ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย - บทที่ 13 ฝ้ายชั้นดี (รีไรต์)
- Home
- All Mangas
- ซาลาเปาตัวน้อย ทะลุมิติมามีระบบทำฟาร์มยุค 70 จนร่ำรวย
- บทที่ 13 ฝ้ายชั้นดี (รีไรต์)
บทที่ 13 ฝ้ายชั้นดี (รีไรต์)
บทที่ 13 ฝ้ายชั้นดี (รีไรต์)
หลังจากที่หลี่ชุ่ยชุ่ยจากไป เธอก็รู้สึกสับสน ในยุคของเธอ ทุกคนต่างก็ใช้น้ำมันถั่วลิสงกันทั้งนั้น หรือว่าที่หมู่บ้านนี้ยังไม่มีใครรู้เรื่องนี้กันนะ?
เธอยิ่งรู้สึกว่า เครื่องสกัดน้ำมันถั่วลิสงนี้จะต้องเป็นประโยชน์อย่างมากในอนาคต
รุ่งเช้า
ภายนอกเต็มไปด้วยหิมะสีขาวโพลน เย่เสี่ยวจิ่นสะดุ้งตื่นเพราะความหนาว ในผ้าห่มเย็นเยียบ ไร้ซึ่งไออุ่น
เธอเอื้อมมือไปสัมผัส ก็ต้องตกใจกับความเย็นยะเยือกราวน้ำแข็งของผ้าห่ม
ก่อนจะตื่นขึ้นมาพบว่าหลี่ชุ่ยชุ่ยกำลังเตรียมอาหารเช้าอยู่แล้ว
ไม่รู้ว่าเมื่อคืนหล่อนกลับมาตอนไหน
“แม่คะ”
“จิ่นเป่า ลุกมาล้างหน้าเร็ว” หลี่ชุ่ยชุ่ยตักน้ำร้อนหนึ่งทัพพี บิดผ้าขนหนูอย่างดีแล้วเช็ดหน้าให้เธอ
เธอถูกแม่ปลุกแบบนี้จนต้องเบ้หน้า แต่ก็รู้สึกตัวขึ้นมาบ้าง
เย่เสี่ยวจิ่นขดตัวอยู่ในผ้าห่ม รู้สึกว่าอากาศหนาวมาก บ้านก็ดูเหมือนจะมีรูรั่ว ต่อไปต้องซ่อมผนังบ้านแล้ว
“ปีนี้หิมะตกหนักจริง ๆ โอ๊ย หนาวจะตายแล้ว” หลี่ชุ่ยชุ่ยบ่นพึมพำพลางสวมเสื้อผ้า “วันนี้ไม่ต้องไปทำงานที่ฟาร์มแล้ว เหลือคนให้อาหารไก่ไว้แค่สองคน”
“ถนนคงถูกหิมะปกคลุมไปหมด เดินทางลำบาก”
“โชคดีที่ลูกให้แม่ทำเล้าไก่ ไม่อย่างนั้นไก่คงหนาวตายไปหมดแล้ว”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพูดพลางหัวเราะออกมาว่า “วันนี้แม่เอาไข่ทั้งหมดไปไว้ในเล้าไก่แล้ว มีแม่ไก่ตัวหนึ่งกำลังกกไข่อยู่”
“อีกไม่นาน จิ่นเป่าก็จะมีไก่เพิ่มอีกเยอะเลย”
เย่เสี่ยวจิ่นยิ้มออกมา ปล่อยให้แม่บ่นพึมพำพลางหวีผมให้
“แม่คะ บ้านเรามีถั่วลิสงไหม”
“ปกติไม่ค่อยได้กินหรอก ลูกบอกว่ามันไม่อิ่มท้องเท่าเฮาไช่ปา*[1]เลย”
