ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 35 สุ่มห้าครั้งติด! นี่มันดวงเทพมาเอง! (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 35 สุ่มห้าครั้งติด! นี่มันดวงเทพมาเอง! (รีไรต์)
บทที่ 35 สุ่มห้าครั้งติด! นี่มันดวงเทพมาเอง! (รีไรต์)
บทที่ 35 สุ่มห้าครั้งติด! นี่มันดวงเทพมาเอง! (รีไรต์)
หลี่ชุ่ยชุ่ยถอนหายใจ “จิ่นเป่า พวกเราไม่ต้องไปสนใจคนอื่น ทำของพวกเราให้ดีที่สุดก็พอแล้ว”
เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า
โจวเหวินรุ่ยยังคงอยู่กับพ่อของเธอในครัว
เย่เสี่ยวจิ่นไปที่ครัว เห็นพ่อกำลังสับพริกแห้ง
เย่จื้อผิงกำลังใช้มีดหั่นพริกสด เตรียมพริกสับและขิงสับ
พริกสีแดงดูเผ็ดร้อนมาก
ดวงตาของโจวเหวินรุ่ยจ้องไปที่พริกบนเขียง กลิ่นฉุนทำให้เขารู้สึกคัดจมูก
เย่จื้อผิงรีบพูดว่า “รุ่ยเป่า ถอยไปไกล ๆ หน่อย อย่าให้พริกเข้าตาเชียวนะ มันแสบมาก”
โจวเหวินรุ่ยรีบเดินถอยห่างออกไป
เย่จื้อผิงเอาฟืนที่ติดไฟในเตาออกจนหมด เหลือไว้แค่ถ่านไฟเท่านั้น
ถ่านไฟยังคงรักษาอุณหภูมิไว้ได้ แต่ไม่ได้ให้ความร้อนมากเกินไป
เขาเทน้ำมันออกมาจากกระป๋องน้ำมันเพียงเล็กน้อย แล้วเกลี่ยให้ทั่วกระทะเหล็ก
จากนั้น เขาก็นำปลาไหลและปลาหนีชิวที่เตรียมไว้มาวางเรียงกันอย่างเป็นระเบียบที่ขอบกระทะ
เพื่อให้แน่ใจว่าปลาทุกตัวจะได้รับการทอดอย่างทั่วถึง
เย่เสี่ยวจิ่นสงสัย “พ่อคะ พวกเราไม่เอาปลาลงทอดในน้ำมันเลยเหรอคะ?”
“โอ๊ย!” เย่จื้อผิงตกใจ รีบตอบว่า “น้ำมันมันมีค่ามากนะ จะใช้แบบนั้นได้ยังไงกันละ!”
หลี่ชุ่ยชุ่ยก็อดขำไม่ได้ “ใช่แล้ว ทอดแบบนี้ก็อร่อยเหมือนกันนะ หอมมากเลยละ”
“อ๋อ อย่างนี้นี่เอง…” เย่เสี่ยวจิ่นพยักหน้า แล้วเข้าไปดูในครัวอย่างสนใจ
ปลาไหลและปลาหนีชิวในกระทะค่อย ๆ เปลี่ยนจากตัวลื่น ๆ เป็นแห้งขึ้นแล้ว
ผิวด้านนอกเริ่มเปลี่ยนเป็นสีเหลืองทอง กลิ่นหอมเริ่มโชยฟุ้ง
เย่จื้อผิงรอจนปลาทอดทั้งสองด้านเป็นสีเหลืองทอง จึงตักขึ้น
จากนั้นเขาก็เติมน้ำมันลงในกระทะเล็กน้อย ผัดพริกกับขิงสับจนหอม แล้วใส่ปลาไหลและปลาหนีชิวที่ทอดจนเหลืองกรอบลงไป
ในระหว่างการผัด กลิ่นหอมของปลาและขิงที่ถูกกระตุ้นออกมา ทำให้น้ำลายไหล
เย่เสี่ยวจิ่นไม่ได้กินอาหารรสเผ็ดแบบนี้มานานแล้ว เธอจึงอยากกินมาก ๆ
หลังจากที่เย่จื้อผิงผัดเสร็จ เขาก็ใส่ต้นหอมซอยลงไปเล็กน้อย ทำให้มีกลิ่นหอมมากยิ่งขึ้น
ปลาไหลและปลาหนีชิวที่ผัดเสร็จแล้วถูกตักใส่ชามใบใหญ่ กลิ่นฉุนชวนรับประทานและเย้ายวนใจ
สีเหลืองทองถูกแต่งแต้มด้วยพริกแดงและต้นหอมซอยที่ยังคงดูเขียวขจี
“หอมจัง…” เย่เสี่ยวจิ่นสูดหายใจเข้าลึก ๆ อย่างอดใจไม่ไหว
โจวเหวินรุ่ยมองดูตาละห้อย อาหารที่พี่ชายเขาทำมันกินยากเหลือเกิน พ่อกับแม่ก็อยู่บ้านไม่บ่อย เขาจึงไม่ค่อยได้กินอะไรดี ๆ
แต่เด็กทั้งสองคนกลับไม่แตะตะเกียบเลย
