กุ้ยฮวาบอกเขาว่า แค่เอาข้าวมาทำเป็นพิธีเท่านั้น
ไม่เพียงแต่จะไม่เสียข้าว แถมยังได้แม่ไก่กลับไปอีกสองตัว
แต่ทำไมถึงลงเอยด้วยการสูญเสียทั้งเมียทั้งทหาร*[2]ไปแบบนี้!
“ยังไม่รีบไสหัวไปอีก! ถ้ายังอยู่สร้างความวุ่นวาย ฉันจะแฉให้ทุกคนรู้ว่าพวกแกสองผัวเมียรังแกคนอื่นยังไง!”
หลี่กุ้ยฮวาหัวใจแหลกสลาย พยุงเย่จื้อเฉียง หิ้วไก่แก่สองตัวที่ดิ้นพล่านกลับบ้าน
ระหว่างทางหล่อนร้องไห้ตลอดทาง พอนึกถึงข้าวสาร 100 ชั่ง ที่ตกเป็นของแม่ลูกคู่นั้น ยิ่งคิดยิ่งโกรธ พอกลับถึงบ้านก็ล้มตัวลงนอน หมดอาลัยตายอยาก
“หลี่ชุ่ยชุ่ย เธอทำงานที่สวนผลไม้อยู่ใช่ไหม?”
“ใช่ค่ะ ผู้ใหญ่บ้าน…”
“ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เธอไม่ต้องไปสวนผลไม้แล้ว ฉันจะย้ายเธอไปทำงานที่ฟาร์มไก่” ซุนฉางซู่พูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงสิ้นปีจะได้ส่วนแบ่งไข่ไก่กับแม่ไก่เพิ่มอีกหน่อยเป็นไง”
หลี่ชุ่ยชุ่ยไม่ได้คาดคิดว่าจะมีเรื่องดี ๆ แบบนี้ ในใจก็ลังเลอยู่บ้าง
สุดท้ายก็พูดอย่างซื่อสัตย์ว่า “ขอบคุณค่ะ ผู้ใหญ่บ้าน ฉันทำงานในสวนผลไม้ก็ดีอยู่แล้ว”
“ทุกคนก็ดูแลฉันดี”
ถ้าหล่อนจากไปดื้อ ๆ คนอื่นจะคิดอย่างไร?
ซุนฉางซู่ไม่คิดว่าหลี่ชุ่ยชุ่ยจะปฏิเสธ จึงรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อย “ไม่ต้องรีบปฏิเสธหรอก ลองกลับไปคิดดูก่อนสิ”
สายตาของโจวเหวินรุ่ยชำเลืองมองเย่เสี่ยวจิ่นตลอดเวลา
เขาคิดไม่ตก น้องสาวคนนี้เป็นเทพเซียนหรือเปล่า? ถึงทำให้ไก่แก่ที่ใกล้ตายกลับมามีชีวิตชีวาได้
ต่อมาก็ส่ายหัว โลกนี้จะมีเทพเซียนได้อย่างไรกัน!
หลังจากที่ทั้งสามคนกลับไป หลี่ชุ่ยชุ่ยมองดูข้าวสารหนึ่งกระสอบในบ้าน
หล่อนสัมผัสมันครั้งแล้วครั้งเล่า ราวกับฝันไป
ในอดีตเมื่อถูกกลั่นแกล้ง หล่อนยังพอกล้ำกลืนฝืนทน ยอมเสียเงินเสียทองเพื่อให้พ้นภัยได้
แต่ลูกสาวสุดที่รักของหล่อน กลับทำให้สามีภรรยาหลี่กุ้ยฮวายอมมอบข้าวสารมาให้หนึ่งกระสอบได้ เพียงแค่เอ่ยปากไม่กี่คำ
แม้แต่ตัวเธอเองยังรู้สึกเหมือนล่องลอยในความฝัน
“จิ่นเป่า นี่… นี่มันเรื่องจริงใช่ไหม?”
“ใช่จ้ะแม่ มันคือเรื่องจริง” เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มหวาน
อย่างน้อยสามเดือนนี้ พวกเขาก็ไม่ต้องทนอดอยากแล้ว
[ยินดีด้วยกับโฮสต์ที่ปกป้องวิกฤตของครอบครัวได้สำเร็จ และยังนำพาผลประโยชน์มาสู่ครอบครัว ได้รับรางวัล โอกาสสุ่มระดับสูง +1]
เสียงของระบบดังขึ้นอย่างกะทันหัน
หัวใจของเย่เสี่ยวจิ่นเต้นแรง รางวัลระดับสูง?
แค่รางวัลระดับ B ที่ได้จากการสุ่มรางวัลระดับทั่วไป ยังวิเศษขนาดนั้น
แล้วรางวัลระดับสูง อย่างแย่ที่สุดก็ต้องเป็นรางวัลระดับ A แล้วคราวนี้จะสุ่มได้อะไรดี ๆ อีกนะ?
……………………………………………………………………………………………………………………………….
[1] กินลมตะวันตกเฉียงเหนือ หมายถึง อดอยากหรือไม่มีอะไรกิน ในอดีต ภาคตะวันตกเฉียงเหนือของจีนเป็นพื้นที่แห้งแล้ง ผู้คนยากจน จึงมักจะไม่มีอะไรกิน
[2] สูญเสียทั้งเมียทั้งทหาร หมายถึง บุคคลที่สูญเสียทั้งผลประโยชน์และบุคคลสำคัญ เปรียบเสมือนการสูญเสีย ‘เมีย’ ที่เป็นผลประโยชน์ และ ‘ทหาร’ ซึ่งเป็นตัวแทนของบุคคลสำคัญ