หลี่ชุ่ยชุ่ยหยิบเสื้อผ้ามาให้เธอสวมใส่ น้ำเสียงอ่อนโยนเอ็นดู “จิ่นเป่า ถามแบบนี้ทำไม อยากกินถั่วลิสงเหรอ”
“ไม่ใช่ค่ะ” เธอส่ายหน้า
เธอรอให้อากาศดี มีแดด แล้วค่อยลองเอามาสกัดน้ำมันดูก็ได้
เธอรู้สึกว่ามือของแม่เย็นเฉียบ ใบหน้าซีดเซียว
จึงจับมือหลี่ชุ่ยชุ่ยไว้ “แม่ หนาวหรือเปล่า”
“ยังดีอยู่” เสื้อผ้าของหลี่ชุ่ยชุ่ยดูบางมาก พออากาศเปลี่ยนแปลงเช่นนี้ แน่นอนว่าต้องหนาวจนทนไม่ไหว
ที่จริงไม่ใช่แค่เสื้อผ้า ผ้าห่มก็ยังเป็นผืนที่หลี่ชุ่ยชุ่ยซื้อตอนแต่งงาน มันเก่าจนไม่ค่อยอุ่นแล้ว
ถ้าไม่ได้เอาผ้าห่มสองผืนมาทับกัน คาดว่าคงนอนไม่ได้แน่ ๆ แต่ถึงอย่างไร หล่อนก็ยังหนาวจนสะดุ้งตื่นขึ้นมา
ที่นี่คือทางใต้ ในหมู่บ้านไม่ได้ปลูกฝ้าย
ทำได้เพียงแค่เอาเงินที่แบ่งกันตามรายคนในแต่ละปีไปซื้อฝ้าย
ไม่ว่าที่บ้านจะมีอะไร ปู่ย่าก็ต้องมาขอแบ่งไป
พวกหล่อนเองก็ยิ่งลำบากมากขึ้น
หลี่ชุ่ยชุ่ยต้องเก็บเงินไว้ใช้จ่ายให้กับลูก ๆ
ลูกชายทั้งสามคนกำลังอยู่ในวัยเจริญเติบโต จึงต้องนำฝ้ายใหม่ไปทำเสื้อผ้าให้พวกเขา
หล่อนเองต้องรื้อเอาใยฝ้ายจากเสื้อผ้าเก่า ๆ มาทำเสื้อผ้า แน่นอนว่าให้ความอบอุ่นได้ไม่ดีเท่าใด
เสื้อกันหนาวตัวหนึ่งก็ไม่รู้ว่าใช้มาแล้วกี่ปี
ก็ไม่อยากจะเสียเงินที่หาได้ยากเย็นไปซื้อใยฝ้ายราคาแพง ๆ มาใช้หรอก
“แม่จ๋า เสื้อของแม่บางจังเลย” เธอสังเกตเห็นเข้า “บางขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถึงหนาว”
“แบบนี้ไม่ดีแน่ ป่วยกันพอดี”
เธอนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งได้รับใยฝ้ายมา 50 กิโลกรัม
ดวงตากลมโตกลอกไปมา “เมื่อคืนหนูฝันเห็นเทพเซียนนำใยฝ้ายมาให้เยอะมากเลยค่ะ ท่านบอกว่าเอาไปไว้ในยุ้งฉางที่บ้านเรา ไปดูกันไหมคะ”
จริง ๆ แล้วเธอเห็นยุ้งฉางโล่ง ๆ ที่อยู่ข้างบ้านมานานแล้ว
แค่คิดในใจ ระบบก็จะเอาใยฝ้ายทั้งหมดไปไว้ในยุ้งฉางให้เอง
“แม่ไม่เชื่อหรอก เมื่อคืนแม่กลับมาช้าก็จริง แต่ก็ไม่เห็นมีเทพเซียนอะไรสักหน่อย”