โจวเหวินรุ่ยไม่เคยรู้มาก่อนว่าไข่ไก่ธรรมดาจะเอามาทำอาหารน่ากินแบบนี้ได้
หลี่ชุ่ยชุ่ยตักข้าว “มากินข้าวกันได้แล้ว”
เด็ก ๆ ต่างก็กินปลาไหลก่อนเป็นอันดับแรก
“เผ็ดจัง” โจวเหวินรุ่ยร้องบอก เขาแสบลิ้นไปหมด
“อร่อย” เย่เสี่ยวจิ่นไม่กลัวเผ็ด เธอกินปลาไหลทีละตัว “โตขึ้นหนูจะจับปลาไหลทุกวัน ให้พ่อทำให้กินแบบนี้ทุกวันเลย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยคอยดูแลให้ลูก ๆ กินข้าว ก่อนจะลองชิมบ้าง
รสชาติดีมากจริง ๆ
หล่อนไม่คิดว่าจะมีวันนี้ ไม่นานมานี้ยังกินแต่ข้าวต้มจืด ๆ ตอนนี้ได้กินเนื้อแล้ว
ข้าวก็เป็นข้าวเมล็ดใหญ่
เย่จื้อผิงขาบาดเจ็บ ไม่กล้ากินของเผ็ดมาก
สุดท้าย เย่เสี่ยวจิ่นกินจนเกือบหมดเกลี้ยง
เมื่อเทียบกับปลาไหล โจวเหวินรุ่ยชอบกินไข่เจียวต้นหอมมากกว่า ทั้งหอมและนุ่ม
ท้องของเย่เสี่ยวจิ่นอิ่มจนป่อง “อิ่มแล้ว รุ่ยเป่า ฉันจะไปส่งนายกลับบ้าน แล้วจะแวะไปหาไส้เดือนมาใส่ในลอบดักปลาของฉันต่อ”
โจวเหวินรุ่ยเดินตามเธอไปอย่างว่าง่าย
หลี่ชุ่ยชุ่ยล้างชามเสร็จก็พูดว่า “จื้อผิง ฉันมีเรื่องจะบอกคุณหน่อย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยเล่าเรื่องสกัดน้ำมันให้หยางเจวียน และเรื่องที่มีฝ้าย 50 ชั่งที่ต้องเอาไปขายในเมือง
เย่จื้อผิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ครอบครัวของหยางเจวียนก็ช่วยเหลือเรามามาก ฉันเกรงว่าจะรับเงินไม่ลง”
“แต่อย่างที่จิ่นเป่าว่าไว้ ถ้าทุกอย่างเป็นของจิ่นเป่า พวกเราก็ควรฟังเธอ”
“จิ่นเป่าของพวกเราโตพอจะตัดสินใจเองได้แล้ว” หลี่ชุ่ยชุ่ยพูดพร้อมกับยิ้มออกมา หล่อนนำเงินห้าหยวนออกมาพร้อมกับห่อผ้าเล็ก ๆ ที่ใช้เก็บเงินอีกอันหนึ่ง
“ครั้งที่แล้วพวกเราไปหาหมอ หมดค่าเดินทางกับค่ากินไปบ้าง เหลืออยู่เจ็ดหยวน”
“แล้วก็เงินของจิ่นเป่าอีกสามสิบหยวนห้าเหมา”
“ตอนนี้รวมกันได้ยี่สิบห้าหยวนห้าเหมาแล้ว”
ดวงตาของหล่อนฉายแววคาดหวัง “คุณว่าฝ้าย 50 ชั่งนี่จะขายได้สักเท่าไหร่”
“ผมเองก็ไม่รู้เหมือนกัน” เย่จื้อผิงไม่เคยทำการค้าขายมาก่อน จึงไม่ทราบเรื่องเหล่านี้
“ผมว่าน่าจะได้เงินเยอะแยะมากมายเลยละ”
“รอผมหายดีก่อนนะ ผมจะยืมจักรยานพี่ชาย ขี่ไปขายฝ้ายในเมือง”
“ในหมู่บ้าน คงไม่มีคนซื้อหรอกมั้ง”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพยักหน้า “จิ่นเป่าของพวกเรามีฝ้ายดีมากนะ ต้องขายราคาดี ๆ แน่”
เย่จื้อผิงตอบตกลง
เย่เสี่ยวจิ่นทำงานเสร็จแล้วกลับมา ฟ้าก็เริ่มมืดแล้ว
เธอหอบหายใจ หลี่ชุ่ยชุ่ยรีบอาบน้ำให้เธอ
เย่เสี่ยวจิ่นพูดพึมพำ “แม่คะ พี่ชายของรุ่ยเป่าบอกว่า ขนมข้าวเหนียวทอดของบ้านเราอร่อย”
“เขาให้หนูมาถามว่าเก้าเหมาซื้อน้ำมัน 10 ชั่งได้ไหม”
หลี่ชุ่ยชุ่ยชะงักไปครู่หนึ่งอย่างลังเล “อย่าเลยดีกว่า”