ดวงตากลมโตของเย่เสี่ยวจิ่นเป็นประกายวิบวับ แววตาฉลาดเฉลียวเอ่ยว่า “แม่ไม่เชื่อหนูเหรอคะ หนูบอกแล้วไงว่าเป็นเทพเจ้าแห่งวรรณกรรมที่จุติลงมา เหล่าเทพเซียนกลัวหนูจะหนาว เลยส่งฝ้ายมาให้ ผิดด้วยเหรอคะ”
หลี่ชุ่ยชุ่ยพยักหน้ารับอย่างจริงจัง “ใช่ ๆ งั้นเราไปดูกัน”
ที่จริงหล่อนตั้งใจเออออไปกับเย่เสี่ยวจิ่นเท่านั้น เพราะไม่มีใครเชื่อหรอกว่าเทพเซียนจะมาส่งฝ้ายให้ในฤดูหนาวอันเหน็บหนาวเช่นนี้
ส่วนอีกด้านหนึ่ง
หลิวต้าเม่ยกอดฝ้ายหนึ่งกระสอบ มุ่งหน้าไปยังบ้านของพี่ใหญ่ตระกูลเย่
หลี่กุ้ยฮวากำลังนั่งผิงไฟอยู่ข้างเตาถ่าน มือถือผลส้มเคลือบน้ำแข็งที่เก็บไว้ตั้งแต่ก่อนปีใหม่ บ่นกับเย่จื้อเฉียงสามีของตนไม่หยุดปาก
“ฉันว่ายัยหนูเย่เสี่ยวจิ่นนั่นมันแปลก ๆ จริง ๆ นะ ไก่ที่บ้านเราแค่โดนยัยนั่นลูบ ๆ คลำ ๆ วันนั้นก็ออกไข่มาตั้งเยอะแยะเชียว”
“ทว่าตั้งแต่กลับมาบ้านตัวเอง กลับไม่ออกไข่สักฟอง”
แววตาของหล่อนฉายแววริษยา “เมื่อวานฉันเห็นหลี่ชุ่ยชุ่ยถือตะกร้าใบโตบรรจุไข่กลับบ้านด้วย อู้ย ทำงานที่ฟาร์มไก่ช่างดีจริงจริ๊ง”
“ทำไมแกถึงไปทำงานที่ฟาร์มไก่ไม่ได้? อย่างหลี่ชุ่ยชุ่ยยังเข้าไปได้ พวกเราก็ไม่ได้ด้อยกว่ามันหรอก”
เย่จื้อเฉียงปอกเปลือกส้มเข้าปาก “ลูกสาวคนเล็กของน้องสามดูแปลกจริง ๆ คราวก่อนหมูแดดเดียวของพ่อกับแม่ก็โดนมันฉกไป”
“ชิ ก็แค่แม่มันไปมีความสัมพันธ์กับผู้ใหญ่บ้านเท่านั้นแหละ” หลี่กุ้ยฮวาพูดจาแดกดัน “หัวหน้าเซี่ยวเคยบอกไว้ว่า นังนั่นน่ะ…”
“มันไปเป็นเมียน้อย!”
เย่จื้อเฉียงสะดุ้ง “อย่าพูดพล่อย ๆ แบบนั้นนะ”
“มันต้องเป็นแบบนั้นแน่ ๆ” หลี่กุ้ยฮวาถุยน้ำลายลงพื้น “ไม่งั้นแกคิดว่าผู้ใหญ่บ้านจะคอยช่วยเหลือมันเรื่อย ๆ เหรอ? หน้าไม่อาย!”
หลิวต้าเม่ยแอบฟังอยู่หน้าบ้าน ได้ยินทุกอย่าง รู้สึกดูถูกครอบครัวของหลี่ชุ่ยชุ่ยมากขึ้นไปอีก
นางแสร้งทำเป็นไม่ได้ยิน เดินเข้าบ้านไป
“จื้อเฉียง อยู่บ้านเหรอ?”