“เก้าเหมาต่อ 10 ชั่งมันแพงไป ถึงจะขายได้ แต่ถ้าข่าวแพร่กระจายออกไป จะไม่ดีเอา”
“ถ้าคนอื่นรู้เข้าว่าจิ่นเป่าเก่งขนาดนี้ พวกเขาลักพาตัวหนูไปจะทำยังไง?” หลี่ชุ่ยชุ่ยยิ่งคิดก็ยิ่งกลัว จึงรีบส่ายหน้าปฏิเสธ
เย่เสี่ยวจิ่นเองก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรกับคำพูดนั้น เธอรู้ดีว่าไม่ควรเปิดเผยความร่ำรวย
พริบตาเดียวก็ผ่านไปหลายวัน
เย่เสี่ยวจิ่นสะสมสิทธิ์การสุ่มรางวัลได้ครบห้าครั้งอีกครั้ง
เธอถอนหญ้าให้ต้นท้อเสร็จ แล้วก็นั่งลงบนคันนา จากนั้นจึงเปิดหน้าต่างระบบขึ้นมา
[โฮสต์ ความสามารถในการปรับตัวของคุณช่างยอดเยี่ยมนัก]
[ในเมื่อมาถึงแล้วก็ทำใจให้สบายเเละใช้ชีวิตต่อไป การที่ได้มีชีวิตใหม่อีกครั้ง ถือว่าโชคดีมากแล้ว]
เย่เสี่ยวจิ่นพูดพลางยิ้ม เธอถูมือทั้งสองข้าง ‘ได้เวลาสุ่มรางวัลแล้ว’
เธอเริ่มสุ่มรางวัลห้าครั้งติดต่อกันทันที
ดาวตกหลากสีสันเปล่งประกายระยิบระยับบนหน้าต่างระบบ แสงสว่างทั้งหกสายส่องประกายออกมา
เย่เสี่ยวจิ่นตาไว มองเห็นสีแดง สีส้ม และสีม่วง อย่างละเส้น
ทันใดนั้น หัวใจก็เต็มไปด้วยความยินดี
อัตราการเกิดดาเมจครั้งนี้สูงเกินไปแล้ว!
เรียกได้ว่า เทพเจ้าแห่งโชคลาภ สิงร่างแล้ว!
[ยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับรางวัลระดับ B อาหารไก่ 100 กิโลกรัม!]
[ยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับรางวัลระดับ B ‘31 วัน เรียนรู้การทำฟาร์ม!’]
[ยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับรางวัลระดับ B ไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์ 1 อัน!]
[โชคลาภหลั่งไหล! ยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับรางวัลระดับ A ชุดเครื่องมือทำงานทุ่นแรง!]
[โชคเข้าข้าง! ยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับรางวัลระดับสูงกว่า A ค่าพลังกาย +1 แต้ม!]
[อภิมหาโชคลาภ! ขอแสดงความยินดีกับโฮสต์ที่ได้รับรางวัลระดับ S นั่นคือบ้านหนึ่งหลังที่สร้างได้ตามความต้องการ!]
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มกว้าง ดูมีความสุขมาก
เธอมองดูรางวัลระดับ B ก่อน
คราวนี้มีหนังสือเล่มใหม่ที่เต็มไปด้วยกลิ่นอายการตลาดเล่มหนึ่ง และไฟฉายที่มีประโยชน์มากอันหนึ่ง
รางวัลระดับ A คือเครื่องมือทำงานที่พกพาสะดวก
เย่เสี่ยวจิ่นหยิบจอบเล็ก ๆ ออกมาชั่งน้ำหนักดู ดวงตาเป็นประกาย “ว้าว ฉันต้องการอันนี้มากเลย!”
มันช่วยให้เธอใช้แรงน้อยลงในการทำงาน
ถือว่าเป็นของใช้ที่มีประโยชน์มาก
ถ้าเธอได้รับมันเร็วกว่านี้ ก็จะช่วยประหยัดแรงไปได้มาก!
รางวัลที่สูงกว่าระดับ A ยังเพิ่มค่าพลังกายอีก 1 แต้ม
เย่เสี่ยวจิ่นอยากรู้อยากเห็นมากว่าค่าสถานะพลังจะอัปเกรดได้สูงสุดเท่าไหร่
ตอนนี้ พลังของเธออยู่ที่ 2 แต้ม สามารถยกของหนักกว่า 20 จินได้แล้ว
ส่วนรางวัล S นั้น…