นางยิ้มอย่างใจดี ถ้าไม่ติดว่าชอบพูดจาดูถูกและตบตีเย่เสี่ยวจิ่น คงจะทำให้คนอื่นคิดว่าเป็นคนใจบุญสุนทาน
เย่จื้อเฉียงรีบกุลีกุจอลุกขึ้นกล่าวว่า “แม่มาได้ยังไงเนี่ย อากาศหนาว หิมะก็ตก ถนนลื่น ต้องระวังให้มาก ๆ นะครับ”
“แม่รู้ว่าลูกชายคนนี้อย่างไรก็เป็นห่วงแม่ แต่พอดีอากาศเริ่มเย็นแล้ว…” หลิวซื่อกล่าวพลางยิ้ม “นี่ก็เลยตั้งใจเอาฝ้ายมาให้หลานชายคนโตจะได้มีเสื้อกันหนาวตัวใหม่ใส่”
“เสื้อกันหนาวน่ะ พอซักบ่อย ๆ เข้ามันก็ไม่อุ่นแล้ว ใส่ได้สักสองสามปีก็ต้องเปลี่ยนตัวใหม่”
หลี่กุ้ยฮวาคว้าเอาฝ้ายมาดู เปิดกระสอบออก เห็นเป็นปุยฝ้ายเล็ก ๆ สีมอๆ ไม่ค่อยขาวนัก
แต่สำหรับหมู่บ้านนี้ ถือว่าดีมากแล้ว
“แม่ ดูสิคะ คิดถึงแต่เหวินชางของเรา ฝ้ายตั้งเยอะ ทำให้จู๋จื่อที่บ้านสักตัวก็ยังได้”
รอยยิ้มของหลิวซื่อเปลี่ยนไปเล็กน้อย “โอ๊ย บ้านนี้ก็ต้องให้ผู้ชายก่อนสิ ผู้หญิงจะใส่อะไรมากมาย ฝ้ายแบบไหนก็ใส่ได้เหมือนกันนั่นแหละ”
“ทำให้เหวินชางตัวหนึ่ง อีกตัวก็ให้ลูกชายเธอละกัน”
หลี่กุ้ยฮวาคิดในใจว่า ยัยแก่บ้านี่ลำเอียงรักลูกชายมากกว่าลูกสาว แต่ปากก็ยังยิ้มแย้มพูดว่า “ได้ ๆ ๆ ฉันจำได้แล้ว”
ส่วนฝ้ายที่เหลือจากปีก่อน ๆ นั้น หลิวต้าเม่ยยกให้กับครอบครัวลูกชายคนโตที่ตัวเองรักและเอ็นดูที่สุดไปจนหมดสิ้น
หลี่กุ้ยฮวาคิดแล้วก็ดีใจ หล่อนจะได้เอาเรื่องนี้ไปอวดหลี่ชุ่ยชุ่ยได้อีก
ในเวลานั้นเอง ใบหน้าของหลี่ชุ่ยชุ่ยก็ซีดเผือดด้วยความหนาวเหน็บ
หล่อนวางเย่เสี่ยวจิ่นไว้ใต้ชายคาบ้าน “จิ่นเป่า แม่จะไปดูที่ยุ้งฉางก่อนนะ ลูกอย่าเพิ่งตามมานะ ดูสิ หิมะหนาขนาดนี้ ระวังรองเท้าเปียกนะ”
พูดจบ หล่อนก็เดินฝ่าหิมะหนาเป็นสิบเมตรไปเปิดประตูยุ้งฉาง
ที่จริงเธอก็แค่อยากตามใจลูกสาวตัวน้อยเท่านั้น ใครจะไปคิดว่าพอเปิดประตูยุ้งฉางออกดู หล่อนก็ถึงกับตาค้าง
เพราะภายในยุ้งฉางนั้นเต็มไปด้วยฝ้าย!
ฝ้ายสีขาวบริสุทธิ์กองพูนเต็มยุ้งฉาง แถมก้อนฝ้ายยังมีขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือของหล่อนทุกก้อนอีกด้วย!
………………………………………………………………………………………………………………………………
[1] เฮาไช่ปา (蒿菜粑) เป็นอาหารที่ผู้คนในกุ้ยโจวตะวันออกและเขตปกครองตนเองหูหนานชื่นชอบ และยังเป็นอาหารทั่วไปสำหรับการบูชาบรรพบุรุษอีกด้วย